ตอนที่แล้วบทที่ 479: การแข่งขันระดับชาติในช่วงที่สี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 481: สายฟ้าสีเหลือง

บทที่ 480: อสูรสายฟ้าฟาด


เฉียวซางพูดด้วยน้ำเสียงอันตรายว่า

"ซุนเป่า!"

"ซุน..."

ซุนเป่าส่งเสียงอ่อนๆแสดงความหมายว่าที่มันพูดเมื่อวานนั้นมันแค่พูดไปโดยไม่ได้คิดจริงจัง...

"ย่าห์?"

หยาเป่าหันศีรษะด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินการพูดคุยระหว่างผู้ฝึกของมันและน้องเล็ก

หรือว่าที่น้องเล็กพูดจะไม่ใช่เรื่องจริง?

"แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้ว!" เฉียวซางพูดพลางจับซุนเป่าลงมาจากศีรษะของเธอ

"ซุน..."

ซุนเป่าเผยตัวออกมาพร้อมกระพริบตาไปมา หวังว่าท่าทางน่ารักของมันจะช่วยให้รอดพ้นไปได้

คิดว่าแค่ทำตัวน่ารักแล้วฉันจะไม่พูดอะไรหรือไง...

เฉียวซางยิ้มขื่นแต่สุดท้ายก็อ่อนใจลง "ถ้าฉันเอาตะกร้าอาหารใบนี้มาแลกถุงมือเพชรของแก แกจะยอมแลกไหม?"

"ซุนซุน!"

ซุนเป่าส่ายหัวอย่างแรงเหมือนกลองสั่น แน่นอนว่าไม่ยอมแลก!

"นั่นแหละที่ถูกต้อง" เฉียวซางหันไปหาหยาเป่าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เห็นไหม ซุนเป่าไม่แลกหรอกเพราะของทุกอย่างมีค่าไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกอย่างที่เอามาแลกกันได้แบบเท่าเทียม"

"ย่าห์ ย่าห์..."

หยาเป่าพยักหน้าเล็กน้อย แต่สีหน้ากลับดูห่อเหี่ยว

เมื่อเห็นท่าทางของหยาเป่า เฉียวซางก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า

"ถ้าแกอยากลงแข่งก็บอกฉันก็พอ ไม่เห็นต้องไปยุ่งยากอะไรแบบนี้เลย"

"ย่าห์ ย่าห์..."

หยาเป่าเงยหน้าขึ้นมองเฉียวซางด้วยแววตาอ้อนวอน งั้นวันนี้มันลงแข่งได้ใช่ไหม?

เฉียวซางทำหน้าจริงจัง "แน่นอน"

"ย่าห์ ย่าห์!"

หยาเป่าแสดงสีหน้าตื่นเต้นและแกว่งหางไปมาด้วยความดีใจ

เฉียวซางเห็นท่าทางนั้นก็เผยเจตนาแท้จริงออกมา "ดังนั้น แกอย่าเชื่อที่ซุนเป่าพูดไปเรื่อย มันยังเด็ก ยังไม่เข้าใจอะไรหลายอย่าง แกในฐานะพี่ใหญ่ควรมีการตัดสินใจของตัวเอง"

"ย่าห์!"

หยาเป่าพยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วมองไปที่ซุนเป่าพร้อมสีหน้าที่บ่งบอกว่า

ทำไมตอนนั้นฉันถึงเชื่อแกกันนะ

ซุนเป่า: "..."

เฉียวซางยิ้มอย่างพึงพอใจ

เด็กไร้เดียงสาอย่างหยาเป่า ถ้ายังปล่อยให้มันเชื่อซุนเป่าไปเรื่อยๆอีกในอนาคต ถึงตอนนั้นเธอจะหลอกล่อเจ้าหมานี้ด้วยวิธีอะไรได้อีก โชคดีที่รู้ตัวเร็วและได้ตัดไฟแต่ต้นลม

ขั้นตอนที่คุ้นเคยดำเนินไปตามลำดับ

ไม่นาน รายชื่อการประลองก็ปรากฏบนหน้าจอเสมือน

[ภูมิภาคเย่หัว: เฉียวซาง VS ภูมิภาคจงคง: อู๋ฉงอวี้]

[ภูมิภาคจือเตี้ยน: โจวซานเลี่ยง VS ภูมิภาคจ้งเต่า: หลิวหย่งหมิง]

[ภูมิภาคเป่ยหลุน: เถาเหรง VS ภูมิภาคจ้งเต่า: จางว่านตี้]

[ภูมิภาคฉีลู่: เช้าลี่เปิ่น VS ภูมิภาคจงคง: ถังอี้]

[ภูมิภาคจงคง: จ้าวชวนอวี้ VS ภูมิภาคเหลียวซี: ชุยผิงคุน]

...

รวมทั้งหมด 9 คู่ พร้อมผู้เข้าแข่งขันที่กลับเข้าสู่รอบจากการคัดออก รวมเป็น 18 คน

เมื่อรายชื่อการประลองปรากฏขึ้น เสียงพูดคุยในสนามเริ่มดังขึ้นทันที ทุกคนต่างแสดงความเห็นกันไม่หยุดหย่อน

“โห! เปิดฉากมาก็เจอบิ๊กแมตช์เลยเหรอ?”

“นี่มันอะไรกัน! คู่สุดท้ายคือจ้าวชวนอวี้เจอกับชุยผิงคุน! นี่ยังแค่รอบ 18 คนสุดท้ายเพื่อคัดเหลือ 9 คนเองนะ ทำไมจับคู่พวกเขามาเจอกันเร็วขนาดนี้?!”

“โอ๊ย! เถาเหรงต้องเจอจางว่านตี้! เขาคือความหวังสุดท้ายของภูมิภาคเป่ยหลุนนะ! อย่าบอกนะว่าจะตกรอบวันนี้เลย!”

เมื่อการแข่งขันมาถึงจุดนี้ ผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่ล้วนเป็นคนที่ผู้ชมคุ้นเคยกันดีแล้ว

ใน 13 ภูมิภาคของประเทศมังกร ตอนนี้เหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 18 คนเท่านั้น บางภูมิภาคมีผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ เช่น เถาเหรง จากภูมิภาคเป่ยหลุน และ เฉียวซาง จากภูมิภาคเย่หัว

ความกดดันในภูมิภาคที่เหลือผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียวมักจะสูงลิบ แต่บรรยากาศในภูมิภาคเย่หัวกลับแตกต่างออกไป

“ดูเหมือนผู้เล่นจากภูมิภาคจงคงจะยังเหลืออยู่หลายคน ถึงเวลาที่เฉียวซางจะต้องช่วยลดจำนวนลงบ้างแล้ว!”

“อู๋ฉงอวี้ใช่ไหม? ฉันรู้จักนะ มีสัตว์อสูรมังกรสายพันธุ์ระดับกลางหนึ่งตัว แล้วก็สัตว์อสูรประเภทไฟฟ้าระดับสูงอีกหนึ่งตัว ฉันว่าไม่น่ามีปัญหา เฉียวซางจัดการได้แน่นอน ฉันพนันได้เลยว่าเธอเอาชนะสองตัวนั้นได้แบบง่ายๆแน่”

“จะชนะทั้งสองตัวหรือเปล่าไม่สำคัญนะ ขอแค่ชนะก็พอแล้ว แต่ต้องยอมรับว่ามังกรน้ำแข็งสายพันธุ์แท้ของอู๋ฉงอวี้ แม้จะอยู่แค่ระดับกลาง แต่ความสามารถทุกด้านสูสีกับสัตว์อสูรระดับสูงทั่วไปเลยนะ”

“นายก็บอกอยู่แล้วว่าสูสีกับสัตว์อสูรระดับสูงทั่วไป แล้วฉันถามหน่อย สัตว์อสูรของเฉียวซางตัวไหนดูธรรมดาบ้าง?”

“ฉันไม่ได้บอกว่าเฉียวซางแพ้นะ แค่ไม่อยากให้พวกนายไปกดดันเธอเกินไปก็เท่านั้น ขอแค่ชนะก็พอ ไม่จำเป็นต้องเอาชนะแบบสมบูรณ์แบบเสมอไปนี่นา”

“พูดมีเหตุผล... ยังไงก็ตาม เฉียวซางต้องชนะ!”

ในห้องพักผู้เข้าแข่งขัน

“อู๋ฉงอวี้... มีสัตว์อสูรระดับสูง...” ซุ่นปั๋วอวี่เปิดสมุดบันทึกในมือและกำลังจะอธิบายรายละเอียด

เฉียวซางลุกขึ้นขัดจังหวะ “ไม่ทันแล้วค่ะ คู่แรกคือฉัน ฉันต้องไปแล้วค่ะ”

พูดจบเธอก็เดินลงบันไดตรงไปยังทางเข้าสนามแข่ง

“เฮ้อ...” ซุ่นปั๋วอวี่ปิดสมุดบันทึก มองตามหลังเฉียวซางที่เดินจากไปแล้วถอนหายใจยาว

ฉันแค่อยากทำตัวให้มีประโยชน์บ้าง ทำไมมันถึงยากขนาดนี้นะ?

หลิวเหยาหันมามองและพูดปลอบใจอย่างหาได้ยาก “ข้อมูลที่นายให้จะพูดหรือไม่พูดไปก็ไม่ต่างกันหรอก เรื่องที่ควรรู้เฉียวซางรู้หมดแล้ว ส่วนเรื่องที่เธอไม่รู้ก็เหมือนตอนเจอเถียวเสี่ยวอวิ๋น นายเองก็ไม่รู้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

ซุ่นปั๋วอวี่: "..."

อีกด้านหนึ่ง

“อาจารย์หลี่...” อู๋ฉงอวี้มองชายวัยกลางคนข้างๆด้วยสีหน้าตึงเครียด

ชายกลางคนถอนหายใจแล้วตบไหล่อู๋ฉงอวี้เบาๆ “ไปเถอะ”

อู๋ฉงอวี้: "..."

อาจารย์ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ!

ในเสียงเชียร์กึกก้องจากผู้ชม เฉียวซางและอู๋ฉงอวี้ปรากฏตัวบนเวทีการแข่งขัน

อู๋ฉงอวี้มองสาวน้อยที่ยืนอยู่ไกลออกไปด้วยความตึงเครียดจนเหงื่อซึมออกจากฝ่ามือ

นี่มันซวยเกินไปแล้ว! แค่ยังไม่เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายก็ต้องมาเจอกับตัวประหลาดเฉียวแล้วเหรอ... อู๋ฉงอวี้รู้สึกหมดแรงใจอย่างมาก

ในความเป็นจริง การที่มีสัตว์อสูรระดับสูงสามตัวในการแข่งขันผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับมัธยมปลายแห่งชาติซึ่งใช้ระบบการต่อสู้แบบ 2V2 นั้นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางเอาชนะได้ เพราะสัตว์อสูรระดับสูงเองก็มีความแตกต่างในระดับเดียวกัน

ระยะเวลาที่สัตว์อสูรวิวัฒนาการ และศักยภาพของสายพันธุ์เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างด้านพลัง แม้จะอยู่ในระดับเดียวกัน

สัตว์อสูรระดับสูงที่วิวัฒนาการมาแล้วสามปี ย่อมได้เปรียบกว่าสัตว์อสูรที่เพิ่งวิวัฒนาการขึ้นมาไม่นาน

แต่ความน่ากลัวของเฉียวซางคือ เธอไม่ได้มีแค่สัตว์อสูรระดับสูงสามตัว แต่สัตว์อสูรของเธอแต่ละตัวไม่มีจุดอ่อนเลย ทั้งในเรื่องของพละกำลัง ความเร็ว พลังโจมตี การตอบสนอง ความชำนาญในทักษะ และการประสานงานกับเธอ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบราวกับว่าสัตว์อสูรของเธออยู่ในระดับนี้มานานหลายปีแล้ว

นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เธอน่ากลัว

และตอนนี้เขาต้องมาแข่งกับคนที่น่ากลัวขนาดนี้...

ปรี๊ด!!!

เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณเรียกสัตว์อสูรเข้าสู่สนาม

ซวยชิบ! ถ้าต้องสู้ เจอจ้าวชวนอวี้ยังดีกว่าอีก... อู๋ฉงอวี้พ่นลมหายใจยาว ก่อนจะเริ่มทำสัญลักษณ์ด้วยมือ

แสงสีเทาและแสงสีเขียวจากกลุ่มดวงดาวปรากฏขึ้นพร้อมกัน

ไม่นานนัก สัตว์อสูรของทั้งสองฝ่ายก็ปรากฏตัวในวงแหวนของพวกมัน

อสูรสายฟ้าฟาดเป็นสัตว์อสูรประเภทไฟฟ้าระดับสูง มีนิสัยดุดันและพลังระเบิดที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า เมื่อมันโกรธ พลังไฟฟ้าจะพุ่งออกมาจากแผงคอของมันไปทุกทิศทาง ลักษณะเฉพาะตัวเด่นคือ สายล่อฟ้า และ เครื่องยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทำให้มันไม่รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยประเภทไฟฟ้า แต่กลับเพิ่มพลังโจมตีพิเศษและความเร็วแทน

เฉียวซางมองสัตว์อสูรที่มีขนสีเหลืองลายเส้นสีส้มบนตัวและเขาแหลมที่ตั้งตรงบนหัว คล้ายส่วนผสมระหว่างสิงโตกับเสือ ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับมันผุดขึ้นมาในหัว

“ย่าห์!”

“เทียนเก้อ!”

หยาเป่าและอสูรสายฟ้าฟาดต่างแยกเขี้ยวใส่กันจากระยะไกล

ซซซ...

ประกายไฟสีเหลืองกระโดดไปมาบนตัวของอสูรสายฟ้าฟาด แผงคอที่อ่อนนุ่มแต่เต็มไปด้วยพลังปลิวไหวไปตามกระแสลม

ฮึ่มฮึ่ม...

ปีกเปลวไฟทั้งสองข้างของหยาเป่าขยายตัวขึ้นทันที ความร้อนระอุแผ่ซ่านรอบตัวมัน ขนสีแดงสลับขาวพลิ้วไหวอย่างอิสระ

เมื่อดูจากพลังออร่าที่ปลดปล่อยออกมา ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใครแม้แต่น้อย!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด