ตอนที่แล้วบทที่ 64 มาถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 66 ลงทะเบียน

บทที่ 65 สถาบันอูราลโด


เสียงเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่ประตูด้านหน้าจะค่อย ๆ เปิดออก

พ่อมดสองคนที่สวมเสื้อคลุมสีเทาเดินมาด้านข้างและยืนรออย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะสนใจศิษย์จำนวนมากที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

“เข้าไปกันเถอะ”

อาเดียร์กล่าวเบา ๆ ขณะมองไปรอบ ๆ

หลังจากที่พ่อมดสองคนนั้นจากไป ศิษย์ฝึกหัดที่อยู่โดยรอบก็หันมามองหน้ากัน ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าและเข้าสู่ประตูบานใหญ่

เมื่อเดินไปกับกระแสของผู้คน อาเดียร์และคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ดูโดดเด่นนัก พวกเขาเดินตามกลุ่มคนเข้าไปด้านในอย่างเงียบ ๆ

หลังจากเดินไปได้สักพัก เสียงบางอย่างก็เริ่มดังขึ้นรอบ ๆ

“ถึงแล้ว” เสียงต่ำ ๆ ดังมาจากบริเวณโดยรอบ

หยุดเดินในตำแหน่งที่เขายืนอยู่ อาเดียร์เงยหน้ามองไปข้างหน้า

ในค่ายที่กว้างขวาง ปรากฏสิ่งปลูกสร้างหลายสิบแห่งจัดเรียงรายอยู่อย่างเงียบสงบ แต่ละแห่งมีรูปแบบและลวดลายที่แตกต่างกันไป

ด้านหน้าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นมีป้ายไม้ตั้งอยู่หลายป้าย บนป้ายมีข้อความบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ

ฃ<br >ไม่เพียงแต่ป้ายไม้เหล่านั้นจะมีรูปร่างและลักษณะที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่ข้อความ อักษรที่อยู่บนป้ายแต่ละป้ายก็ไม่เหมือนกันด้วย การที่ป้ายสองป้ายจะมีข้อความเหมือนกันถือว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก

“อันลูลา ภาษาซิธโบราณ ภาษาอาร์เคนโบราณ ...”

ขณะมองดูป้ายที่มีรูปร่างต่างกันเหล่านี้ อาเดียร์กวาดตามองแบบลวก ๆ และพบภาษาต่าง ๆ มากมาย

แม้ว่าภาษาเหล่านี้จะเป็นภาษาสากลที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย แต่ความยากในการเรียนรู้ก็ยังค่อนข้างสูง สำหรับคนธรรมดา แม้จะเป็นขุนนางก็ตาม หากสามารถเชี่ยวชาญภาษาเหล่านี้ได้หนึ่งหรือสองภาษา ก็ถือว่าดีมากแล้ว การจะเรียนรู้ภาษาจำนวนมากขนาดนี้เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

“นี่มันจริงแท้แน่นอน” อาเดียร์ส่ายศีรษะเล็กน้อย เขารู้สึกพูดไม่ออกกับสถานการณ์นี้

แม้ว่าจะมีข่าวลือว่าพ่อมดนั้นเป็นนักปราชญ์ที่เต็มไปด้วยความรู้ แต่สถานการณ์นี้ดูเหมือนจะตั้งใจทำให้เหล่าศิษย์ฝึกหัดอย่างพวกเขาต้องลำบากใจ

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเนื้อหาของข้อความแล้ว ป้ายไม้ยังมีลวดลายพิเศษที่สลักอยู่ ซึ่งเป็นตัวแทนของสถาบันต่าง ๆ

ในตอนนี้ เเอนดรูว์และเซียสตี้ได้เดินแยกจากบริเวณรอบ ๆ อาเดียร์ไปแล้ว ทั้งสองกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดตั้งมั่นของ หอคอยศิลาขาว และ บ้านแห่งเซร่า

เมื่อฝูงชนรอบ ๆ ค่อย ๆ สลายตัวไป อาเดียร์ก็เริ่มเดินไปข้างหน้าเช่นกัน

ระหว่างทาง เขาเดินผ่านเต็นท์และบ้านหลังเล็ก ๆ หลายหลัง และเมื่อเดินมาถึงเกือบสุดทาง สายตาของอาเดียร์ก็พลันเป็นประกาย

<br >เบื้องหน้าบ้านหินสีเทาอ่อน มีแผ่นหินสูงตั้งตระหง่านในความเงียบงัน ด้านบนสุดของแผ่นหินนั้นมีลวดลายของนกอินทรีสองหัว ซึ่งเหมือนกับลวดลายบนเครื่องรางสีดำในอ้อมแขนของอาเดียร์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ภายใต้สัญลักษณ์นกอินทรีสองหัวนั้น มีข้อความจำนวนมากสลักอยู่

ข้อความเหล่านั้นเขียนด้วย ภาษาซิธโบราณ ซึ่งเป็นภาษาที่พบได้ยากมาก ว่ากันว่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในสุสานของชนชั้นขุนนาง

อาเดียร์บังเอิญรู้จักภาษา เเละการเขียนอักษรนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือจากชิปวิเคราะห์ในสมองของเขา การทำความเข้าใจคำบางคำก็ไม่ใช่เรื่องยาก

“สถาบันอูราลโดอย่างนั้นหรือ?” เขายืนอยู่ที่เดิมและพึมพำกับตัวเอง

เนื้อหาที่บันทึกไว้บนเเผ่นศิลา นอกเหนือจากชื่อของสถาบันการศึกษาแล้ว ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสถาบันและผู้ก่อตั้ง รวมถึงประเภทของศาสตร์พ่อมดที่สถาบันเชี่ยวชาญในการสอนมากที่สุด ค่าเล่าเรียน และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม อาเดียร์คาดเดาว่าคงมีเพียงศิษย์ฝึกหัดเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถถอดรหัสเนื้อหาที่จารึกอยู่บนแผ่นหินนี้ได้

เขาไม่ได้หยุดยืนอยู่ที่เดิมนานนัก หลังจากพบจุดหมายปลายทางของตัวเอง เขาก็เดินตรงเข้าไป

ในทันทีที่เขาก้าวผ่านประตูเข้าไป ผ้าม่านแห่งราตรีก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ท่ามกลางความมืดนั้น แสงระยิบระยับเริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้า ๆ คล้ายกับกำลังโอบล้อมฉากเบื้องหน้าของเขา

สายตาของเขาถูกบดบังด้วยแสงที่ไม่รู้ที่มา และในชั่วพริบตานั้น เขารู้สึกถึงความไร้น้ำหนักที่ไม่สามารถอธิบายได้ ร่างกายที่เคยหนักอึ้งกลับรู้สึกเหมือนเบาหวิว

"ภาพลวงตางั้นหรือ?"

ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจ เขาพยายามระงับความไม่สบายใจอย่างรุนแรงในจิตใจ และก้าวไปข้างหน้าสองก้าว

ด้วยการตั้งสมาธิอย่างแน่วแน่ ความรู้สึกไม่สบายแปลก ๆ ค่อย ๆ หายไป และเขาก็กลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง

"โอ้? เจ้าช่างมีจิตใจและจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งจริง ๆ" ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของเขา ดังมาจากเบื้องหน้า

เมื่อม่านรัตติกาลจางหายไป อาเดียร์มองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง

"ฮ่า ๆ ไม่ต้องกังวลไป!"

ห่างจากอาเดียร์ไปเพียงไม่กี่เมตร มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่มีผมขาว เขาสวมชุดคลุมสีเทา บนชุดมีสัญลักษณ์ของนกอินทรีสองหัวสลักอยู่

เขายืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิม และมองไปที่อาเดียร์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า "เมื่อครู่เป็นรูปเเบบเวทที่ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นพิเศษโดยพ่อมดของสถาบันเรา ใครก็ตามที่ไม่ได้บันทึกความถี่ทางจิตวิญญาณไว้ เมื่อเข้ามายังห้องนี้จะต้องเผชิญกับบททดสอบของจิตใจและจิตวิญญาณ อย่างที่เจ้าพบเจอเมื่อครู่"

"สิ่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินมาตรฐานของศิษย์ใหม่เช่นเจ้า เพราะสุดท้ายแล้ว ในเส้นทางของพ่อมด มีเพียงผู้ที่มีจิตใจและจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถก้าวไปได้ไกลขึ้น ใช่ไหมล่ะ?"

ชายคนนั้นมองไปที่อาเดียร์ที่อยู่ตรงหน้า และพูดอะไรยืดยาวออกมาอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากนั้น เขามองไปที่อาเดียร์ด้วยสายตาชื่นชมเล็กน้อย “แต่ความเร็วที่เจ้าผ่านบททดสอบจิตใจได้นั้น ถือว่าเร็วที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นจากศิษย์ใหม่ เจ้ามีพรสวรรค์ระดับใด?”

“ระดับ 4” อาเดียร์ตอบอย่างไม่เร่งรีบ ขณะที่มองชายตรงหน้า เขาไม่ได้รู้สึกถึงความไม่ประสงค์ดีจากอีกฝ่าย

“แค่ก แค่ก...”

ทันใดนั้น เสียงไอแว่วดังมาจากชายที่อยู่ตรงหน้า ภายใต้สายตาของอาเดียร์ ชายในชุดคลุมสีเทาที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนไม่ได้มีท่าทางสง่างามในฐานะพ่อมดเลย เขามองไปที่อาเดียร์ด้วยความไม่อยากเชื่อ “เดี๋ยวก่อน เจ้าว่าระดับไหนนะ?”

มองเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย อาเดียร์รู้สึกอับจนคำพูดเล็กน้อย “มีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?”

“โอ้ ไม่มีอะไร” ภายใต้สายตาของอาเดียร์ ชายในชุดคลุมสีเทาที่อยู่ตรงหน้าเขากลับเผยยิ้มออกมา “ในเมื่อเจ้าได้มาถึงที่นี่แล้ว เช่นนั้นเจ้าคงคิดจะเข้าร่วมสถาบันของพวกเราใช่ไหม?”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เขามองไปที่อาเดียร์ด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย หลังจากเห็นอาเดียร์พยักหน้า เขาก็หันหลังแล้วตะโกนขึ้นเสียงดัง “ซิคุม ออกมาดูเร็ว มีศิษย์ใหม่ที่มีพรสวรรค์ระดับ 4!”

ทันใดนั้นเอง ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากระยะไกล

ชายชราที่สวมชุดคลุมสีเทาในสภาพยุ่งเหยิงเดินเข้ามาและตะโกนเสียงดัง “อามาโล ศิษย์ใหม่คนนั้นอยู่ที่ไหน?”

หลังจากเดินไปสองก้าว ชายชราก็เห็นอาเดียร์ที่อยู่ตรงหน้า และอดไม่ได้ที่จะมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

เมื่อเห็นฉากนี้และสัมผัสได้ถึงสายตาอันกระตือรือร้นของอีกฝ่าย มุมปากของอาเดียร์ก็อดกระตุกไม่ได้ พร้อมความสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ตามความเข้าใจของเขา พรสวรรค์ระดับ 4 นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากและแน่นอนว่าจะได้รับการต้อนรับในระดับหนึ่ง แต่ก็คงไม่ถึงกับทำให้พ่อมดทั้งสองคนแสดงออกมาในลักษณะนี้

เมื่อเห็นความสงสัยในสายตาของอาเดียร์ อามาโลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเผยยิ้มขมออกมา "อย่าแปลกใจไปเลย ด้วยเหตุผลบางประการ พวกเรายังไม่สามารถรับศิษย์ใหม่ได้มากนักในปีนี้"

เขาไม่ได้มีเจตนาจะโกหกอาเดียร์ และค่อยๆ บอกเหตุผลออกมา

ปรากฏว่า ในฐานะตัวแทนที่ถูกส่งมาจากองค์กรพ่อมด พวกเขามีภารกิจในการรับสมัครศิษย์ฝึกหัดให้ได้ตามจำนวนที่กำหนด

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ทราบแน่ชัด มีเงือกจำนวนมากหลบหนีมายังทะเลใกล้เคียง และทำลายเรือจำนวนมากที่พ่อมดส่งออกไปเพื่อรับสมัครศิษย์ฝึกหัด ทำให้จำนวนศิษย์ฝึกหัดในปีนี้ลดลงอย่างมาก

อามาโลและซิคุมอยู่ที่นี่มากว่าครึ่งเดือนแล้ว เเละจนถึงตอนนี้แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถรับสมัครศิษย์ใหม่ได้มากนัก พวกเขาไม่มีทางที่จะทำให้ได้ตามโควตาในปีนี้เลย

การที่อาเดียร์มีพรสวรรค์ระดับ 4 นั้น เพียงรับสมัครเขาได้ก็มีค่าเทียบเท่ากับการรับสมัครศิษย์ฝึกหัดธรรมดาถึงสิบคน ดังนั้น จึงดึงดูดความสนใจ อามาโลและซิคุมจึงให้ความสำคัญกับเขาเป็นอย่างมาก

หลังจากพูดจบ ภายใต้สายตาของอาเดียร์ ซิคุมก็หยิบสัญญาฉบับหนึ่งออกมา และวางมันลงบนโต๊ะไม้ข้างๆ อามาโล

"นี่คือสัญญาการเข้าเรียน เจ้าสามารถอ่านรายละเอียดข้อกำหนดต่างๆ ได้ มันเขียนด้วยภาษาซิธโบราณ เจ้าเข้าใจมันหรือไม่?"

เมื่อรู้สึกถึงสายตาของทั้งสองที่อยู่ตรงข้าม อาเดียร์ก็พยักหน้าเล็กน้อย

"ดีแล้ว แบบนี้จะช่วยลดความยุ่งยากให้ข้าได้มาก" อามาโลกล่าว

ภายใต้สายตาของทั้งสอง อาเดียร์ค่อยๆ หยิบสัญญาขึ้นมาดู

เนื้อหาในสัญญาไม่ได้ซับซ้อนอะไร มีเพียงข้อกำหนดทั่วไปไม่กี่ข้อ และไม่มีรายละเอียดมากมาย

"นอกจากนี้ เจ้ายังต้องจ่ายค่าเล่าเรียนด้วย ตามที่ระบุไว้ในสัญญา เจ้าต้องจ่ายเป็นคริสตัลเวทมนตร์จำนวนสองชิ้นต่อปี"

อามาโลกล่าวขึ้นจากระยะไกล "ราคานี้ถือว่ายุติธรรมมากแล้ว ไม่มีสถาบันไหนในบริเวณนี้ที่มีราคาถูกกว่านี้อีกแล้ว"

"แน่นอนว่า ในฐานะศิษย์ฝึกหัดที่มีพรสวรรค์ระดับ 4 เจ้าย่อมได้รับสิทธิประโยชน์บางอย่าง อาจจะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนด้วยซ้ำ"

ในขณะนั้นเอง ซิคุมก็กล่าวเสริมขึ้นมา "อย่างไรก็ตาม เจ้าจะสามารถยื่นขอสิทธิพิเศษนี้ได้เมื่อถึงสำนักงานใหญ่ของสถาบัน เเละเข้าศึกษาก่อนเท่านั้น พวกข้าในฐานะศิษย์ฝึกหัดระดับ 3 สองคนนี้ไม่มีอำนาจที่จะอนุมัติให้เจ้าได้"

"เป็นอย่างไรบ้าง? ยังมีปัญหาอะไรอีกหรือไม่?" เขาถามขึ้น

"ไม่มีแล้ว" อาเดียร์ที่ยืนอยู่กับที่ คิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้เลือกที่จะหยิบเครื่องราง หนังสือรับรองที่อยู่ในอ้อมกอดออกมาในตอนนี้ แต่ส่ายหัวและตอบกลับ

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด