ตอนที่แล้วบทที่ 45 มือปราบมาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 47 บาซิลิสก์

บทที่ 46 ฟีนิกซ์รุ่นที่สอง


บทที่ 46 ฟีนิกซ์รุ่นที่สอง

ไม่เพียงแต่คนอื่นๆ เท่านั้น แม้แต่เชอร์ล็อคยังตกตะลึงจนสำลักน้ำลายของตัวเอง

ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ท็องส์ก็พูดขึ้นอีกครั้ง

“ไม่มีทาง พวกคุณไม่คิดว่าเป็นฉันที่ใช้ตัวตนของตัวเองไปสารภาพกับรุ่นพี่ฟอเรสต์เหรอ คิดว่าฉันไม่รู้จักตัวเองเลยหรือไง!”

เธออธิบาย

“เพื่อนที่อยู่หอเดียวกันของฉันชื่อเพสซี่ เธอแอบชอบรุ่นพี่ฟอเรสต์มาตลอด แต่เธอขี้อายเกินกว่าจะสารภาพ เธอจึงขอให้ฉันช่วย ถ้าเขาตกลง เธอจะออกไปเดทกับรุ่นพี่เอง และถ้าเขาปฏิเสธ เธอคงไม่เสียใจมากนักเพราะเป็นฉันที่ถูกปฏิเสธ”

เมื่อผู้คนรอบข้างได้ยินท็องส์พูดภายหลัง พวกเขาก็หายจากสีหน้าตกตะลึง และคิงลีย์ก็ถามขึ้นด้วยความสนใจ

“แล้ว เชอร์ล็อคตกลงไหม?”

พวกเขาทั้งหมดหันความสนใจไปยังเชอร์ล็อค เขาพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง เขาจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองตกลงหรือเปล่า ดังนั้นเขาจึงได้แต่สายหัวอย่างเฉยเมย

“ฉันจำไม่ได้”

“เฮ้! นี่มันใจร้ายมาก แม้ว่าไม่ใช่ฉันที่สารภาพรักให้ตัวเอง อย่างน้อยนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันบอกชอบใครสักคน แต่คุณกลับจำมันไม่ได้!”

ท็องส์ดูเศร้า แต่เห็นได้ชัดว่าเธอแกล้งทำเป็น

“เมื่อคุณปฏิเสธ ฉันก็ปิดหน้าร้องไห้แล้ววิ่งหนี ฉันคิดว่าคุณจะหยุดฉันเอาไว้”

แม้แต่บิลยังพูดด้วยรอยยิ้ม

“เชอร์ล็อคยังคงได้รับความนิยมมากในโรงเรียน เด็กผู้หญิงหลายคนเขียนจดหมายรักถึงเขาทุกปี ฉันได้ยินเรื่องของเขาเป็นประจำ”

“แต่เขาอายุยี่สิบแล้วและยังไม่มีแฟน” คิงลีย์กังวลเรื่องนี้มาก

“อยากให้ฉันแนะนำใครบางคนไหมเชอร์ล็อค? มีสาวๆ น่ารักมากมายมาใหม่ในกระทรวงเวทมนต์”

ทำไมเราเริ่มพูดถึงหัวข้อเหล่านี้?!

เชอร์ล็อคบ่นอย่างช่วยไม่ได้ในใจ แต่แน่นอนว่าในเวลานี้เขาปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

“ผมยังไม่มีแผนในเรื่องนี้ ผมจะทำงานให้ดีในฐานะศาสตราจารย์ที่ฮอกวอตส์ก่อน”

ตอนที่คิงลีย์ยังคงพยายามโน้มน้าวเขา นางวิสลีย์ก็เข้ามาช่วยเหลือ การเตรียมการเกือบเสร็จสิ้นแล้ว และอาหารมื้อเย็นก็เริ่มต้นขึ้น

เหล่าพ่อมดนั่งลงทั้งสองด้านของโต๊ะยาว โดยมีดัมเบิลดอร์นั่งอยู่หัวโต๊ะ

แม้ว่าจะไม่มีชื่อของภาคีนกฟีนิกซ์ แต่เขายังเป็นผู้อาวุโสที่สุด ยังอยู่ในตำแหน่งสูงสุดที่นี่ และเขาควรนั่งในตำแหน่งนี้

ศาสตราจารย์มักกอนนากัลอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนเชอร์ร็อคกำลังจะเดินผ่านไปนั่งกับบิลที่มุมแถวสุดท้ายของโต๊ะยาว

จู่ๆ ดับเบิลดอร์ก็คว้าแขนของเขาไว้ ดึงไปยังเก้าอี้ทางขวา

“นั่งนี่สิ เชอร์ล็อค”

เชอร์ล็อคไม่ต้องการโดดเด่นต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก แต่แน่นอนว่าเขาปฏิเสธคำพูดของดัมเบิลดอร์ไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงนั่งลงอย่างซื่อสัตย์เท่านั้น

มีพ่อมดประมาณสามสิบคนมาร่วมงานปาร์ตี้ ดังที่ดัมเบิลดอร์พูด พ่อมดเหล่านี้มาจากทุกอาชีพ ส่วนใหญ่เป็นพ่อมดวัยกลางคน คนสูงอายุกับคนหนุ่มสาวเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น

หลังจากรู้ว่าเจ้าของเดิมได้เข้าร่วมภาคีนกฟีนิกซ์แล้ว เชอร์ล็อคก็ทำการบ้านมากมาย เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ภาคีนกฟีนิกซ์ทำมาตั้งแต่ก่อตั้ง

เขารู้ชัดเจนมาก ว่าเหตุใดองค์กรนี้ที่ก่อตั้งมายี่สิบปีจึงมีผู้สูงอายุเพียงไม่กี่คน

สมาชิกรุ่นแรกส่วนใหญ่ของภาคีนกฟีนิกซ์เสียชีวิตในสงครามโลกเวทย์มนตร์ครั้งแรก ซึ่งเป็นสงครามกับลอร์ดโวลเดอมอร์ในทศวรรษที่ 1970

คนหนุ่มสาวที่ได้รับการคุ้มครองเติบโตขึ้นเป็นแกนนำอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เช่นเดียวกับคิงลีย์

และเนื่องจากสิบปีแห่งความเงียบงัน ภาคีนกฟีนิกซ์จึงรับสมาชิกรุ่นเยาว์จำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภายใน ตัวอย่างเช่นพวกวิสลีย์ตั้งใจนำบิลเข้าสู่ภาคี และท็องค์ แม่ของเธอ แอนโดรเมดา ท็องค์ เป็นพันธมิตรของภาคีนกฟีนิกซ์

สำหรับเชอร์ล็อค ตอนนี้เขาสามารถเดาได้แล้ว ว่าแม่เจ้าของร่างเดิมควรเป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์ตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่

มิฉะนั้น พวกวิสลีย์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัล มู้ดดี้ และคิงลีย์ ซึ่งเป็นสมาชิกภาคีรุ่นแรก คงไม่มีเหตุผลต้องให้ความสนใจเขามากนัก

ดังนั้น คนหนุ่มสาวที่เข้าร่วมภาคีนกฟีนิกซ์โดยพื้นฐานแล้ว ตอนนี้จึงเป็นรุ่นสองของภาคี และเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาในการพัฒนาพลังภายนอก

แต่สิ่งนี้สามารถเข้าใจได้ สาเหตุหลักมาจากมันอาจไปกระทบกระเทือนจิตใจของนักการเมืองในกระทรวงเวทย์มนตร์

แน่นอนว่าพ่อมดมากกว่ายี่สิบคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ไม่ใช่สมาชิกภาคีนกฟีนิกซ์ในปัจจุบันทั้งหมด ยังคงมีคนจำนวนมากไม่ได้มา

หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว ดัมเบิลดอร์มองไปรอบๆ ทุกคนด้วยรอยยิ้ม

“ฉันดีใจมากที่ได้พบทุกคนที่นี่อีกครั้ง นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าเราทำได้ดีในปีนี้ สิ่งที่ทำให้ชายชราคนนี้มีความสุขมากยิ่งขึ้น คือการมีหน้าใหม่มาร่วมงานกับเรา”

ดัมเบิลดอร์ไม่ได้กล่าวสุนทรพจน์ยาวๆ โดยไม่จำเป็น ไม่มีความกังวลหรือความเสียใจใดๆ เป็นเพียงประโยคง่ายๆ ดังกล่าว ทำให้พ่อมดทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะนี้หัวเราะโดยสมัครใจ

เหล่าพ่อมดเริ่มพูดคุย หัวเราะเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาในปีที่ผ่านมา

บางคนเป็นนักผจญภัยมืออาชีพที่ใช้เวลาทั้งปีเดินทางไปทั่วทวีป พูดคุยความน่าสนใจเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเองในสถานที่ต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีเจ้าของร้านขายอุปกรณ์เวทย์มนตร์ในตรอกไดแอกอน พูดคุยเกี่ยวกับอุปกรณ์แปลกใหม่ที่พ่อมดในโลกเวทมนต์ได้คิดค้นขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา

บรรยากาศของมื้อค่ำนั้นดีมาก เชอร์ล็อคเห็นว่าผู้คนที่รวมตัวกันไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลประโยชน์หรือสถานะใดๆ เพียงมีอุดมคติและเป้าหมายที่เหมือนกันจริงๆ

ในขณะกำลังรับประทานอาหารเย็นอย่างเป็นมิตร จู่ๆ พ่อมดรูปร่างอ้วนท้วนพูดกับดัมเบิลดอร์

“เราจำเป็นต้องดูดซับเลือดใหม่จำนวนมาก แต่ฉันคิดว่าการปล่อยให้เชอร์ล็อค ฟอเรสต์ เข้าร่วมภาคีนกฟีนิกซ์นั้นตรงกันข้ามกับปฏิญาณไม่คืนคำที่เราตั้งไว้นะดัมเบิลดอร์”

ชื่อของบุคคลผู้ถามคำถามคือ ดีดาลัส ดิกเกิ้ล เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกดั้งเดิมของภาคีนกฟีนิกซ์ เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ที่นี่

ทันทีที่เขาเปิดปาก พ่อมดผู้กำลังพูดคุยกันอยู่บนโต๊ะยาวก็เงียบไป สมาชิกภาคีนกฟีนิกซ์ไม่กี่สิบคนรู้เรื่องราวภายใน ต่างมองดูดัมเบิลดอร์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดมีความคิดเดียวกันกับดิกเกิ้ล

ส่วนบุคคลผู้เกี่ยวข้องอย่างเชอร์ล็อค กำลังนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเย็นชา

เมื่อเขากำลังจะแสร้งทำเป็นถาม ว่าทำไมตัวเองถึงเข้าร่วมภาคีนกฟีนิกซ์ไม่ได้ ดัมเบิลดอร์ยื่นมือเข้ามาแตะเขาเบาๆ หยุดเขาจากการแสดง

สีหน้าของดัมเบิลดอร์สงบ พูดขึ้นอย่างจริงจัง

“ฉันรู้ว่าทุกคนมีข้อสงสัย ถึงอย่างไรเราก็ให้สัญญาไว้ในเวลานั้น แต่เราต้องเคารพความคิดเห็นของเชอร์ล็อคด้วย”

…………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด