บทที่ 53 มนุษย์หรือพระเจ้า?
บทที่ 53 มนุษย์หรือพระเจ้า?
“วิสลีย์!” ฟิลช์เรียกนามสกุลรอนด้วยท่าทางน่ากลัว
ด้วยเหตุผลบางประการที่รู้กันดี ผู้ดูแลปราสาทคนนี้ไม่ชอบนักเรียนทุกคนที่มีนามสกุลว่าวิสลีย์
เมื่อเขาเรียกนามสกุลนี้ ดูเหมือนเขากำลังกัดฟันด้วยความโกรธ
โดยปกติแล้ว เมื่อเห็นฟิลช์ขวางทางแบบนี้ แฮร์รี่กับรอนคงจะเริ่มกังวล และเฮอร์ไมโอนี่ต้องเริ่มสงสัยว่าผู้ก่อปัญหาสองคนข้างตัวเธอทำผิดพลาดอีกครั้งหรือไม่
แต่คราวนี้พวกเขาไม่มีความคิดเช่นนั้นเลย
ไม่ว่าจะเป็นแฮร์รี่ รอน หรือเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งหมดต่างจ้องมองไปยังฟิลช์ ความคาดหวังในดวงตาของพวกเขาทำให้ฟิลช์รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“มองอะไร! แกพยายามจะข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?!”
เขาพูดด้วยสีหน้ากังวล
เพราะโดนจอร์จกับเฟร็ดแกล้งเป็นประจำ บางครั้ง เขาจะระแวดระวังและตื่นตัวอยู่เสมอ
รอนไม่สนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ตะโกนขึ้นอย่างกระตือรือร้น
“ทำไมถึงออกมาหยุดฉันล่ะ? รีบบอกมาเร็ว ไม่งั้นจะเลยเคอร์ฟิวแล้ว!”
ฟิลช์มองไปรอบๆ พวกเขาทั้งสามคนด้วยความสงสัย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่พบปัญหาอื่นใด ก่อนพูดขึ้นในที่สุด
“วันนี้ฉันไปลาดตระเวนห้องถ้วยรางวัลวิสลีย์! ครั้งล่าสุดแกถูกลงโทษให้ทำความสะอาดที่นั่น แต่บางพื้นที่ไม่ได้ถูกทำความสะอาดเลย! ถ้วยรางวัลด้านในสุดยังเต็มไปด้วยฝุ่น ฉันถามศาสตราจารย์มักกอนนากัลแล้ว วันนี้แกต้องไปทำความสะอาดอีกครั้งจนกว่าฉันจะคิดว่ามันสะอาดหมดจด!”
หลังจากพูดจบ เขาคิดว่ารอนอาจเถียงว่าตัวเองทำความสะอาดมาเพียงพอแล้ว หรือแค่ลากเพื่อนๆ ของตัวเองแล้ววิ่งหนีโดยปฏิเสธจะยอมรับการลงโทษ
ฟิลช์จึงเตรียมพร้อมล่วงหน้า พร้อมคว้าแขนรอนได้ทุกเมื่อ
โดยไม่คาดคิด รอนไม่มีท่าทีต่อต้าน
ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งรอนกับแฮร์รี่ต่างกระโดดขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น!
“ฉันไม่ได้ทำผิด! ฉันไม่ได้ฝ่าฝืนกฎของปราสาท!”
“แต่ฟิลช์เจอนายแล้ว! และลงโทษนายด้วย!”
เมื่อเห็นพวกเขาพูดสองประโยคนี้ด้วยความดีใจ ฟิลช์จ้องมองทั้งสองราวกับกำลังมองดูคนบ้า
“แกดีใจไหมที่โดนฉันลงโทษ”
แต่ไม่มีใครสนใจเขา แม้แต่เฮอร์ไมโอนี่ยังตัวแข็งอยู่กับที่แล้วพึมพำโดยไม่รู้ตัว
“ทั้งหมดนี้เป็นความจริง…ทั้งหมดเป็นเพราะศาสตราจารย์ฟอเรสต์…”
ความคิดของเธอเปลี่ยนไปในเวลานี้
หากทุกสิ่งก่อนหน้านี้สามารถอธิบายได้ด้วยความบังเอิญ ฉากนี้จะกลายเป็นเรื่องบังเอิญได้หรือไม่?
รอนไม่ได้ละเมิดกฎของปราสาท เขาแค่ล้มเหลวในการทำความสะอาดห้องถ้วยรางวัลเมื่อถูกลงโทษครั้งที่แล้ว ดังนั้นฟิลช์จึงอยากให้เขาถูกลงโทษอีกครั้ง
เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ แต่ความมหัศจรรย์คือมันเกิดขึ้นหลังจากเชอร์ล็อคพูดกับรอน ว่าถ้าเขาไม่ทำผิดก่อนวันคริสต์มาส ฟิลช์จะไม่รบกวนเขา!
เหตุการณ์ความน่าจะเป็นเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งมันอยู่หลังปากอีกาของเชอร์ล็อคก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!
เห็นได้ใช้ว่านี่เกี่ยวข้องกับเชอร์ล็อค!
“แกทำบ้าอะไรเนี่ย!” ฟิลช์พูดด้วยความไม่อดทน มองแฮร์รี่กับอีกสองคนที่ดูเหมือนกลายเป็นคนโง่เขลาไปแล้ว
“ถึงแกจะทำตัวบ้าบอ แต่แกยังต้องทำความสะอาดห้องถ้วยรางวัลวิสลีย์! แกหนีไม่พ้น!”
รอนพูดด้วยความตื่นเต้น
“ใช่ ฉันต้องยอมรับการลงโทษ! แฮร์รี่กับเธอไปรอในห้องนั่งเล่นก่อน เดี๋ยวฉันกลับมาเร็วๆ นี้!”
เขาดูตื่นเต้นมากกว่าการได้ไม้กายสิทธิ์อันใหม่ซะอีก รีบจากไปพร้อมกับฟิลช์ซึ่งมีสีหน้าวิตกกังวล
แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่เดินต่อไปยังห้องนั่งเล่นกริฟฟินดอร์
“เธอไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญอีกต่อไปแล้วใช่ไหม เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่รู้สึกตื่นเต้นมาก
ความตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้นั้น เหมือนกับการค้นพบแมลงตัวใหญ่ที่สุดในโลกโดยไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อเผชิญกับความจริงอันไม่อาจปฏิเสธได้ เฮอร์ไมโอนี่จึงไม่อาจหาเหตุผลที่จะไม่เชื่อได้อีก
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีพรสวรรค์แบบนี้อยู่ ไม่ว่าจะพูดอะไร ผลลัพธ์สุดท้ายก็จะพัฒนาไปในทิศทางตรงกันข้าม แล้วศาสตราจารย์ฟอเรสต์อยู่รอดมาได้อย่างไรตลอดหลายปีนี้ แบบนั้นไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตตรงกันข้ามกับความคาดหวังของตัวเองเหรอ?”
แฮร์รี่พูดด้วยความตระหนักรู้อย่างกะทันหัน
“ไม่น่าแปลกใจที่อารมณ์ของศาสตราจารย์ฟอเรสต์ดูเย็นชาขนาดนี้ หากฉันใช้ชีวิตไม่น่าพอใจขนาดนั้น ฉันคงเป็นบ้าไปแล้ว!”
“เธอคิดว่าศาสตราจารย์รู้ไหมว่าตัวเองมี…ปากอีกา” จู่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็นึกถึงคำถามสำคัญ
แฮร์รี่เกาหัว คาดเดา
“บางทีเขาอาจจะไม่รู้ใช่ไหม ถ้าเขารู้ เขาคงค้นพบแล้วว่าเรากำลังพยายามทดสอบอะไร ทำไมเราถึงทำการทดลองแบบนี้”
เฮอร์ไมโอนี่กับแฮร์รี่อยู่ในห้องนั่งเล่นส่วนกลางของบ้านกริฟฟินดอร์ รอรอนกลับมาหลังจากทำความสะอาดห้องถ้วยรางวัล
เธอคิดอยู่นานแล้วพูดกับแฮร์รี่
“เราควรทดสอบต่อไป!”
แฮร์รี่มองเธอด้วยความสับสน
“มีอะไรให้ทดสอบอีกล่ะ? เรารู้แล้วใช่ไหมว่าศาสตราจารย์ฟอเรสต์คือปากกาที่แท้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์!”
“มันอาจไม่เป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์”
เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“สิ่งเหล่านั้นก่อนหน้า สภาพอากาศ โชคร้าย รวมถึงการที่รอนโดนลงโทษในวันนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้จะเกิดขึ้น เพียงแต่ความน่าจะเป็นอาจสูงหรือต่ำ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนล่ะ?”
“เช่น พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกทุกวัน หากศาสตราจารย์พูดว่า ‘พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกทุกวัน นี่เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?’ แล้วเธอคิดว่าพระอาทิตย์จะขึ้นจากทิศตะวันตกในวันรุ่งขึ้นไหม?”
หลังได้ยินสมมุติฐานของเฮอร์ไมโอนี่ ปากของแฮร์รี่อ้ากว้างราวกับจะยัดหมัดของแฮกริดเข้าไปได้
เขาไม่คิดว่าเฮอร์ไมโอนี่จะมีความสงสัยที่ไม่น่าเชื่อขนาดนี้
“ไม่ มันเป็นไปไม่ได้! ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ศาสตราจารย์ฟอเรสต์จะกลายเป็นพระเจ้า!”
สีหน้าของแฮร์รี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“แล้วถ้าปากอีกาของศาสตราจารย์ฟอเรสต์มีความสามารถขนาดนั้นจริงๆ หากเราไปทดสอบ แล้ววันพรุ่งนี้ดวงอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตกจริงๆ โลกจะเป็นยังไงล่ะ?!”
เฮอร์ไมโอนี่แสดงจิตวิญญาณของการตั้งสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์อันสมบูรณ์แบบ
“แน่นอนว่าเราไม่สามารถทำการทดลองที่มีผลกระทบร้ายแรงแบบนั้นได้ ดังนั้นเราจึงสามารถเปลี่ยนเป็นการทดลองที่มีความหมายเหมือนกัน แต่ไม่ได้ร้ายแรงในแง่ของผลลัพธ์!”
พวกเขานั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นจนกระทั่งรอนกลับมา แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เล่าแผนของเธอให้เขาฟัง
ในท้ายที่สุด พวกเขาทั้งสามคนตกลงใช้วิธีนี้เพื่อทดสอบเชอร์ล็อค ต่อในวันพรุ่งนี้
และเชอร์ล็อค ผู้ยังคงดิ้นรนกับการแก้ไขการบ้านของนักเรียนในสำนักงานไม่รู้เลย
นักเรียนของเขากำลังเตรียมทดลองกับตัวเอง ว่าพรุ่งนี้เขาจะทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตกได้หรือไม่…
……………………..