ตอนที่แล้วตอนที่ 429 การปรากฏตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 431 เตรียมเปิดสำนักรับศิษย์

ตอนที่ 430 ตระกูลเซียนเทียนจงสวามิภักดิ์


ตอนที่ 430 การปราบปรามอย่างเด็ดขาด ตระกูลเซียนเทียนจงสวามิภักดิ์

สนามรบของตระกูลเซียนเทียนจงเงียบสงัด ท่ามกลางสายลมเย็นที่พัดผ่านราวกับเตือนถึงลางร้าย เสียงหัวเราะแหลมคมของ ถังฉีซิง ดังขึ้น ทำลายความเงียบสงบนั้น

“ฮ่าๆ เจ้าคนไร้ค่า เจ้ายังกล้ากลับมาที่นี่อีกหรือ?!”

ถังฉีซิงยืนอย่างองอาจท่ามกลางผู้อาวุโสของตระกูล สายตาของเขามองตรงไปยังถังโจว ด้วยความดูแคลน

“ดีแล้ว! เช่นนี้ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปลากตัวเจ้ากลับมา เจ้าเดินเข้ามาในกรงเสือด้วยตัวเองแท้ๆ”

คำพูดของถังฉีซิงทำให้อาวุโสตระกูลเซียนเทียนจงบางคนเผยรอยยิ้มเยาะ ขณะที่บางคนมองไปยังถังโจวที่ลอยอยู่ข้างหลังอย่างดูแคลน

กระนั้น ทันทีที่ถังฉีซิงจับจ้องไปยัง เนี่ยผานคง และ ฟู่หมิงหลาน สายตาของเขากลับเปลี่ยนไป

ถังฉีซิงขมวดคิ้วแน่น ขณะที่เขาสัมผัสถึงกลิ่นอายที่ลึกล้ำและยากจะหยั่งถึงจากบุคคลทั้งสอง เขาพยายามรวบรวมจิตสำนึกเพื่อสำรวจ แต่กลับพบว่า…พลังของพวกเขาเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจได้

[ผู้หนึ่งเป็นผู้บ่มเพาะกาย อีกผู้หนึ่งคล้ายปรมาจารย์ค่ายกล…]

เขากล่าวในใจ พลางขยับตัวก้าวขึ้นมาเผชิญหน้า

“ท่านทั้งสองคือผู้ใด? เหตุใดจึงมาเยือนตระกูลเซียนเทียนจงของข้า หรือว่าท่านทั้งสองมีเจตนาจะยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายใน?”

เสียงของเขาดังอย่างหนักแน่น แต่แฝงด้วยความระแวง

“เจ้ากล่าวกับอาวุโสผู้นี้หรือ?”

น้ำเสียงเยือกเย็นดุจน้ำแข็งพันปีดังขึ้นจาก เนี่ยผานคง เขาก้าวออกมาข้างหน้าอย่างสงบ ร่างสูงใหญ่ของเขายืนเด่นอยู่กลางสนาม ดุจภูเขาใหญ่ที่บดขยี้ทุกสิ่งรอบข้าง

“เป็นเพียงราชันเซียน กล้ากล่าววาจาหยิ่งผยองเช่นนี้ ช่างไร้เดียงสานัก

แม้แต่ ‘มดปลวก’ เช่นเจ้า ก็คิดจะสนทนากับเราด้วยหรือ?”

ฟู่หมิงหลาน ผู้สวมชุดคลุมยาวสีเขียวเข้มก้าวออกตามมา น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ทว่าทุกถ้อยคำกลับดังก้องสะท้อนในใจของทุกผู้คน

“เรามาที่นี่เพื่อทำตามบัญชาของท่านเจ้าสำนักเซียนแห่งชิงหยาง ลงโทษพวกกบฏที่บังอาจก่อความวุ่นวาย”

คำพูดของฟู่หมิงหลานเสมือนคมมีดที่ฟาดฟันจิตใจของถังฉีซิง เขาพยายามรวบรวมสติ แต่กลับพบว่าขาทั้งสองของตนเริ่มสั่น

“สำนักเซียนชิงหยาง…?”

เสียงกระซิบดังขึ้นจากเหล่าผู้คนรอบข้าง เสียงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่อยากเชื่อ

“แม้แต่ราชันเซียนยังถูกกล่าวว่าเป็นมดปลวก เช่นนั้นพวกเราเล่า?!”

เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสของตระกูลต่างมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก

“ถังฉีซิง…”

เสียงของถังโจวเยือกเย็น

“เจ้าจะยอมคุกเข่าขอขมาผู้อาวุโสหรือไม่?”

น้ำเสียงนั้นแม้สงบ แต่ทุกถ้อยคำกลับเปี่ยมไปด้วยอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธ

ถังฉีซิงกัดฟันแน่น ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่น

“ข้าไม่ยอม!”

เนี่ยผานคงเพียงก้าวเข้ามาอีกก้าว แต่ละย่างก้าวของเขาแผ่พลังมหาศาลออกมาดั่งคลื่นที่กดทับทุกคนในบริเวณโดยรอบ จนหลายคนไม่อาจต้านทานต้องทรุดตัวลงกับพื้น

สายตาของเขากวาดมองไปยังกลุ่มคนเบื้องหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ดังก้องราวกับคำตัดสินของสวรรค์

“บัดนี้ ถังโจว ได้เข้าร่วมสำนักเซียนชิงหยางอย่างเป็นทางการแล้ว”

ทันทีที่คำกล่าวนี้ถูกเปล่งออกมา ทุกคนในลานประลองต่างมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันไป

เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสบางคนของตระกูลเซียนเทียนจงถึงกับตัวสั่น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว—เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าชื่อของ สำนักเซียนชิงหยาง มิใช่สิ่งที่ผู้ใดจะยโสอาจหาญล่วงเกินได้

ตระกูลเซียนเฉินที่ล่มสลายเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

“สำนักเซียนชิงหยาง…”

ผู้ก่อกบฏทั้งหลายต่างซีดเผือด ร่างกายสั่นสะท้านไม่อาจควบคุมได้ พวกเขาตระหนักได้ในทันทีว่า การกระทำอันโง่เขลาของพวกเขา ที่บังอาจล่วงเกินผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักเซียนชิงหยาง ย่อมหมายถึงจุดจบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

ในทางกลับกัน เหล่าผู้ภักดีต่างแสดงความยินดีและภาคภูมิใจ หลายคนถอนหายใจโล่งอก เมื่อเห็นว่าคุณชายใหญ่ของพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากสำนักที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

“ผู้ใดที่บังอาจล่วงเกินคนของสำนักเซียนชิงหยาง มีเพียงผลลัพธ์เดียวเท่านั้น…”

คำพูดนี้เปรียบเสมือนคำตัดสินสุดท้าย ทุกคนต่างรู้สึกเหมือนมีภูเขาลูกใหญ่กดทับลงมา เสียงลมหายใจสะดุดขาดหาย ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าววาจาใดออกมาอีกแม้แต่คำเดียว

“โจวเอ๋อร์…”

เสียงของถังเฮ่อ ผู้นำตระกูลดังขึ้นอย่างตื่นเต้น

“เจ้าปลุกกายาพิเศษได้แล้วหรือ?”

ถังโจวยิ้มบาง ก่อนเอ่ยเสียงราบเรียบ

“ใช่ กายาเซียนค่ายกลของข้า ได้ถูกปลุกขึ้นแล้ว”

พลังอันบริสุทธิ์พลันแผ่กระจายออกจากร่างของถังโจว เหล่าผู้ภักดีต่างพากันส่งเสียงแสดงความยินดี ในขณะที่พวกกบฏกลับแต่ละคนตัวสั่น

ครืน!

เนี่ยผานคงยกมือขึ้นอีกครั้ง คลื่นพลังอันหนักหน่วงพุ่งตรงไปยังถังฉีซิง

พื้นดินในรัศมีหมื่นลี้สะท้านสะเทือนจนยุบลึกลงไปด้วยแรงก้าวอันหนักหน่วง!

ใต้พลังนั้น ราชันเซียนเจ็ดดารา กลับถูกบดขยี้จนร่างระเบิดออกเป็นละอองโลหิต ล่องลอยสลายไปในอากาศไร้ร่องรอย

เมื่อเห็นภาพนี้ เหล่าปรมาจารย์ค่ายกลแห่งตระกูลเซียนเทียนจงหลายคนถึงกับเบิกตากว้าง เปลือกตาสั่นไหวอย่างรุนแรง

ราชันเซียนเจ็ดดารา ผู้ทรงเกียรติแห่งตระกูล ผู้อาวุโสใหญ่… กลับต้องมาสิ้นชีพด้วยการถูกบดขยี้เช่นนี้

ทว่าท่ามกลางความตื่นตะลึง ความคิดหนึ่งพลันแล่นเข้าสู่จิตใจของทุกคน—ไม่! เขาคือกบฏ! กบฏสมควรถูกกำจัด!

แทบจะเวลาเดียวกัน

“ท่านพ่อ ท่านปลอดภัยหรือไม่? บุตรชายผู้นี้มาช้าจนเกินไป”

“ไม่เป็นไรเลย โจวเอ๋อร์ เจ้ามาถึงในเวลาที่เหมาะสมพอดี”

ถังเฮ่อ ผู้นำตระกูลเซียนเทียนจง กล่าวตอบบุตรชายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะหันไปทาง ฟู่หมิงหลาน ผู้ยืนอยู่เบื้องหน้า เขาประสานมืออย่างนอบน้อมและเอ่ยขึ้น

“ข้า ถังเฮ่อ ผู้นำตระกูลเซียนเทียนจง ขอคารวะท่านผู้อาวุโส”

สีหน้าของถังเฮ่อในขณะนี้เต็มไปด้วยความยินดีปรีดาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายในจิตใจของเขาปลาบปลื้มอย่างล้นเหลือ—กบฏในตระกูลเซียนถูกกวาดล้างจนสิ้น อีกทั้งบุตรชายของเขาก็ได้ปลุกกายาพิเศษ และยังได้รับการยอมรับจาก สำนักเซียนชิงหยาง

ฟู่หมิงหลานในชุดคลุมยาวเต็มไปด้วยอำนาจเพียงยิ้มบาง ก่อนจะหันสายตามองไปยังมุมหนึ่งของความว่างเปล่าในท้องฟ้า แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เมื่อมาแล้ว ก็อย่าคิดหลบซ่อนอยู่เช่นนั้น

หรือจะให้อาวุโสผู้นี้ต้องเชิญพวกเจ้าด้วยตนเอง?”

สิ้นคำกล่าว เพียงพริบตา เงาร่างสามสายก็ปรากฏขึ้นอย่างเงียบงัน และเดินเข้ามายังเบื้องหน้าฟู่หมิงหลานอย่างนอบน้อม

“พวกเราขอคารวะท่านผู้อาวุโสแห่งสำนักเซียนชิงหยาง”

บุคคลทั้งสามที่ปรากฏตัวนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น บรรพชนทั้งสามแห่งตระกูลเซียนเทียนจง ได้แก่ ถังโหยวเต้า ถังเซี่ยนเต้า และ ถังฮว่าเต้า

“บรรพชนหรือ?”

เสียงของถังเฮ่อและถังโจวเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยความตกตะลึง ทว่าบรรพชนทั้งสามกลับก้มหน้าด้วยความอับอาย มิอาจเผชิญหน้ากับพวกเขา

ฟู่หมิงหลานยืนสงบนิ่ง มองไปยังทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะกล่าวขึ้น

“พวกเจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการจะกล่าวหรือไม่?”

บรรพชนทั้งสามเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะประสานมือคารวะ และกล่าวขึ้นพร้อมกัน

“พวกข้าทั้งสาม ขอรับคำตัดสินของท่านผู้อาวุโสโดยมิต้องโต้แย้ง

ตั้งแต่นี้ไป ตระกูลเซียนเทียนจงจักเคารพคำสั่งของท่านผู้นำตระกูลและคุณชายใหญ่เพียงเท่านั้น พวกข้าจะไม่กล้าแทรกแซงอีกต่อไป”

คำกล่าวนี้ดังชัดในสนามรบ บรรพชนทั้งสามที่ยืนค้อมศีรษะ กล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อมและแสดงความสำนึกผิด

ฟู่หมิงหลาน พยักหน้าเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ สายตาของเขากวาดมองไปรอบบริเวณก่อนจะเอ่ยขึ้น

“สหายน้อยถัง ข้าขอบอกว่าตอนนี้เรื่องในตระกูลเซียนของเจ้า และเรื่องในตระกูลเซียนของสหายน้อยเมิ่ง ล้วนได้รับการสะสางแล้ว”

เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อ

“ท่านเจ้าสำนักฝากให้ข้าแจ้งว่า พวกเจ้ามีเวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือน หลังจากนั้นจงเดินทางไปยังสำนักพร้อมกันเพื่อรายงานตัว”

หลังสิ้นคำกล่าว ฟู่หมิงหลานปรายตามองถังเฮ่อและถังโจวอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวอย่างราบเรียบ

“ที่นี่ข้าขอมอบคืนให้พวกเจ้า ส่วนข้ากับสหายเนี่ยจักขอลาก่อน”

เมื่อเอ่ยจบ เขาเพียงยกมือเบาๆ สายลมอันสงบแต่แฝงพลังมหาศาลพลันพัดผ่าน ร่างของฟู่หมิงหลาน และเนี่ยผานคง สลายไปในความว่างเปล่า ทิ้งไว้เพียงสนามรบที่เงียบสงัด… และตระกูลเซียนเทียนจงที่กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

ไม่นานหลังจากนั้น

ภายในมหาวิหารเซียนของตระกูลเซียนเซียนเทียนจง ในโลกใบเล็กของตระกูลเซียน บรรยากาศเต็มไปด้วยความปลื้มปิติและยินดี ผู้อาวุโสทั้งหลายในตระกูลเซียนนั่งประจำที่ สีหน้าของพวกเขาแฝงด้วยรอยยิ้มแห่งความโล่งใจ หลังเหตุการณ์กบฏได้รับการสะสาง

“ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย”

เสียงของ ถังเฮ่อ ผู้นำตระกูลเซียนดังขึ้นจากบนบัลลังก์กลางมหาวิหารเซียน สายตาของเขามองไปรอบอย่างเคร่งขรึม

“ข้าได้ไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบแล้ว และบัดนี้ มีเรื่องสำคัญที่ต้องประกาศ”

เสียงของเขาเงียบลงเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตระกูลเซียนเทียนจงของพวกเรา จะขอสวามิภักดิ์ต่อสำนักเซียนชิงหยางอย่างเป็นทางการ”

คำพูดนี้ดังสะท้อนก้องในมหาวิหารเซียน ทว่าถังเฮ่อยังคงเอ่ยต่อ

“พวกท่านมีความคิดเห็นประการใดหรือไม่?”

แม้ถ้อยคำดูเหมือนการถามความเห็น แต่ท่าทีและน้ำเสียงของถังเฮ่อกลับเด็ดขาด จนไม่มีใครกล้าคัดค้าน

“ดีมาก! ข้าสนับสนุนทั้งสองมือและเท้าของข้า!”

หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าวขึ้นพร้อมหัวเราะเบาๆ

“สำนักเซียนชิงหยางช่วยเหลือพวกเราแก้ปัญหากบฏภายใน อีกทั้งนายน้อยของเราก็ยังได้เป็นศิษย์ของสำนัก ข้าคิดว่าไม่มีสิ่งใดที่เหมาะสมไปกว่านี้แล้ว”

“ถูกต้อง! สำนักเซียนชิงหยางแข็งแกร่งเหนือผู้ใด หากเราสวามิภักดิ์ต่อพวกเขา ย่อมมีแต่สิ่งดีงามตามมา”

“ข้าขอสนับสนุนคำสั่งของท่านผู้นำตระกูลเซียน!”

เสียงสนับสนุนดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงจากเหล่าผู้อาวุโสในมหาวิหารเซียน พวกเขาต่างตระหนักดีถึงพลังอำนาจของสำนักเซียนชิงหยาง และไม่มีผู้ใดกล้าคัดค้านการตัดสินใจของถังเฮ่อ

สามวันต่อมา

ณ มหาสมุทรเซียนเทียนชิง ที่ล้อมรอบสำนักเซียนชิงหยาง คลื่นน้ำสะท้อนแสงอาทิตย์ดั่งประกายแก้ว ราวกับต้อนรับผู้มาเยือน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด