ตอนที่แล้วบทที่ 41 วิญญาณที่ฉีกขาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 43 การโจมตีครั้งที่สอง

บทที่ 42 เรากำลังปกป้องทั้งโรงเรียน


บทที่ 42 เรากำลังปกป้องทั้งโรงเรียน

หลังจากฮาโลวีน วันที่นักเรียนตั้งตารอคอยมากที่สุดคือวันคริสต์มาสถัดไปอย่างไม่ต้องสงสัย

พูดอย่างเคร่งครัด แต่ละปีการศึกษาที่ฮอกวอตส์แบ่งออกเป็นสองภาคการศึกษา วันหยุดที่แยกทั้งสองภาคการศึกษาออก เป็นวันหยุดคริสต์มาส

ก่อนวันหยุดเริ่มต้นขึ้น การแข่งขันควิดดิชนัดแรกของภาคเรียน กริฟฟินดอร์ ปะทะ สลิธีรีน ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเช่นกัน

ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม สมาชิกในทีมกริฟฟินดอร์ฝึกซ้อมท่ามกลางสายฝนเกือบตลอดเวลา โดยพื้นฐานแล้วเสื้อคลุมของพวกเขาไม่เคยแห้งเลย เพียงเพื่อสำหรับเกมวันนี้เท่านั้น!

กัปตันวู้ดให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์ของเกม เขาจะสำเร็จการศึกษาจากฮอกวอตส์ในอีกสองปีข้างหน้า เป้าหมายก่อนก่อนจบการศึกษา คือการนำทีมกริฟฟินดอร์คว้าแชมป์ควิดดิชคัพ!

“เราจะทำให้พวกเขาเสียใจ ที่ปล่อยให้มัลฟอยตัวน้อยติดสินบนเพื่อเข้าร่วมทีม!”

ก่อนเกมเริ่มต้น เขาพูดสิ่งนี้กับสมาชิกในทีมกริฟฟินดอร์มากกว่าหนึ่งครั้ง คำพูดอันรุนแรงของเขากระตุ้นแฮร์รี่เช่นกัน

ดูเหมือนมัลฟอยจะไม่กลัวการทำให้แฮร์รี่โกรธเลยแม้แต่น้อย เขาเรียกอีกฝ่ายอย่างเหน็บแนมว่า ‘ไอ้หัวปะ’ ในตอนเริ่มเกม

เป็นเพราะเหตุนี้เอง แม้ว่าผู้เล่นกริฟฟินดอร์จะค้นพบอย่างชัดเจนว่าลูกบลัดเจอร์ถูกดัดแปลง และโจมตีใส่แฮร์รี่โดยเฉพาะ แต่พวกเขาไม่ได้ขอให้มาดามฮูชผู้ตัดสินหยุดเกม พวกเขายังคงวางแผนเล่นต่อไป ชนะเกม และตบหน้ามัลฟอยอย่างแรง!

ในที่สุดแฮร์รี่ก็ทำได้

เขาเสี่ยงถูกลูกบลัดเจอร์กระแทกตกจากด้ามไม้กวาด เพื่อจับลูกสนิชเหนือหัวของมัลฟอยเอาไว้

จบเกม และคว้าชัยชนะ ยังเป็นการเยาะเย้ยมัลฟอยอีกด้วย

แต่แขนของแฮร์รี่ก็หักเช่นกัน เขาถูกส่งตัวไปหามาดามพอมฟรีย์ในห้องพยาบาลของโรงเรียน

มันเป็นเพียงกระดูกหัก สำหรับมาดามพอมฟรีย์ ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเชื่อมกระดูกของแฮร์รี่เข้าด้วยกัน ดังนั้นเขากับคนอื่นๆ ในทีมจึงสามารถเฉลิมฉลองชัยชนะของเกมได้อย่างเต็มที่

แต่ในคืนถัดมา ด๊อบบี้ เอลฟ์ประจำบ้านพบกับเขาแล้วยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่ หรือลูกบลัดเจอร์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เขาทำทุกอย่างเพื่อปกป้องแฮร์รี่จากอันตราย เพื่อทำให้เขาออกจากฮอกวอตส์

แฮร์รี่โกรธมาก แต่เขาทำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาทำได้เพียงบอกเฮอร์ไมโอนี่และรอนเกี่ยวกับการพบด๊อบบี้ในวันรุ่งขึ้น

“ฉันคิดว่านี่เป็นการยืนยันสิ่งหนึ่ง!”

เฮอร์ไมโอนี่วิเคราะห์มันอย่างจริงจัง

“ด๊อบบี้อยากให้แฮร์รี่ออกจากฮอกวอตส์มาก เพราะไม่อยากเห็นเขาได้รับอันตรายจากสัตว์ประหลาดในห้องแห่งความลับ แต่แฮร์รี่เป็นเลือดผสม และจะไม่ตกเป็นเป้าหมายของสัตว์ประหลาด แล้วทำไมเขาถึงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้?”

แฮร์รี่กับรอนมองหน้ากัน สบตาแล้วส่ายหัว

“ฉันไม่รู้”

เฮอร์ไมโอนี่มองพวกเขาด้วยสายตาเกลียดชัง

“เขาต้องรู้อะไรบางอย่าง! เขาอาจคิดว่าทายาทของสลิธีรินต้องบอกสัตว์ประหลาดให้โจมตีแฮร์รี่ แล้วใครในฮอกวอตส์ทั้งหมดมีความเกลียดชังแฮร์รี่มากขนาดนี้!”

คราวนี้แฮร์รี่กับรอนคิดคำตอบได้ในพริบตา ทั้งสองพูดพร้อมกัน

“มัลฟอย!”

“จากมุมมองปัจจุบัน เขาคือผู้ต้องสงสัยมากที่สุด เราต้องสอบสวนให้ชัดเจน!” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างหนักแน่น

แฮร์รี่มองโลกในแง่ร้าย

“แผนเดิมของเธอคงไม่มีทางสำเร็จ ไม่มีศาสตราจารย์คนไหนมอบลายเซ็นให้เราเพื่อยืมหนังสือโดยไม่มีเหตุผลเหมาะสม ไม่ต้องพูดถึงหนังสือต้องห้ามเกี่ยวกับยาพิษเลย”

“พวกเราคาดหวังให้ตัวเองถูกไล่ออก ยังง่ายกว่าคาดหวังว่าสเนปจะมอบลายเซ็นให้เรา ถึงอาจารย์คนอื่นจะคุยด้วยง่าย เราก็ไม่สามารถหาข้อแก้ตัวที่น่าเชื่อถือได้!”

“และลายเซ็นยังทำได้แค่ยืมหนังสือเพียงเล่มเดียว ไม่มีทางที่เราจะโกงได้” รอนยังกล่าวเสริม

เฮอร์ไมโอนี่ดูครุ่นคิด

“ฉันมีแผนที่เสี่ยงกว่านั้น!”

แฮร์รี่กับรอนจ้องมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยดวงตาสดใส ราวกับว่าพวกเขากำลังมองไปยังนักบุญที่สามารถพาพวกเขาไปสู่ทางรอดได้

“เราเริ่มจากศาสตราจารย์ฟอเรสต์ได้”

“ศาสตราจารย์ฟอเรสต์? เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราขอลายเซ็นจากเขา เขาต้องถามเราอย่างแน่นอนว่าเราต้องการทำอะไร”

เฮอร์ไมโอนี่ลังเลจะพูดคำต่อไป แต่แผนการสืบสวนมัลฟอยก่อนหน้านี้ได้ละเมิดกฎของโรงเรียนหลายข้อ ดังนั้นพวกเขาจะเพิ่มอีกข้อหนึ่งก็ไม่สำคัญใช่ไหม?

“ฉันไม่ได้พูดถึงการรับลายเซ็นตามวิธีการปกติ!”

เธอลดเสียงตัวเองลง

“ดูเหมือนว่าช่วงนี้ศาสตราจารย์ฟอเรสต์กำลังศึกษาเวทมนตร์อยู่ เขามักขอให้นักเรียนช่วยยืมหนังสือจากห้องสมุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่หวงห้าม เราเริ่มจากตรงนี้ก่อนได้…”

หลังได้ยินเฮอร์ไมโอนี่บอกแผนการ แฮร์รี่กับรอนอดพูดด้วยความตื่นเต้นไม่ได้

“มันทำได้!”

“ถึงจะมีความเสี่ยง แต่ตราบใดที่เราทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และไม่ยอมรับ ก็ไม่มีใครรู้หรอก!”

สีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่มีความลำบากใจ

“แต่นี่เป็นการหลอกลวงศาสตราจารย์ฟอเรสต์…”

“เราทำเพื่อปกป้องทั้งโรงเรียน เฮอร์ไมโอนี่!” รอนกล่าว

แฮร์รี่พยักหน้าเช่นกัน

“ศาสตราจารย์ฟอเรสต์ต้องเข้าใจเรา แม้ว่าเขาจะรู้ความจริงก็ตาม!”

ในที่สุด แฮร์รี่กับรอนโน้มน้าวให้เฮอร์ไมโอนี่ออกไปเที่ยวด้วยกันหน้าห้องทำงานของเชอร์ล็อค ทันทีที่เลิกเรียนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ในที่สุด ช่วงบ่ายวันหนึ่ง เชอร์ล็อคเรียกหาเฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่นอกประตู

เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปในสำนักงานด้วยความระมัดระวัง

เชอร์ล็อคกำลังตรวจการบ้านของนักเรียนปีหกอยู่ ดูยุ่งมาก

“พอจะมีเวลาไหม คุณเกรนเจอร์?”

เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำลายแล้วพูดอย่างใจเย็น

“บ่ายนี้มีเรียนวิชาประวัติศาสตร์เวทมนต์แค่วิชาเดียวเท่านั้นศาสตราจารย์ พวกเราเพิ่งเรียนกันเสร็จ”

“ถ้าอย่างนั้น ช่วยฉันยืมหนังสือจากห้องสมุดได้ไหม”

“แน่นอนค่ะศาสตราจารย์”

“หนังสือที่ต้องการยืมอยู่ในเขตหวงห้าม ฉันมอบลายเซ็นให้ มอบมันให้มาดามพินซ์ แล้วเธอจะนำหนังสือมาให้เอง”

เชอร์ล็อคหยิบแผ่นกระดาษออกมาจากด้านข้าง เขียนชื่อหนังสือลงไป แล้วเซ็นชื่อของเขา

เฮอร์ไมโอนี่รับกระดาษจากเชอร์ล็อค แล้วรีบออกจากสำนักงาน

แฮร์รี่กับรอนผู้รออยู่ข้างนอก รีบรวมตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องเรียนที่ว่างเปล่าด้วยกันอย่างรวดเร็ว

พวกเขาดูลายเซ็นในมือของเฮอร์ไมโอนี่ ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวลใจและความตื่นเต้น

“ฉันจะทำมัน!”

เฮอร์ไมโอนี่ตบมือแฮร์รี่ที่ยื่นออกมา กางแผ่นกระดาษเรียบๆ ลงบนโต๊ะ ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปยังชื่อหนังสือแล้วท่องคาถา

“สเกอร์จิฟาย!”

ชื่อหนังสือหายไปจากกระดาษภายใต้อิทธิพลของคาถาทำความสะอาด มีเพียงลายเซ็นของเชอร์ล็อคเท่านั้นที่ยังคงอยู่

แฮร์รี่กับรอนส่งเสียงเชียร์

“ศาสตราจารย์ เขาไม่ได้ใช้หมึกวิเศษจริงๆ!”

“แค่เขียนชื่อ ‘ยาพิษฤทธิ์แรง’ ลงไป เก็บกระดาษนี้ไว้ก่อน อย่าเพิ่งยืมหนังสือ รอจนกว่าฉันไปหาศาสตราจารย์ฟอเรสต์เพื่ออธิบายให้เขาฟัง!”

หลังจากอยู่ในห้องเรียนว่างเปล่าเป็นเวลาห้านาที เฮอร์ไมโอนี่สูดหายใจเข้าลึกๆ ภายใต้สายตาอวยพรของแฮร์รี่กับรอน เธอเดินไปยังสำนักงานของเชอร์ล็อคอีกครั้ง…

…………………….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด