บทที่ 564 การคาดเดาอันน่าสะพรึงกลัว
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 564 การคาดเดาอันน่าสะพรึงกลัว
“คุณสวมชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตงั้นเหรอ?”
สกอตต์แลงส่ายหน้าเบา ๆ ความมึนงงค่อย ๆ จางหายไป เมื่อเขาเห็นจอมโจรคิดในชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตคำพูดจึงหลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว
“พลังของชุดนี้ มันน่าทึ่งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย”
จอมโจรคิดขยับนิ้วมือควบคุมกรงเล็บกลที่ด้านหลัง เงยหน้ามองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่ดูใหญ่ขึ้น ใบหน้าภายใต้หน้ากากแสดงออกถึงความสนใจอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับการหดตัว จอมโจรคิด หรือไรอันนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่จริงแล้วเขาก็เคยได้มาซึ่งไอเท็มอย่าง 【ไฟฉายย่อส่วน】 ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับ ‘อนุภาคพิม’ แต่ต่างกันตรงที่ ‘อนุภาคพิม’ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งสองทาง ส่วน【ไฟฉายย่อส่วน】นั้นตามชื่อเลย มันสามารถหดขนาดวัตถุได้เพียงทางเดียวเท่านั้น
และถ้าหากไม่ได้ใช้แสงจาก【ไฟฉายขยายส่วน】 สิ่งที่ถูก【ไฟฉายย่อส่วน】ส่องไปจะต้องรอเวลาสักพักจึงจะกลับคืนสู่ขนาดเดิม
ดังนั้น ความรู้สึกที่ไรอันได้รับจากไอเท็มชิ้นนั้น มันเทียบไม่ได้เลยกับความตื่นเต้นที่ได้สวมชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตในตอนนี้
“พูดถึงเรื่องนั้น คุณสกอตต์แลง ตอนนี้คุณดูโทรมไปหน่อยนะครับ?”
แม้จะตื่นเต้นกับพลังของชุดเยลโลว์แจ็คเก็ต แต่จอมโจรคิดก็ไม่ได้ลืมเป้าหมายในการลอบเข้าไปในหมวกกันน็อคของดาร์เรน ครอส
“เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นนิดหน่อยน่ะ”
พอได้ยินคำถามของจอมโจรคิด สกอตต์·แลงถึงกับนึกได้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน ริมฝีปากกระตุกเล็กน้อย ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย แต่เขาก็พยายามทำเป็นเข้มแข็ง "แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกนะ ถึงคุณจอมโจรคิดจะไม่เข้ามาช่วย ขอเวลาอีกหน่อย ผมจัดการได้อยู่ดี"
"อ้อ?"
เห็นสกอตต์·แลงพูดโกหกหน้าตาเฉยแบบนั้น จอมโจรคิดก็ไม่ได้เฉลยความจริง แต่กลับทำหน้าลึกลับลากเสียงยาว
"งั้นถ้าคุณสกอตต์·แลงจัดการได้เอง ผมก็ไม่รบกวนการทำงานของคุณแล้วล่ะ"
จอมโจรคิดกระตุกมุมปาก เหลือบมองขาที่สั่นเทาของสกอตต์·แลง ก่อนหันหลังทำท่าจะไป
"เดี๋ยวก่อน!"
เห็นจอมโจรคิดจะเดินจากไปจริง ๆ สกอตต์·แลงทนไม่ไหว รีบเอื้อมมือออกไปตะโกน
"เอาล่ะ ผมยอมรับ คุณจอมโจรคิด ผมต้องการความช่วยเหลือของคุณ"
เพียงไม่กี่นาทีที่ผ่านมา สมองของเขาปั่นป่วนไปหมด ถึงตอนนี้ขายังอ่อนแรงอยู่เลย
"ช่วยด้วย ผมเจออุปกรณ์ที่ใส่ 'อนุภาคพิม' ไว้ในชุดรบของดาร์เรน·ครอสแล้ว มันอยู่ข้าง ๆ ตัวประมวลผลในหมวก แต่ตอนนี้ผมไม่มีแรงจะทำอะไรต่อแล้ว ดังนั้น คุณจอมโจรคิด ช่วยผมด้วย"
"แลกกับ... ผมจะ..."
เผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ตรงหน้า สกอตต์แลงจำต้องยอมจำนนต่อจอมโจรคิด เขาจ้องมองเหล่าเยลโลว์แจ็คเก็ตที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะกัดฟันพูดว่า “ผมจะไม่ยึดชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตของคุณคืนแล้ว”
เมื่อเทียบกับดาร์เรน ครอสแล้ว สกอตต์แลงเหลือทางเลือกเพียงพึ่งพาจอมโจรคิดเท่านั้น
“ผมต้องเตือนคุณนะครับ คุณสกอตต์แลง ตอนนี้เจ้าของชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตคือผม และคุณก็ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการครอบครองสิ่งของที่ไม่ใช่ของคุณด้วย”
เห็นสกอตต์แลงยอมจำนนเรื่องชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตที่สวมอยู่ จอมโจรคิดก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าลำบากใจปนขบขันออกมา
เขาหันมาเตือนแอนท์แมนสักคำ แล้วจึงหันไปมองเครื่อง ‘อนุภาคพิม’ ที่ขยายขนาดจนดูราวกับอยู่ไกลแสนไกล
“อย่างไรก็ตาม ในฐานะโจร ผมเป็นคนรักสันติเสมอ เรื่องราวคืนนี้มันมากพอแล้ว ถึงเวลาจบลงเสียที”
พูดจบ จอมโจรคิดก็ควบคุมชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตให้ค่อย ๆ ลอยขึ้น จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งเครื่อง ‘อนุภาคพิม’ ที่อยู่ภายในหมวกกันน็อค
“บางที พอกลับไปแล้ว ฉันน่าจะบอกให้ด็อกเตอร์แฮงค์พิม ติดตั้งระบบบินให้ชุดแอนท์แมนของฉันบ้างก็ดีนะ”
เห็นจอมโจรคิดบินได้ สกอตต์แลงก็รู้สึกอิจาทันที
ทันใดนั้น ขณะที่เขากำลังมองดูอยู่นั้น เขาก็เห็นจอมโจรคิดใช้แขนกลหลังชุดเยลโลว์แจ็คเก็ตต่อย ยิงลำแสงเลเซอร์สีฟ้าอ่อนแม่นยำไปยังอุปกรณ์บรรจุ ‘อนุภาคพิม’ ซึ่งมันเป็นอาวุธในชุดที่ดาร์เรน ครอส พัฒนาขึ้น ทว่าหกลับกลายเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่ความตายของเขาเอง
“ไม่ ไม่……”
ในวินาทีต่อมา พร้อมกับกลิ่นไหม้ฉุน ดาร์เรน ครอส ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าสยดสยอง ร่างกายของเขาลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว
……
“ไม่น่าเชื่อ ฉันพลาดเรื่องสนุก ๆ ไปได้ยังไงเนี่ย?”
ภายในอาคารอเวนเจอร์ส โทนี่ สตาร์ค ฟังคำบรรยายจากมิสเตอร์แฟนตาสติก รี๊ด ใบหน้าเขาแสดงความเสียดายออกมาอย่างเห็นได้ชัด
แท้จริงแล้ว วันคริสต์มาอีฟ โทนี่ สตาร์ค ได้รับคำเชิญจากบริษัทพิมเทคโนโลยีเช่นกัน บอกว่าจะมีการเปิดเผยผลงานทางเทคโนโลยีใหม่ หวังว่าโทนี่ สตาร์ค ซูเปอร์ฮีโร่ชื่อดังที่สุดของนิวยอร์กจะเข้าร่วม เป็นสักขีพยานในประวัติศาสตร์
แต่สำหรับโทนี่ สตาร์ค ชายผู้ยุ่งอยู่ตลอดเวลา เขาไม่มีเวลาว่างที่จะไปร่วมงานที่เรียกว่า ‘ประวัติศาสตร์’ นี้แน่นอน
สำหรับเขาแล้ว ถ้ามีเวลาว่าง แทนที่จะไปร่วมงานเปิดตัวที่น่าเบื่อแบบนั้น เขายังอยากใช้เวลานั้นเตรียมการ ‘แผนสันติภาพ’ ให้ดีกว่า
ใครจะไปคิดว่า เพราะการตัดสินใจครั้งนี้ของเขา กลับทำให้พลาดการต่อสู้ที่ตื่นเต้นเร้าใจไป
จอมโจรคิด แอนท์แมน และเยลโลว์แจ็คเก็ต ชื่อเหล่านี้ผสมปนเปกัน บอกเล่าถึงเหตุการณ์การต่อสู้ที่เข้มข้น ที่เกิดขึ้นภายในบริษัทพิมเทคโนโลยีได้อย่างชัดเจน
แม้จะเสียดายที่ไม่ได้เข้าร่วมเอง แต่โทนี่ก็ได้รู้จักเหล่าอเวนเจอร์แล้ว และจากคำแนะนำของมิสเตอร์แฟนตาสติก เขาจึงจำชื่อแอนท์แมนและ ‘อนุภาคพิม’ ได้เช่นกัน
“ที่จริงแล้ว เกี่ยวกับแอนท์แมน คุณสตาร์คครับ”
แสงสีฟ้าอ่อนระยิบระยับในดวงตา อัลตรอนละสายตาจากภาพการเปลี่ยนขนาดตัวของดาร์เรน ครอส ที่ฉายอยู่บนจอภาพเสมือนในห้องแล็บ ปัญญาประดิษฐ์ประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว และพบความเชื่อมโยงระหว่างแอนท์แมนกับเหล่าอเวนเจอร์ได้ในทันที
“บันทึกของอเวนเจอร์ระบุว่า แอนท์แมนแอบเข้าไปในโกดังของอเวนเจอร์ ขโมยต้นแบบเครื่องปลอมแปลงสัญญาณไป และผู้ประดิษฐ์เครื่องปลอมแปลงสัญญาณนั้นก็คือ ด็อกเตอร์แฮงค์พิม”
ทันทีที่อัลตรอนพูดจบ ภาพถ่ายของด็อกเตอร์แฮงค์พิมก็ปรากฏขึ้นบนจอภาพในห้องแล็บ
แน่นอนว่ายังมีคลิปวิดีโอการปะทะกันระหว่างฟอลคอนกับสกอตต์แลง ภายในโกดังของอเวนเจอร์อีกด้วย
ภาพที่ถูกซูมเข้าไปแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ฟอลคอนกำลังต่อสู้กับร่างที่มีขนาดเล็กเท่ามด และแน่นอนว่ายังมีคลิปตอนท้ายที่ฟอลคอนบอกว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกัปตันอเมริกาถึงความล้มเหลวของตัวเอง หลังจากที่สกอตต์แลงหลบหนีไปแล้ว
“ฉันว่าส่วนหลังนี่ไม่จำเป็นต้องบันทึกไว้หรอกนะ อัลตรอน!”
ภายใต้แสงจ้าจากภาพบันทึก ฟอลคอนรับรู้สายตาของกัปตันอเมริกา จึงกระตุกมุมปากเล็กน้อย แล้วตะโกนไปหาอัลตรอน
“กัปตัน ผมแค่ล้อเล่นครับ เพื่อคลายความผิดหวังจากความล้มเหลว”
“ผมเข้าใจอยู่หรอก แซม”
สตีฟพยักหน้ารับคำอธิบายของฟอลคอน ใบหน้าแสดงความเข้าใจและรอยยิ้มอ่อนโยน
ทว่า ภายใต้รอยยิ้มนั้น ฟอลคอนรู้ว่าต่อไปนี้เขาคงลำบากแน่
“ด็อกเตอร์แฮงค์พิม ฉันรู้จักเขา!”
เจ้าหน้าที่คาร์เตอร์ขมวดคิ้ว เบนสายตาจากรูปถ่ายที่อัลตรอนแสดง แล้วเอ่ยขึ้น
“เขาเคยเป็นสมาชิกชีลด์ แต่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับชีลด์ จึงลาออกจากชีลด์ แยกทางกับเรา”
“ความคิดเห็นขัดแย้ง?”
ภายในอาคารอเวนเจอร์ส โทนี่ฟังคำอธิบายของเจ้าหน้าที่คาร์เตอร์ อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“‘อนุภาคพิม’ !”
นิค ฟิวรี่ก้าวเข้าไปในฐานทัพของเหล่าอเวนเจอร์ส ใช้ตาข้างเดียวสอดส่องทุกคนในฐาน สุดท้ายสายตาหยุดอยู่ที่โทนี่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพื่ออธิบาย
“ชีลด์เคยแอบทำวิจัยลับ ๆ เพื่อลอกเลียนแบบ ‘อนุภาคพิม’ ที่ด็อกเตอร์แฮงค์พิม ค้นพบโดยที่เขาไม่รู้เรื่องเลย สุดท้ายด็อกเตอร์แฮงค์พิม จึงตัดสินใจลาออกจากชีลด์ และเขาก็คือแอนท์แมนคนแรกนั่นเอง”
“ทำไมนะ ฉันไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย”
โทนี่หน้านิ่ง ไม่มีทีท่าตกใจเลยเมื่อนิค ฟิวรี่ เปิดเผยเรื่องขัดแย้งระหว่างด็อกเตอร์แฮงค์พิม กับชีลด์ตรง ๆ เขากลับพูดเยาะเย้ยนิค ฟิวรี่
“เรื่องราวระหว่างด็อกเตอร์แฮงค์พิม กับชีลด์ ถ้ามีเวลา ผมเล่าให้ฟังได้หมด ไม่มีตกหล่นแน่นอน”
นิค ฟิวรี่ไม่สนใจคำเยาะเย้ยของโทนี่ เขาเดินหน้าต่อ “แต่ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่าที่รอให้เหล่าอเวนเจอร์จัดการอยู่”
ทันทีที่นิค ฟิวรี่พูดจบ นาตาชาที่ยืนอยู่ด้านหลังก็หยิบสิ่งของที่เตรียมไว้ขึ้นมาวางบนโต๊ะ เปิดเผยให้ทุกคนเห็น
“นี่คือภาพถ่ายดาวเทียมจากสำนักงานใหญ่กองกำลังรักษาความปลอดภัยชายฝั่งแคนาดา ถ่ายเมื่อไม่นานมานี้เอง ถึงแม้รัฐบาลแคนาดาจะเร่งลบภาพและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตนี้ออกไปอย่างรวดเร็วหลังเกิดเหตุ แต่บางส่วนก็รั่วไหลออกมาทางเจ้าหน้าที่ประสานงานชาวอเมริกันที่แฝงตัวอยู่ในแคนาดา”
“นี่มันอะไรกัน?”
ภายในตึกอเวนเจอร์ส สตีฟมองภาพถ่ายที่มีรายละเอียดไม่ชัด ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“จากการวิเคราะห์เบื้องต้น ยืนยันได้ว่าสิ่งในภาพเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา ชนิดไม่ทราบ”
“มหึมา?”
พอได้ยินคำว่า “มหึมา” จากนิค ฟิวรี่ มิสเตอร์แฟนตาสติก รี๊ด ก็ได้แต่นึกถึงดาร์เรน ครอสที่เคยตัวโตขึ้นเพราะ “อนุภาคพิม” ขึ้นมา
“จะเป็น ‘อนุภาคพิม’ หรือเปล่า?”
“ขอโทษด้วยค่ะ แต่เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับแอนท์แมนและ ‘อนุภาคพิม’ เลย”
นาตาชาส่ายหัว ปฏิเสธคำคาดเดาของมิสเตอร์แฟนตาสติกทันที “จากภาพถ่ายดาวเทียม ส่วนที่โผล่พ้นน้ำของสิ่งมีชีวิตตัวนั้นยาวเกินร้อยเมตร ขนาดใหญ่โตขนาดนี้เกินกว่าขีดจำกัดการขยายขนาดของ ‘อนุภาคพิม’ และจากเอกสารลับเกี่ยวกับ ‘อนุภาคพิม’ ที่เหลืออยู่ในชีลด์ แสดงให้เห็นว่าการขยายและหดตัวไม่ใช่พลังถาวร การใช้พลังนี้ต้องใช้พลังงานมหาศาล ยิ่งร่างกายใหญ่ขึ้น การใช้พลังงานก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน”
“นอกจากนี้ ข้อมูลที่เปิดเผยภายหลังชี้ให้เห็นว่า ไม่นานหลังจากค้นพบสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานั้น แคนาดาประกาศจัดการซ้อมรบทางทหารในน่านน้ำโดยรอบ ชัดเจนว่าต้องการใช้การซ้อมรบทางเรือบังหน้าเพื่อศึกษา หรือแม้แต่ยึดครองสิ่งมีชีวิตนั้นไว้เป็นของตนเอง”
“หลังจากทราบเรื่องนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สอบถามรัฐบาลแคนาดาไปแล้ว แต่จัสติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ปฏิเสธอย่างแข็งขัน ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงไม่ยอมรับเหมือนกัน”
เหล่าอเวนเจอร์สไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของนายกรัฐมนตรีจัสติน ตรงกันข้าม พวกเขากลับจดจ้องภาพเอกสารที่นาตาชา วางลงบนโต๊ะ สีหน้าของแต่ละคนแตกต่างกันไป
“ถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีจัสติน จะบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไร แต่สายลับสหรัฐฯ ที่แฝงตัวอยู่ในแคนาดาไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังการสืบสวนของสายลับกลุ่มนี้ ยืนยันได้แล้วว่า แคนาดากำลังศึกษาสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมา เพื่อสร้างอเวนเจอร์สของแคนาดา”
“เรื่องนี้ ฉันควรดีใจ หรือเสียใจดีเนี่ย”
เมื่อได้ยินว่าแคนาดาวางแผนลับ ๆ ที่จะสร้างอเวนเจอร์สเวอร์ชันแคนาดา โทนี่ทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้จะแสดงสีหน้าอย่างไรดี
“ตอนนี้ แคนาดาคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?”
สตีฟแสดงสีหน้าขำกลั้น ๆ แต่ก็ไม่ประมาทความมุ่งมั่นของรัฐบาลแคนาดา
“รายละเอียดเป็นยังไงบ้าง เราก็ไม่รู้หรอก ทางหน่วยงานสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ไว้ใจเราเต็มร้อย เขาก็มีความคิดของตัวเอง”
“ทางการอเมริกาบอกว่า แคนาดาให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานี้มาก ถึงขั้นเข้มงวดเลยทีเดียว แม้แต่สายลับอเมริกาที่ส่งไปยังไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่แน่ชัด ตอนนี้รู้แค่ว่า แคนาดาแอบซ่อนสิ่งมีชีวิตนั้นไว้ โดยใช้การซ้อมรบทางเรือเป็นข้ออ้าง”
“ถ้าสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานี้ตกไปอยู่ในมือแคนาดาแล้ว เราจำเป็นต้องสืบต่อไหมครับ?”
“เรื่องนี้ จริง ๆ แล้วเกี่ยวกับการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานี้ ผมคาดการณ์ว่ามันอาจเป็นบางสิ่งที่น่ากลัวมากอยู่…”
นิค ฟิวรี่เงียบ ๆ สังเกตปฏิกิริยาของเหล่าอเวนเจอร์สอยู่ในใจ ก่อนจะพูดต่อ
“เพราะเวลาที่สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานี้ปรากฏตัว มันดูจะบังเอิญเกินไป จนน่าสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกัน”
“บางที ตัวตนที่แท้จริงของสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมานี้อาจเป็นที่พวกเรากังวลอยู่เสมอมา นั่นก็คือ——【จ้าวศักดิ์สิทธิ์】”
นิค ฟิวรี่เอ่ยความคิดเห็นของตัวเองออกมา ในดวงตาเดียวของเขามีแววหนักแน่นพอสมควร
(จบตอน)
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_
