ตอนที่แล้วบทที่ 29 ข้อสงสัย 
ทั้งหมดรายชื่อตอน

บทที่ 30 ค่าปนเปื้อน 


[มิตรแห่งปีศาจ หลังจากผ่านการบูชายัญชั่วร้ายสิบครั้งติดต่อกัน พร้อมถวายเครื่องสังเวยที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและหยาดเหงื่อของมนุษย์ ความทะเยอทะยานที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของวิญญาณของคุณได้รับความโปรดปรานอย่างลึกซึ้งจากปีศาจระดับสูง]

[ผลการสวมใส่ ความเข้ากันได้กับสิ่งผิดปกติที่มีเครื่องหมาย "ความเสื่อมทราม" เพิ่มขึ้นอย่างมาก ลดต้นทุนการใช้งานในขณะที่เสริมประสิทธิภาพอย่างมาก]

[เส้นทางพัฒนา ดำเนินการบูชายัญชั่วร้ายต่อไปตามที่ตกลงไว้ จนกว่าร่างอวตารของปีศาจนั้นจะฟื้นคืนชีพอย่างสมบูรณ์ ตรานี้จะพัฒนาเป็นตราระดับทองคำ "ฉันคือปีศาจ" นอกจากนี้ การถวายวิญญาณมนุษย์ที่ถูกพันธนาการด้วยบาปครั้งหนึ่งจะเพิ่มอัตราการฟื้นคืนชีพของปีศาจตามสัดส่วน ปัจจุบันอัตราการฟื้นตัวคือ 5%]

[คุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ (ไม่ต้องสวมใส่) ในช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกัน วิญญาณของคุณได้รับกลิ่นอายชั่วร้ายของปีศาจและจะดึงดูดความสนใจจากสิ่งชั่วร้ายบางประเภทได้ง่ายขึ้น]

[ค่าการปนเปื้อนของคุณเพิ่มขึ้น]

[ค่าการปนเปื้อนปัจจุบัน: 0.4]

ค่าการปนเปื้อน…

ขณะที่หลี่อังมองไปยังตัวเลขที่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ขณะเขานั่งยองๆอยู่ในตรอกใกล้กับกรมตำรวจ มือหนึ่งถือไฟแช็กจุดบุหรี่ให้แพะดำ เขาอดที่จะหรี่ตามองไม่ได้

เขาเคยถามแพะดำเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนสำนักงานทำความสะอาดจะไม่มีการพูดถึงค่าการปนเปื้อน ดังนั้นความหมายของตัวเลขนี้คงต้องวิเคราะห์ด้วยตัวเอง

ถ้าจำไม่ผิดตัวเลขนี้ปรากฏขึ้นสี่ครั้งแล้ว

ครั้งแรกคือตอนที่เขาสัมผัสแพะดำและได้ข้อมูลจากตรา “วิญญาณแห่งวัตถุนิยม” พบว่าค่าการปนเปื้อนของมันคือ 0.1

ครั้งที่สองคือเมื่อตัวเขาได้รับการยอมรับจากแพะดำและได้สิทธิ์ใช้งาน มันเพิ่มขึ้นเป็น 0.1

ครั้งที่สามคือเมื่อได้ทราบข้อมูลของ “ความรักแห่งการลืมเลือน” จากหัวหน้าสาวผมแดง

ครั้งที่สี่คือตอนที่เขาสัมผัสลูกบิดประตูของหอพักแห่งความสุขและได้รับข้อความว่าค่าการปนเปื้อนของ “ที่พักพิงแห่งวิญญาณ” คือ 0.1

ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่าค่าการปนเปื้อนน่าจะเป็นลักษณะเฉพาะของสิ่งผิดปกติ

นอกจากนี้ การที่ค่าการปนเปื้อนของเขาเพิ่มขึ้นเมื่อแพะดำเริ่มฟื้นคืนชีพ บ่งบอกว่าเมื่อได้รับสิทธิ์ใช้งานสิ่งผิดปกติ ค่าการปนเปื้อนของผู้ใช้ก็จะเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน

คิดถึงตรงนี้ หลี่อังอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวแพะดำสองสามครั้ง

[ชื่อ ปีศาจสองเขา (กำลังฟื้นฟู)]

[ค่าการปนเปื้อน: 0.4]

มันเหมือนกับค่าของตัวเขาเป๊ะเลย

เมื่อมองไปยังค่าการปนเปื้อนที่เพิ่มขึ้นของแพะดำ หลี่อังถึงกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้และเข้าใจเหตุผลที่พยาบาลวัยกลางคนไม่ถูกลบความทรงจำด้วยสมองของเทพเจ้าชั่วร้าย

หากอ้างอิงจาก “ที่พักพิงแห่งวิญญาณ” ค่าใช้จ่ายในการใช้งานอาจจะทำให้ผู้ที่เคยทักทายกับผู้ดูแลได้รับค่าการปนเปื้อนเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นค่าการปนเปื้อนของพวกเขาจึงอยู่ที่ 0.1

และสมองของเทพเจ้าชั่วร้ายที่สำนักงานทำความสะอาดควบคุมอยู่ น่าจะใช้วิธีการตรวจสอบค่าการปนเปื้อนเพื่อแยกแยะระหว่างคนธรรมดากับพนักงาน ดังนั้นพวกเขาจึงถูกมองว่าเป็น “บุคคลที่เกี่ยวข้อง” และไม่ได้ถูกลบความทรงจำ

ถ้าสมมุติฐานของเขาถูกต้อง นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมคนที่เคยใช้สิ่งผิดปกติถึงไม่ถูกลบความทรงจำด้วยสมองของเทพเจ้าชั่วร้าย

แต่ยังมีอีกคำถามหนึ่ง คือค่าการปนเปื้อนมีความหมายว่าอะไรและจากสิ่งที่เห็นตอนนี้ การคาดเดาที่เป็นไปได้ที่สุดคือมันแสดงถึงพลังของสิ่งผิดปกติ

เพราะปีศาจสองเขามีความแรงเท่ากับที่พักพิงแห่งวิญญาณ ซึ่งทั้งคู่มีค่าการปนเปื้อนเท่ากันที่ 0.1 ทำให้แพะดำต้านการโจมตีจากกรรไกรของชายแก่ได้ แม้เขาจะเสียหายเพียงเล็กน้อย

แต่ “ความรักแห่งการลืมเลือน” ซึ่งสามารถลบความทรงจำของคนได้ถึงเจ็ดหมื่นคนในครั้งเดียว มีพลังเหนือกว่ามากจึงมีค่าการปนเปื้อนที่ 7

...สิ่งที่เขาเคยสัมผัสยังมีไม่มากพอ ข้อมูลจึงยังไม่เพียงพอ แต่ดูเหมือนจะต้องหาวิธีทดลองเพิ่มเติม

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หลี่อังก็หันไปมองแผงข้อมูลที่ลอยอยู่เหนือหัวแพะดำอีกครั้ง พร้อมกับค่าการปนเปื้อนที่เพิ่มขึ้นเป็น 0.4 ก่อนจะลูบหัวแพะดำอีกครั้งอย่างครุ่นคิด

หากค่าการปนเปื้อนหมายถึงความแข็งแกร่งจริงๆแล้ว 0.4 > 0.1 นั่นหมายความว่าแพะดำแข็งแกร่งกว่า “ที่พักพิงแห่งวิญญาณ”

ดังนั้นในอนาคต เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้นอาจจะกลับไปที่หอพักแห่งความสุขอีกครั้งและลองใช้แพะดำรับกรรไกรของชายแก่ดู ถ้าคราวนี้มันไม่เป็นอะไรมากล่ะก็นะ…

...

“นายลูบหัวฉันทำไม? คิดว่าฉันเป็นหมาเรอะ?”

โดยที่ไม่รู้ว่าหลี่อังกำลังคิดจะใช้ตัวเองทดลองอะไรบางอย่าง แพะดำที่คาบบุหรี่อยู่ก็สะบัดหัวหนีมือของหลี่อังที่ลูบไปมาด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะพ่นควันสีหม่นออกมาเป็นวงกลมพร้อมพูดอย่างสบายอารมณ์

“เจ้าหนู! ดูนายใจกว้างขนาดนี้ เรื่องที่นายเอาฉันไปป้องกันกรรไกรให้ก็ปล่อยผ่านไปแล้วกัน ขอแค่นายบูชาฉันต่อไป เราก็ยังเป็นคู่หูที่ดีต่อกันได้!”

“อืมๆ”

หลี่อังตอบรับส่งๆไปสองครั้ง หลังจากผ่านเหตุการณ์มาหลายอย่าง เขาซึ่งโหยหาพลังมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจุดบุหรี่เจ็ดแปดมวนพร้อมกันแล้วยัดใส่ปากแพะดำ พลางถามอย่างระมัดระวัง

“ผมสังเกตดูแล้ว คนในสำนักงานเราทุกคนดูเหมือนจะมีร่างกายที่ไม่ธรรมดา! รุ่นพี่เอ็มม่าสามารถบีบรอยมือบนตู้เหล็กได้ หัวหน้าก็ดื่มเหล้าร้อยขวดแต่หน้าแค่แดงนิดหน่อย

แล้วยังมีรุ่นพี่ฮัลลีที่เพิ่งกลับมาก็โดนส่งไปอีกทันที ตอนผมพยายามลากกล่องที่หนักจนสุดกำลัง เขากลับยกขึ้นได้เหมือนถือแก้วน้ำ...”

เขาเล่าข้อมูลที่ตัวเองสังเกตมาเสร็จ หลี่อังก็จ้องแพะดำไม่วางตา ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ถ้าแค่คนสองคนอาจจะเป็นผลจากสิ่งผิดปกติ แต่ถ้าทุกคนในสำนักงานเป็นแบบนี้ ต้องมีเหตุผลอะไรแน่ๆ คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าผมต้องทำยังไงถึงจะมีร่างกายแบบพวกเขา?”

“โฮ่…นายสังเกตได้ดีนี่ แต่เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้!”

แพะดำสูบบุหรี่ในปากเข้าไปจนเต็มปอด ควันพุ่งออกมาจากรูหู ก่อนจะพูดอย่างเฉื่อยชา

“เอางี้นะ เวลานายใช้พลังของฉันบ่อยๆ เคยรู้สึกเหมือนร่างกายและจิตใจถูกสูบจนหมดหรือเปล่า? แบบเหมือนโดนควักทุกอย่างออกไปเลย?”

“มีด้วยเหรอ?”

“…”

…ลืมไปเลยว่าเจ้าเด็กนี่เข้ากับปีศาจได้ดีเป็นพิเศษ

แพะดำกลอกตาใส่หลี่อังก่อนจะขยับปากหนาๆเพื่อหนีบมวนบุหรี่ไว้สองข้าง แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“พลังของฉันไม่ได้มีไว้สังเกตวิญญาณ แต่มันคือการกระตุ้นด้านมืดในใจของคนอื่น! นายใช้ฉันเป็นกล้องส่องทางไกลกับเครื่องอ่านใจครึ่งหนึ่งจะไปมีผลกระทบอะไรได้ยังไง!”

“อ๋อ…”

“เอาเป็นว่าทุกครั้งที่ใช้สิ่งผิดปกติ นอกจากต้องปฏิบัติตามกฎของมัน ยังต้องเสียพลังงานร่างกายและจิตใจเป็นต้นทุน ยิ่งดึงพลังออกมาใช้มากต้นทุนที่ต้องจ่ายก็ยิ่งเยอะ อย่างเช่นรุ่นพี่ฮัลลีในสำนักงานของนาย สิ่งผิดปกติที่แข็งแกร่งที่สุดในมือคือเทปกาวที่ไม่มีวันหมด มันไม่เพียงติดวัตถุทางกายภาพได้ แต่ยังติดสิ่งที่เป็นนามธรรมได้ด้วย”

“สิ่งที่เป็นนามธรรม…หมายถึงอะไรกัน?”

“ก็อย่างเช่น วิญญาณ พันธะ ความเชื่อที่แตกสลาย…อะไรทำนองนี้ เอาเป็นว่าระวังตัวไว้ก็พอ ถ้าวันไหนนายเกิดรู้สึกดีกับเขาขึ้นมา มีโอกาสสูงมากว่านายโดนเขาแปะเข้าแล้ว รีบตบหน้าตัวเองให้ตื่นทันทีเลยนะ!”

(จบบท)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด