บทที่ 48 จะบอกว่าเขาเป็นแค่คนปากอีกางั้นเหรอ?
บทที่ 48 จะบอกว่าเขาเป็นแค่คนปากอีกางั้นเหรอ?
“บาซิลิสก์? แต่สิ่งที่ทรงพลังจริงๆ ก็คือผู้ถูกจ้องมองต้องตายทันที แทนที่จะกลายเป็นหินใช่ไหม?”
ศาสตราจารย์มักกอนนากับพูดด้วยความสับสน หลังจากได้ยินคำพูดของเชอร์ล็อค
เชอร์ล็อคชี้ไปยังกล้องในมือของดัมเบิลดอร์ที่ไหม้เกรียมไปหมด
“นักเรียนที่ถูกโจมตีอาจไม่ได้มองเข้าไปในดวงตาของมันโดยตรง แต่มองผ่านบางสิ่งบางอย่าง เช่น คอลินมองผ่านเลนส์กล้อง และจัสตินที่ถูกโจมตีครั้งทีี่แล้ว มองผ่านเงาสะท้อนบนแอ่งน้ำใต้ฝ่าเท้าของเขา”
ดัมเบิลดอร์มองเขาด้วยความชื่นชม
“สังเกตได้ดีมากเชอร์ล็อค ตอนนี้ฉันสับสนนิดหน่อย ตอนที่เธอเข้าร่วมมือปราบมาร ทำไมคนพวกนั้นถึงบอกว่าเธอไม่เหมาะสมในการเข้าร่วมแผนกการต่อสู้”
เขามองกล้องในมือแล้วพูดเบาๆ
“มีความเป็นไปได้สูงที่สิ่งมีชีวิตนั้นอาจเป็นบาซิลิสก์ แต่กุญแจสำคัญของปัญหาไม่ใช่ว่าใครคือผู้โจมตี แต่เป็นว่าใครคือคนเปิดประตู…”
คำพูดสุดท้ายของดัมเบิลดอร์เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา เชอร์ล็อคกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลได้ยินสิ่งที่เขาพูดไม่ชัดเจน
จากนั้นดัมเบิลดอร์ส่ายหัว
“ถ้าเป็นบาซิลิสก์จริงๆ วิธีเอาชนะมันก็ง่ายมากเช่นกัน การขันของไก่นั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต ฉันจำได้ว่าแฮกริดเลี้ยงไก่ไว้มากมายซึ่งสามารถใช้เตรียมการป้องกันได้”
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ไม่ง่ายอย่างนั้น
เมื่อคืน ไก่ทุกตัวที่แฮกริดเลี้ยงเอาไว้ถูกใครบางคนรัดคอจนตาย
แน่นอนว่าผู้ปล่อยบาซิลิสก์ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีสำหรับศัตรูตามธรรมชาติเหล่านี้
แต่ไม่ว่าในกรณีใด ด้วยคำเตือนของเชอร์ล็อค ดัมเบิลดอร์และเหล่าอาจารย์ของโรงเรียนจึงได้เตรียมพร้อมล่วงหน้า
ไก่ไม่ใช่สัตว์วิเศษหายาก พวกมันสามารถหาซื้อได้ทุกที่ อันตรายที่รู้ล่วงหน้านั้นจัดการได้ง่ายกว่าอันตรายที่ไม่รู้จัก ซึ่งทำให้เหล่าอาจารย์รู้สึกมั่นใจเช่นกัน
แต่นักเรียนไม่มีความมั่นใจเช่นนี้
เพื่อเป็นการรักษาความลับ พวกเขาไม่ได้บอกนักเรียนคนใดว่าสิ่งมีชีวิตที่โจมตีนักเรียนนั้นเป็นบาซิลิสก์
พ่อมดตัวน้อยจึงยังคงกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่ไม่รู้
พ่อมดรุ่นเยาว์จากครอบครัวมักเกิ้ลตกอยู่ในอันตราย แม้แต่เนวิลล์ผู้มักขี้อายยังหน้าซีดลงทุกวัน ความหวาดกลัวในดวงตาของเขาไม่สามารถปกปิดได้เลย
“กลัวอะไรเนวิลล์ นายเป็นเลือดบริสุทธิ์ เป้าหมายของสัตว์ประหลาดในห้องลับต้องไม่ใช่นายแน่นอน!”
รอนให้ความมั่นใจ หลังจากเห็นสีหน้าเนวิลล์ในห้องส่วนกลางของกริฟฟินดอร์
แต่ความสบายใจของเขาไม่มีผล เนวิลล์ออกจากห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางสับสน มองไปทางหนึ่ง เหมือนกับว่าเขากำลังจะไปยังห้องสมุด
“ความกล้าหาญของเขามีน้อยมาก ปล่อยเขาไว้คนเดียวเถอะ”
แฮร์รี่พูดด้วยสีหน้าหนักอึ้ง เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์จะมาสงสัยปฏิกิริยาผิดปกติของเนวิลล์อีกต่อไป
“ศาสตราจารย์ฟอเรสต์เพิ่งอวยพรคอลินเมื่อวาน แล้วก็มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาในวันนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน!”
เฮอร์ไมโอนี่ดูสับสนเช่นกัน
“แต่ไม่มีทางที่ศาสตราจารย์ฟอเรสต์จะเป็นฆาตกรแน่นอน เราเคยคุยกันมาก่อนแล้ว เขาเป็นเลือดผสม ทายาทของสลิธีรินต้องเป็นเลือดบริสุทธิ์ใช่ไหม?”
“ไม่จำเป็น!” รอนพูดอย่างจริงจัง
“จำสิ่งที่ฉันบอกก่อนหน้านี้ได้ไหม มีครอบครัวพ่อมดเพียงไม่กี่ครอบครัวสามารถเรียกได้ว่าเป็นเลือดบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ถ้าพวกเขาไม่แต่งงานกับมักเกิ้ล พ่อมดอาจสูญพันธุ์ไปแล้ว!”
“บางคนสืบทอดสายเลือดจากสลิธีรินอาจลืมตัวตนของบรรพบุรุษไปนานแล้วด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีตระกูลเลือดบริสุทธิ์ที่รอดชีวิต เคยได้ยินว่าใครมีความสัมพันธ์กับสริธีริน!”
หลักฐานก่อนหน้านี้ที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเชอร์ล็อค ถูกรอนคว่ำไปแล้ว ในเวลานี้ เฮอร์ไมโอนี่ต้องตกใจเมื่อพบว่าจากหลักฐานในปัจจุบัน ศาสตราจารย์ฟอเรสต์ดูน่าสงสัยไม่น้อยไปกว่ามัลฟอย
เธอพูดตะกุกตะกัก
“แต่ฉันยังไม่เชื่อ! ถ้าอาจารย์ฟอเรสต์เป็นฆาตกรจริงๆ แล้วเขาเกลียดพ่อมดที่เกิดจากมักเกิ้ลมาก ทำไมเขาถึงยอมตอบคำถามของฉัน แม้ว่าน้ำเสียงของเขาอาจดูเย็นชา และท่าทางต่อผู้คนดูห่างเหินมาก แต่จริงๆ แล้วเราทุกคนรู้ดีว่าศาสตราจารย์เป็นคนดีมาก ตอนที่เขาอยู่ในตรอกไดแอกอน เขายังทะเลาะกับพ่อของมัลฟอยเพื่อช่วยคุณวิสลีย์อีกด้วย!”
คำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ทำให้ทั้งรอนและแฮร์รี่รู้สึกหนักใจ
เมื่อพวกเขาพบกับเชอร์ล็อคครั้งแรก พวกเขาไม่มีความประทับใจในตัวอีกฝ่ายเพราะนิสัยเย็นชาของเขา
แต่ในระหว่างการเดินทาง พวกเขาค้นพบว่าเชอร์ล็อคตัวจริงไม่ได้เย็นชาเหมือนปรากฏบนพื้นผิว
เชอร์ล็อคตัวจริงนั้นอ่อนโยน เขาไม่เคยพูดจาหยาบคายแม้แต่กับนักเรียนที่ดื้อรั้น เขามีอารมณ์ขันและความน่าสนใจในชั้นเรียน เพื่อทำให้เด็กๆ สนใจชั้นเรียนการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด อีกฝ่ายถึงกับค้นหาหนทางเสกตัวละครจากการ์ตูนมาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสอน…
หลังจากเรียนและเข้ากันได้เกือบครึ่งปีการศึกษา แฮร์รี่กับคนอื่นๆ ก็ยอมรับศาสตราจารย์คนนี้อย่างแท้จริง พวกเขานึกไม่ออกว่าเชอร์ล็อคจะเป็นฆาตกรที่ต้องการ ‘ชำระล้าง’ ทั้งโรงเรียนอย่างโหดเหี้ยมได้อย่างไร
หลังจากความเงียบกินเวลานาน แฮร์รี่ก็พูดขึ้นทันที
“ถ้าศาสตราจารย์ไม่ใช่ฆาตกรจริงๆ จะบอกว่าเขาเป็นแค่คนปากอีกางั้นเหรอ?”
เฮอร์ไมโอนี่กับรอนตกตะลึงกับข้อสันนิษฐานของเขา ซึ่งไม่ใช่เรื่องของเวทมนต์หรือวิทยาศาสตร์
“แฮร์รี่ ฉันรู้ว่านายไม่ต้องการให้ศาสตราจารย์ฟอเรสต์เป็นฆาตกร! เราก็ด้วย แต่นายไม่สามารถปกปิดข้อสงสัยของเขาด้วยคำพูดที่ไม่มีมูลความจริงได้! นี่เป็นการไม่เคารพเหยื่อ จงรับผิดชอบในสิ่งที่…”
“ฉันไม่ได้ปกปิด ฉันพูดความจริง!”
แฮร์รี่ขัดจังหวะคำพูดของรอนอย่างจริงจัง แล้วเขาก็วิเคราะห์ให้อีกฝ่ายฟังอย่างรอบคอบตั้งแต่ต้นจนจบ
“นายจำวันแรกที่เปิดเรียนได้ไหม ตอนเราขับรถบินได้มาโรงเรียน ชนต้นวิลโลว์แล้วได้รับบาดเจ็บ”
รอนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้า
“แน่นอน ฉันจำเรื่องนั้นได้เหมือนกัน จู่ๆ ต้นวิลโลว์ก็บ้าไปแล้ว มันอยากจะฆ่าพวกเรา!”
“จากนั้นเราไปหามาดามพอมฟรีย์เพื่อรับการรักษา แล้วพบกับศาสตราจารย์ฟอเรสต์ระหว่างทางกลับหอพัก นายจำสิ่งที่เขาพูดกับเราได้ไหม?”
“เขาบอกว่า…ไม่อยากให้นักเรียนขอลาในชั้นเรียนครั้งแรก”
รอนรู้สึกประทับใจกับประโยคนี้เท่านั้น เพราะในเวลานั้นเขากับแฮร์รี่กำลังคุยกันเพื่อหาข้ออ้างไม่ไปเรียนวันพรุ่งนี้ แต่เชอร์ล็อคจับเขาได้
แฮร์รี่ส่ายหัว
“ไม่ใช่ประโยคนั้น สิ่งที่เขาพูดหลังจากเห็นเราคือ ‘ฉันคิดว่าสุดท้ายพวกเธอจะลงจอดได้อย่างปลอดภัย’ ต่างหาก”
รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ตกตะลึง
“นี่เป็นหลักฐานประเภทไหน? ศาสตราจารย์ฟอเรสต์อาจพูดแบบสบายๆ ในตอนนั้น แล้วการที่เราได้รับบาดเจ็บเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ!”
……………………..
*ผมจะใช้คำว่าปากอีกาตามต้นฉบับนะครับ
ภาษาชาวบ้านใช้บ่อย 汉语惯用语
乌鸦嘴 ปากอีกา แปลเป็นไทยคือ ปากอัปมงคล หรือปากเสีย
คำนี้ในภาษาจีน จะหมายถึงคนที่ชอบพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคล แต่ไม่ใช่หมายถึงพวกปากสุนัข
เพราะในความเชื่อคนจีน "乌鸦 อีกา" ถูกตีตราเป็นสัตว์อัปมงคล เป็นสัญลักษณ์ความโชคร้ายหรือความซวย
อีกาจึงถูกมองเป็น "ตัวซวย"
ดังนั้น เวลาที่ใครเผลอพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลขึ้นมา ก็จะถูกว่าเป็น " 乌鸦嘴 ปากอีกา”