HPST ตอนที่ 527: วิหารที่ถูกฝัง?
HPST ตอนที่ 527: วิหารที่ถูกฝัง?
"เธอคิดยังไงบ้าง อีวาน? แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ทุกคนต่างก็ชอบพวกมันมาก พวกมันเพิ่งฟักออกจากไข่เลยนะ!" แฮกริดกล่าวอย่างภาคภูมิใจ "ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอสามารถเลี้ยงดูพวกมันด้วยตัวเอง มันน่าจะเป็นโครงการใหญ่ๆได้เลยนะ!"
จากการแสดงออกที่ประชดประชันของแฮรี่กับรอนก่อนหน้านี้ อีวานสงสัยว่าพวกเขาจะชอบสกรู๊ตปะทุไฟพวกนี้จริงๆหรือเปล่า
ทั้งสามคนต้องบอกว่าเพราะพวกเขาไม่อยากทำให้แฮกริดเศร้า
"แล้วตคุณไปได้สกรู๊ตปะทุไฟพวกนี้มาจากไหน?" อีวานก้มลงและดูพวกมันภายในลังไม้ หางของสกรู๊ตก็ระเบิดขึ้นและประกายไฟก็ลอยไปทุกที่ เขารีบถอยกลับมา ขมวดคิ้วและพูดว่า "นี่น่าจะเป็นสัตว์วิเศษชนิดใหม่ ผมไม่เคยเห็นมันในหนังสือเล่มไหนเลย"
“ใช่ มันเป็นสายพันธุ์ใหม่ ลูกผสมของมันติคอร์กับปูไฟ ฉันตั้งชื่อพวกมันว่าสกรู๊ตหางปะทุ พวกเด็กน้อยนี้น่ารักใช่ไหมล่ะ?” แฮกริดโบกมือของเขาและดูเหมือนว่ามีความสุขมากที่อีวานถามมา "เธอรู้ไหมมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันติคอร์แทบจะไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตใดๆเข้ามาใกล้มัน ยากที่จะทำให้พวกมันเข้ากันได้ ฉันใช้ปูไฟไปกว่า 60 ตัวกว่ามันจะสำเร็จ"
มันยากที่จะจินตนาการว่าแฮกริดทำมันได้อย่างไร
ในขณะที่พ่อมดทุกคนไปที่งานควิดดิชเวิลด์คัพ ชายคนนี้ก็คอยดูแลมันติคอร์กับกลุ่มปูไฟ เขาทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อให้พวกมันผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกหลานของพวกมัน…
สกรู๊ตปะทุไฟไม่น่ารัก แต่น่ากลัว น่ากลัวจริงๆ!
เมื่อการผสมพันธุ์เพื่อการทดลองถูก การเพาะพันธุ์สัตว์วิเศษชนิดใหม่ก็ถูกห้ามไปด้วยเช่นกัน
คำสั่งห้ามถูกบังคับใช้อย่างเด็ดขาดโดยกองออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษของกระทรวงเวทมนตร์ มันผิดกฎหมายที่แฮกริดจะทำเช่นนั้น
แต่เมื่อมองดูความสุขบนใบหน้าของเขา แม้ว่าอีวานจะบอกเขาเรื่องนี้ เขาก็จะไม่สนใจ
ตอนนี้แฮกริดได้ดื่มด่ำกับความสุขในการได้รับสกรู๊ต ตอนนี้เพียงแค่คิดว่าจะเลี้ยงดูพวกมันอย่างไร
พวกมันสืบทอดลักษระบางอย่างของมันติคอร์และปูไฟ และพวกมันก็น่าจะอันตรายกว่าเดิมมาก
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแฮกริด
เมื่อคิดถึงประสบการณ์ในอดีตของเขา ไม่ว่าจะเป็นมังกร เซอร์เบอรัส หรืออะโครแมนทูล่า พวกมันก็ไม่ได้ปลอดภัยไปกว่าสกรู๊ตปะทุไฟ
พวกมันทุกตัวเป็นเด็กน้อยน่ารักในสายตาของแฮกริด
ในเทอมก่อน อีวานเกือบกำจัดอโครแมนทูล่าทั้งหมดในป่าต้องห้าม
ได้รับผลกระทบจากสัตว์ประหลาดลูกตา พวกมันกลายเป็นชั่วร้ายมากขึ้นและร่างกายของพวกมันเริ่มเติบโตผิดปกติกลายเป็นสิ่งมีชีวิตมืดบริสุทธิ์
อย่างไรก็ตาม อีวานปล่อยอาราก็อกไปและมอบมันให้กับแฮกริด แมงมุมแก่ไม่สามารถอยู่ได้หากปราศจากแหล่งพลังของเทพเจ้าชั่วร้าย
ในระยะเวลานี้ แฮกริดกำลังยุ่งอยู่กับการดูแลอาราก็อกที่อ่อนแอและไม่มีพลังที่จะคิดอะไรอีกเลย
โดยไม่คาดคิด ทันทีที่สุขภาพของอาราก็อกดีขึ้น เขาก็ผลิตสกรู๊ตปะทุไฟที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม!
อีวานถอนหายใจ เลิกพยายามเกลี้ยกล่อมแฮกริดและหันความสนใจไปที่สิ่งที่เขาเพิ่งพูดถึง มันติคอร์
“คุณพบมันติคอร์ที่ไหน?” อีวานถาม “สัตว์วิเศษนี้หายากมากนะ”
มันติคอร์เป็นสัตว์ที่อันตรายอย่างยิ่ง หัวของมนุษย์ ร่างของสิงโต และหางของแมงป่อง หรือจะพูดให้ชัด มันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีร่างกายของสิงโตแดง ใบหน้ามนุษย์ หูมนุษย์และดวงตาสีฟ้า ขากรรไกรทั้งบนและล่างแต่ละข้างมีฟันแหลมคมสามแถวและปลายหางเป็นหางแมงป่องที่มีเหล็กไนที่สามารถยิงได้ทุกทิศทาง
สัตว์วิเศษนี้มีถิ่นกำเนิดในกรีซและหายากและอันตรายมาก มันเป็นหนึ่งในสัตว์วิเศษที่อันตรายที่สุดที่รู้จักกันในปัจจุบัน
ผิวของมันติคอร์สามารถต้านทานคาถาได้ ดังนั้นมันจึงยากที่จะปราบมันติคอร์ด้วยเวทมนตร์ เป็นที่รู้กันว่ามันมีความสามารถในการพูดของมนุษย์และถือเป็นสัตว์ที่มีความนึกคิด
แต่เนื่องจากลักษณะนิสัยที่รุนแรงของมันจึงไม่ได้เสนอสถานะให้เหมือนกับก๊อบลินและสิ่งมีชีวิตอื่นที่คล้ายคลึงกัน มันถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์โลกเวทมนตร์ ว่า มันติคอร์เคยฆ่ามักเกิ่ล 30,000 คนเพื่อเป็นอาหาร
ในเปอร์เซียโบราณมันจึงถูกเรียกว่า "มันติคอร์" นั่นคือ "ผู้กินคน"!
สัตว์ประหลาดที่ชั่วร้ายที่น่ากลัวนี้ยังได้รับการยกย่องจากมักเกิ้ลว่าเป็นสัญลักษณ์ในตำนานของการปกครองแบบเผด็จการ ความหยิ่งสโย และความหึงหวง
ในโลกเวทมนตร์ พวกมันเป็นสัตว์วิเศษที่สร้างขึ้นโดยพ่อมดโบราณเพื่อปกป้องสมบัติ
เมื่อขุมทรัพย์ที่ถูกทิ้งไว้โดยพ่อมดโบราณนั้นค่อยๆถูกสำรวจและถูกค้นพบ มันติคอร์ก็ยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆ
จากบันทึกที่เชื่อถือได้ พวกมันปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในปี 1296
มันติคอร์ช่วยคนและพวกเขาก็ปล่อยมันออกไปเพราะทุกคนกลัวเกินกว่าจะเข้าไป
ตั้งแต่นั้นมาโลกเวทย์มนตร์ก็ไม่เคยเห็นมันติคอร์อีกเลย
ดังนั้น อีวานจึงรู้สึกประหลาดใจเมื่อแฮกริดบอกว่าสกรู๊ตปะทุไฟพวกนี้มีสายเลือดของมันติคอร์กับปูไฟ เขาไม่รู้ว่าแฮกริดพบมันติคอร์ได้ที่ไหน!
"ในหนองน้ำลึกเข้าไปในป่าต้องห้าม มันมีอยู่ตัวนึง!" แฮกริดพูดพรางขึ้นยืน "เป็นอาณาเขตของมัน ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดกล้าเข้าไป นอกจากการล่าสัตว์ มันไม่เคยออกไปไกลเกินไปราวกับว่าเขากำลังปกป้องบางสิ่ง"
หนองน้ำลึกเข้าไปในป่าต้องห้ามงั้นหรอ?
อีวานยังจำหนองน้ำนั้นได้ แปดร้อยปีก่อน โอคิกีก้า นักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเซนทอร์เคยพบซากโบราณสถานขนาดใหญ่ฝังอยู่ในโคลน มันเป็นวิหารโบราณและลึกลับ
ด้านบนถูกปกคลุมด้วยหนองน้ำหนาและภายในเป็นหอกกว้างและเงียบสงบ มันถูกปกคลุมไปด้วยพืชมหัศจรรย์หลายแห่งอย่างเงียบ ๆ และผนังหินอ่อนถูกสลักด้วยสัญลักษณ์เวทย์มนตร์ที่ซับซ้อนและจารึกเวทมนตร์โบราณ
พื้นถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายและวงเวทย์ต่างๆ เช่นเดียวกับส่วนบนของวิหารแห่งดวงจันทร์
ด้วยความเร็วของโอคิกีก้า เเขาต้องวิ่งไปนานกว่า 20 นาทีในห้องโถงที่ว่างเปล่าแห่งนี้ เพื่อไปยังจุดศูนย์กลาง!
ที่นั่นมีเทวรูปที่น่ากลัวที่สามารถเรียกเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายที่น่ากลัวให้มายังโลกแห่งความเป็นจริง
แฮกริดบอกว่ามันติคอร์อาจเคยอยอู่ที่นั่นเพื่อป้องกันบางสิ่งบางอย่าง อาจเป็นวิหารที่ถูกฝัง เมื่อเขานึกขึ้นได้ อีวานก็ตัดสินใจไปที่นั่นและตรวจสอบ อาจมีบางสิ่งเหลืออยู่ในนั้นที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าผู้ชั่วร้าย
ด้วยรูปปั้นของเทพเจ้าชั่วร้ายในมือของโวลเดอมอร์ การสำรวจในลักษณะนี้จึงจำเป็นอย่างมาก
วิหารถูกฝังอยู่ใต้โคลนและยังไม่ถูกค้นพบโดยเหล่าพ่อมดและกระทรวงเวทมนตร์ มีเพียโอคีกิก้าที่เคยไปที่นั่นมื่อ 800 ปีก่อนและสถานที่แห่งนั้นอาจจะยังไม่ถูกทำลาย ซึ่งมีค่าแก่การสำรวจอย่างมาก
นอกจากเทพเจ้าชั่วร้าย จอมเวทโบราณอาจทิ้งสมบัติอื่นไว้ด้วย
แม้ว่าจะไม่มีอะไรเลย แต่วิหารนี้เป็นสิ่งที่ตกทอดจากจอมเวทโบราณ มันก็คุ้มค่าที่อีวานจะไปเยือน