ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 269 การพบพานที่ไม่คาดคิด
ช่างตีเหล็กสายบั๊ก ตอนที่ 269 การพบพานที่ไม่คาดคิด
“เชิญทางนี้”
หญิงสาวผู้จัดการร้านที่มีสีหน้าเรียบเฉย พาซูเฉินออกจากห้องวีไอพี
จากนั้นเดินผ่านทางเดินหลายสาย พลิกซ้ายวนขวา จนมาถึงห้องโถงใหญ่ที่ลูกค้าทั่วไปกำลังรับประทานอาหาร
ทันใดนั้น ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างแผ่วเบา
ก็หยุดพูดลงทันที ใชสายตาที่ระมัดระวังหรือสงสัย มองไปที่ซูเฉินที่เดินตามหลังผู้จัดการร้านมา
ลูกค้าบางคนที่กำลังรออาหาร ก็หันมามองเช่นกัน
“นี่คือ ‘ผู้ทรงเกียรติ’ คนนั้นหรือ? ดูเหมือนพลังไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมาก ได้ยินนักเวทย์ลอสพูดว่าเป็นผู้ครอบครองอาชีพของมหาเจตจำนง... คำว่า ‘ข้อมูล’ ฉันไม่ค่อยเข้าใจ แต่ ‘แผงข้อมูล’ ฉันพอรู้ โลกของเราก็มีเหมือนกัน แถมยังมีระดับด้วย”
“นายไม่มีทักษะพิเศษ ใช้วิธีดูจากพลังแล้วจะรู้ได้อย่างไร คนที่ผู้จัดการร้านปฏิบัติด้วยเช่นนี้ จะเป็นคนที่พวกเราสามารถยุ่งเกี่ยวด้วยได้หรือ ไหนจะอุปกรณ์ที่เขาสวมใส่อีก ดูไม่ธรรมดาเลย... ดูเหมือนจะงดงามกว่าเกราะที่เทพเจ้ามอบให้ตระกูลของฉันเสียอีก”
“เขากินเร็วมาก ฉันจำได้ว่าคุณหนูชาถางเคยพูดว่า ยิ่งคุณภาพของบัตรผ่านประตูสูงเท่าไหร่ อาหารที่ได้รับก็จะยิ่งดีและมากขึ้นเท่านั้น... ตามหลักแล้ว หากเป็นผู้ทรงเกียรติจริง ๆ คงจะใช้เวลาในการรับประทานอาหารนานกว่านี้ ไม่น่าจะรีบจากไปแบบนี้ หรือว่าเขาจะห่อกลับบ้าน? ฉันมีความคิดที่แปลกประหลาด...”
“นายอยากตายก็ไม่มีใครห้ามหรอก แต่อย่ามาพาพวกเราซวยด้วย ผู้ทรงเกียรติของผู้จัดการร้าน เป็นคนที่นายจะยุ่งเกี่ยวด้วยได้หรือ ไหนจะตอนที่เขาออกจากร้านอีก นายยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนจากโลกไหน จะไปหาเขาได้อย่างไร อย่าหาเรื่องใส่ตัว รีบดื่มเหล้าให้หมด แล้วกลับไปที่โลกหลักเถอะ”
“ใครบอกว่าฉันคิดไม่ดี ฉันแค่คิดว่าจะสร้างสัมพันธ์กับเขาได้หรือไม่ เขาเป็นผู้ครอบครองอาชีพ น่าจะ...”
ผู้จัดการร้านได้ยินบทสนทนาของลูกค้าบางคนผ่านไอเทมพิเศษ
สีหน้าของเธอก็ปรากฏความเย็นชาเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม
ลูกค้าที่ไม่รู้ว่าตนเองรอดพ้นจากหายนะเพราะไม่ได้พูดอะไรมากไป ก็ยังคงพูดคุยและมองซูเฉินต่อไป
ส่วนซูเฉิน ก็รับสายตาเหล่านั้นอย่างสงบนิ่ง หลังจากกล่าวขอบคุณผู้จัดการร้านอีกครั้ง เขาก็เดินไปทางประตูร้านอย่างใจเย็น
ความคิดของลูกค้าเหล่านี้ ไม่ต้องเดาก็รู้
แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย ก็ไม่สำคัญ
ในร้านอาหารนี้ มีผู้ครอบครองอาชีพระดับ 100 อยู่บ้าง
แต่มันเทียบไม่ได้กับโลกหลักของมหาเจตจำนงของเขา
ถึงแม้คนเหล่านี้จะรู้ตำแหน่งของโลกหลักของเขา ก็ทำอะไรไม่ได้
ไม่ต้องพูดถึงอาจารย์และผู้ครอบครองอาชีพระดับสูงหลายคน เพียงแค่วีรชน วิญญาณวีรชน และวิญญาณเทพในโลกสองแห่งของเขา หลังจากได้รับการเสริมพลังจากอุปกรณ์ระดับเทพนิยายแล้ว การเผชิญหน้ากับผู้ครอบครองอาชีพระดับ 100 ก็ไม่ใช่ปัญหา
ยิ่งกว่านั้น ยังมีกฎของร้านอาหารมิติอีก มีผู้จัดการร้านอยู่ เขาจึงไม่ต้องกังวลอะไร
เดินไปที่ประตูร้านอาหารมิติอย่างช้า ๆ ร่างของซูเฉินก็หายไปพร้อมกับเสียง “ยินดีต้อนรับอีกครั้ง” ของผู้จัดการร้านและสาวใช้ชาถาง
บรรยากาศในร้านอาหารก็กลับมาสงบอีกครั้ง
ผู้จัดการร้านที่ส่งผู้ทรงเกียรติจากไปแล้ว ก็หันหลังกลับ เดินตรงไปที่ห้องครัว
ส่วนสาวใช้ชาถาง ก็หันไปอธิบายกับลูกค้าใหม่ที่กำลังรออาหารอย่างอ่อนโยน บอกให้พวกเขารออย่างใจเย็น อาหารที่สั่งจะถูกนำมาเสิร์ฟในไม่ช้า
ลูกค้าใหม่หลายคนต่างก็พูดจาอย่างสุภาพ
แต่ในหมู่พวกเขา มีเพียงหานเซียวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดี่ยว ที่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่ใช่ว่าเขามองข้ามชาถางที่แข็งแกร่งกว่าอาจารย์ของเขา
แต่เพราะหานเซียวเห็นคนที่เขาไม่ควรและไม่อยากเห็น
ซูเฉิน
ทำไมเขาถึงมาที่นี่ได้?
ทำไมเขาถึงมีบัตรผ่านประตูร้านอาหารมิติ?
ทำไมผู้จัดการร้านที่น่าเกรงขามราวกับผู้นำของร้านอาหารมิติ ถึงปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ?
มันไม่ควรเป็นแบบนี้!
บัตรผ่านประตูร้านอาหารมิติที่ปรากฏในสหพันธ์ช่วงนี้ ถูกเขาประมูลมาอย่างโชคดี
ทำไมซูเฉินถึงมี!?
คิดว่าบัตรผ่านประตูเป็นของหาง่ายหรือไง?
เขาแทบจะขายบ้านขายรถเพื่อแลกมันมา!
ในใจยังคงมีความรู้สึกเหนือกว่าซูเฉินที่ไม่สามารถเข้ามาในร้านอาหารมิติได้
แต่ตอนนี้...
ความรู้สึกเหนือกว่านั้นไม่เพียงแต่หายไป
เขายังมีความรู้สึกพ่ายแพ้อย่างลึกซึ้ง
ความรู้สึกแย่ ๆ นี้ แทบจะกลบความตกใจที่เขารู้ว่ามีโลก [เทพทั้งปวง]
พูดตามตรง
หานเซียวไม่เข้าใจ ทำไมอาชีพที่อีกฝ่ายปลุกขึ้นมาถึงได้ดีขนาดนั้น ศักยภาพก็น่ากลัว แถมยังมีบัตรผ่านประตูที่ดูเหมือนจะมีคุณภาพสูง และยังถูกผู้จัดการร้านปฏิบัติอย่างสุภาพอีก!
ส่วนเขา แม้จะได้อันดับหนึ่งในรายชื่อดาวรุ่ง ก็แค่ถูก [ผู้ครอบครองอาชีพระดับสูง] พูดชมว่า “ในอนาคตอาจจะกลายเป็นกำลังหลักของสหพันธ์” ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่มีความหมายอะไร การมาที่ร้านอาหารมิติก็ต้องใช้บัตรผ่านประตูคุณภาพต่ำสุด เจอใครก็ต้องระมัดระวัง...
ทำไม?
ความโกรธและความไม่พอใจในใจของเขามันเติบโตราวกับวัชพืช
หานเซียวทุบหน้าอกตัวเองอย่างแรง รู้สึกเหมือนมีก้อนแข็ง ๆ ติดอยู่ในอก
ส่วนลูกค้าคนอื่น ๆ หลังจากที่ผู้จัดการร้านจากไปแล้ว ก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง
“ผู้ทรงเกียรติคนนั้นต้องได้ทานอาหารชั้นเลิศแน่ ๆ ฉันได้ยินมาว่าผู้จัดการร้านมีสูตรอาหารที่ใช้วัสดุจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด... โอ้ น่าอิจฉามาก ถ้าฉันเป็นผู้ทรงเกียรติบ้างก็คงจะดี อาหารมากมายขนาดนั้น ถึงจะกินเป็นยาเพิ่มพลัง ก็ยังสามารถเพิ่มพลังได้มาก แถมรสชาติยังอร่อยอีก”
“นายตะกละเกินไปแล้ว วัสดุจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด... แค่ฟังก็ขนลุกแล้ว นั่นคือคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก... แน่นอน ฉันก็อิจฉาเหมือนกัน ผู้ทรงเกียรติคนนั้นน่าจะห่ออาหารกลับไปไม่น้อย ไม่รู้ว่าจะมีอาหารที่ใช้วัสดุจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดหรือเปล่า”
“ต้องมีสิ... ก่อนหน้านี้ฉันเคยถามสาวใช้ใหญ่ เธอบอกว่าหากมีบัตรเชิญระดับ 6 ที่ต่ำกว่าบัตรเชิญผู้ทรงเกียรติ ก็มีโอกาสได้ทานอาหารที่ใช้วัสดุจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด... ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ทรงเกียรติตัวจริง...”
“ถ้าพลังของเขาเป็นแบบที่เห็นจริง ๆ หลังจากที่เขากินอาหารในร้านอาหารมิติแล้ว พลังของเขาก็น่าจะเทียบเท่ากับนักเวทย์ลอสได้เลย เพราะในอาหารเหล่านี้มีผลของการเพิ่มระดับและเรียนรู้ทักษะ...”
หานเซียวได้ยินบทสนทนาของลูกค้าเหล่านั้น
ก็กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะคลายออก...