บทที่ 501 ซูยี่ ช่วยด้วย!
"ซูยี่ มียานกู้ภัยเยอะขนาดนี้เลยเหรอ นายเอาทั้งหมดที่อยู่ข้างในออกมาแล้วสินะ?" กวางซื่อเข่อเดินออกมาจากยานปลาอวกาศแล้วเข้ามาหาซูยี่
"อืม เอาออกมาหมดแล้ว" ซูยี่เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เขาทำงานมาสิบกว่าชั่วโมง เหนื่อยจริงๆ
ตอนนี้ซูยี่อยากจะกินอะไรสักหน่อยแล้วนอนพักผ่อนให้สบาย
ซ่อนตัวอยู่ในยาน รังสีอะไรก็ไม่สามารถเข้ามาถึงตัวได้ ทำให้สบายใจได้
"ยานเยอะขนาดนี้ นายจะจัดการยังไง?" กวางซื่อเข่อมองซูยี่ด้วยสายตาคาดหวัง เธอเองก็อยากได้ยานลำหนึ่งเหมือนกัน
ไม่ว่าจะยังไง แค่ได้ครอบครองสักลำ แล้วเรียนรู้วิธีใช้ ก็จะสามารถกระตุ้นพวกผู้อาวุโสที่ปกครองโลกของพวกอสูรได้
โลกของพวกอสูรไม่มีการพัฒนา ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะทัศนคติที่เฉื่อยชาของพวกเขา
ในสายตาของอสูรส่วนใหญ่ ขอแค่มีกินมีใช้ ไม่มีแรงกดดันในการมีชีวิต ก็ไม่มีความปรารถนาที่จะพัฒนาชีวิตแล้ว
กวางซื่อเข่อต้องการกระตุ้นพวกผู้อาวุโสเหล่านั้น ให้พวกเขาเห็นว่าการมียานจะสบายแค่ไหน
พวกเขาจะอิจฉา และอยากจะมีบ้าง
แล้วก็จะผลักดันให้โลกของอสูรพัฒนาเทคโนโลยี สร้างยานขึ้นมา
ต้องยอมรับว่ากวางซื่อเข่อเป็นอสูรที่ห่วงใยบ้านเมืองจริงๆ
"เธอกับหูเยว่เออร์เลือกยานรักษาคนละลำก็แล้วกัน ส่วนเรื่องวิธีขับ ฉันจะหาทางช่วยแปลภาษาของอารยธรรมฟาตาให้เป็นภาษาของพวกเธอ" ซูยี่รู้ว่าทั้งกวางซื่อเข่อและหูเยว่เออร์ต่างก็อยากมียานเป็นของตัวเอง
ซูยี่ต้องการได้มิตรภาพจากพวกเธอ ก็ต้องลงทุนบ้าง
ยานรักษาสองลำ ซูยี่คิดว่าน่าจะพอ
"พวกนั้นเป็นยานของเผ่าแมลง ตอนนี้ฉันยังเข้าไปไม่ได้ พวกมันต่างจากยานของอารยธรรมฟาตา" ซูยี่อธิบาย กันไว้ก่อนที่กวางซื่อเข่อจะเล็งเอายานของเผ่าแมลงด้วย
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พวกเราได้ยานกู้ภัยคนละลำก็ดีมากแล้ว ซูยี่ ขอบคุณจริงๆ" กวางซื่อเข่อดีใจจนพูดไม่ออก เธอไม่คิดว่าซูยี่จะใจกว้างขนาดนี้ ถึงกับให้คนละลำเลย
ความใจกว้างขนาดนี้ ทำให้กวางซื่อเข่อรู้สึกเกรงใจ
"เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?"
"เพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกัน มีอะไรดีๆ ก็แบ่งปันกันสิ ใช่ไหม?" ซูยี่ยิ้มมองกวางซื่อเข่อ
เพราะเขาต้องการมิตรภาพของกวางซื่อเข่อจริงๆ ถึงแม้จะต้องลงทุนมาก แต่เขาก็คิดว่ายอมรับได้
กวางซื่อเข่อกัดฟันแล้วพยักหน้า พูดว่า "ใช่ พวกเราเป็นเพื่อนกัน ต่อไปถ้ามีอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วย บอกมาได้เลย อะไรที่กวางซื่อเข่อทำได้ จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด"
กวางซื่อเข่อให้คำมั่น นี่เป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ตอนนี้
พลังของเธอแม้จะแข็งแกร่งกว่าซูยี่ แต่สิ่งที่ซูยี่ครอบครองนั้นล้ำหน้ากว่าสิ่งที่เธอมีมากนัก
เธอรู้สึกว่าตัวเองได้ประโยชน์จากซูยี่มากกว่า
ซูยี่คงไม่ค่อยต้องการความช่วยเหลือจากเธอหรอก
"การเรียนรู้วิธีขับยานไม่ใช่เรื่องง่าย แถมอีกไม่กี่วันฉันต้องไปที่อื่นด้วย แต่พวกเธอไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดเตรียมข้อมูลทั้งหมดไว้ให้"
"จริงๆ แล้วการขับไม่ยากหรอก ที่ยากคือการจัดการกับสัญญาณเตือนของอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าพวกเธอจัดการพวกนั้นได้ การขับยานก็ง่ายมาก" ซูยี่อธิบายให้กวางซื่อเข่อฟัง เพราะมันขับง่ายจริงๆ
"ไม่รีบหรอก พวกเรามีเวลาเยอะ" กวางซื่อเข่อยิ้มหวาน ด้วยอายุขัยของพวกอสูรที่ยืนยาว พวกเขามีเวลามากจริงๆ
เธอก็รู้ว่าการจะเปลี่ยนแปลงโลกของอสูรไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน
"ไม่รีบก็ดี ฉันไปแป๊บเดียวก็กลับมาแล้ว" ซูยี่พูดพลางมองไปทางยานปลาอวกาศลำก่อน
ทำไมหูเยว่เออร์ถึงยังไม่มา เธอมีประตูลำเลียงแยกต่างหากด้วยนะ
ซูยี่ต้องการประตูลำเลียงนั่นจริงๆ โดยเฉพาะตอนนี้ที่มียานแล้ว ประตูลำเลียงจะยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก
ยานของเผ่าแมลงพวกนี้ ซูยี่แค่เอาไปหนึ่งสองลำก็พอ ที่เหลือก็เก็บไว้ที่นี่พร้อมกับยานกู้ภัยปลาอวกาศที่เหลือก่อน
"ซูยี่ ที่นี่ต้องไม่ให้อสูรตนอื่นเข้ามาแน่ๆ ฉันเลยให้เยว่เออร์ไปล่ออสูรต่างถิ่น ทำให้ที่นี่อันตรายขึ้น จะได้ป้องกันไม่ให้อสูรตนอื่นเข้ามาที่นี่" กวางซื่อเข่อเห็นสายตาของซูยี่ก็รู้ว่าเขาสงสัยว่าทำไมหูเยว่เออร์ถึงยังไม่ปรากฏตัว
"อ๋อ ที่แถวนั้นมีอสูรต่างถิ่นเยอะขึ้น เป็นฝีมือพวกเธอนี่เอง หูเยว่เออร์ล่ออสูรต่างถิ่นได้เหรอ?" ซูยี่ถามอย่างสนใจ
พลังแบบนี้ ค่อนข้างแรงนะ
"ใช่ ถึงเยว่เออร์จะทุกข์ใจกับกลิ่นพิเศษของเธอ แต่เธอก็ใช้กลิ่นนี้ล่ออสูรต่างถิ่นได้ แถมมีผลในระยะกว้างด้วย" กวางซื่อเข่ออธิบาย
ซูยี่ได้ยินกวางซื่อเข่อพูดแบบนั้น ก็ขมวดคิ้ว
"งั้นที่ฉันตัดต่อมพวกนั้นออกไป ก็เท่ากับทำให้เธอเสียพลังนี้ไปสิ?" ซูยี่รู้สึกว่าพลังนี้มีประโยชน์มาก ไม่ควรทำลายมันไป
"แต่พลังนี้ก็ทำให้เธอลำบากมากนะ เธอพยายามจะควบคุมมัน แต่ควบคุมได้แค่ชั่วคราว" กวางซื่อเข่อพูดอย่างจนปัญญา
"ให้ฉันลองคิดดูก่อนว่ามีวิธีอื่นไหม" ซูยี่รู้สึกว่าการตัดออกไปเลย ทำให้หูเยว่เออร์เสียพลังพิเศษนี้ไป น่าเสียดายจริงๆ
ถ้าเธอเรียนรู้วิชาควบคุมลมปราณได้ ก็จะดี
เพราะถ้าใช้กำแพงอากาศกั้นตัวเองไว้ ก็จะไม่ทำให้กลิ่นแพร่ออกไป
เวลาต้องการ ก็ปล่อยออกมาได้
นอกจากนี้ การเรียนรู้วิชาควบคุมลมปราณ ยังควบคุมก๊าซพวกนั้นได้โดยตรงด้วย
อะไรที่เกี่ยวกับลมปราณ วิชาควบคุมลมปราณก็ควบคุมและมีผลต่อมันได้ทั้งหมด
ดังนั้น ซูยี่คิดว่าควรจะจัดการจากด้านนี้
ในมือเขามีลูกแก้วสมองขั้นหนึ่งของวิชาควบคุมลมปราณอยู่สองลูก
เพราะเป็นขั้นหนึ่ง ไม่มีประโยชน์กับซูยี่ ถึงเขากินเข้าไปก็ไม่ช่วยเพิ่มพลังวิชาควบคุมลมปราณของเขา เขาจึงเก็บไว้
แต่เขาไม่แน่ใจว่าลูกแก้วสมองจะใช้ได้กับพวกอสูรหรือไม่
ถ้าหากว่าของสิ่งนี้เป็นพิษร้ายแรงสำหรับอสูร
นั่นก็ไม่ใช่แค่ทำให้หูเยว่เออร์เสียพลังนั้นไป แต่จะทำให้เธอเสียชีวิตเลยทีเดียว
ซูยี่คิดว่าเรื่องเสี่ยงขนาดนี้ ไม่ควรให้หูเยว่เออร์ลองใช้
อย่างน้อยต้องใช้อสูรตนอื่นพิสูจน์ก่อนว่าลูกแก้วสมองไม่เป็นอันตรายต่ออสูร และยังทำให้อสูรได้รับพลังพิเศษด้วย
"ช่วยด้วย ซูยี่ ช่วยด้วย! ซื่อเข่อ นั่นซานปู้ ซานปู้ไม่ไหวแล้ว!"
จู่ๆ หูเยว่เออร์ก็อุ้มอสูรคนหนึ่งวิ่งเข้ามา พร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือ
เมื่อได้ยินว่าเป็นซานปู้น้องชายของตน สีหน้าของกวางซื่อเข่อก็เปลี่ยนไปทันที
"เข้ายาน!" ซูยี่ตะโกน แล้ววิ่งไปที่ยาน
เพราะมียานรักษา สามารถใช้เตียงรักษาช่วยชีวิตได้
(จบบท)