ตอนที่ 13 การยับยั้งจิตวิญญาณ
ตอนที่ 13 การยับยั้งทางจิตวิญญาณ
..เหตุการณ์พลิกล็อกที่เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน จนทำให้เหล่านักเรียนต่างตะลึงงัน..
ไป๋หยุนเซียว หันหน้ากลับ แล้วพูดกับพวกเพื่อนๆของเขาว่า..
"..ออกไปกันเถอะ!.."
จากนั้นพวกนักเรียนก็ลุกขึ้นและตัดสินใจที่จะออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด แต่ในขณะที่พวกเขากำลังจะออกไป ประตูก็ถูกผลักออกมาจากภายนอก มีคนสองคนเข้ามา ทั้งคู่มีอายุประมาณ 30 ถึง 40 ปี เป็นชายร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ พวกเขาทั้งสองเหลือบมองพวกนักเรียนและมองไปที่ จางหยิงหวู่ ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับปืนพกที่ตกอยู่ข้างหน้าจางหยิงหวู่..
" จางหยิงหวู่ มันเกิดอะไรขึ้น? คุณกำลังมองหาความตายอยู่เหรอ?" ชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำขมวดคิ้ว..
“อ่า…”
จางหยิงหวู่ รีบลุกขึ้นแล้วรีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำทั้งสองคน..
“พี่ชาย ช่วยฉันหน่อยเถอะ นั่นเขาเอง!”..
จางหยิงหวู่ชี้ไปที่ไป๋หยุนเซียว แต่ทันทีที่จางหยิงหวู่เผชิญหน้ากับไป๋หยุนเซียว เขาก็รีบถอยร่างที่กำลังสั่นกลับไปอยู่ข้างหลังชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำเหมือนเดิมทันที
ปีศาจทำให้จิตวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน หลังจากที่หัวหน้าห้องซู่จงเห็นคนๆนี้อย่างชัดเจนแล้ว เขาก็รีบทักทายพวกเขาทั้งสองทันที..
“ผู้จัดการจางหยิงเฟิงในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว พวกเขาคือเพื่อนร่วมชั้นของฉันทั้งหมด!”
“ไปให้พ้น!” ผู้จัดการจางหยิงเฟิงพูดขึ้นทันที
“ผู้จัดการจางหยิงเฟิงไม่เห็นเหรอว่าไป๋หยุนเซียวเป็นคนก่อเรื่อง”
ซู่จงรีบถอยหลังกลับอีกครั้งทันที แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก..
“นายทำร้ายพี่ชายฉันเหรอ นายให้พี่ชายของฉันคุกเข่าและขอโทษใช่ไหม?”
ผู้จัดการจางหยิงเฟิงดูมึนงง ชายร่างใหญ่ในชุดเสื้อกั๊กสีดำที่อยู่ข้างๆ เขาก็เริ่มเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ใบหน้าของเขาเชิดขึ้น แล้วเขาก็มองไป๋หยุนเซียวด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้อ..จากนั้นไป๋หยุนเซียวก็พยักหน้า..
"ใช่..ฉันเอง!.."
"เฮ้ย..แกกล้าที่จะยอมรับ.. แต่ฉันไม่สนใจว่าวันนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ แต่คนที่ทำร้ายพี่ชายฉัน จะต้องรับผิดชอบเป็นร้อยเท่า..มังกรดำ จัดการมัน!..”
ผู้จัดการจางหยิงเฟิงโกรธ..ชายในชุดเสื้อกั๊กพยักหน้า เขาอายุราวๆสามสิบกว่าๆ เขามีรอยสักมังกรดำบนไหล่ของเขาและรอยแผลเป็นบนแก้มซ้าย กล้ามเนื้อของเขาใหญ่โตและมีกล้ามแขนที่ดูแข็งแกร่ง..
"..หนุ่มน้อย.. นายควรได้รับการสั่งสอน นายอย่าคิดว่า เมื่อนายสามารถต่อสู้กับคนไม่กี่คนได้ แล้วนายคิดว่าตัวเองเก่ง มีฝีมืออย่างงั้นเหรอ มาๆเข้ามา เรามาสู้กันให้รู้กันไปเลย ฉันจะสั่งสอนแกเอง!" เขายิ้มเยาะ..
ไป๋หยุนเซียวมองหน้าเขา เขาเดาว่าคนๆ นี้น่าจะมีพลังอยู่ในระดับกลางของ หมิงจิน แต่เขาดูดีกว่าจินคานและตัวเขาเอง ในขณะนั้นผู้คนที่อยู่ในห้องนี้ ต่างก็ไม่กล้าที่พูดว่าใครแข็งแกร่งมากว่าใคร แต่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก
แต่ในระหว่างการต่อสู้ของเขากับพวกจางหยิงหวู่เมื่อไม่นานนี้ เขาได้ใช้แสงออร่าไปถึง 300 จุด และมีแสงออร่าเหลืออยู่ 700 จุด ในตันเถียน..
สักพักไป๋หยุนเซียวก็ถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วพูดขึ้นว่า..
"เวลาฉันต่อสู้กับใคร ฉันไม่เคยเข้าไปทำร้ายใครก่อนเสมอ ไม่งั้นคุณก็เข้ามาเป็นคนแรก!"
เขาจะรู้ได้อย่างไรว่า ถ้าเขาเริ่ม เขาก็จะเปิดเผยข้อบกพร่องของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้ แต่เขาก็ต้องหาทางเอาชนะให้ได้ในสองหรือสามกระบวนท่า..
ชายในชุดดำเฮยหลงยิ้มเยาะ..
"เฮ้ ... น่าสนใจ นายมีคำพูดสุดท้ายที่จะส่งเสียไหม เพราะเมื่อฉันพุ่งเข้าไป มันไม่ใช่แค่การเสียมือของนายไปเปล่าๆเท่านั้น ถึงแม้ว่านายจะไม่ตาย นายก็จะกลายเป็นเพียงแค่ขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น!"
..เฮยหลงตะโกนเสียงดัง...
“งั้นแกตาย!..”
..ตอนนั้นเอง ฝีเท้าของมังกรดำก็เริ่มเลื่อนไหวไปตามพื้น เหมือนดั่งโคลนที่ไหลในน้ำ ร่างกายของเขาแกว่งไปมา แขนของเขาเต้นรำเหมือนลิงที่กำลังวิ่งไปมาอย่างรวดเร็ว และในพริบตา เขาก็เอื้อมมือไปที่ด้านหน้าของไป๋หยุนเซียว แล้วตบหน้าของไป๋หยุนเซียวทันที.. จางหยิงเฟิงส่งเสียงร้อง..
“ทำได้ดีมาก!”
แต่ในช่วงเวลานั้น ไป๋หยุนเซียวก็ได้เตรียมพร้อมมานานแล้ว ในขณะที่เขากำลังยกแขนขึ้นเพื่อปัดป้อง ไป๋หยุนเซียวก็ใช้มือของเขาตบไปที่หน้าอกของชายชุดดำ จนแขนของเขาสะเทือนจากฝ่ามือของไป๋หยุนเซียว
แต่ในชั่วพริบตา ทั้งสองก็ยกขาขึ้นพร้อมๆ กันแล้วเตะไปที่ท้องของกันและกัน..
..ป๊อป.. ป๊อป.. ป๊อป!..
แตะไปประมาณสองสามครั้งติดต่อกัน ทั้งสองถึงกับกระเด็นถอยหลังออกไปพร้อมๆ กัน แต่หลังจากถอยหลังไปสองสามก้าว ไป๋หยุนเซียวก็ทรงตัวได้ ขณะที่ชายชุดดำถอยหลังไปห้าถึงหกก้าว แล้วล้มลงไปกองกับพื้น พร้อมกับเลือดสีแดงก่ำที่มุมปาก
จังหวะนั้นไป๋หยุนเซียวก็เหลือบมองรองเท้าผ้าใบของเขาที่ฉีกขาด ซึ่งเขาเพิ่งได้ระดมแสงแห่งออร่าสามร้อยจุดในร่างกายของเขา เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ขาขวาของเขาให้มีพลังเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งในสามของพลังตันเถียน จนทำให้ความแข็งแกร่งของเท้าของเขาเพิ่มขึ้น!
นอกจากนี้ ยังมีความโชคดีที่เขาได้ใช้แสงแห่งออร่าไปเพียงแค่สามร้อยจุดเท่านั้น ซึ่งไป๋หยุนเซียวได้นำมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับท้องและขาข้างขวาของเขา
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ในทางกลับกัน ชายชุดดำก็ถูก ไป๋หยุนเซียว เตะจนกระเด็นออกไปด้วยอาการบาดเจ็บภายในจนกระอักเลือดออกมา..
“..แก!!..”
..ชายชุดดำกัดฟันเพื่อต้องการที่จะลุกขึ้น..
ไป๋หลีหยุนเซียว อยากที่จะให้โอกาสแก่เขาได้หายใจ..ขณะที่เขาเดินเข้าไปข้างหน้าชายชุดดำ ไป๋หยุนเซียวก็ยกขาข้างหนึ่งขึ้นแล้วเหยียบขาขวาของชายชุดดำ เนื่องจากเป็นการต่อสู้เพื่อชีวิตและความตาย จึงไม่มีอะไรดีไปกว่าความเมตตา..
ชายชุดดำตกใจและดึงขาออกอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบการโจมตีของไป๋หยุนเซียว..
..ปัง!..
ไป๋หยุนเซียวกระทืบลงไปที่พื้น จนทำให้พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง กระเบื้องปูพื้นถึงกับแตกร้าวไปหลายจุด ตามด้วยเท้าอีกข้างของเขาที่เตะออกไป กระแทกเข้ากับซี่โครงนุ่มๆ ของเขา จนกระเด็นไปกระแทกเข้ากับผนังห้องอีกครั้ง
ก่อนที่จะรอการตอบสนองของชายชุดดำ ไป๋หยุนเซียวก็ตามไปแตะที่หัวของเขาอีกครั้งทันที..
“โอ้ย!..”
.. ชายชุดดำถึงกับหมดสติลงในทันที..
“เฮ้อๆๆ..”
..หลังจากนั้น ไป๋หยุนเซียวก็กดมือลงบนเข่าของตัวเองแล้วถอนหายใจเบาๆ เมื่อถึงจุดนี้ แสงออร่ากว่าเจ็ดร้อยจุดในร่างกายของเขาก็ถูกกลืนกินไป ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้จางหยิงเฟิงประหลาดใจเป็นอย่างมากมึ่ง...มันไม่ดีเลย..
..0..00..000..(Y_Y)!!!