ตอนที่แล้ว【เรือนจำเซลล์พิศวง】บทที่ 489 ความสงบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป【เรือนจำเซลล์พิศวง】บทที่ 491 ลูกบาศก์มายา

【เรือนจำเซลล์พิศวง】บทที่ 490 ผู้กลายเป็นแมลง


"หนอนเลือดในอุโมงค์" เป็น 'ยานพาหนะ' ที่ผู้ดูแลใหญ่นำติดตัวมาด้วยเป็นพิเศษ เพื่อใช้สอดส่องดูแลเอิร์ลและงานเลี้ยงแดงตลอดทั้งกระบวนการ

ในขณะเดียวกัน หนอนเลือดขนาดมหึมานี้ยังใช้กวาดล้างอุปสรรคในวงกว้างได้ด้วย

มันมีความสามารถในการฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง ร่างกายอันมหึมาสามารถรับความเสียหายมหาศาลได้

ในสภาวะที่แทบจะไม่มีทางถูกสังหาร กลับถูกสังหารทั้งหมดทันทีที่เข้าสู่สนามรบ

การสูญเสียยานพาหนะจะทำให้การเดินทางกลับของผู้ดูแลใหญ่ยุ่งยากมาก... การเดินทางด้วยตัวเองต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบวันถึงครึ่งเดือน... และการเพาะเลี้ยงหนอนขนาดใหญ่ใหม่สี่ตัวต้องใช้เวลาอย่างน้อยกว่าสิบปี

สีหน้าของผู้ดูแลใหญ่เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ ปากแยกออกเป็นหกช่องที่มีฟันแหลมคมสำหรับเคี้ยว

เขาส่งเสียงร้องของแมลงที่มีทิศทาง ส่งความคิดไปถึงเอิร์ล

"บาร์ค มอบผู้กลายเป็นแมลงทั้งหมดในคฤหาสน์ของท่านให้ข้าบัญชาการ... จบละครโรงนี้เสียที ข้าจะได้กลับไปรายงานต่อเทพเลือด"

เมื่อได้ยินว่าผู้สอดส่องยินดีออกโรงเอง เอิร์ลดีใจมาก รีบส่งมอบอำนาจบัญชาการทันที

เพราะสงครามครั้งนี้ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับผู้สอดส่องเท่าไร เดิมคิดว่าเขาจะคอยดูอยู่ห่างๆ ตลอดเหตุการณ์... ไม่คิดว่าการตายของหนอนสองสามตัวจะทำให้ชายแก่ผู้นี้โกรธถึงเพียงนี้

"ไม่มีปัญหา แต่หัวหน้าพ่อครัวของข้าไม่สามารถให้เจ้าได้ชั่วคราว... ส่วนที่เหลือไม่ว่ากัน"

เมื่อได้รับสัญญาณจากเอิร์ล

บารอนงานเลี้ยงบ้าคลั่งและบารอนสุสานที่เพิ่งถูกส่งออกไปก็กลับมาชั่วคราว

แม้บารอนงานเลี้ยงบ้าคลั่งที่ถือขวานยักษ์น่าสะพรึงยังไม่ได้ฆ่าให้หนำใจ ดูเหมือนจะอยากติดตามผู้ดูแลใหญ่บุกเข้าคฤหาสน์ฝ่ายตรงข้าม

แต่เขาไม่อาจปฏิเสธคำสั่งของเอิร์ล

"ผู้กลายเป็นแมลงทั้งหมดพร้อมแล้ว ขออวยพรให้ท่านผู้ดูแลใหญ่ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่..."

ประตูคฤหาสน์เปิดออก

การรบรอบที่สองเริ่มต้นขึ้น

ผู้กลายเป็นแมลงนับหมื่นตัวออกจากคฤหาสน์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งเดิน คลาน มุด หรือบิน... จุดเด่นที่สุดของผู้สืบเชื้อสายที่ผสม 'คุณสมบัติแมลง' คือ 'ขยายพันธุ์ง่าย'

ถึงขนาดที่เอิร์ลต้องออกคำสั่งควบคุมขีดจำกัดการขยายพันธุ์ของผู้กลายเป็นแมลงอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิน【ประชากร】ที่คฤหาสน์จะรองรับได้

มองดูกองทัพผู้กลายเป็นแมลงที่ออกโจมตีอย่างยิ่งใหญ่ เอิร์ลแสดงสีหน้าหัวเราะบ้าคลั่ง

"ฮ่าๆ... การที่ผู้สอดส่องยินดีออกรบเองเป็นเรื่องดีนัก แบบนี้จะช่วยลดการสูญเสียกำลังพลของเราได้มากที่สุด

หวังว่าผู้ปกครองหนุ่มตระกูลสจ๊วตจะแสดงความสามารถออกมาบ้าง ฆ่าผู้กลายเป็นแมลงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

พวกผู้กลายเป็นแมลงที่เข้ามาเพราะผู้สอดส่องพวกนี้ น่าเกลียด ต่ำต้อย และสกปรก ไม่เข้ากับคฤหาสน์แดงเลือดอันสูงส่งของข้าเลย

รอผู้สอดส่องจากไป ค่อยคัดกรองผู้กลายเป็นแมลงให้เหลือแต่คุณภาพดี พวกร่างธรรมดาก็ประหารทิ้งให้หมด..."

เหตุการณ์ดูเหมือนจะพัฒนาไปในทางที่ดี ทำให้อารมณ์ของเอิร์ลดีขึ้นอย่างรวดเร็ว... เอนหลังพิงเก้าอี้นอนอีกครั้ง ชื่นชมการต่อสู้

...

เมื่อกองทัพผู้กลายเป็นแมลงจำนวนมหาศาลบุกออกจากคฤหาสน์แดงเลือดอย่างเต็มกำลัง

เนื่องจากมีจำนวนมากเกินไป ร่างกายของผู้สืบเชื้อสายแต่ละตัวมีพลังเลือดเล็ดลอดออกมา จนเกิดเป็น 'ชั้นหมอกเลือด' หนาทึบระหว่างการเคลื่อนทัพ

ห่อหุ้มกองทัพผู้กลายเป็นแมลงไว้ในหมอกเลือดทั้งหมด ทำให้ดูน่าหวาดกลัวยิ่งขึ้น

ผู้ดูแลใหญ่ร่างผอมสูงราวต้นไผ่ สูงถึงสี่ห้าเมตร ถือไม้เท้าเดินนำหน้าขบวน... ไม่มีผู้สืบเชื้อสายตนใดกล้าแซงหน้าผู้ดูแลใหญ่ ทุกตัวเดินตามหลังอย่างเรียบร้อย

ประตูใหญ่ของคฤหาสน์สจ๊วตก็เปิดออกตามมา

การรบรอบที่สองเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ตัวเอิร์ลเองก็อยากรู้เช่นกันว่า ผู้ปกครองตระกูลสจ๊วตจะส่งกำลังพลแบบใดออกมาต่อสู้กับผู้สืบเชื้อสายร่างแมลงนับหมื่น... รวมถึงปีศาจที่มีพลังเทียบเท่าเอิร์ลอีกหนึ่งตน

การได้รับมอบหมายโดยตรงจากเทพเลือด หากพูดถึงระดับเลือดที่แท้จริง ผู้ดูแลใหญ่ผู้นี้อาจจะอยู่เหนือเอิร์ลด้วยซ้ำ

"กองทัพมนุษย์อีกาคงจะถูกส่งออกมาทั้งหมดสินะ... มีปีศาจช่วงแรกเกิดรวมเจ็ดตัว ถ้าร่วมมือกันอาจจะพอกดดันผู้สอดส่องได้บ้าง

ปีศาจที่เติบโตตามธรรมชาติโดยสมบูรณ์ ไม่เคยได้รับการบ่มด้วยไวน์เลือด ไม่เคยได้รับพระราชทานจากราชา อาศัยการเติบโตด้วยตัวเอง จะแข็งแกร่งได้แค่ไหนกัน?

บางทีอาจจะกดดันผู้สอดส่องไม่ได้เลย... สุดท้ายแล้ว แม้แต่ข้าเองยังทำอะไร 'บรรพบุรุษแห่งแมลง' ผู้นี้ไม่ได้เลย"

อย่างไรก็ตาม เอิร์ลก็เดาผิดอีกครั้ง

กองทัพมนุษย์อีกายังคงอยู่ในคฤหาสน์ ไม่มีท่าทีว่าจะออกมาเลย

'กองทัพ' ที่เดินออกมาจากประตูใหญ่คฤหาสน์สจ๊วตมีเพียงคนเดียว

เนื่องจากเสียเปรียบเรื่องมนุษย์กินศพมาแล้ว เอิร์ลและคนอื่นๆ จึงให้ความสนใจกับพื้นที่ใต้ดินด้วย แต่ครั้งนี้จากการตรวจสอบด้วยเลือด ไม่พบร่องรอยของมนุษย์กินศพเลย

ตัวแทนของคฤหาสน์สจ๊วตในการรบรอบที่สองมีเพียงคนเดียวเท่านั้น

เด็มพ์ซี่ มาร์ติน นักศึกษาปีสามจากคณะนักเวทแห่งสถาบันอัศวินหลวงแห่งชาติ

...(สามนาทีก่อนหน้า)

เมื่อเห็นผู้ดูแลใหญ่เดินออกมาจากคฤหาสน์แดงเลือด

"หืม!? ผู้สอดส่องออกรบเร็วขนาดนี้... หรือว่าหนอนในอุโมงค์ที่ตายไปเกี่ยวข้องกับเขา?

ตามที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า เด็มพ์ซี่ บรรพบุรุษแห่งแมลงคนนี้ก็ขอฝากนายจัดการ

ส่วนพวกตัวเล็กๆ ที่เหลือ ฉันจะให้กลุ่มมนุษย์อีการ่วมกับผลิตผลการทดลองไปต่อต้านและกดดัน... ถ้ารุ่นพี่เรนเซ่อร์ว่าง ให้การสนับสนุนด้วยกองทัพวิญญาณก็จะยิ่งดี ถ้าคาถาชุบชีวิตวิญญาณต้องการวัตถุดิบและพลังงาน คฤหาสน์ของฉันสามารถสนับสนุนได้

เพราะจำนวนผู้กลายเป็นแมลงมีมากเกินไป... และยังมีสิ่งมีชีวิตประเภท 'ยานพาหนะ' อีกหลายชนิด"

ฮั่นตงมองไปไกลๆ เห็นผู้กลายเป็นแมลงประเภทถุงเลือดที่คล้าย 'บอลลูนยักษ์'

ลอยอยู่ในอากาศด้วยความเร็วค่อนข้างช้า ภายในบรรจุไข่แมลงนับร้อยฟอง

เมื่อเข้าใกล้กองกำลังฝ่ายศัตรู ถุงเลือดขนส่งประเภทนี้จะหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นการเติบโตในร่างกาย ฉีดเข้าไปในไข่ กระตุ้นให้ไข่แมลงฟักและเติบโตอย่างรวดเร็ว

ถุงเลือดขนส่งแบบนี้มีอยู่หลายสิบตัว

นั่นหมายความว่า จำนวนฝูงแมลงที่แท้จริงมีมากกว่าที่เห็นด้วยตาอีก ฮั่นตงจำเป็นต้องส่งกำลังพลจำนวนมากพอที่จะต่อต้านกองทัพผู้กลายเป็นแมลงขนาดนี้

แต่คำตอบของเด็มพ์ซี่กลับทำให้ทุกคนตกตะลึง

"ไม่จำเป็น ฉันได้ยื่น 'คำร้อง' แล้ว ให้ฉันจัดการทั้งหมดเอง... แต่หลังจากศึกนี้ ฉันจะไม่สามารถให้การสนับสนุนในรูปแบบใดๆ ได้อีก

หวังว่านิโคลัสฃจะได้รับชัยชนะในศึกต่อๆ ไป

ตอนนั้น ตามข้อตกลงที่เรากำหนดไว้ล่วงหน้า ให้ฉันเป็นผู้ลงนามคนที่สองใน 'โฉนดที่ดิน' ของคฤหาสน์แดงเลือด"

"การลงนามไม่มีปัญหา... แต่นายแน่ใจเหรอที่จะขึ้นสังเวียงคนเดียว?" แม้แต่ฮั่นตงก็ยังงงๆ

ตามแผนเดิม

ผู้ดูแลใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดคฤหาสน์ผู้นี้ อาจจะลงมือในช่วงสุดท้าย

ตอนนั้น เด็มพ์ซี่จะอาศัยพลังจากนอกเมืองมาถ่วงเวลาปีศาจระดับสมบูรณ์ผู้นี้ เพื่อให้ฮั่นตงจัดการกับเอิร์ลได้ตามลำพัง

แต่สถานการณ์เปลี่ยนไป ผู้ดูแลใหญ่นำผู้กลายเป็นแมลงทั้งหมดออกรบก่อนกำหนด

"อืม ฝากไว้กับฉันเถอะ..."

เด็มพ์ซี่เอามือแตะเบาๆ บนไหล่ของฮั่นตง ดวงตาเย็นชาดูเหมือนซ่อนคำพูดไว้ประโยคหนึ่ง - 'ฉันจะเริ่มอวดฝีมือแล้ว พวกนายทั้งหมดแค่ดูอยู่เฉยๆ ก็พอ'

มองดูเด็มพ์ซี่ออกจากคฤหาสน์ไปคนเดียว

ฮั่นตงก็เปิดดวงตาปีศาจน้อยทั้งหมด หวังจะใช้โอกาสนี้ดูว่าเด็มพ์ซี่มีที่มาอย่างไรกันแน่

เพราะนีโค ผู้เป็น【ผู้จงรักภักดี 】สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายจากตัวเด็มพ์ซี่

----------

ปล. อ่านให้สนุกนะครับ ในเวลานี้ เรื่องใหม่ เหนือนภา คลอดแล้วนะครับ เป็นแฟนตาซีจีน มีเอลฟ์ ด้วย บรรยากาศยุโรปกลางกึ่งยุคอุตสาหกรรม ลองแวะเวียนไปอ่านนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด