บทที่ 20 หมา
บทที่ 20 หมา
"ประธานบริษัทบอกว่ามันใช้ได้ผลมาก ตอนที่เขาเพิ่งเข้าสู่วงการทายาทปีศาจ ความสามารถยังต่ำต้อย มันเป็นเครื่องรางที่ภรรยามอบให้เขา ต่อมาตอนที่ฉันเข้าร่วมเป่าเจ๋อกรุ๊ป เขาก็มอบมันให้ฉันเป็นของขวัญต้อนรับ" ซานอู่พูด "แต่ฉันไม่ได้ใช้ประโยชน์ เอาไปสิ"
หลี่เซี่ยนอวี่กำตราแผ่นดินไว้ รู้สึกราวกับโชคลาภหลั่งไหลมา จากสามัญชนคนธรรมดากลายเป็นผู้ครองแผ่นดิน เป็นเด็กพิเศษของมิตินี้
เขาเดินสำรวจรอบๆ ทั้งในห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และระเบียง ตราแผ่นดินยังเย็นเฉียบ ไม่มีร่องรอยความร้อนแต่อย่างใด
เขาส่ายหน้าให้ซานอู่อย่างเงียบๆ ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือผิดหวังดี
กลับมาที่ห้องนั่งเล่น เรียกภรรยาเจ้าของร้านมา หลี่เซี่ยนอวี่ทำหน้าจริงจัง "สามีของคุณมีความเครียดจากการใช้ชีวิตมากเกินไป จนเกิดอาการทางจิต"
ภรรยาเจ้าของร้าน "อาการทางจิตเหรอคะ?"
หลี่เซี่ยนอวี่ไม่ได้อธิบาย แค่พูดผ่านๆ แล้วพูดต่อ "ฝันว่ามีคนจะทุบขาตัวเอง จากการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาของคนไข้ นี่คือการหลบเลี่ยงการทำงาน บางทีอาจรู้สึกว่าชีวิตหนักหนาเกินไป จึงสร้างคำแนะนำทางจิตใจให้ตัวเองว่า 'ถ้าขาหักก็ไม่ต้องทำงาน'"
หลี่เซี่ยนอวี่พูดมั่วไปเรื่อย แต่ฟังดูมีเหตุผล อย่างน้อยภรรยาเจ้าของร้านก็คิดว่ามีเหตุผล เธอถามอย่างกังวลว่า "แล้วต้องทำยังไงดีคะ?"
เขาบอกให้ภรรยาเจ้าของร้านสบายใจ โรคทางจิตต้องใช้เวลาในการพักฟื้นและการรักษาด้วยยา
"มีเรื่องหนึ่งที่อยากรู้" หลี่เซี่ยนอวี่ถาม
"คุณกับสามี... รู้จักกันยังไงครับ?"
"เรื่องนี้เกี่ยวกับอาการป่วยของเขาด้วยเหรอคะ?"
ภรรยาเจ้าของร้านตอบตามจริง "ฉันกับเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมต้น หลังแต่งงานก็ย้ายมาทำมาหากินที่เซี่ยงไฮ้"
"น้องสาวของเขา..."
"อยู่บ้านเกิดค่ะ คุณหมอหลี่ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ" ภรรยาเจ้าของร้านถามอย่างกังวล
หลี่เซี่ยนอวี่โบกมือ คิดในใจว่า เป็นเราที่เดาผิดหรอ?
แล้วทำไมต้องทุบขาเขาด้วย
หลี่เซี่ยนอวี่ตบไหล่ย่าทวดเบาๆ "กลับกันเถอะ"
ย่าทวด "ให้ฉันเล่นอีกเกมนะ"
เล่นบ้านเธอสิ!
เขาลากย่าทวดออกมาอย่างจำใจ บอกลาภรรยาเจ้าของร้าน แล้วขึ้นลิฟท์จากไป
ภารกิจกำหนดให้เขาต้องสืบหาความจริงและแก้ไขปัญหาภายใน 24 ชั่วโมง แต่สามีภรรยาเจ้าของร้านไม่ได้ให้เบาะแสที่มีค่าเป็นพิเศษ
เบื้องต้นตัดสินว่าเป็นวิญญาณอาฆาตของพ่อแม่ที่เสียชีวิต สาเหตุเพราะลูกชายอกตัญญู... รู้สึกว่าด่วนสรุปเกินไป มีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง
ในฐานะมือใหม่ที่ขาดประสบการณ์ หลี่เซี่ยนอวี่เจอปัญหายากในภารกิจแรก รู้สึกไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แถมย่าทวดและรุ่นพี่ข้างๆ ก็ดูไม่น่าเชื่อถือ
นี่เป็นเพียงภารกิจเล็กๆ ที่ให้คะแนน 5 แต้ม คงแลกเป็นเงินได้ประมาณ 5,000 หยวน
"แค่ภารกิจเล็กๆ แต่ดูยากจัง" หลี่เซี่ยนอวี่คิด "ฉันคงเหมาะกับการก้มหน้าทำข้อสอบจริงๆ นักเรียนไร้ประโยชน์ สอบติดมหาวิทยาลัยการเงินแล้วยังไง เก่งแต่ทฤษฎี งานปฏิบัติกลับห่วย"
"หลานรัก" ย่าทวดเรียกเสียงหวาน
"ไม่ซื้อหมวก VR เด็ดขาด ให้ตายก็ไม่ซื้อ" หลี่เซี่ยนอวี่รีบพูด
ย่าทวดฮึดฮัด กอดแขนเขาแล้วเขย่า "ซื้อนะๆ เดือนหน้าได้เงินเดือนก็ซื้อ"
หลี่เซี่ยนอวี่รู้สึกว่าตัวเองกับย่าทวดควรสลับบทบาทกัน ไม่เคยเห็นย่าทวดอายุ 150กว่าปี มาออดอ้อนเหลนวัย20แบบนี้
"อย่าหวังเลย"
หลี่เซี่ยนอวี่ยืนกรานท่าที ย่าทวดทำอะไรไม่ได้ โกรธจนฮึดฮัด เตะขาเขาเบาๆ
ย่าทวด "งั้นคืนนี้กินอาหารไทย"
เพราะเธอเคยกินแต่อาหารระดับหรูหราเท่านั้น
ย่าทวดน่าสงสารจริงๆ หลี่เซี่ยนอวี่คิด แล้วรีบส่ายหน้า "หัวละ 300หยวน แพงเกินไป กินไม่ไหว"
ย่าทวด "ซานอู่มีเงิน"
"ย่าทวดไม่อายเหรอ ไม่มีใครทำกันขนาดนี้" หลี่เซี่ยนอวี่ด่าปากเปียกปากแฉะ แต่หันไปมองซานอู่อย่างคาดหวัง "ซานอู่ว่าไง"
ซานอู่ครุ่นคิด "ฉันก็ว่าพวกเธอ ขอกันเกินไปนะ"
ย่าทวดโกรธ "รอหลานฉันได้เงินเดือนแล้วจะคืนให้ ขี้งก"
ซานอู่ "พวกเธอเองที่ถามความเห็นฉัน"
หลี่เซี่ยนอวี่หัวเราะเจื่อนๆ "งั้นกินไก่ตุ๋นแล้วกัน วันนี้ร้านเมืองเอสไม่เปิด ต้องกินไก่ตุ๋นแทน"
ฉันผิดเอง ไม่น่าไปถามความเห็นจากเครื่องจักรประชดประชันแบบนี้เลย
ซานอู่พูดเรียบๆ "ขอโทษ พลั้งปากพูดความจริงว่าพวกเธอ ขอกันเกินไปหน่อย แม้จะเป็นความจริง แต่ฉันไม่สนใจเรื่องเงินเดือนหรอก ไปกินกันเถอะ"
หลี่เซี่ยนอวี่ปิดหน้า "พอเถอะๆ กินไก่ตุ๋น มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง"
ถ้าไม่คิดถึงเรื่องวัตถุดิบสะอาดปลอดภัย ไก่ตุ๋นก็รสชาติไม่เลว แค่เมนูมีน้อย กินบ่อยเบื่อได้ ไม่เหมาะจะกินประจำ
ในร้านพื้นที่ไม่กว้าง ตรงข้ามหลี่เซี่ยนอวี่นั่งอยู่ 2คนที่ชอบกินฟรี ทั้งย่าทวดและซานอู่กินไม่สวยเท่าไหร่ แต่ผู้หญิงสวยถึงกินไม่สวย ก็ยังน่ามอง
มองย่าทวดที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย แก้มป่องๆ ริมฝีปากเล็กๆ เป็นมันวาว ดวงตาสดใสเปล่งประกาย หลี่เซี่ยนอวี่เกิดความคิดแปลกๆ ด้วยความงามระดับนี้ของย่าทวด เสียงนุ่มนวล ร่างบางอ้อนแอ้น ถ้าไปเป็นสตรีมเมอร์ คงทำเงินได้มากมาย แล้วเขาก็เป็นผู้จัดการส่วนตัว ย่าหลานจับมือกันยึดวงการสตรีมมิ่ง มุ่งสู่วงการบันเทิง ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป
เทียนฟางเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็เป็นบริษัทในเครือเป่าเจ๋อกรุ๊ปไม่ใช่หรือ ไม่ต้องเป็นสตรีมเมอร์ด้วยซ้ำ แค่ยื่นเรื่องขอเดบิวต์กับสำนักงานใหญ่ก็พอ ส่วนเขาแค่เป็นเด็กรับใช้ตลกๆของย่าทวด ก็มีเงินให้ใช้ไม่หมดแล้ว
นิสัยใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายของย่าทวด รู้สึกว่าต้องเป็นดาราหรือหาเศรษฐีอุปถัมภ์เท่านั้น ถึงจะตอบสนองความต้องการใช้จ่ายของเธอได้
แต่ความคิดนี้ถูกเขาปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ย่าทวดมักพูดว่าตัวเองสมัยก่อนก็เป็นคนมีหน้ามีตามาก ดังนั้นในวงการทายาทปีศาจคงมีคนรู้จักเธอไม่น้อย
เมื่อคำนึงถึงว่าพ่อผู้ล่วงลับเคยถือมีดสับสายไฟ เกิดประกายไฟและฟ้าแลบตลอดทาง สร้างหนี้มากมาย ถ้าย่าทวดถูกใครจำได้ คนที่เดือดร้อนก็คือเขา
"มองอะไร" ย่าทวดรู้สึกได้ไวถึงสายตาไม่ดีของเหลน ดุว่า "รู้สึกว่าคิดไม่ดีแน่ๆ"
"เฮ้อ น่าสงสารพ่อฉันที่ตายเร็ว ฉันอายุยังน้อยก็ต้องมารับช่วงต่องานพังๆของเขา คอยรับใช้ อาทวด อย่างเธอ" หลี่เซี่ยนอวี่ถอนหายใจ
"ฉันคือ ย่าทวด" เธอพูดหนักแน่น
หลี่เซี่ยนอวี่พูด "ก็แซ่หลี่ไม่ใช่เหรอ ไม่ได้แต่งเข้าตระกูลหลี่ ไม่ควรเรียกย่าทวดนะ"
"ฉันไม่สน เรียกย่าทวดฟังดูมีหน้ามีตากว่า" ย่าทวดพูด
"ฉันมีความสุขก็พอ"
ย่าทวดวางตะเกียบ ยื่นมือน้อยๆ ตบไหล่หลี่เซี่ยนอวี่
"ฮ่องเต้องค์ก่อนสร้างบ้านสร้างเมืองยังไม่ทันเสร็จก็สวรรคต เจ้าหนูหลิวเปี้ยน ย่าทวดอย่างฉันได้รับมอบหมายในยามคับขัน จะช่วยเหลือแก เหมือนขงเบ้งนะ"
หลี่เซี่ยนอวี่กลอกตา "ไม่เอา ให้ฮ่องเต้องค์ก่อนฟื้นขึ้นมาสร้างบ้านสร้างเมืองต่อดีกว่า"
ย่าหลานคุยกันเรื่องไร้สาระ กินอาหารเย็นราคาถูกที่แทบไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ
"อู๋...อู๋..."
ข้างเท้ามีเสียงครวญคราง หมาขนรุงรังตัวนั้นเดินกะเผลกเข้ามาในร้าน นั่งอยู่ข้างเท้าย่าทวด ดวงตาดำขลับเป็นประกายจ้องมองเธออย่างอ้อนวอน
มันทั้งตัวมีคราบสกปรก ผอมโซ สายตาขออาหารอย่างหวาดกลัวและปรารถนา
เต็มไปด้วยความปรารถนา
"หมาฝรั่ง" ย่าทวดขมวดคิ้ว แสดงสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็กวาดกระดูกไก่บนโต๊ะลงพื้นทั้งหมด
หมาพันธุ์ ซามอยด์ ครางเบาๆก้มหน้ากินอาหาร
เจ้าของร้านร่างท้วมรีบเดินเข้ามา เตะหมากระเด็นไปครึ่งเมตร ด่าว่า "ไปให้พ้น เหม็นจะตาย"
มันร้องครวญคราง แม้เสียงร้องจะน่าเวทนาก็ยังดูอ่อนแรง กลิ้งไป 2ตลบ แล้วเดินกะเผลกหนีไปอย่างหวาดกลัว
หลี่เซี่ยนอวี่สังเกตเห็นว่ามันไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ริมทาง เลียบริเวณที่โดนเตะอย่างอ่อนแรง แล้วจ้องมองถนนเบื้องหน้า ไม่ขยับเขยื้อน
ร่างของมันทั้งน่าสงสารและเดียวดาย เป็นหมาที่ตกอับจริงๆ
อยู่หมู่บ้านเดียวกัน หลี่เซี่ยนอวี่เห็นหมาตัวนี้หลายครั้งแล้ว มันดูเป็นแบบนี้ตลอด ไม่ก็นั่งใต้ต้นไม้ ไม่ก็นอนอยู่
มันเป็นหมาจรจัดที่ขี้เกียจมาก
ถ้ามันขยันหน่อย ยอมไปคุ้ยหาอาหารที่อื่นบ้าง ก็คงไม่ผอมโซขนาดนี้
"พี่ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้นะ" หลี่เซี่ยนอวี่ขมวดคิ้วพูด
"เธอไม่รู้หรอกว่ามันน่ารำคาญแค่ไหน มาแอบอยู่หน้าร้านทั้งวัน ทั้งสกปรกทั้งเหม็น ลูกค้าหลายคนบ่นว่าเหม็นจนไม่มากันแล้ว นิติบุคคลก็ไม่จัดการ" เธอบ่น
"ไม่รู้หมาตัวนี้เป็นอะไร มาอยู่หน้าร้านไม่ยอมไปไหน โดนเจ้าของร้านเอสข้างๆ ตีบ่อย แต่ก็ไล่ไม่ไป ดื้อจริงๆ"
หลี่เซี่ยนอวี่พูด "งั้นพี่ก็ใจดีนะ อ้วนท้วนสมบูรณ์ ใจกว้างกว่าไอ้ข้างๆตั้งเยอะ ผมไม่ชอบไปกินที่ร้านเขาหรอก ร้านพี่อร่อยกว่าเยอะ"
ซานอู่พูดแทรกขึ้นมา "นายบอกว่าร้านเอสไม่เปิด วันนี้เลยต้องกินไก่ตุ๋น"
บรรยากาศเงียบกริบทันที
พี่คนนั้น เงียบๆแล้วเดินจากไป
หลี่เซี่ยนอวี่เอามือลูบหน้า
"กินเสร็จเราไปเฝ้าหน้าร้านเขากันไหม"
หลี่เซี่ยนอวี่ครุ่นคิด "รอให้เอาของสกปรกออกมา ซานอู่รับผิดชอบจัดการ"
ย่าทวด "ไม่มีของสกปรก"
หลี่เซี่ยนอวี่ชะงัก "อะไรนะ?"
ย่าทวดริมฝีปากเล็กๆ เป็นมันวาว พูดพลางกิน "ในครอบครัวนั้นไม่มีวิญญาณอาฆาต อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้กลิ่น"
หลี่เซี่ยนอวี่ขมวดคิ้วแน่น หรือว่าเจ้าของร้านแค่มีปัญหาทางจิตจริงๆ? บังเอิญเห็นแม่ที่เสียไปตอนวันที่เจ็ด เลยทำให้เขาด่วนสรุป?
กินเสร็จ จ่ายเงินแล้ว หลี่เซี่ยนอวี่ใช้กระดาษทิชชู่ห่อกระดูกไก่บนโต๊ะ เอาออกไปข้างนอก เตรียมจะให้หมาตกอับตัวนั้น
รู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้ หมาซามอยด์รีบมอง ตกใจถอยหลังไปหลายก้าว ดูเหมือนคิดว่าจะมาตี มันมองหลี่เซี่ยนอวี่อย่างน่าสงสาร
หลี่เซี่ยนอวี่นั่งยองๆ โยนกระดูกไปตรงหน้ามัน มันก็มองเขา แล้วก้มมองกระดูก ดมๆ ค่อยๆ เข้ามาใกล้
"หมาฝรั่งต่ำช้า" ย่าทวดพูดอย่างดูถูก
"ย่าทวดเข้าใจผิดแล้ว พวกพันธุ์นี้ ราคาแพงนะ" หลี่เซี่ยนอวี่พูด
"มันก็แค่หมาต่ำช้า พวกฝรั่งหยาบคาย หน้าตาน่าเกลียด คนต่ำช้า หมาก็ต่ำช้าเป็นธรรมดา" ย่าทวดพูดอย่างมีเหตุผล
หลี่เซี่ยนอวี่ยักไหล่ "เธอเริ่มอีกแล้ว ราชวงศ์ชิงล่มสลายไปแล้วนะ"
ย่าทวดพูด "ราชวงศ์ชิงอาจล่มสลาย แต่ชนชาติไม่ได้ล่มสลาย การสืบทอดไม่ได้ล่มสลาย จีนของเรากว้างใหญ่ไพศาล อุดมด้วยคนเก่งและภูมิประเทศที่ดี"
หลี่เซี่ยนอวี่เงียบไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกเศร้า
ย่าทวดจ้องเขาด้วยความโกรธ "หมาตัวนี้เป็นของแกเหรอ?"
หลี่เซี่ยนอวี่ "???"
ย่าทวดตวาดว่า "ฝรั่งยิงปืนใหญ่ทำลายแผ่นดินราชวงศ์ชิงหมื่นลี้ เผา ฆ่า ปล้น ทำทุกอย่างที่ชั่วร้าย ผู้คนลำบากยากแค้นทั่วหล้า พวกลูกหลานไร้ค่าอย่างพวกแก เลี้ยงหมาฝรั่ง นิยมชมชอบของนอก ช่างน่ารังเกียจ เมื่อหลาย 10ปีก่อนที่ฉันตื่นขึ้นมา ยังไม่เห็นหมาฝรั่งมากขนาดนี้ แต่ตอนนี้มันระบาดไปทั่ว"
หลี่เซี่ยนอวี่ "..."
ย่าทวด "แกบอกว่ามันเป็นครอบครัวของแก ตอนที่พวกผีฝรั่งฆ่าบรรพบุรุษของแก พวกมันเคยคิดว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันไหม"
สมองย่าทวดเพี้ยนไปแล้วหรือ?
หรือว่าอยู่มานานเกินไป จิตใจผิดปกติ นึกถึงเรื่องราวในอดีตที่บ้านเมืองตกเป็นของต่างชาติจนไม่อยากจำ?
เขามองไปที่ซานอู่ แต่กลับพบว่าซานอู่มองข้ามไหล่เขาไป จ้องมองบางอย่างด้านหลังเขา
"เธอ เธอมองอะไรอยู่?" หลี่เซี่ยนอวี่ใจหายวาบ
ซานอู่ "ด้านหลังนาย มีอะไรบางอย่าง"
พอเธอพูดจบ จู่ๆ หลี่เซี่ยนอวี่ก็รู้สึกร้อนที่ดวงตาทั้ง 2ข้าง ความร้อนระคายเคืองต่อมน้ำตา มีน้ำตาไหลออกมา พร้อมกันนั้น ด้านหลังมีลมพัดมาเป็นระลอก ขนที่หลังลุกชัน
--------------------------------
ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ
หากพบคำผิด แจ้งได้เลย