บทที่ 33 ไม้กวาดของแม่มด
เมื่อได้ยินชื่อบริษัทน้ำที่เขากำลังเตรียมจะสืบสวน หลี่อังก็อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าหม่นหมองไปเล็กน้อย ก่อนจะตั้งสติและเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่านี่คงเป็นเรื่องบังเอิญ เช่นเดียวกับนามสกุล “เลน”ของเขา มันแค่ชื่อที่เหมือนกันเท่านั้น—ครั้งหนึ่งชนกับนามสกุล อีกครั้งหนึ่งชนกับชื่อ
ชื่อบริษัทที่คุ้นเคยนี้ทำให้เขานึกถึงความทรงจำบางอย่าง ภาพของผู้ป่วยหลายร้อยคนที่ยังคงนอนอยู่ในทางเดินของโรงพยาบาลและเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดที่ได้ยินขณะไปเยี่ยมแอนนาภาพเหล่านี้ทำให้ความรู้สึกดีของหลี่อังจางหายไปกว่าครึ่ง
ค่ารักษาพยาบาลสำหรับคนหลายร้อยคนนั้น เขาไม่มีทางจ่ายไหว หลังเหตุการณ์ท่อประปาในเขตเมืองเก่าแตก ราคายาแก้ท้องเสียพุ่งสูงขึ้นกว่าห้าสิบเท่า และยาพิเศษที่สามารถรักษาโรคระบาดครั้งนี้ได้ยิ่งมีราคาสูงลิบลิ่ว แม้แต่เงินเดือนทั้งปีของเขาก็ยังซื้อได้ไม่กี่ขวด
ในขณะที่ฝั่งถนนอิฐแดงมีผู้ป่วยเพียงสี่ถึงห้าร้อยคน แต่ทั้งหมดนี้เป็นผู้ป่วยหนักที่ทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ในเขตเมืองเก่ามีประชากรที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนับหมื่นคน ไม่รู้ว่ามีอีกกี่คนที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาและยังคงอดทนกับความเจ็บปวด
เรื่องที่น่าชื่นใจเพียงอย่างเดียวคือโรคระบาดจากน้ำสกปรกครั้งนี้ไม่ค่อยมีการติดต่อกัน หากไม่สัมผัสของเสียและอาเจียนโดยตรง หรืออยู่ในพื้นที่ปิดที่มีการระเหยของของเสียเหล่านี้ในปริมาณมาก คนส่วนใหญ่ก็จะปลอดภัย
แต่สิ่งที่ยุ่งยากคือ โรคระบาดที่เกิดจากน้ำสกปรกครั้งนี้ดูเหมือนจะหายได้ยากด้วยตัวเอง อย่างน้อยที่สุดต้องฉีดยาเสริมพิเศษจากการกลั่นแร่ธาตุ แต่ด้วยระดับรายได้ของคนในเขตเมืองเก่า แทบไม่มีใครสามารถซื้อยาเสริมกลั่นนี้ได้เลย
ทางออกเดียวที่เขาคิดได้ในตอนนี้ คือหาหลักฐานที่พิสูจน์ว่าบริษัทน้ำและหน่วยงานโยธาธิการมีความประมาทเลินเล่อ จากนั้นไม่ว่าจะรายงานให้ผู้บริหารระดับสูงของอาณาจักรทราบ หรือให้ข่าวกับสื่อที่กล้าเปิดเผยเรื่องราว เขาก็ต้องทำให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่ เพื่อบังคับให้พวกเขาออกเงินสำหรับซื้อยา!
ถ้าหากสุดท้ายแล้วยังแก้ปัญหาไม่ได้ล่ะก็…
“คุณลูกค้า?”
หลังจากเรียกชื่อหลี่อังและเห็นเขาเงียบไปพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปมา เจ้าของร้านจึงเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะเอ่ยเรียกเบาๆ
“คุณลูกค้า อาหารของคุณพร้อมแล้ว ทั้งหมดหนึ่งเหรียญทองแดงครึ่ง”
“โอ้ โอ้!”
หลี่อังสะดุ้งเล็กน้อยหลังได้ยินเสียงเรียกของเจ้าของร้าน ก่อนจะล้วงเงินจ่ายพร้อมกับส่ายหัวด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี
“ขอโทษที ชื่อนี้ทำให้ผมนึกถึงบางเรื่อง… แล้วก็ คุณอายุมากกว่าพ่อผมอีก การเรียกชื่อมันไม่เหมาะเท่าไหร่ ผมขอเรียกคุณว่าอาดีกว่า!”
“ฮ่าฮ่า ได้สิ ในเมื่อเธอยอมเรียกคนที่ขายของเล็กๆน้อยๆว่าอา ฉันจะไม่ยอมรับได้ยังไง?”
หลังจากยกกาแฟและจานขนมปังมาให้ เจ้าของร้านผู้ใจดีที่ดูมีอายุและดูเหมือนจะอายุมากกว่าลูกสาวตัวเองเพียงเล็กน้อยยิ้มอย่างใจดี ก่อนจะลากเก้าอี้สามขาเข้ามานั่งใกล้ๆพร้อมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ในเมื่อเรียกฉันว่าอา ฉันขอถามอะไรหน่อย ตอนที่พูดถึงบริษัทน้ำ สีหน้าของเธอดูไม่ดีเลย…เธอมีปัญหาอะไรกับบริษัทนั้นหรือเปล่า?”
“อืม… คงจะใช่…”
หลี่อังลังเลเล็กน้อยก่อนจะเลือกไม่พูดถึงการที่เขากำลังสืบสวนบริษัทน้ำ แต่เล่าเรื่องที่แอนนาได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดท่อแก๊สแทน
“อย่างนี้นี่เอง…เธอคงเป็นครอบครัวที่ไม่ต้องการเงินชดเชยสินะ…”
หลังจากได้ฟังเรื่องของหลี่อัง เจ้าของร้านกาแฟก็ขยับตาเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจตามและเอ่ยว่า
“บ้านเธอคงลำบากน่าดูเลยนะ น้องสาวยังป่วยอยู่แท้ๆ ยังมาเจอเรื่องซวยแบบนี้อีก…เอาอย่างนี้ละกัน ถือว่าเป็นคำขอบคุณสำหรับที่เรียกฉันว่าอา ต่อไปถ้าเธอมาที่ร้านนี้จะสั่งอะไรก็ได้ในครึ่งราคา เธอพอใจไหม?”
???
"อ่า...นี่แค่เรียกคำเดียวว่า 'อา' ก็ได้ผลดีขนาดนี้เลยเหรอ?"
หลี่อังมองดูเจ้าของร้านกาแฟตรงหน้าที่จู่ๆก็เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจด้วยความประหลาดใจ ดวงคิ้วของเขายกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ต่อหน้าความหวังดีที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้เขารู้สึกไม่รู้จะตอบยังไงดี
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่เขาจะคิดได้ว่าจะถามอะไรต่อดี คนขายตรงหน้าก็ส่งยิ้มที่ดูใจดีแล้วพูดเพิ่มว่า
"แน่นอน! ในเมื่อเรียกฉันว่าอาแล้วก็อย่าลืมมานั่งร้านฉันบ่อยๆหน่อยนะ อุดหนุนธุรกิจของอาด้วยล่ะ!"
"..."
เข้าใจละ การเรียกคำเดียวว่า "อา" เท่ากับสมัครสมาชิกประจำร้านเลยสินะ?
โอ้โห ถ้าฉันเป็นพวกที่ไม่กล้าปฏิเสธ ตอนนี้ไม่ว่าจะมีร้านไหนถูกกว่าฉันก็คงต้องมาที่ร้านนี้อยู่ดี ถ้าบังเอิญไปกินร้านอื่นตอนเช้าต่อหน้าเขา ฉันคงรู้สึกผิดไปครึ่งสัปดาห์เป็นอย่างน้อย...เพื่อดึงลูกค้าไว้ สมแล้วที่หาเงินได้!
พอเข้าใจว่านี่คือกลยุทธ์ดึงลูกค้า หลี่อังก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วไม่ได้พูดอะไรเพิ่มก่อนจะตอบตกลงไป
ถึงแม้ร้านกาแฟนี้จะราคาสูงไปหน่อย แต่ก็เป็นร้านที่ทำให้คนรู้สึกสบายที่สุดในย่านนี้ แถมตอนนี้ยังลดราคาให้อีก ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะปฏิเสธ
หลังจากกินขนมปังและแฮมที่สั่งไปเสร็จภายในไม่กี่คำ หลี่อังก็กล่าวลาพร้อมรอยยิ้มกับ "อา" ที่เพิ่งได้รับมาแบบกะทันหัน ก่อนจะคลุมผ้าพันคอที่แอนนาถักให้ด้วยมืออีกครั้งแล้วเดินเข้าสู่ลมหนาวเย็นยะเยือกของเช้าวันฤดูใบไม้ร่วง
หลังจากที่เขาเดินจากไปแล้ว ลูกค้าขาประจำที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆกองไฟก็ถือแก้วกาแฟเข้ามาแซวว่า
"เถ้าแก้! ฉันดื่มกาแฟร้านนี้มาเจ็ดแปดปีแล้วนะ แต่ไม่เคยเห็นเถ้าแก้ใจดีลดราคาให้ใครมาก่อนเลย! วันนี้เป็นอะไรไป? หรือว่าเป็นเพราะลูกสาวยังหาสามีไม่ได้เลยเตรียมหาโอกาสคุ้นเคยหน้าตากับหนุ่มน้อยคนนี้ไว้ก่อน?"
"ฮ่าๆเปล่าสักหน่อย!"
เถ้าแก้ชาร์ลหัวเราะแล้วโบกมือ
"ฉันแค่รู้สึกว่าเข้ากับเด็กคนนั้นได้ดี อีกอย่างเห็นช่วงนี้เขาอาจจะมีปัญหาทางการเงินนิดหน่อย เลยอยากช่วยเหลือบ้าง ให้เขามาอุดหนุนร้านฉันบ่อยๆ"
หลังจากตอบเสร็จเขาก็หันไปมองตามหลังหลี่อังที่กำลังเดินลับสายตา พร้อมพูดยิ้มๆว่า
"แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ทั้งหมดนะ ฉันว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ดูไม่เลวเลยถึงจะผอมไปหน่อย แต่สูงพอสมควร หน้าตาก็ถือว่าดูดีทีเดียว
อีกอย่าง นายลองมองทางที่เขาเดินไปสิ ข้างหน้ามีแค่อาคารสำนักงานทำความสะอาด เขาน่าจะมีงานที่มั่นคงอยู่แล้ว และแม้แต่กับคนขายกาแฟริมถนนอย่างฉัน เขาก็ยังสุภาพมาก...เป็นเด็กดีจริงๆ"
พอนึกถึงสิ่งที่เคยได้ยินจากเอมี่ลูกสาวของเขา เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะคุยเล่นต่อกับลูกค้าขาประจำ แล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของเขา มองเพดานผ้าใบสีดำสนิทของร้านกาแฟ พลางใช้นิ้วลูบเคราสีขาวที่คางด้วยความครุ่นคิด
"คนเรานะ เวลาอยู่ต่อหน้าคนคุ้นเคยหรือสถานที่คุ้นเคยมักจะชอบปิดบังตัวเอง แต่เวลาอยู่ต่อหน้าสิ่งยั่วยุที่หาได้ง่ายและคนแปลกหน้าที่ดูเหมือนไม่มีทางมาเกี่ยวข้องกับตัวเองก็จะเผลอปล่อยตัวตนออกมาให้เห็น..."
เด็กคนนี้สิ่งที่แสดงออกมาโดยไม่ตั้งใจ กลับเป็นลักษณะนิสัยที่หาได้ยาก…อืม…สุภาพ อ่อนโยน จริงใจและขยัน อีกทั้งดูท่าจะหัวไวไม่น้อย ถ้าเอมี่ชอบเขาฉันก็คงไม่มีเหตุผลอะไรให้คัดค้าน…
"แต่ปัญหาคือ ครอบครัวเราน่ะไม่รับสะใภ้ แต่รับแค่เขยเข้าบ้านเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าเขาจะยอมรับได้ไหม?"
...
โดยที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองถูกจัดอยู่ในรายชื่อ "เขยพิจารณา" หลี่อังรีบฝ่าลมหนาวไปถึงสำนักงานทำความสะอาดหลังจากเปิดประตูห้องทำงานของตัวเองเข้าไป เขาก็พบกับสิ่งที่หัวหน้าสาวผมแดงบอกว่าเป็นวัตถุผิดปกติใหม่—ไม้กวาดสีดำที่ลอยอยู่กลางอากาศ
【ชื่อ ไม้กวาดให้เช่าของแม่มดขี้เกียจ】
【ลักษณะ ไม้กวาดทำจากไม้เนื้อแข็งทาสีดำสนิท ปลายไม้กวาดมีของตกแต่งทำจากขนนกกาเพียงเล็กน้อย มีกลิ่นยางไม้จางๆ ที่กำจัดไม่ออก และมักปรากฏรอยเท้าแมวเล็กๆ บนด้ามไม้กวาดอยู่เสมอ】
【ความสามารถ เสริมพลังเวทมนตร์, บิน, ป้องกันด้วยม่านอากาศ】
【สิ่งแลกเปลี่ยน ทุกวันศุกร์เวลา 15:30 น. จะมีสัตว์เลี้ยงมาเคาะประตูบ้านของคุณ โปรดดูแลมันให้ดี】
【ข้อมูล ไม้กวาดเก่าที่แม่มดนิรนามเลิกใช้งาน เนื่องจากทุกวันศุกร์ช่วงบ่ายแม่มดจะต้องออกไปเล่นควิดดิชและกลับบ้านในช่วงรุ่งเช้าของวันถัดไป ทำให้ไม่มีเวลาดูแลแมวที่เธอรัก จึงได้ทำข้อตกลงกับสำนักงานทำความสะอาดสิงโต โดยให้เช่าไม้กวาดเพื่อแลกกับการที่ผู้ใช้ไม้กวาดช่วยดูแลแมวให้หนึ่งวันต่อสัปดาห์】
【การประเมิน วัตถุผิดปกติที่ใช้งานง่ายและมีประโยชน์ แถมยังได้ลูบแมวฟรีอีกด้วย เป็นของโปรดของเบฟลี่ หัวหน้าสำนักงานทำความสะอาดสิงโต】
【ค่าการปนเปื้อน: 0.5】
(จบบท)