บทที่ 504: สายสัมพันธ์วิวัฒนาการ 3
เส้นทางของไฟฟ้าแสนโวลต์ที่พุ่งใส่ซุนเป่าพลันเปลี่ยนทิศทาง ทะยานขึ้นไปในอากาศแทน ก่อนจะระเบิดออกเป็นสายฟ้าสีเหลืองสดใสบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน
ทักษะควบคุมเงาได้ผลก็จริง แต่ดูเหมือนเงาอัสนีบาตรกำลังจะสลัดการควบคุมนั้นออกได้ในอีกไม่ช้า
ถังอี้มองสถานการณ์บนสนามวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว ก่อนสั่งอีกครั้ง
“ไฟฟ้าแสนโวลต์!”
เขามั่นใจว่าเงาอัสนีบาตจะสามารถสลัดการควบคุมจากผีวงแหวนอาคมได้แน่นอน
“พา-พา!”
เงาอัสนีบาตคำรามก้อง พลังงานในร่างมันพลุ่งพล่าน มันออกแรงกระตุ้นกล้ามเนื้อและโบกปีกอย่างรุนแรง เงาที่เชื่อมต่ออยู่กับซุนเป่าเริ่มหดตัวลงและใกล้จะขาดออกจากกัน
“ซุน...”
ซุนเป่าที่นอนอยู่มองร่างมหึมาของเงาอัสนีบาตด้วยสายตาเหนื่อยล้า
มันจะแพ้จริงๆงั้นเหรอ...
ในใจของมันแวบขึ้นถึงภาพพี่ใหญ่หยาเป่าและลู่เป่าที่มักจะพูดจาล้อเลียนมันอยู่เสมอ หากพวกนั้นรู้ว่ามันพ่ายแพ้เช่นนี้ ตำแหน่ง "พี่รอง" ที่มันหวงแหนอาจถูกแย่งกลับไปอีกครั้ง
สมแล้วที่เป็นสัตว์อสูรระดับนายพล…ทั้งทักษะสะกดจิตขั้นไร้ที่ติและการควบคุมเงาขั้นไร้ที่ติต่างก็ถูกมันสลัดหลุดได้หมด…
เฉียวซางสูดลมหายใจลึก บังคับตัวเองให้สงบลง ยิ่งรีบร้อน ยิ่งคิดไม่ออก
ซุนเป่ามักจะชนะการต่อสู้ด้วยการเคลื่อนไหวที่ยากคาดเดาและทักษะควบคุมที่แข็งแกร่ง แต่ในสนามไฟฟ้า เงาอัสนีบาตสามารถไล่ตามความเร็วของมันได้ง่ายดาย ทักษะควบคุมก็มักจะถูกพลังงานมหาศาลและขนาดตัวของเงาอัสนีบาตเอาชนะได้
การที่ซุนเป่าจะชนะในสถานการณ์นี้แทบเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามันสามารถสร้างความได้เปรียบให้กับรอบต่อไปได้ เช่นเดียวกับที่จ้าวชวนอวี้ใช้ดาวพิษอหังการในรอบก่อนหน้า...
ในขณะที่เธอกำลังคิดอย่างหนักหน่วง ไอเดียหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัวของเธออย่างฉับพลัน
เงาที่เชื่อมอยู่กับพื้นกำลังจะขาดออกจนหมดสิ้น
ในช่วงวิกฤตนี้ เฉียวซางตะโกนออกคำสั่ง
“คำสาปอับโชค!”
“ซุน...”
ซุนเป่าพยายามลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก ร่างกายที่บอบช้ำทำให้มันรู้สึกเหมือนต้องการการรักษาโดยด่วน มันรู้สึกเหนื่อยล้าจนแทบจะไม่สามารถร่ายคำสาปได้
เหนื่อยเหลือเกิน...
เฉียวซางสัมผัสได้ถึงสภาพของซุนเป่า ก่อนจะตะโกนขึ้นเสียงดังอย่างรวดเร็ว
“พี่รอง! เรื่องนี้ต้องพึ่งแกแล้ว!”
หูของซุนเป่ากระดิกเล็กน้อย ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นในทันที
ใช่แล้ว มันคือพี่รอง! ไม่มีทางปล่อยให้การแข่งขันนี้ทำให้มันตกไปเป็นที่สามแน่!
“ซุน!”
ซุนเป่าหายตัวจากตำแหน่งเดิมทันที
วินาทีต่อมา ดวงตาที่เปล่งประกายสีม่วงของมันปรากฏอยู่เบื้องหน้าเงาอัสนีบาต
“พา พา!”
เงาอัสนีบาตที่เพิ่งหลุดพ้นจากการควบคุม พลังงานสายฟ้าบนร่างของมันปะทุขึ้นอีกครั้ง มันรวบรวมพลังจนกลายเป็นสายฟ้าขนาดมหึมา พุ่งฟาดลงมาที่ซุนเป่า
“ซุน!!!”
ซุนเป่ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันถูกฟ้าผ่าอย่างแรงจนกลายเป็นสีดำสนิทก่อนร่วงหล่นลงสู่พื้น
ในวินาทีที่มันกำลังจะหมดสติ ความคิดหนึ่งแวบผ่านในหัวของมัน
นี่เป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายแล้วใช่ไหม? ถ้ากลับไป จะไม่มีการวิเคราะห์คู่ต่อสู้อีกแล้วใช่ไหม…
การเสียสละของแกจะไม่สูญเปล่า... เฉียวซางโบกมือเบาๆและเก็บซุนเป่ากลับเข้าไปในตำราอสูร
ปรี๊ด!!!
เสียงนกหวีดดังขึ้น
ผู้ชมบนอัฒจันทร์ปะทุเสียงฮือฮาดังกึกก้องไปทั่วสนาม
เฉียวซางผู้เล่นคนเดียวในการแข่งขันที่ครอบครองสัตว์อสูรระดับสูงถึงสามตัว สร้างความกดดันอย่างมหาศาลให้กับโรงเรียนจากภูมิภาคอื่นๆยกเว้นก็แต่ภูมิภาคบ้านเกิดอย่างเย่หัว
แม้ว่าก่อนหน้านี้พรายพิชิตเหมันต์จะพ่ายแพ้ไป แต่การพ่ายแพ้นั้นเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ยังคงรักษาสภาพพร้อมสู้ไว้ได้ และถูกเรียกกลับเข้าตำราอสูรไปก่อนการแพ้โดยสมบูรณ์ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
ผีวงแหวนอาคม… ถูกโจมตีจนหมดสภาพไปอย่างแท้จริงในสนาม
เท่าที่มองดู นี่อาจเป็นความพ่ายแพ้อย่างแท้จริงครั้งแรกของเฉียวซางในการแข่งขันนี้
“ในฐานะเด็กปีสามคนหนึ่ง จู่ๆก็รู้สึกว่าศักดิ์ศรีกลับมาแล้ว!”
“กรี๊ดดดด! ถังอี้! เงาอัสนีบาต!”
“ถังอี้ ถังอี้! แชมป์ต้องเป็นของนายแน่!”
“เฮ้อ ถ้าทักษะค้อนพลังจิตของผีวงแหวนอาคมแรงกว่านี้อีกนิด เมื่อกี้อาจจะชนะไปแล้วก็ได้...”
“ค้อนพลังจิตเพิ่งเรียนรู้หลังจากมันวิวัฒนาการเป็นผีวงแหวนอาคมเอง มันเพิ่งวิวัฒนาการมาไม่นาน อย่าไปคาดหวังอะไรมากนักเลย”
“แต่ถ้านกคลุมฟ้าไม่วิวัฒนาการ ตอนโดนสะกดจิตตั้งแต่แรกก็คงแพ้ไปแล้ว”
“วิวัฒนาการก็วิวัฒนาการไปแล้ว อย่ามัวพูดถึงอดีตเลย ดูต่อดีกว่า ฉันว่าต่อไปเฉียวซางต้องส่งสุนัขเพลิงพร่างพรายลงมาแน่ๆ”
“ต้องใช่อยู่แล้ว ใครๆก็รู้ว่าสุนัขเพลิงพร่างพรายของเฉียวซางมีพลังโจมตีที่รุนแรงที่สุด ยิ่งตอนนี้เป็นเวลากลางคืนพรแสงจันทร์จะเสริมพลังของมันขึ้นไปอีก ฉันว่าการจัดการสัตว์อสูรระดับนายพลที่เพิ่งวิวัฒนาการมาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
“คนภูมิภาคเย่หัวนี่มั่นใจกันขนาดนี้เลยเหรอ? รู้จักสัตว์อสูรระดับนายพลดีหรือเปล่า?”
“แล้วไง? บ๊อก บ๊อก แน่จริงมากัดกูดิ๊ อย่ามัวแต่เห่าไอ้กาก!”
“...”
ปรี๊ด!!!
เสียงนกหวีดดังขึ้นท่ามกลางเสียงพูดคุยที่ดังสนั่น ก่อนที่ทั้งสนามจะแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบในทันที
เฉียวซางประสานมือและทำการอัญเชิญ
กลุ่มดาวสีเขียวสว่างขึ้น ร่างของสัตว์อสูรที่งดงามและเปี่ยมด้วยความลึกลับปรากฏต่อสายตาผู้ชม
“ย่าห์!”
สุนัขเพลิงพร่างพรายมองไปยังคู่ต่อสู้ตรงหน้า มันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่ปีกไฟเล็กๆบนหลังของมันจะขยายใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
สุนัขเพลิงพร่างพรายที่เคยชนะมังกรแดงเพลิง…. ถังอี้สูดลมหายใจลึกและกล่าวว่า
“ถังปู้พา อย่าประมาทเป็นอันขาดนะ!”
“พา พา”
เงาอัสนีบาตจ้องมองคู่ต่อสู้ตัวใหม่ด้วยความตั้งใจ แสดงสีหน้าจริงจัง
ปรี๊ด!!!
เสียงนกหวีดเริ่มการแข่งขันรอบสุดท้ายดังขึ้น
“เพลิงทะยาน!”
“ไฟฟ้าแสนโวลต์!”
เฉียวซางและถังอี้ออกคำสั่งในเวลาเดียวกัน
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นรอบตัวสุนัขเพลิงพร่างพราย ก่อนที่มันจะพุ่งตัวเป็นไฟหมุนความเร็วสูงตรงไปยังเงาอัสนีบาต
“พา…พา?!”
แต่เงาอัสนีบาตกลับหยุดนิ่งไปชั่วขณะในระหว่างที่กำลังสะสมพลัง
ปัง!
สุนัขเพลิงพร่างพรายพุ่งชนเงาอัสนีบาตอย่างจัง ส่งร่างมหึมาของมันกระเด็นไปไกลจนครึ่งตัวฝังลึกลงในพื้นสนาม
ผู้ชม: "!!!"
“เกิดอะไรขึ้น?! ทำไมเงาอัสนีบาตไม่ใช้ไฟฟ้าแสนโวลต์?!”
ถังอี้ยืนนิ่งด้วยสีหน้าช็อก ในหัวเต็มไปด้วยคำถาม
ร่างกายคาถาต้องสาป เมื่อถูกโจมตีมีโอกาส 30% ที่จะทำให้คู่ต่อสู้ติดสถานะคุมขัง ในสถานะนี้สัตว์อสูรจะไม่สามารถใช้ทักษะล่าสุดก่อนถูกคุมขังได้จนกว่าสถานะนี้หมดลง
เฉียวซางที่จ้องมองเงาอัสนีบาตซึ่งครึ่งตัวฝังอยู่ในพื้นสนาม พลางคิดในใจ
ดูเหมือนว่าเงาอัสนีบาตจะติดสถานะคุมขัง… แต่ก็ยังไม่แน่ว่ามันเป็นผลจากคุมขังโดยตรงหรือคำสาปอับโชคที่ซุนเป่าใช้ก่อนหน้านี้
“ย่าห์!”
ในขณะที่เฉียวซางกำลังครุ่นคิด สุนัขเพลิงพร่างพรายแหงนหน้าขึ้นและอ้าปากกว้าง
ลูกบอลพลังงานสีแดงสดที่เปี่ยมด้วยพลังประเภทไฟถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง
ผู้ชมที่ยังตกตะลึงจากการที่เงาอัสนีบาตถูกโจมตีจนหมดสภาพเริ่มได้สติ
“เวรเอ๊ย! เกิดอะไรขึ้น?! ทำไมเงาอัสนีบาตถึงยืนนิ่งปล่อยให้สุนัขเพลิงพร่างพรายโจมตีกันล่ะ?!”
“ไม่สิ! ฉันเริ่มกังวลแล้ว ถังอี้จะไม่แพ้ใช่ไหม?!”
“ไม่ต้องกลัวน่า! นั่นสัตว์อสูรระดับนายพลเลยนะเว้ย!”
“แต่สุนัขเพลิงพร่างพรายมีฝนดาวตกขั้นไร้ที่ตินะ บวกกับพรแสงจันทร์อีก ท่าทางสัตว์อสูรระดับนายพลทั่วไปก็ไม่น่าต้านทานได้เหมือนกัน…”
“พวกนายอย่าเพิ่งรีบใจเสีย! สุนัขเพลิงพร่างพรายเพิ่งลงสนามเองนะ!”
“ไม่ใช่ว่าใจเสีย ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเงาอัสนีบาตถึงหยุดนิ่งตอนนั้น”
“ฉันรู้แล้ว! ผีวงแหวนอาคมใช้คำสาปอับโชคก่อนจะถูกเรียกกลับไปไม่ใช่เหรอ? ต้องเป็นผลของคำสาปแน่ๆ!”
“งั้นก็ดีแล้ว คำสาปอับโชคที่ผีวงแหวนอาคมใช้ตอนนี้น่าจะอยู่แค่ในขั้นต้นเท่านั้น น่าจะทำให้โชคร้ายได้แค่ครั้งเดียวนั่นแหละ”
ผู้ชมจากภูมิภาคจงคงที่ได้ยินแบบนี้ค่อยๆผ่อนคลายความกังวลลง