【เรือนจำเซลล์พิศวง】บทที่ 480 ศึกเลือด
ทิฟฟานี่แห่งสายลมปล่อยสายธนู ลูกธนูพลังลมที่หมุนวนราวเกลียวพุ่งตรงไปยังลูเซียส
ลูกธนูป่วนอากาศ ระหว่างเคลื่อนที่ยังสะสมพลังธาตุลมต่อเนื่อง เพิ่มพลังทะลวงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ในจังหวะที่กำลังจะพุ่งเข้าปะทะลูเซียส
กร๊อบแกร๊บ~
กำแพงกระดูกก่อตัวขึ้นตรงหน้าลูเซียส
จุดปะทะเกิดพายุหมุนรุนแรง กำแพงกระดูกถูกทำลายย่อยยับ แต่กลับไม่สามารถทำอันตรายลูเซียสที่อยู่หลังกำแพงได้
แตรเดี่ยวแห่งการต่อสู้ก็ดังขึ้นพร้อมกับลูกธนูดอกนั้น
"จงฟื้นคืนชีพเถิด...กองทัพของข้า!"
รุ่นพี่เรนเซ่อร์ผู้สวมเกราะกระดูก ถือโล่กระดูกและคทาเงาสั้น โบกคทาที่พันด้วยพลังแห่งความตายในมือราวกับกำลังสะบัดธงบัญชาการ
พื้นที่อาถรรพ์อันเย็นยะเยือกแผ่ขยายออกจากเท้าของรุ่นพี่เรนเซ่อร์
วิญญาณร้ายกว่ายี่สิบตนก่อร่างขึ้นอย่างรวดเร็วในพื้นที่นี้
สิบหกตนเป็นโครงกระดูกทหารถือดาบฟันเฟืองหรือขวานใหญ่ อีกสี่ตนเป็นโครงกระดูกนักเวทที่ลอยอยู่กลางอากาศ ร่างคลุมด้วยเสื้อคลุมโปร่งแสงและถือไม้เท้ากระดูก สามารถปล่อยลูกธนูเงาที่มีพลังกัดกร่อนรุนแรง
คนเดียวเท่ากับกองทัพ นี่คือความน่าเกรงขามของนักเวทวิญญาณ
เมื่อฮั่นตงได้เห็นภาพการฟื้นคืนชีพของวิญญาณร้ายเช่นนี้ ก็อดตะลึงไม่ได้...ครั้งก่อนที่คฤหาสน์สจ๊วต รุ่นพี่เรนเซ่อร์เรียกโครงกระดูกได้แค่สองสามตนเท่านั้น
แต่ตอนนี้โบกมือทีเดียวก็เรียกกองทัพขนาดย่อมได้ ทั้งยังมีพลังที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง
"นี่คือพลังที่ 'ต้นไม้' หนุนเสริมให้สินะ?
พลังงานที่ได้รับระหว่างต่อสู้นั้นเหนือชั้นกว่าเมล็ดพันธุ์โดยสิ้นเชิง...ช่องว่างระหว่างอัศวินจริงกับอัศวินฝึกหัดช่างห่างไกลเหลือเกิน
นักเวทวิญญาณที่แท้จริงต้องมีพลังงานมหาศาลหล่อเลี้ยง
และ...รุ่นพี่เรนเซ่อร์ดูเหมือนจะมีความพิเศษบางอย่างที่นักเวทวิญญาณทั่วไปไม่มี นั่นคงเป็นเหตุผลที่อัศวินยมทูต อเล็กซ์เลือกเขาในการคัดเลือกอัศวิน"
ฮั่นตงยังสามารถมองเห็นรายละเอียดหนึ่งผ่านดวงตาปีศาจน้อย
ร่างของวิญญาณร้ายทั้งหมดเชื่อมต่อกับเรนเซ่อร์ด้วยเส้นใยวิญญาณที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
หากร่างโครงกระดูกถูกทำลายระหว่างต่อสู้ พวกมันจะได้รับการส่งผ่านพลังงาน ประกอบร่างและฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็ว...ตราบใดที่เรนเซ่อร์ยังไม่ตาย กองทัพวิญญาณร้ายก็จะไม่มีวันสิ้นสุด
"โครงกระดูกน้อยพวกนี้ ก็แค่ระดับสิ่งชั่วร้ายธรรมดาเท่านั้น...บิล นายดูจะเกลียดนักเวทวิญญาณ ฉันจะยกมันให้นายจัดการ"
"ไม่มีปัญหา..."
"ทิฟฟานี่ เธอมาช่วยฉันจัดการอัศวินเลือดคนนี้...ผู้ถูกเลือกในอันดับที่สองคู่ควรให้พวกเราสองคนรับมือ
ฉันจะพยายามสร้างโอกาสโจมตีที่ดีที่สุดให้เธอ ด้วยพลังทำลายล้างของเธอ แค่ยิงโดนสักสองสามครั้ง อัศวินเลือดผู้นี้ก็คงทนไม่ไหว
พอการเคลื่อนไหวของเขาช้าลง ข้าจะใช้วิธีรุนแรงบดขยี้เขาให้ตาย"
ทิฟฟานี่นักธนูสาวร่างสูงผอมพยักหน้ารับแผนการสองต่อหนึ่ง พร้อมกับถาม "บาร์ตัน แล้วอีกคนที่เหลือ...จะจัดการยังไง?"
"แค่ขี้ขลาดที่ไม่กล้าแม้แต่จะบอกชื่อเท่านั้น จากการแต่งกายดูเป็นนักวิทยาการลึกลับ แต่ในบรรดาอัศวินที่จบปีที่แล้วและถูกเลือกในสิบอันดับแรก มีแค่คนเดียวจากคณะวิทยาการลึกลับ
เป็นนักฆ่าหญิงที่สวมหน้ากาก
คนนี้ไม่ต้องกังวล...และจากพลังที่รู้สึกได้ ก็อ่อนแอมาก แทบไม่เหมือนอัศวินด้วยซ้ำ
ระหว่างที่พวกเราโจมตีลูเซียส ถ้ามีจังหวะ ก็ยิงเขาสักสองดอก...ถ้าฆ่าได้เลยก็ยิ่งดี"
"ได้!"
บาร์ตันใช้การพุ่งชนด้วยโล่ทันที ส่งโครงกระดูกที่ขวางหน้ากระเด็นออกไป
มือขวาถือดาบคริสตัลดำเข้าปะทะลูเซียสอย่างดุเดือด
ทั้งสองมาจากคณะนักรบศักดิ์สิทธิ์ และบาร์ตันที่ชำนาญด้านดาบและการป้องกัน มั่นใจว่าการปะทะกับรุ่นน้องคนนี้ตรงๆ ไม่ใช่ปัญหา
สิ่งเดียวที่บาร์ตันต้องทำคือประวิงเวลาให้นานพอ เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักธนูโจมตีได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม...
เคร้ง!
เมื่อดาบเลือดสีทองเข้มที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดอยู่ในมือของลูเซียส พลังเลือดก็พลุ่งพล่าน
'เสื้อคลุมเลือด' ห่อหุ้มตัวดาบไว้
เมื่อดาบคริสตัลดำของบาร์ตันปะทะกับดาบเลือดเล่มนี้
แม้พละกำลังจะไม่ต่างกันมากนัก แต่การโจมตีของลูเซียสกลับแปลกประหลาดยิ่งนัก
ทุกครั้งที่คมดาบปะทะกัน
'เสื้อคลุมเลือด' ที่ห่อหุ้มดาบเลือดจะพยายามเปลี่ยนรูปร่างเป็นแบบต่างๆ
บางครั้งเป็นปากสัตว์ร้าย
บางครั้งเป็นหนามแหลมยาว
บางครั้งเป็นเส้นเลือดที่มีพลังดูดซับ
พยายามฝ่าการป้องกันของบาร์ตัน เพื่อโจมตีร่างกายโดยตรง
แม้บาร์ตันจะฝึกฝนศิลปะการป้องกันมาด้วยตนเอง สามารถใช้พลังภายในร่วมกับการเสริมพลังจากไวน์เลือด สลัดทำลายการโจมตีของเสื้อคลุมเลือดได้
แต่รูปแบบการโจมตีที่แปลกประหลาดเช่นนี้ กลับทำให้จังหวะการต่อสู้ของบาร์ตันสับสน ทำให้พลังงานถูกใช้ไปด้วยอัตราเร็วกว่าปกติสามเท่า
"ไอ้หมอนี่...ทั้งที่ไม่ได้ดื่มไวน์เลือด แต่กลับตามทันทั้งพละกำลังและความเร็วของฉันได้? แถมยังมีวิธีโจมตีด้วยเลือดที่แปลกประหลาดขนาดนี้ สมแล้วที่ได้รับเลือกในอันดับที่สอง
ทิฟฟานี่!!"
พร้อมกับเสียงตะโกนของบาร์ตัน
เสียงลมแหวกอากาศดังมา
ลูกธนูพลังลมสามดอกพุ่งมาจากทิศทางต่างกัน แต่ละดอกทรงพลังน่าตะลึง
"มือเลือด"
แสงสีเลือดวูบผ่านดวงตาของลูเซียส
เกราะสีแดงเข้มที่ลูเซียสสวมใส่มีชื่อว่า "เกราะคำสาป"
ด้วยคุณสมบัติเลือดสดของลูเซียส จึงทำให้เขาได้พบเหตุการณ์ซ่อนเร้นพิเศษในห้วงมิติแห่งโชคชะตา และสุดท้ายได้รับเกราะที่ถูกสาปนี้จากคฤหาสน์เก่าที่เต็มไปด้วยความแค้นและคำสาป
ชั้นในเป็นโครงสร้างหนัง ติดเป็นเนื้อเดียวกับผิวหนังของลูเซียส ทำให้เกราะคำสาปและร่างกายของลูเซียสเกิดปฏิกิริยาสมานเป็นหนึ่ง หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
เทคนิคร่างกายทั้งหมดสามารถปล่อยผ่านเกราะได้โดยตรง
และตัวเกราะเองก็จะปกป้องลูเซียสไม่ให้บาดเจ็บ
หากเกราะถูกทำลาย ลูเซียสก็สามารถใช้เลือดของตนเองทำให้เกราะฟื้นคืนสภาพได้
เกราะก็คือเนื้อหนัง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ~ มือเลือดสามมือพุ่งออกมาจากผิวเกราะอย่างว่องไว คว้าจับลูกธนูทั้งสามดอกที่พุ่งเข้ามา
สายฝนเลือดกระจาย
เมื่อมือเลือดสัมผัสกับลูกธนู มันก็ถูกฉีกขาดในทันที
ในขณะเดียวกัน ธาตุลมที่ติดมากับลูกธนูก็ถูกต้านไว้
การปล่อยเทคนิคมือเลือดระหว่างต่อสู้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการต่อสู้ด้วยดาบกับบาร์ตัน...การปะทะด้วยดาบยังคงเดือดดาลไม่ลดลงแม้แต่น้อย
"ไอ้เวรนี่!!"
ความริษยาผุดขึ้นในใจบาร์ตัน...
เห็นได้ชัดว่าพรสวรรค์ ศักยภาพ และทักษะของลูเซียสนั้นเหนือกว่าเขา
ความริษยานี้รวดเร็วแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ กระตุ้นสารไวน์เลือดในร่างกาย...เส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาบนผิวหนังของบาร์ตัน จังหวะการต่อสู้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ลูเซียสขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามปรับตัวให้เข้ากับจังหวะนี้
...
"หัวหน้าบาร์ตันในสภาวะกระตุ้นเลือดน่าจะค่อยๆ กดดันอีกฝ่ายได้...จัดการคนข้างๆ ก่อนดีกว่า แม้จะไม่ได้ลงมือ แต่การที่เขายืนอยู่ตรงนั้นทำให้รู้สึกไม่สบายใจ"
นักธนูทิฟฟานี่เห็นสถานการณ์มั่นคง จึงเปลี่ยนเป้าหมาย
ดึงสายธนูให้ตึงมากขึ้น
ลูกธนูที่แปรสภาพเป็นพายุหมุน พุ่งใส่นักวิทยาการลึกลับที่ไม่เคยขยับเขยื้อนเลยตั้งแต่เริ่มต่อสู้
"อยู่ในระยะโจมตี ไม่มีทางหลบได้...ตายซะ" ทิฟฟานี่คิดว่าจะสังหารเป้าหมายได้ในหนึ่งดอก จึงแสดงรอยยิ้มออกมา
อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าเขากลับแข็งค้างในวินาที่ถัดมา
เมื่อลูกธนูสัมผัสกับเสื้อผ้าของหมอหน้ากากปากนก มันก็กลายเป็นสายลมอ่อนๆ จางหายไป
ในขณะเดียวกัน หน้ากากปากนกที่ชวนขนลุกค่อยๆ หันมา จ้องมองนักธนูด้วยสายตาประหลาด
-----------
ปล. มีเรื่องเปิดตัวใหม่นะครับ เหนือนภา เป็นแฟนตาซีที่ค่อนข้างดุเดือด ลองค้นหาอ่านดูกันนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง