บทที่ 6 ความพิศวง
บทที่ 6 ความพิศวง
ศูนย์ข้อมูลใต้ดินซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของพันธมิตรแดง
ในห้องโถงขนาดมหึมา เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดสิบเมตรถูกจัดเรียงเป็นระเบียบเรียบร้อย แถวต่อแถวทอดยาวจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
นักวิจัยระดับสูงในชุดเสื้อกาวน์สีขาวหลายร้อยคน พร้อมทีมวิศวกรนับพันคน กำลังเร่งตรวจสอบฐานข้อมูลและระบบต่างๆ อย่างละเอียด
นำทีมโดย ดร.หลัวเหวิน ผู้ชราแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยที่บ่งบอกถึงการอดหลับอดนอน ขณะตรวจสอบข้อมูลและโค้ดอย่างบ้าคลั่ง เขาเอ่ยออกมาด้วยความหัวเสีย
"เป็นไปไม่ได้! มันมีจุดผิดพลาดตรงไหนกันแน่!"
"ปัญหานี่มาจากไหน!"
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ พยายามปลอบอย่างใจเย็น
"ดร.หลัวเหวิน คุณพักก่อนดีไหมครับ คุณไม่ได้นอนทั้งคืนแล้วนะ"
"พักงั้นเหรอ! จะให้พักได้ยังไง! ตอนนี้เวลานับถอยหลังผ่านไปครึ่งทางแล้ว! แต่พวกเรายังไม่มีแม้แต่เบาะแส!"
เขาเอามือตบไปที่ตู้เซิร์ฟเวอร์อย่างแรงด้วยความหงุดหงิด
...
ศูนย์บัญชาการความปลอดภัยข้อมูลของพันธมิตรน้ำเงิน
ในห้องควบคุมที่เต็มไปด้วยเสียงแป้นพิมพ์ เจ้าหน้าที่เทคนิคหลายสิบคนกำลังเร่งตรวจสอบปัญหา ทุกคนเหงื่อซึมพลางพยายามกรอกคำสั่งลงในคอมพิวเตอร์
ด้านหลังของพวกเขา ชายวัยกลางคนที่มีลักษณะเข้มแข็งในชุดนายพล เขาคือ นายพลโอเค ผู้เดินวนไปมาด้วยสีหน้าขึงขัง เขาเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
"พวกคุณเหลือเวลาไม่มากแล้ว เร่งมือเข้า!"
"ผมไม่สนว่าพวกคุณจะต้องทำยังไง แต่หาต้นตอของปัญหานี้มาให้ผมเดี๋ยวนี้!"
"อย่าทำให้ผมผิดหวังเด็ดขาด!"
ในขณะนั้น เลาขี ที่ปรึกษาสาวร่างสูงในชุดทางการ เดินเข้ามาพร้อมกับถือกล่องหนึ่ง เธอกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจ
"นายพลโอเค เราจำเป็นต้องคุยกัน"
"ผมไม่มีเวลามานั่งคุยเล่นกับคุณ! ถ้าคุณว่างนัก ก็ไปดูพวกบริษัทอุปกรณ์นั่น ว่าพวกเขาคืบหน้าอะไรบ้าง!"
โอเคตัดบทอย่างไม่ไว้หน้า
"ถ้าฉันเป็นคุณ น่าจะฟังฉันพูดให้จบ"
โอเคชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า
"เอาเถอะ ผมให้คุณสิบนาที"
เลาขีเปิดกล่องบนโต๊ะทำงาน ด้านในมีโทรศัพท์รุ่นต่างๆ จำนวนเจ็ดเครื่อง ซึ่งทุกเครื่องล้วนมีสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีแดงพร้อมตัวเลขนับถอยหลังปรากฏอยู่
"คุณจะบอกผมแค่เรื่องนี้ใช่ไหม?" นายพลโอเคถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"ใช่ค่ะ และคุณสังเกตไหมว่า โทรศัพท์เหล่านี้เป็นรุ่นเก่าทั้งหมด พวกมันเพิ่งถูกแกะออกจากคลังสินค้าในห้องกันสัญญาณ ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่ทันทีที่เปิดเครื่อง สัญลักษณ์นี้ก็ปรากฏขึ้น และที่สำคัญที่สุด เครื่องหนึ่งในนี้ถูกผลิตเมื่อ 12 ปีก่อน"
โอเคนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนถามเสียงเรียบ
"คุณต้องการจะบอกอะไร?"
"เรื่องนี้ไม่ได้ธรรมดาเลยค่ะ มันอาจเป็นการประกาศล่วงหน้าที่เกินความเข้าใจของเรา"
"พอได้แล้ว! คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังพูดอะไร?"
"แล้วคุณจะอธิบายเรื่องนี้ยังไงล่ะ?"
"ผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร ผมเชื่อว่าคุณอาจทำพลาดในขั้นตอนทดสอบ หรือไม่ก็ฝ่ายตรงข้ามเริ่มวางแผนตั้งแต่ 12 ปีก่อน แต่มันไม่มีทางเป็นอย่างที่คุณพูดแน่!"
"ดื้อดึง!"
"ไม่ใช่ผมที่ดื้อ แต่คุณอยากให้ผมเอาสมมุติฐานไร้สาระนี้ไปบอกกับสภาเหรอ?"
"แต่สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ มันเกินกว่าที่เราจะอธิบายได้ด้วยเหตุผลปกติ!"
"หมดเวลาแล้ว ผมไม่มีเวลามานั่งถกเถียงกับคุณอีก เชิญคุณออกไปได้เลย ผมต้องเร่งสรุปผลเพื่อรายงานต่อสภา"
เลาขีจ้องเขาด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ต้องยอมถอยออกไป
...
ห้องประชุมลับในเขตพันธมิตรเทา
ในห้องประชุมอันมืดมิด กลุ่มคนในชุดคลุมหลากหลายสไตล์รวมตัวกัน ใบหน้าทุกคนดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
เสียงโต้เถียงดังขึ้นไม่หยุด
"นี่มันอะไรกันแน่! ปัญหานี้ยังไม่ถูกแก้เลย ตอนนี้คนข้างล่างเริ่มหวาดกลัวและก่อความวุ่นวายแล้ว!"
"คิดว่าแก้ง่ายเหรอ? ไม่เห็นหรือไงว่าพันธมิตรน้ำเงินกับพันธมิตรแดงยังแก้ไม่ได้เลย เทคโนโลยีของเราก็สู้พวกนั้นไม่ได้ แถมอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่หลายอย่างก็พึ่งพาพวกเขา ถ้าพวกนั้นยังทำไม่ได้ เราจะทำได้ยังไง?"
"ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้แน่!"
เสียงหนึ่งที่ทรงอำนาจดังขึ้นขัดจังหวะเสียงถกเถียงในห้องประชุม
ทันใดนั้น ความเงียบงันก็ปกคลุมทั่วทั้งห้อง ทุกคนหันไปมองที่ต้นเสียง
ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าแข็งกร้าวและไว้หนวดเคราดกดำ นั่งอยู่บนเก้าอี้หัวโต๊ะ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาคือ จิลราวี ผู้บัญชาการสูงสุดของพันธมิตรเทา
พันธมิตรเทาแตกต่างจากพันธมิตรแดงและน้ำเงินอย่างมาก โดยมีลักษณะคล้ายสมาพันธ์ที่หลวม ๆ ประกอบด้วยกองกำลังอิสระและเผ่าต่าง ๆ รวมถึงประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่ได้รวมตัวกันอย่างแน่นแฟ้น
ภูมิภาคนี้เป็นพื้นที่ที่วุ่นวายที่สุดในสามพันธมิตร เต็มไปด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสีเทาแทบทุกประเภท
เมื่อจิลราวีแสดงความไม่พอใจ บรรดาผู้นำกองกำลังที่อยู่ในห้องต่างก็เงียบเสียงลงทันที
เขากวาดสายตามองผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะพูดอย่างหนักแน่น
"ในเมื่อแก้ปัญหาทางเทคนิคไม่ได้ ก็อย่าเสียเวลาแก้ ปล่อยให้พันธมิตรแดงและน้ำเงินจัดการไปเอง! ตอนนี้เราควรมุ่งความสนใจไปที่การควบคุมความวุ่นวาย และอาวุธในมือของเราจะดีกว่า"
"เข้าใจครับ"
เสียงตอบรับดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
...
พื้นที่ที่ 7 เมืองฉิงคง
ซูเปอร์มาร์เก็ตเฉาต้าฟู่
เสิ่นชิวเข็นรถเข็นสินค้าไปตามทางเดินในซูเปอร์มาร์เก็ต ขณะกำลังเลือกซื้อของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน
แม้เหตุการณ์กะโหลกสีแดงจะสร้างความโกลาหล แต่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงดำเนินชีวิตและทำงานตามปกติ
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เสิ่นชิวจึงตัดสินใจซื้อของจำเป็นติดบ้านไว้
เนื่องจากงบประมาณที่จำกัด เขาจึงเลือกซื้อเฉพาะของพื้นฐาน เช่น น้ำดื่ม อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และไส้กรอก
ในซูเปอร์มาร์เก็ตยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดแบบเดียวกับเขา บรรยากาศในร้านที่ปกติไม่ค่อยคึกคักนัก วันนี้กลับมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อถึงเวลาเข้าคิวจ่ายเงิน เสิ่นชิวเดินไปต่อแถวที่ยาวเหยียดหน้าจุดชำระเงินอย่างเงียบ ๆ
ช่วงเที่ยง
เสิ่นชิวถือถุงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของใช้ เดินกลับมาทางชุมชนที่พัก
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้อง เขากำลังจะหยิบกุญแจเพื่อไขประตู แต่เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากด้านหลัง
เมื่อหันไปมอง ก็พบหญิงสาวที่มีท่าทางอ่อนโยนคนหนึ่ง เธอจูงมือเด็กผู้หญิงตัวเล็ก และถือถุงผักกับผลไม้หลายถุง
ทั้งสองคนคือเพื่อนบ้านที่อยู่ห้อง 405 ติดกับห้องของเสิ่นชิว
"อ้าว เสี่ยวเสิ่นกลับมาแล้วเหรอ?"
"ครับ พี่สาวหวัง" เสิ่นชิวตอบกลับอย่างสุภาพ
พี่สาวหวังเหลือบมองของในมือเขา เห็นเต็มไปด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ เธอยื่นแอปเปิลในมือหนึ่งถุงให้เสิ่นชิว
"อย่ากินแต่อาหารพวกนี้เลย มันไม่ดีต่อสุขภาพ กินผลไม้บ้าง"
"ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ"
"อย่าเกรงใจเลย ตอนฉันให้ช่วยซ่อมก๊อกน้ำ นายยังไม่เกี่ยงเลย"
เธอยิ้มพลางพูด
เด็กหญิงตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คือ ลิลลี่ เธอยิ้มหวานพลางพูดว่า
"พี่ชายรับไปเถอะค่ะ แอปเปิลนี่อร่อยมากเลยนะ!"
"เอาล่ะครับ ขอบคุณมาก"
เสิ่นชิวไม่ปฏิเสธอีก เขารับถุงแอปเปิลนั้นไว้ ก่อนจะกล่าวลา
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ได้เลย"
พี่สาวหวังยิ้มตอบขณะที่พาเด็กหญิงเดินเข้าห้องของเธอไป...
..........