ตอนที่ 1006 ได้รับรางวัล!!!

[ติ๊ง]

[ในฐานะเจ้าของกิจการ คุณไม่ควรอยู่จุดสูงสุดเพียงอย่างเดียว แต่ควรเข้าใจความต้องการของพนักงาน ลองสัมผัสชีวิตในฐานะพนักงานธรรมดาของคุณเองสักหนึ่งวัน เพื่อเป็นเจ้านายที่ดี – ภารกิจท้าทายสำเร็จ]

[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับ : การเพิ่มความต้านทานต่อโรค +6% (ใช้ได้เฉพาะผู้เล่น ไม่สามารถมอบให้ผู้อื่น)]

[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับ : 210 คะแนนค่าประสบการณ์]

[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับ : 102 คะแนนสะสม(ร้านค้า)]

[ติ๊ง!]

[ทำภารกิจสำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์ คุณได้กระตุ้นรางวัลเพิ่มเติม]

[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับ : หุ้น 9% ของบริษัท Cartier (สัญญาซื้อขายถูกวางไว้ในห้องหนังสือของคฤหาสน์ของคุณแล้ว โปรดตรวจสอบ) ขอแสดงความยินดีที่คุณกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองของบริษัท Cartier]

เมื่อเห็นข้อความต่างๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอเกม เย่เฉิน ก็รู้สึกอารมณ์ดีมาก

เมื่อครู่ เย่เฉิน สัมผัสได้ว่าร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเพิ่มภูมิต้านทานต่อโรค 6% ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นอย่างชัดเจน

หลังจากนี้ โอกาสที่ เย่เฉิน จะป่วยหนักลดลง และสุขภาพโดยรวมของเขาก็ดีขึ้นมาก

สำหรับ เย่เฉิน แล้ว การมีสุขภาพที่ดีสำคัญกว่าเรื่องอื่นใด เพราะถึงแม้จะเป็นมหาเศรษฐีระดับโลก ทุ่มเงินไปเท่าไหร่ ..ก็ไม่มีทางที่จะได้รับผลลัพธ์แบบนี้

นอกจากนี้ คะแนนค่าประสบการณ์ และคะแนนสะสม(ร้านค้า)ที่ได้รับจากการอัปเกรดครั้งนี้ก็เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจ

ส่วนรางวัลเพิ่มเติมที่ได้รับ – หุ้น 9% ของบริษัท Cartier ก็ถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามหาศาล คาดว่าน่าจะมีมูลค่าราวกว่าหมื่นล้าน

เมื่อรวมกับหุ้นที่ เย่เฉิน ถือครองอยู่ก่อนหน้านี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ Cartier โดยสมบูรณ์ เขามีสิทธิ์ตัดสินใจ และมีอิทธิพลในบริษัทมากขึ้น

ระยะห่างจากการครอบครอง Cartier อย่างเต็มตัวก็เหลืออีกไม่ไกลแล้ว

อีกไม่นานอาณาจักรธุรกิจของ เย่เฉิน จะมีแบรนด์หรูด้านเครื่องประดับเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งแบรนด์

ไม่เพียงเท่านั้น เย่เฉิน ยังพบปัญหาใหญ่ในบริษัท – การเล่นพรรคเล่นพวก และการปกป้องญาติพี่น้อง

เขาเองคาดการณ์ว่าปัญหานี้ไม่ใช่แค่ในบริษัท Prada Group เท่านั้น แต่อาจมีอยู่ในบริษัทอื่นๆ ของเขาด้วย

เย่เฉิน ตั้งใจที่จะจัดการ และควบคุมปัญหานี้อย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ท้ายที่สุดเมื่อแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ได้ พนักงานจะทำงานด้วยความตั้งใจมากขึ้น บริษัทจะเติบโตได้ดียิ่งขึ้น และกระเป๋าเงินของเขาก็จะหนาขึ้นตามไปด้วย

การพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบนี้จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด ส่วนพวกเจ้าของบริษัทที่คอยกดขี่ขูดรีดพนักงาน ย่อมไม่มีทางสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

เย่เฉิน คิดว่า ในอนาคตถ้ามีภารกิจท้าทายแบบนี้ในเกมอีก เขายินดีที่จะเผชิญ ..ถึงจะลำบากบ้างก็ไม่เป็นไร ในฐานะคนหนุ่ม ความยากลำบากถือเป็นเรื่องปกติ

ปล่อยให้ ‘ความยากลำบาก’ แบบนี้มาท้าทายเขาให้มากขึ้นเถอะ

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เย่เฉิน เก็บโทรศัพท์ และตรงไปที่ร้านอาหาร ‘หวังเจียงเก๋อ’ เพื่อทานข้าว

อีกด้านหนึ่ง ในบริษัทสาขาของ Prada Group แม้ว่า เย่เฉิน จะออกไปแล้ว แต่ทุกคนยังคงตั้งตัวไม่ติด

ทุกอย่างเป็นไปราวกับความฝัน…

ท่านประธานของพวกเขามาปรากฏตัวในบริษัท และใช้ชีวิตในฐานะเพื่อนร่วมงานหนึ่งวัน โดยไม่มีท่าทีถือตัวใดๆ เลย

ที่สำคัญที่สุดคือ การ ‘ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง’ ครั้งนี้ของท่านประธาน เกิดจากความใส่ใจพนักงานจริงๆ เขาจดบันทึกปัญหาต่างๆ ทั้งหมด และมอบหมายให้ผู้จัดการใหญ่ไปจัดการแก้ไข

เจ้านายที่ดีๆ แบบนี้ จะหาได้จากที่ไหนอีก?

ขอถามหน่อยว่ามีบริษัทไหนบ้างที่เจ้าของจะทำแบบนี้ และดูแลพนักงานดีขนาดนี้?

พนักงานทุกคนรู้สึกเคารพ เย่เฉิน อย่างสุดหัวใจ และภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Prada Group

“ตั้งใจทำงานให้ดีล่ะ”

หลังจากที่ผู้จัดการใหญ่ได้ยินคำพูดของ เย่เฉิน เขาก็หันไปพูดกับสาวแว่นโดยเฉพาะ

พนักงานคนอื่นๆ ต่างมองสาวใส่แว่นด้วยความอิจฉา แม้คำพูดของเจ้านายอาจจะเป็นเพียงคำพูดทั่วๆ ไป แต่สำหรับพนักงานธรรมดาอย่างพวกเขา มันอาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาได้

หากตั้งใจทำงานในอนาคต การก้าวขึ้นเป็นระดับหัวหน้าคงไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน!!!

ในความจริง เย่เฉิน ตั้งใจกล่าวชมเธอ สาวใส่แว่นคนนี้เป็นคนที่มีจิตใจดี และช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานใหม่อย่างเต็มใจ

ในฐานะเจ้าของบริษัท เย่เฉิน ย่อมอยากเห็นพนักงานที่มีคุณภาพแบบนี้มากขึ้น การที่เขาชื่นชมเธอจึงเป็นสิ่งที่สมควรแล้ว

เรื่องราวในบริษัทสาขาถูกเล่าขานออกไปอย่างรวดเร็ว ชื่อเสียงของ เย่เฉิน ในฐานะ ‘เจ้านายที่ดี’ เริ่มแพร่กระจายออกไปกว้างขึ้นเรื่อยๆ

ชื่อเสียงของบริษัท Prada Group ในหมู่คนทำงานก็ดีขึ้นมากเช่นกัน

พนักงานที่เป็นระดับหัวกะทิ และพนักงานจากบริษัทอื่นต่างลาออกโดยเฉพาะเพื่อย้ายมาเข้าร่วมกับ Prada Group

ศักยภาพของ Prada Group เองก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้กลับสู่จุดสูงสุดในอดีต

ในตอนกลางคืน เย่เฉิน ได้ส่งข้อความไปยังผู้จัดการของธุรกิจในเครือเพื่อกำชับให้ตรวจสอบปัญหา ‘การเล่นพรรคเล่นพวก’ โดยแจ้งว่าเขาอาจสุ่มตรวจสอบในบางครั้ง

วันถัดมา เย่เฉิน ได้เดินทางไปยังเขตชานเมือง ที่ซึ่งเขาได้จัดเตรียมสถานที่ทำงานไว้ให้กับกลุ่มช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญงานฝีมือ อูถงโจ่วอิ๋น

เขาได้ยินมาว่าช่างฝีมือเหล่านี้ได้สร้างผลงานชุดแรกสำเร็จแล้ว ซึ่งมีจำนวนหลายสิบชิ้น

เมื่อ เย่เฉิน มาถึง ตู้ เฟิงจวิ้น ช่างฝีมือคนแรกที่เขารู้จัก ก็รีบเข้ามาต้อนรับ

ตู้ เฟิงจวิ้น พา เย่เฉิน เดินเยี่ยมชมผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ และอธิบายรายละเอียดของผลงานแต่ละชิ้นอย่างตั้งใจ

เย่เฉิน เดินชมผลงานทั้งหมดอย่างละเอียด งาน อูถงโจ่วอิ๋น แต่ละชิ้นล้วนมีเอกลักษณ์ และล้วนแล้วแต่มีความงดงามที่สะดุดตา เห็นได้ชัดว่าเป็นผลงานของช่างฝีมือชั้นยอด…

“ดีมาก เยี่ยมจริงๆ”

เย่เฉิน พอใจกับผลงานชุดแรกเป็นอย่างมาก

เมื่อเป็นเช่นนี้ แผนการของเขาก็สามารถดำเนินการได้แล้ว

เย่เฉิน วางแผนที่จะจัดนิทรรศการเพื่อแสดงผลงาน อูถงโจ่วอิ๋น ให้สาธารณชนได้รับรู้ และสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ตราบใดที่ชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ เขาก็ไม่กังวลเรื่องการไม่มีคำสั่งซื้อในอนาคต ตอนนั้นธุรกิจย่อมจะเติบโตได้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน พบว่าผลงานชุดนี้มีจำนวนเพียงไม่กี่สิบชิ้น ซึ่งอาจยังไม่เพียงพอสำหรับจัดนิทรรศการ ดังนั้นเขาจึงบอกให้ ตู้ เฟิงจวิ้น ขอให้ช่างฝีมือคนอื่นๆ นำผลงานชิ้นเอกในอดีต และชิ้นงานสุดพิเศษมาเข้าร่วมจัดแสดงด้วย

นิทรรศการครั้งนี้ควรมีผลงานอย่างน้อย 100-200 ชิ้น ยิ่งจัดใหญ่ยิ่งดี และควรดึงดูดผู้ชมให้ได้มากที่สุด

ขณะที่คิดเรื่องนี้ เย่เฉิน ก็โทรศัพท์สั่งการให้ทีมงานของเขาจัดการเตรียมงานนิทรรศการ

ส่วนวิธีการประชาสัมพันธ์ให้นิทรรศการครั้งนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเขายังมีเหล่าดารา และคนดังที่มีผู้ติดตามนับล้าน

เพียงให้พวกเขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก็จะช่วยสร้างกระแสได้ทันที

ในขณะที่ เย่เฉิน กำลังวุ่นวายกับการจัดงานนิทรรศการ ข้อความพิเศษหนึ่งก็ส่งเข้ามา – เย่เฉิน ได้รับรางวัล!!!