ตอนที่ 432 กำหนดกฎเกณฑ์
ตอนที่ 432 กำหนดกฎเกณฑ์
“เปิดรับศิษย์ใหม่!”
“เป็นโอกาสที่จะได้เสริมพลังให้สำนักมากขึ้นอีกขั้น!”
เหล่าผู้อาวุโสต่างตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมอย่างเคร่งขรึมเพื่อรองรับคำสั่งนี้
[เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วราวกับพริบตาเดียว…]
เฟิงชิงหยางครุ่นคิดในใจ ขณะที่หวนระลึกถึงครั้งสุดท้ายที่ สำนักเซียนชิงหยางเปิดรับศิษย์ใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนในโลกหวงหวู่
ครั้งนั้นแม้การจัดการจะสำเร็จลุล่วง แต่ก็ยังมีปัญหาเล็กน้อยในบางขั้นตอน ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่า การเปิดรับศิษย์ครั้งนี้ต้องดำเนินไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
“พวกข้าจะปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าสำนัก!”
เสียงของเหล่าผู้อาวุโสดังก้องในมหาวิหารเซียน พวกเขาต่างตระหนักว่า การเปิดรับศิษย์ใหม่นั้นถือเป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่ง
สำหรับสำนักเซียนชิงหยาง แม้ตอนนี้มีศิษย์เพียงราวหนึ่งแสนคน ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับสำนักระดับจอมราชันเซียน หรือแม้แต่สำนักระดับราชันเซียน ซึ่งมีศิษย์นับล้าน
เฟิงชิงหยางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มการประชุมวางแผนรายละเอียดกับเหล่าผู้อาวุโส
การเปิดรับศิษย์ครั้งนี้ แบ่งออกเป็นสองขั้นตอนสำคัญดังเดิม:
1. ด่านบันไดสวรรค์มายา
ผู้เข้าสมัครจะต้องผ่านบันไดสวรรค์มายา เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นและความสามารถ หากผ่าน จะได้รับสถานะ ศิษย์รับใช้แห่งสำนักเซียนชิงหยาง
2. การทดสอบพรสวรรค์ด้วยระฆังมหาวิถี
หลังผ่านขั้นแรก ผู้เข้าสมัครจะต้องแสดงพรสวรรค์ด้วยการโคจรพลังให้สะท้อนกับระฆังมหาวิถี ซึ่งจะตัดสินว่าพวกเขาจะได้รับตำแหน่งศิษย์ระดับใด
[ครั้งนี้ ทุกอย่างต้องไร้ที่ติ
เช่นนี้ สำนักเซียนชิงหยางจะยิ่งก้าวไกลและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น]
เมื่อทุกอย่างถูกกำหนดแน่นอนแล้ว การเตรียมการสำหรับการเปิดรับศิษย์ใหม่ครั้งยิ่งใหญ่นี้ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจัง
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรกล่าวถึงคือ
ระฆังมหาวิถี ซึ่งในอดีตถูกจำกัดความสามารถไว้เนื่องจากระดับพลังของโลก แต่เมื่อย้ายเข้าสู่สวรรค์ชั้นบน ระฆังนี้ได้ปลดปล่อยศักยภาพมากมาย และสามารถวัดพรสวรรค์ได้อย่างละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น
ระดับเสียงระฆัง:
1. สามเสียง: ผู้ที่สามารถทำให้ระฆังดังสามครั้งได้ นับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ในมหาวิถีแห่งเซียน
2. ห้าเสียง: ถือว่าเป็นยอดอัจฉริยะในแดนเซียน
3. หกเสียง: บ่งบอกถึงพรสวรรค์ระดับอัจฉริยะที่หาได้ยาก
4. เจ็ดเสียง: คือบุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นผู้เหนือเซียน ผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์อันเลอเลิศ
5. แปดเสียง: บุคคลที่ถูกลิขิตให้ก้าวขึ้นสู่สถานะ จักรพรรดิเซียน
6. เก้าเสียง: คือผู้ที่มีศักยภาพกลายเป็นมหาจักรพรรดิเซียน หากไม่มีอุปสรรคใดมาขวางกั้น
ส่วนผู้ที่สามารถทำให้ระฆังดังสิบครั้ง…
คือผู้ที่แม้แต่อนาคตยังยากจะคาดเดา พวกเขาเปรียบดั่งปาฏิหาริย์ที่หาได้เพียงหนึ่งในยุคสมัย
การคัดเลือก:
1. สามเสียงขึ้นไป: หากระดับพลังบ่มเพาะตรงตามเกณฑ์ สามารถเข้าสังกัดศิษย์สายนอกได้ทันที
2. หกเสียงขึ้นไป: หากระดับพลังบ่มเพาะเหมาะสม จะได้รับตำแหน่งศิษย์สายใน โดยไม่ต้องผ่านการทดสอบเพิ่มเติม
3. สำหรับศิษย์แกนหลัก ศิษย์ลำดับ และตำแหน่งพิเศษเช่น บุตรเทพ จะมีการตัดสินในขั้นถัดไป
เพิ่มเติมในครั้งนี้:
เพื่อคัดเลือกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น สำนักได้เพิ่มกฎใหม่สองข้อ
1. ทดสอบในวิหารคันฉ่องฟ้า:
ผู้ที่ผ่านระฆังเสียงสี่ขึ้นไป สามารถเลือกเข้าทดสอบในวิหารคันฉ่องฟ้า เพื่อเผชิญหน้ากับตัวตนของตนเองและต่อสู้กับความคิดในจิตใจ
2. หอทดสอบศิษย์:
ทดสอบความสามารถที่แท้จริงของผู้สมัคร โดยพิจารณาทั้งพรสวรรค์และความมุ่งมั่น
การจัดการ:
1. การทดสอบสองขั้นแรก: จะได้รับการดูแลโดย เย่ไป๋ ผู้อาวุโสสายนอก และอสูรพิทักษ์สำนัก ได้แก่ เสี่ยวไป๋ และ จักรพรรดิทมิฬ รวมถึง หมาป่าเงินหอนจันทรา เทียนอู่
2. การทดสอบในขั้นถัดไป: จะได้รับการดูแลโดย มู่ซุยเซียน อาวุโสใหญ่ฝ่ายใน และ หลัวเฉิน อาวุโสรอง
เฟิงชิงหยางกล่าวปิดท้าย
“กฎเกณฑ์ของการเปิดสำนักครั้งนี้ขอให้เป็นดังที่กล่าวมา ทุกคนจงไปเตรียมการให้พร้อม”
หลังสิ้นคำ เหล่าผู้อาวุโสทั้งหมดต่างลุกขึ้นประสานมือคารวะพร้อมเพรียง
“พวกข้าจะปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าสำนัก!”
เสียงฝีเท้าของพวกเขาดังก้องขณะเดินออกจากมหาวิหารเซียน ทิ้งไว้เพียงความสงบก่อนที่การคัดเลือกครั้งยิ่งใหญ่นี้จะเริ่มต้นขึ้น
(ตอนนี้ไม่รู้เรียกว่าตอนได้หรือไม่ สั้นยิ่งนัก! แต่หากมาลักษณะนี้ ตอนต่อไปมักจะเป็นตอนยาว)
(ขอบเขตการบ่มเพาะในโลกเซียน:
1. ขอบเขตกึ่งเซียน
2. ขอบเขตเซียนปฐพี
3. ขอบเขตเซียนสวรรค์
4. ขอบเขตเซียนแท้
5. ขอบเขตกึ่งเซียนทองคำ (เก้าขั้น)
6. ขอบเขตเซียนทองคำ
7. ขอบเขตมหาเซียนทองคำ
8. ขอบเขตราชันเซียน
9. ขอบเขตกึ่งจอมราชันเซียน
10. ขอบเขตจอมราชันเซียน
11. ขอบเขตจักรพรรดิเซียน
12. ขอบเขตกึ่งมหาจักรพรรดิเซียน
13. ขอบเขตกึ่งมหาจักรพรรดิเซียนขั้นสูงสุด (ยกเว้นขอบเขตนี้ไม่แบ่งขั้น)
14. ขอบเขตมหาจักรพรรดิเซียน
แต่ละขอบเขตแบ่งเป็น 10 ขั้น )