ตอนที่แล้วตอนที่ 991 การตัดสินใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 993 อัปเกรด!

ตอนที่ 992 ข่าวดีที่สำคัญ!


เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อไม่นานมานี้ แคโรไลน์ ได้ร้องเพลงที่เธอแต่งเองเมื่อสองปีก่อนในรายการหนึ่ง

ผลคือเกิดปัญหาขึ้นเมื่อบริษัทเพลงเก่าของ แคโรไลน์ บริษัท ‘Enport Music’ ได้มาหาเธอเพื่อเรียกร้องค่าชดเชย

ที่แท้แล้วหลังจากที่ แคโรไลน์ เดบิวต์ เธอก็ได้เซ็นสัญญากับ Enport Music

แต่บริษัท Enport Music กลับใส่เงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมลงในสัญญา ตอนนั้น แคโรไลน์ เพิ่งเดบิวต์ เธอไม่รู้อะไรมาก จึงถูกหลอกให้เซ็นสัญญา

ตามเงื่อนไขที่ซ่อนอยู่ในสัญญาแบบนั้น ทุกผลงานเพลงที่ แคโรไลน์ แต่งขึ้นในช่วงเวลาที่เธอเซ็นสัญญากับบริษัท รวมถึงลิขสิทธิ์ และกรรมสิทธิ์ทั้งหมด จะตกเป็นของบริษัท Enport Music ไม่ใช่ของ แคโรไลน์

ตอนนี้บริษัท Enport Music กล่าวหาว่า แคโรไลน์ ละเมิดลิขสิทธิ์ และเรียกร้องเงินค่าชดเชยจำนวน 10 ล้านเหรียญสหรัฐจาก แคโรไลน์ และต้นสังกัดใหม่ของเธอ ซึ่งเป็น.. บริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป

“เพลงที่คุณแต่งเอง แต่กลับไม่มีสิทธิ์ในลิขสิทธิ์เลยสักนิด?”

เย่เฉิน ขมวดคิ้วแน่น

บริษัท Enport Music นี่มันเลวร้ายจริงๆ แม้จะเป็นสัญญาที่เอาเปรียบ แต่ก็ไม่ควรถึงขนาดนี้

นี่เป็นเพลงที่เธอแต่งขึ้นเอง ทั้งเนื้อร้อง และทำนองล้วนมาจาก แคโรไลน์ เพียงคนเดียว บริษัท Enport Music ไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด แต่กลับอ้างสิทธิ์ในลิขสิทธิ์ทั้งหมด ราวกับว่า แคโรไลน์ เป็นแค่ลูกจ้างของบริษัท

ถ้าจะเอาเปรียบกันจริงๆ อย่างน้อยก็ควรแบ่งลิขสิทธิ์คนละครึ่งยังพอรับได้

แต่การที่ยึดไปทั้งหมดแล้วมาเรียกร้องค่าชดเชยอีก มันช่างน่ารังเกียจเกินไป

“ขอโทษค่ะ ท่านประธาน มันเป็นความผิดของฉันเอง ตอนนั้นฉันพึ่งจะเดบิวต์ ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ แล้วพวกเขาก็หลอกลวงจนฉันเผลอเซ็นไป..”

แคโรไลน์ ก้มหน้า เอ่ยคำขอโทษต่อ เย่เฉิน

ตอนนั้นเธอเพิ่งอายุ 17 ปี พ่อแม่ของเธอก็ไม่เข้าใจเรื่องสัญญาอะไรแบบนี้ และเมื่อโดนหลอกลวงจากบริษัท Enport Music เธอก็เซ็นสัญญาไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก

ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป เธอกลับรู้สึกเสียใจอย่างมาก

ในขณะนี้..เธอไม่เพียงต้องเผชิญหน้ากับการจ่ายค่าชดเชยก้อนโต แต่ยังทำให้บริษัทต้องเดือดร้อนไปด้วย แคโรไลน์ รู้สึกผิดอย่างมาก

ในขณะที่ เย่เฉิน กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้นมา

เย่เฉิน หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอย่างสงสัย และทันใดนั้นเขาก็ยิ้มออกมาในทันที

ข่าวดี!!!

และเป็นข่าวดีที่สำคัญมากๆ!!!

[ติ๊ง]

[ภารกิจท้าทาย : ยืนหยัดเพื่อบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป ยืนหยัดเพื่อพนักงานของตัวเอง จัดการบริษัท Enport Music โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยใดๆ]

[รางวัลภารกิจ : หุ้น 8% ของบริษัท Cartier]

[รางวัลภารกิจ : 129 คะแนนค่าประสบการณ์]

[รางวัลภารกิจ : 58 คะแนนสะสม(ร้านค้า)]

ในที่สุดภารกิจที่เขารอคอยก็มาถึง!!!

รางวัลอื่นๆ ในภารกิจครั้งนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ เย่เฉิน ให้ความสำคัญที่สุดคือคะแนนค่าประสบการณ์ที่จะได้รับจากภารกิจครั้งนี้…

เขาต้องการค่าประสบการณ์อีกเพียง 19 คะแนนเท่านั้นก็จะอัปเลเวลได้แล้ว

เมื่อเทียบกับการอัปเลเวล รางวัลอื่นๆ ก็กลายเป็นเรื่องรองลงไป

ถ้าเลเวลผู้เล่นของเขาเพิ่มขึ้นถึง LV7 โควตาการใช้จ่ายในร้านค้าของเกมจะเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเลเวลผู้เล่นเพิ่มขึ้น ในภารกิจครั้งต่อๆ ไป คะแนนค่าประสบการณ์ และคะแนนสะสม(ร้านค้า)ที่ได้รับเป็นรางวัลก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย!

ในตอนนั้น ระยะห่างจากการอัปเกรดระดับร้านค้าของตัวเขาเองก็ใกล้เข้ามาเต็มที

เย่เฉิน พลันตื่นเต้นอย่างมาก..

ตราบใดที่เขาทำภารกิจนี้สำเร็จ ระดับผู้เล่นของเขาจะอัปเกรดเป็น LV7 ได้ทันที จะรออะไรอยู่อีกล่ะ ลงมือเลย!!!

“แคโรไลน์ คุณไม่ต้องโทษตัวเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งหมด แต่เป็นเพราะบริษัท Enport Music ต่างหากที่น่ารังเกียจเกินไป”

เย่เฉิน พูดขึ้น

“เรื่องนี้ ทางบริษัทจะจัดการให้คุณเอง”

เย่เฉิน คิดวิธีที่จะทำภารกิจนี้สำเร็จไว้เรียบร้อยแล้ว

“อะไรนะคะ?”

แคโรไลน์ ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของ เย่เฉิน เธอไม่คิดเลยว่าเจ้านายคนใหม่ของเธอจะพูดแบบนี้

เจ้านายของเธอช่างดีเกินไปแล้ว…

“รองผู้จัดการเมิ่ง ช่วยติดต่อคนของบริษัท Enport Music ที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้กลับมาด้วย ผมมีเรื่องจะคุยเกี่ยวกับ ‘ค่าชดเชย’ นี้”

เย่เฉิน ออกคำสั่ง

“รับทราบครับ”

รองผู้จัดการเมิ่ง พยักหน้าทันที แต่ในใจเขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ท่านประธานเย่ จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

ถึงแม้ว่าสัญญาฉบับนั้นจะเลวร้าย แต่ในเมื่อ แคโรไลน์ เซ็นไปแล้ว มันก็ถือว่ามีผลทางกฎหมาย

ซึ่งการจะจัดการกับเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย…

ในระหว่างที่ รองผู้จัดการเมิ่ง ไปจัดการ เย่เฉิน ได้ส่งข้อความบางอย่างออกไปเป็นพิเศษ

ทางฝั่งของบริษัท Enport Music หลังจากเพิ่งออกจากบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปไปไม่นาน ก็ได้รับข้อความจาก รองผู้จัดการเมิ่ง จึงรีบกลับมาอย่างเร่งด่วน

อย่างไรพวกเขาก็มีสัญญาในมือ ดังนั้นจึงไม่กลัวว่า เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป จะปฏิเสธ

หากอีกฝ่ายปฏิเสธจริงๆ.. พวกเขาก็แค่ฟ้อง แคโรไลน์ และบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป ในศาลเท่านั้นเอง…

พวกเขาคาดการณ์ว่า บริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป น่าจะอยากเจรจาเรื่องจำนวนเงินค่าชดเชย

ที่จริงแล้ว การเรียกร้องค่าชดเชย 10 ล้านเหรียญสหรัฐของพวกเขานั้นถือเป็นการเรียกร้องที่เกินความจริงไปมาก

ในตอนที่เซ็นสัญญากับ แคโรไลน์ ครั้งแรก พวกเขายังไม่ได้ใช้เงินมากขนาดนี้เลย

ประมาณสิบกว่านาทีต่อมา ตัวแทนของบริษัท Enport Music หลายคนได้เข้ามาในห้องทำงานของ เย่เฉิน

รองผู้จัดการเมิ่ง แนะนำตัว เย่เฉิน ให้กับตัวแทนเหล่านั้น

หลังจากทราบตัวตนของ เย่เฉิน ตัวแทนของบริษัท Enport Music กลับไม่ได้ให้ความสำคัญใดๆ กับเขา

พวกเขาทั้งหมดนั่งลงบนโซฟาอย่างหยิ่งยโส และยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างสบายใจด้วยท่าทางที่หยิ่งทะนงอย่างมาก

อย่าลืมว่า..พวกเขามีสัญญาอยู่ในมือ และนี่ถือเป็นไพ่ตาย ดังนั้นจึงเสมือนว่าพวกเขาเป็นเจ้าหนี้!

พวกเขาคิดว่าปัญหาเรื่องค่าชดเชย บริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป จะต้องพยายามเอาใจพวกเขา

ดังนั้นการแสดงท่าทีหยิ่งยโสก็เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา

หรือคุณคิดว่า..พวกเขาจะต้องแสดงความสุภาพกับลูกหนี้กันล่ะ?!

“พวกคุณ...”

เมื่อเห็นดังนั้น รองผู้จัดการเมิ่ง ถึงกับโกรธมาก

คนต่างชาติพวกนี้ช่างน่ารังเกียจนัก ใช้ข้อได้เปรียบจากสัญญาในมือทำตัวโอหังเกินไป

ตอนอยู่ต่อหน้าเขายังหยิ่งยโสไม่พอ ตอนนี้กลับกล้าทำตัวแบบนี้ต่อหน้าท่านประธานของเขาอีก..

รองผู้จัดการเมิ่ง เตรียมจะต่อว่าพวกเขาสักหน่อย

แต่ยังไม่ทันที่ รองผู้จัดการเมิ่ง จะได้เปิดปากพูด ชายคนหนึ่งในกลุ่มตัวแทน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าชื่อ สมิธ ก็พูดขึ้นมาก่อน :

“บอสเย่ เอาอย่างนี้ละกันนะ ศิลปินในสังกัดของคุณใช้ลิขสิทธิ์ของพวกเรา คุณว่าคุณควรจะจ่ายค่าชดเชยเท่าไหร่ดีล่ะ?”

สมิธ พูดด้วยท่าทางยโสโอหัง และมอง เย่เฉิน ด้วยสายตาที่เหนือกว่า

หลังพูดจบ เขาก็รอให้ เย่เฉิน โค้งคำนับ และพูดจาอ่อนน้อมต่อเขา!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด