CD บทที่ 580 ผู้ชมเกรดต่ำ
เมื่อได้รับคันเร่งล่องหนมา จ้าวหยู่ก็เริ่มจินตนาการเลยว่าเขาจะใช้งานมันอย่างไร เขาจะใช้มันในตอนที่ไล่ล่าอาชญากรหรือเมื่อตอนแข่งรถ แต่เขาไม่เคยคิดว่า เขาจะได้ใช้คันเร่งล่องหนกับรถบรรทุกเพื่อให้ชนรถคันอื่นอย่างนี้
หลังจากการชนกันอย่างรุนแรงระหว่างรถทั้งสองคัน รถบรรทุกกลับได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยปรากฏอยู่บนตัวรถ
อย่างไรก็ตาม คนขับรถบรรทุกกลับรู้สึกผิดอย่างลึกซึ้ง ราวกับว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ได้สร้างบาดแผลในใจของเขามากกว่าที่เกิดกับรถเสียอีก
ตั้งแต่เขาเริ่มขับรถบรรทุก เขาก็ไม่เคยขับเกินสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเลย แต่ก่อนหน้านี้ เขารู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนจรวด พร้อมกับเห็นรถตู้ถูกชนต่อหน้าต่อตา มันเกิดขึ้นเร็วมากจนเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
เขาลงจากรถอย่างรวดเร็วเพื่อไปดูรถตู้ที่เขาเพิ่งชน แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันทำอะไร จู่ ๆ ก็มีรถโฟล์คสวาเกนเฟย์ตันสีฟ้าอ่อนก็พุ่งเข้ามาขวางทาง จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งลงจากรถ และเดินไปที่รถตู้อย่างรวดเร็ว
คนขับรถบรรทุกคิดว่าเขาเป็นคนใจดีที่รีบไปช่วยเหยื่อ แต่ทันทีที่ เขาดึงคนขับรถออกจากที่นั่งคนขับ คนขับรถก็ถูกตบอย่างแรง
พลัวะ!
คนขับรถตู้เป็นชายวัยกลางคนที่สวมแว่นกันแดด เมื่อชายคนดังกล่าวตบเขาอีกครั้ง แว่นกันแดดก็ปลิวไปไกลกว่าสิบเมตร ชายที่ตบคนขับรถก็คือจ้าวหยู่นั่นเอง
“ไอ้เวรเอ๊ย! แกกล้าดียังไงที่มาชนแล้วหนี!”
จ้าวหยู่ต่อยชายคนนั้นอีกสองหมัด ใบหน้าของเขาบูดเบี้ยวช้ำเลือดช้ำหนอง
“ฮือ... ฮือ... ได้โปรด... อย่าตีฉันอีกเลย ฉันยอมแล้ว” คนขับรถตู้คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด และคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อร้องขอความเมตตา
“โอย…”
ทันใดนั้น ก็มีอีกคนก้าวลงจากที่นั่งผู้โดยสาร คน ๆ นั้นบาดเจ็ฐมีเลือดไหลออกมา เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็สะดุดล้มลงกับพื้น
จ้าวหยู่คว้าคอชายคนนั้นขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับดึงคนขับรถอีกคนเข้ามาด้วยแรงที่ไม่เบานัก จากนั้น เขาก็เหยียบศีรษะทั้งสองคนลงกับพื้นอย่างเด็ดขาด โดยบังคับให้ใบหน้าของพวกเขาแนบสนิทกับพื้นถนน ท่าทางของจ้าวหยู่แสดงออกถึงความดุดัน และไร้ความปรานี
“แกไม่ได้ดูเลยเหรอว่ารถที่แกชนเป็นของใคร!” จ้าวหยู่หยิบกุญแจมือออกมาแล้วใส่ลงข้อมือของพวกเขาคนละข้าง
“คุณ… คุณ…” คนขับรถบรรทุกตกใจ และเริ่มพึมพำด้วยความแตกตื่น เมื่อเขาเห็นว่าจ้าวหยู่ดึงกุญแจมือของเขาออกมา เขาจึงสับสนว่าจะทำอย่างไรดี
“คุณกำลังมองอะไรอยู่!?” จ้าวหยู่ตะโกนใส่เขา “รีบโทรหาตำรวจเร็วเข้า!”
“โทรเรียกตำรวจเหรอ? แต่… ฉันเป็นคนชนพวกเขา…” คนขับรถบรรทุกพูดจาติดขัด จากนั้นจึงถามว่า “แล้วคุณจับพวกเขาไว้ทำไม?”
ตึง! ตึง! ตึง!
ทันทีที่คนขับพูดจบ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะดังมาจากรถตู้ ชัดเจนว่ามีคนอยู่ข้างใน
‘เยี่ยมไปเลย โผล่หัวมาให้หมด ฉันจะได้จับพวกแกทีเดียว!’
จ้าวหยู่ยังคงโมโหจัด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาเดินไปที่ประตูหลังของรถตู้ ก่อนจะกระชากมันเปิดออกอย่างแรง เตรียมพร้อมจะจัดการใครก็ตามที่อยู่ข้างใน
แต่ทันทีที่ประตูเปิดออก เขาก็ต้องชะงักไปชั่วครู่ เพราะสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขาก็คือคนเปลือยกายล่อนจ้อน โดยหนึ่งในสองวิ่งหนีออกมาด้วยความรวดเร็วราวกับพายุที่ผ่านหน้า
จ้าวหยู่จ้องมองตามด้วยความงุนงงปนตกใจ ก่อนจะตั้งสติและก้าวตามไปในทันที
‘เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?’
เขาเห็นว่าคนที่รีบหนีออกมาจากรถตู้คือผู้หญิงเปลือยกายที่ถูกมัดแขนและขาเอาไว้ และยังมีเชือกผูกคออีกด้วย!
หญิงคนนี้มีรอยฟกช้ำเต็มตัว ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ เธอมีผมยาวสีดำที่ยาว ไม่เพียงแต่เส้นผมของเธอจะปกปิดใบหน้าเท่านั้น แต่ยังปกปิดหน้าอกของเธอเล็กน้อยอีกด้วย
ขณะที่จ้าวหยู่ยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เสียงขยับตัวจากภายในรถตู้ดึงความสนใจของเขากลับมา ก่อนที่ชายอีกคนจะโผล่ออกมาจากรถ คราวนี้ชายคนนี้อยู่ในสภาพถูกมัดอย่างแน่นหนา ทั้งแขนและขาถูกพันด้วยเชือก ส่วนรอบคอก็มีเชือกพันไว้เหมือนกัน เท่านั้นยังไม่พอ ปากของเขายังถูกปิดด้วยเทปหนาแน่น ทำให้เขาไม่สามารถส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือได้
จ้าวหยู่และผู้คนรอบข้างต่างตะลึงงันเมื่อเห็นคนเปลือยกายคนนี้ดิ้นอยู่บนพื้น จากนั้นผู้คนรอบข้างก็เริ่มหยิบโทรศัพท์ออกมาและถ่ายรูป
เมื่อมองดูแสงแฟลชที่กระพริบ หญิงสาวก็รู้สึกอาย เธอจึงถอยกลับเข้าไปในรถตู้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นยังคงเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ขณะที่หญิงสาวเดินถอยหลัง ทำให้เธอสะดุดล้มโดยไม่ได้ตั้งใจ และล้มทับเขา
ราวกับทั้งสองคนกำลังทำเรื่องอนาจารกลางที่สาธารณะ สถานการณ์ทั้งหมดน่าอึดอัดใจอย่างยิ่ง
จ้าวหยู่จ้องมองผู้คนที่ยืนถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์ของพวกเขาด้วยความรังเกียจ และอยากจะตะโกนใส่พวกเขาจริง ๆ
‘คนพวกนี้ไม่เห็นใจคนอื่นหรืออย่างไร!?’
ในที่สุด ชายเปลือยกายก็พยุงตัวขึ้น พร้อมกับตะโกนด้วยเหงื่อและน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“อื้อ… อื้อ…”
จากนั้น ผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าจะเอาเทปที่ปากออกได้ก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย! มีคนพยายามจะฆ่าฉัน!”
เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ จ้าวหยู่ก็มองไปที่ทั้งสองคน แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะดูคลุมเครือ และแปลกประหลาด แต่จ้าวหยู่ที่เคยเป็นอันธพาลมาก่อนก็สามารถหาเบาะแสบางอย่างได้คร่าว ๆ
เขาคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขาไม่ควรถือเป็นการลักพาตัว แต่ควรเป็นเหมือนกับว่าพวกเขาถูกจับได้ว่ากำลังเล่นชู้
แม้ว่าสภาพของผู้หญิงคนนั้นจะไม่ค่อยน่าดู แต่ผิวพรรณของเธอกลับเรียบเนียน และมีรูปร่างอันเย้ายวน นั่นทำให้เขาเชื่อว่าเธอน่าจะเป็นภรรยาหรือเมียน้อยของบุคคลสำคัญ
มีแนวโน้มสูงมากที่ชายเปลือยกายจะมีสัมพันธ์รักกับผู้หญิงของเจ้านายและถูกจับได้ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกมัดไว้
เมื่อพิจารณาสมมติฐานต่อไป จ้าวหยู่รู้สึกว่าเหตุผลที่รถตู้ถูกขับอย่างเร่งรีบนั้นเป็นเพราะลูกน้องทั้งสองกำลังรีบเร่งทำตามคำสั่งของเจ้านาย นั่นหมายความว่าเจ้านายของพวกเขาน่าจะเป็นคนที่มีอำนาจมาก
อย่างไรก็ตาม จ้าวหยู่ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นมากนัก แทนที่จะจัดการเรื่องอื่นก่อน เขาหันไปหาหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้น เขายื่นมือไปช่วยประคองเธอให้ลุกขึ้นอย่างสุภาพ ดวงตาของเขามองเธอด้วยความสงบ และน้ำเสียงที่เขาใช้ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนเมื่อเขาพูดขึ้นว่า
“คุณหนู ไม่ต้องกลัว ฉันมาช่วยคุณแล้ว ให้ฉันแก้เชือกให้คุณเถอะ”
จากนั้น เขาตัดสินใจว่าเขาไม่สนใจว่าผู้หญิงจะเต็มใจหรือไม่? เขายื่นมือทั้งสองข้างออกมาเพื่อใช้โอกาสนี้ในการลวนลามเธอเล็กน้อย
จ้าวหยู่เป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมเหลือร้าย ขณะที่มือของเขาแก้เชือกอยู่นั้น เขาก็ฉวยโอกาสลูบไล้ไปตามส่วนต่าง ๆ ของหญิงสาว โดยแสร้งทำเป็นช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ เขาพูดไปเรื่อยด้วยท่าทีที่ดูเหมือนกังวลใจว่า
"ใครเป็นคนผูกเชือกแบบนี้เนี่ย? ทำไมถึงได้แน่นขนาดนี้? อดใจรอแป๊บหนึ่งนะ ฉันต้องตรวจดูหน่อยว่าเขาผูกปมไว้ตรงไหน? มันจะอยู่ตรงหน้าอกของคุณรึเปล่านะ?"
“อื้อ…” ชายเปลือยกายส่งเสียงคร่ำครวญออกมาอย่างเร่งรีบ เมื่อมองดูเขา จ้าวหยู่ก็รู้สึกว่าชายผู้นี้ต้องการให้จ้าวหยู่แก้เชือกมัดเขาด้วยเช่นกัน
จากนั้น คนขับรถบรรทุกก็เข้ามาสมทบกับฝูงชน เขาถามจ้าวหยู่ว่า
“คุณครับ คุณต้องการความช่วยเหลือจากผมไหมครับ”
“อย่าขยับ!” จ้าวหยู่ตะโกน “ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากไม่ทราบว่าชายคนนี้เป็นใคร ดังนั้นเราจึงไม่สามารถแก้เชือกให้เขาได้ แต่คุณช่วยหาเสื้อผ้ามาคลุมตัวเขาได้”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ คนขับรถบรรทุกก็หันหลังแล้วจากไป โดยสงสัยกับตัวเองว่าทำไมจ้าวหยู่ถึงแก้เชือกให้ผู้หญิงได้ แต่ผู้ชายกลับทำไม่ได้
จ้าวหยู่หันกลับไปทันทีเพื่อ ‘แก้เชือก’ หญิงคนนั้นต่อไป แต่ทันทีที่เขาเกือบจะคลายเชือกออกหมดแล้ว เขาก็เห็นว่าคนขับรถตู้และผู้โดยสารที่ถูกใส่กุญแจมือหนีไปแล้ว
‘ไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?’
หากพวกเขาวิ่งหนีไป มันก็ไม่มีใครจะจ่ายค่าเสียหายให้กับรถของจ้าวหยู่ ดังนั้นจ้าวหยู่จึงปล่อยมือจากผู้หญิงคนนั้น และวิ่งตามพวกเขาไป
ทันใดนั้น เขาก็เห็นรถตู้สีขาวอีกคันขับมาจากอีกฝั่งของถนน รถตู้คันนั้นหยุดอยู่ตรงหน้าจ้าวหยู่ เมื่อประตูเปิดออก เขาก็เห็นชายร่างกำยำพร้อมอาวุธหกคน ซึ่งรีบออกจากรถตู้ไปอย่างรีบร้อน
คนขับรถตู้ซึ่งถูกตีและมีสีหน้าบิดเบี้ยวก่อนหน้านี้ เห็นว่าพวกพ้องของเขามาถึงแล้ว เขาจึงหันกลับมาและชี้ไปที่จ้าวหยู่พร้อมตะโกนว่า
“เร็วเข้า! ไอ้กร๊วกนั้นมันทุบตีฉัน! รีบจัดการมันซะ!!!”