ตอนที่แล้วบทที่ 3 วันสิ้นโลก?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 ฝันร้าย?

บทที่ 4 มีใครอยู่หลังประตู?


บทที่ 4 มีใครอยู่หลังประตู?

คืนนั้น โจวไป๋ล้มตัวลงนอนแต่หัวค่ำ ห้องทั้งห้องและทางเดินภายนอกมืดสนิท

เพื่อประหยัดทรัพยากร ฐานใต้ดินจะตัดไฟทั้งหมดหลังพลบค่ำ ทำให้ทั้งฐานจมอยู่ในความมืด มีเพียงแสงจากโคมไฟเล็ก ๆ ข้างเตียงที่ส่องแสงจาง ๆ พอให้มองเห็น

เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ก็นอนกันตั้งแต่หัวค่ำเช่นกัน

แต่โจวไป๋นอนกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ เขายังคงคิดถึงเรื่องแปลกประหลาดในฐานแห่งนี้

“ทุกอย่างมันแปลกเกินไป ฐานนี้… ไม่ว่ามองยังไงก็เต็มไปด้วยความพิศวง” เขาเหลือบมองไอชาที่นอนกรนเบา ๆ อยู่ข้าง ๆ “ถ้าเป็นฐานสำหรับหลบภัยวันสิ้นโลก ทำไมถึงมีแต่เด็ก?”

“เด็ก ๆ ไม่มีแรงงาน ไม่มีทักษะ และยังมีภูมิต้านทานต่ำเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ ข้อดีเดียวคือควบคุมง่ายกว่าเท่านั้น”

“แถมไม่มีพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่คนไหนติดตามพวกเด็กพวกนี้มาด้วยเลย เป็นไปได้ยังไง?”

“อีกอย่าง… พวกเขาไม่รู้จักจีน อเมริกา หรืออังกฤษเลย”

โจวไป๋นึกถึงบทสนทนากับเด็กคนอื่น ๆ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขารู้แตกต่างจากสิ่งที่เขารู้โดยสิ้นเชิง ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ที่เขาเข้าใจ พวกเขาไม่เคยได้ยิน แต่ในเรื่องความรู้พื้นฐาน เช่น คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ พวกเขากลับรู้เหมือนกับเขา อีกทั้งสิ่งของที่ใช้ในฐานก็ดูไม่ต่างจากของในโลกปัจจุบันมากนัก

“วันสิ้นโลกนี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

เขานึกถึงดร.จวง ผู้สร้างฐานแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อหลบภัยวันสิ้นโลก และยังเป็นผู้สอนเด็ก ๆ ความรู้ต่าง ๆ

“แต่ทุกอย่างนี้อาจจะมีคำอธิบาย บางทีเขาอาจเป็นแค่คนบ้า… โลกภายนอกอาจยังปกติดีอยู่ก็ได้” โจวไป๋ยกมือขึ้นมองฝ่ามือที่ดูขาวซีดและอ่อนเยาว์กว่าที่ควรจะเป็น ดวงตาเขาฉายแววลังเล

“ฉันเด็กลง... แต่ไม่ได้ดูดีขึ้นเลย แบบนี้มันอธิบายยังไงกัน?”

เขาหันไปมองหน้าจอในหัวที่ค่าความขี้เกียจยังคงหยุดนิ่งไม่ขยับ “ทำไมฉันนอนอยู่ตั้งหลายวัน ค่าความขี้เกียจถึงไม่เพิ่ม? หรือว่าฉันนอนผิดท่า?”

แม้ระบบช่วยฝึกฝนจะใช้งานไม่ได้ แต่พลังแห่งวิญญาณ 10 แต้มที่เขาเพิ่มไว้ก่อนหน้านี้ยังคงอยู่ ทำให้เขามีแรงป้องกันตัวได้บ้าง

โจวไป๋ลองใช้พลังแห่งวิญญาณยกโต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ ๆ เขาคาดคะเนในใจว่าพลัง 10 แต้มนี้เทียบเท่ากับแรงของผู้ใหญ่สี่ถึงห้าคน

‘ถ้าในโลกเดิมฉันมีพลังแบบนี้ ฉันคงไม่ต้องลุกจากเตียงไปหยิบของเองตอนเล่นเกมแล้ว…’

ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากทางเดินนอกห้อง

‘เสียงฝีเท้า? มีคนอยู่ข้างนอกเหรอ?’

เขากำลังจะลุกไปเปิดประตู แต่คำพูดของไอชาที่เตือนเขาไว้ก่อนหน้านี้ก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำ

...

ไอชาเคยบอกเขาด้วยท่าทางจริงจังขณะที่กัดผ้าปูที่นอนว่า “โจวไป๋~~ จำไว้นะว่าหลังจากเข้านอนแล้วอย่าออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไร อย่าออกไปเด็ดขาด”

“เสียงอะไร? มีคนลุกไปเข้าห้องน้ำเยอะเหรอ?”

ไอชาชะงักไปพักหนึ่ง ก่อนขมวดคิ้วแล้วตอบอย่างครุ่นคิดขณะกัดผ้าปูที่นอนต่อ “ฉันลืม…”

...

โจวไป๋หันไปมองไอชาที่นอนเหยียดยาวบนเตียง ถีบผ้าห่มออกจนหมด เธอพูดละเมอเสียงอู้อี้ “โจวไป๋~~ ขอแค่เลียได้ไหม! ฉันไม่กิน! ฉันไม่หิว~~~”

โจวไป๋พึมพำเบา ๆ “ยัยเด็กตะกละคนนี้ นอนหลับไม่รู้เรื่องแบบนี้จะได้ยินเสียงข้างนอกได้ยังไง”

เสียงฝีเท้านอกห้องใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ราวกับว่าคนที่เดินนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องเขา และแล้วเสียงฝีเท้าก็เงียบหายไป

‘หยุดตรงหน้าประตูห้องฉัน?’

ในความเงียบงัน โจวไป๋ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น แต่ไม่มีเสียงฝีเท้าใด ๆ ดังขึ้นอีก

‘มีใครยืนอยู่หลังประตูหรือเปล่า?’

ท่ามกลางความเงียบงันในความมืด โจวไป๋อดไม่ได้ที่จะลุกจากเตียง เขาเดินไปยังประตูห้อง เอียงหูฟังเสียงจากด้านนอก

ในความเงียบที่แฝงความแปลกประหลาด หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงด้วยความกังวล และทันใดนั้น ประตูห้องก็สั่นสะเทือนอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงลูกบิดประตูที่ถูกหมุนอย่างต่อเนื่อง

‘มีคนพยายามเปิดประตู?’

แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ไอชาล็อกประตูไว้ ประตูจึงไม่ถูกเปิดออก แม้ว่าจะมีเสียงลูกบิดหมุนอยู่นานก็ตาม ในที่สุดเสียงนั้นก็หยุดลง

ปัง!

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงฝ่ามือกระแทกกับประตูดังขึ้นในความเงียบ

โจวไป๋มองประตูที่สั่นสะเทือนจากการถูกกระแทก ใจเขาหล่นวูบด้วยความตกใจ

“ใครน่ะ?” เขาตะโกนถามออกไป “ใครอยู่ข้างนอก?”

เสียงของเขาทำให้ความเคลื่อนไหวหลังประตูหยุดลงทันที

โจวไป๋กลืนน้ำลายยากเย็น ยืนนิ่งในความมืด พยายามเงี่ยหูฟังเสียงใด ๆ จากด้านนอก แต่ความเงียบงันนั้นกลับเหมือนเสียงสะท้อนจากความว่างเปล่า ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอกอีกแล้ว

‘มีใครยืนอยู่หลังประตู?’

เขาคิดจะหันไปปลุกไอชา แต่ในจังหวะที่หันกลับมา ใบหน้าประหลาดที่เต็มไปด้วยขนสีขาวและดวงตาสีแดงฉานก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าเขา

สายตาเย็นยะเยือกของมันจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเขา

ในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนสติจะดับวูบ พลังแห่งวิญญาณที่รุนแรงพุ่งออกจากจิตของเขา กระแทกเข้าหาใบหน้าประหลาดนั้น

...

เช้าวันรุ่งขึ้น ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น โจวไป๋รู้สึกถึงแรงผลักที่สะกิดเขาหลายครั้ง

“โจวไป๋!”

“โจวไป๋!”

“อย่านอนขี้เกียจได้ไหม! ถ้านายไม่ลุก ฉันจะกินอาหารเช้าของนายให้หมดเลย!”

โจวไป๋ลืมตาโพลงขึ้น หัวใจยังคงเต้นระรัว ภาพใบหน้าประหลาดเมื่อคืนยังคงก้องอยู่ในความทรงจำ เขาพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว “เมื่อคืน… เมื่อคืนมีอะไรบางอย่างเข้ามาในห้อง!”

“หืม?” ไอชาทำหน้าสงสัย “ฉันนอนหลับสบายดีนี่ ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย”

“มันไม่ใช่คน!” โจวไป๋ตอบด้วยเสียงสั่น “มันเป็นอย่างอื่น… ฉัน…” เขามองไปที่เตียงของตัวเอง “เธอช่วยพยุงฉันขึ้นเตียงเหรอ?”

“เปล่านะ” ไอชาตอบพลางส่ายหน้า “เช้านี้ฉันลุกมาเห็นนายหลับอยู่บนเตียงอย่างสบายใจแล้ว” เธอเสริม “เมื่อคืนฉันล็อกประตูไว้นะ ใครจะเข้ามาได้?”

พูดจบ ไอชาก็เดินไปตรวจดูที่ประตู เธอหมุนลูกบิดเบา ๆ ก่อนหันมาพูด “ยังล็อกอยู่เลยนะ โจวไป๋ นายฝันร้ายรึเปล่า?”

โจวไป๋ลุกขึ้นเดินไปตรวจสอบประตู พบว่ามันถูกล็อกอย่างแน่นหนาจริง ๆ เขาขมวดคิ้วด้วยความสับสน ‘หรือว่าเมื่อคืนฉันแค่ฝันไป? ห้องนี้มีแค่ฉันกับไอชา… แต่เดี๋ยวนะ…’

เขาหันไปมองไอชาที่กำลังยืนยิ้มอย่างร่าเริง ในใจเขาผุดขึ้นมาความคิดหนึ่ง

‘ถ้าประตูไม่ได้ถูกเปิดจริง ๆ และในห้องนี้มีแค่ฉันกับไอชา… ใบหน้าประหลาดสีขาวเมื่อคืน… มันจะใช่ไอชาหรือเปล่า?’

เพียงแค่คิดถึงความเป็นไปได้นั้น ร่างกายเขาก็เย็นวาบขึ้นมาทันที

แต่แล้วความคิดอีกด้านก็เข้ามาแทนที่ ‘หรือมันอาจเป็นแค่ฝันร้ายจริง ๆ? แต่ถ้าใช่ ทำไมมันถึงสมจริงขนาดนี้?’

..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด