บทที่ 22: สัมภาษณ์พิเศษ

"จี้เจียงนิวส์มาด้วยเหรอ? แล้วนี่หนังสือพิมพ์เยาวชนภาคเหนือก็มาอีก พวกคุณมาได้ยังไง?"

"ผมก็กำลังจะถามเหมือนกันว่าทำไมสำนักข่าวซินจิงถึงมาอยู่ที่นี่ ทางมหาวิทยาลัยเชิญแค่สองสำนักเราไม่ใช่เหรอ?"

ซุนเหวินนักข่าวจากจี้เจียงนิวส์มองดูทีมงานสำนักข่าวซินจิงที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

การเดินทางมาเมืองไป๋เฉวียวนี่ไกลไม่ใช่น้อย หนึ่ง ค่าเดินทางก็ไม่ใช่ถูกๆ สอง แต่ก็มีประเด็นข่าวน่าสนใจ เพราะสวัสดิการดึงดูดบุคลากรที่เขาจะประกาศนั้นดีมาก ถ้าทางมหาวิทยาลัยไม่ทำตามที่ประกาศ ยิ่งดีใหญ่ จะได้เป็นข่าวที่ดึงดูดความสนใจ

เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยอี้หัวจัดที่พักให้ สื่อทั้งสองสำนักเลยได้พักโรงแรมติดกัน แต่ก็ไม่เห็นคนจากสำนักข่าวซินจิงเลย

"ทางมหาวิทยาลัยเชิญมาเหรอ?" หม่าเสี่ยวเสี่ยวชะงักเมื่อได้ยิน แต่ไม่ได้เปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริง แกล้งทำเป็นไม่สนใจถามว่า "งั้นพวกเราคงจะมาสัมภาษณ์คนเดียวกันสินะ?"

ตอนนั้นนักข่าวจากหนังสือพิมพ์เยาวชนเป้ยฟางแทรกขึ้นมาเร่งว่า "ใช่ไหมล่ะ ไม่ใช่มาสัมภาษณ์เรื่องแผนดึงดูดบุคลากรของมหาวิทยาลัยอี้หัวเหรอ? ไปกันเถอะ สัมภาษณ์เสร็จเร็วๆ จะได้ไปเที่ยวเกาะกู่หลั่งอี๋ ได้ยินว่าทั้งวิวสวยอาหารก็อร่อยนะ"

หม่าเสี่ยวเสี่ยวหัวเราะเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วเดินตามทั้งสองคนขึ้นรถของทางมหาวิทยาลัย

บนรถ หม่าเสี่ยวเสี่ยวเริ่มรู้สึกตื่นเต้น อธิการบดีวัยแค่ 26 ปี มีคุณสมบัติพอจะติดเทรนด์ในโซเชียลได้แล้ว ยิ่งเอามารวมกับแผนดึงดูดบุคลากรนี้ ยอดวิวต้องไม่น้อยแน่! ยอดวิวสูง ผลงานก็ดี เงินเดือนก็จะขึ้น คิดได้แบบนี้ หม่าเสี่ยวเสี่ยวก็รู้สึกว่าคุ้มที่มา แต่เธอจะไม่บอกข้อมูลนี้กับสองสำนักที่เหลือแน่นอน

......

ในห้องประชุม

"สวัสดีคุณนักข่าวทั้งสาม ผมซูรุ่ย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยอี้หัว"

ซูรุ่ยรู้จักสองสำนักแรกดี ส่วนสำนักที่สาม สำนักข่าวซินจิง เขาก็รู้สึกประหลาดใจ โทรศัพท์แจ้งเรื่องนี้เข้ามาตอนที่เขากำลังหารือกับเฉินห่าวพอดี แต่การมีสื่อระดับชาติเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางก็ดี จะได้เพิ่มการรับรู้

"ตามที่ทราบมา อธิการบดีซูรุ่ยก่อนเกษียณเคยทำงานที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีผู่หยาง อะไรทำให้ท่านตัดสินใจกลับมารับตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยอี้หัวครับ?" ซุนเหวินนักข่าวจากจี้เจียงนิวส์ถาม

แม้ก่อนหน้านี้อาจไม่รู้จักมหาวิทยาลัยอี้หัว แต่มาถึงแล้วก็ต้องหาข้อมูล ก่อนปี 1012 มหาวิทยาลัยอี้หัวพัฒนาได้ดีมาก แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาช็อกคือ หลังจากอธิการบดีเฉินชิ่งซิงเสียชีวิต ในช่วงแปดปีที่เฉินลี่ปิงเข้ามาบริหาร มีแต่เรื่องอื้อฉาว ถ้าไม่ได้รับเงินมา เขาคงต้องวิจารณ์แน่ๆ อาจารย์มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังมาอยู่มหาวิทยาลัยเอกชนห่วยๆ แบบนี้ หวังอะไรกัน?

"อธิการบดีคนที่สองของมหาวิทยาลัยอี้หัว อาจารย์เฉียนเหออาน เป็นผู้ชี้นำชีวิตผม ด้วยคำแนะนำของท่านและการเชื้อเชิญอย่างจริงใจจากประธานมูลนิธิคนปัจจุบัน เฉินห่าว ผมจึงมารับตำแหน่งรองอธิการบดีที่มหาวิทยาลัยอี้หัว" ซูรุ่ยพูดอย่างเก้อเขิน จะให้บอกว่าเพราะเขาให้เงินเยอะก็คงไม่ได้!

ซุนเหวินไม่ได้ติดใจเรื่องที่ซูรุ่ยมารับตำแหน่ง เขาพยักหน้าแล้วกำลังจะพูดเรื่องไม่จริงว่า "ตามที่เราทราบมา มหาวิทยาลัยอี้หัวมีแผนดึงดูดบุคลากรใหม่สองแผน ท่านอธิการบดีช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ?"

"แผนดึงดูดบุคลากรแบ่งเป็นสองส่วนหลัก ส่วนแรกมุ่งเน้นนักวิชาการรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ อายุไม่เกิน 40 ปี เมื่อผ่านการพิจารณาจากทางมหาวิทยาลัยจะได้รับเงินสนับสนุน" ซูรุ่ยพูดแล้วหยุดชั่วครู่ ก่อนเน้นเสียงว่า "โครงการ 'อี้หัวยังส์' จะได้สิทธิ์มีทะเบียนบ้านในเมืองทันที พร้อมเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 300,000 หยวน และเงินช่วยเหลือที่อยู่อาศัย 800,000 หยวน จ่ายครั้งเดียวทันที! นอกจากนี้ยังมีทุนวิจัยเริ่มต้น 1 ล้านหยวนขึ้นไป ไม่จำกัดเพดาน"

"ส่วนรางวัล 'นักวิชาการอี้หัว' จะได้รับมากกว่าโครงการอี้หัวยังส์ มุ่งเน้นนักวิชาการแนวหน้าในแต่ละสาขา ไม่จำกัดอายุ!"

จ่ายครั้งเดียว??? ถ้าเป็นจริง นี่มันข่าวใหญ่มาก! แค่เงินช่วยเหลือค่าครองชีพกับที่อยู่อาศัยก็ 1.1 ล้านหยวนแล้ว! ถ้ารับ 100 คน ต้องใช้เงินถึง 110 ล้านหยวน!!! บริษัทที่มีทรัพย์สินเป็นร้อยล้านมีเยอะ แต่ที่มีเงินหมุนเวียนเกินร้อยล้านนี่หายากนะ!

"ขอถามท่านอธิการบดีซูรุ่ย ที่ว่าจ่ายครั้งเดียวนี่ หมายถึงไม่ได้แบ่งจ่ายรายปีใช่ไหมครับ?" นักข่าวชายไม่ทราบชื่อจากหนังสือพิมพ์เยาวชนเป้ยฟางถามอย่างตื่นเต้น

"เมื่อผ่านการพิจารณาและเซ็นสัญญาจ้าง เงินจะเข้าบัญชีภายใน 5 วันทำการ!" ซูรุ่ยยิ้มอย่างภูมิใจ ในฐานะผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่มีประสบการณ์ เขารู้ว่าแผนนี้จะสร้างผลกระทบต่อวงการอุดมศึกษามากแค่ไหน

"แชะ!" ช่างภาพถ่ายรูป เครื่องบันทึกเสียงของนักข่าวก็กำลังทำงาน

นักข่าวซุนเหวินจากจี้เจียงนิวส์ถามต่อ "แล้วจะสมัครได้อย่างไรครับ?"

ซูรุ่ยอธิบายว่า "เดี๋ยวทางเว็บไซต์มหาวิทยาลัยจะอัพเดทประกาศ ในนั้นจะมีคำอธิบายละเอียดพร้อมแบบฟอร์มใบสมัครแนบ ส่งตรงมาที่อีเมลทางการของมหาวิทยาลัยได้เลย"

หลังจากถาม-ตอบอีกสองสามคำถาม ทีมงานจากจี้เจียงนิวส์และหนังสือพิมพ์เยาวชนเป้ยฟางก็แยกย้ายกลับไปอย่างมีความสุข กระเป๋าตุงๆ

มีแต่ทีมสำนักข่าวซินจิงที่ยังรออยู่ในห้องประชุมหลังจากสื่ออื่นกลับไป

ไม่นานก็มีชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่าเดินเข้ามา

เขามีบุคลิกที่โดดเด่น และที่สำคัญคือ…

หล่อมาก!

หม่าเสี่ยวเสี่ยว รู้ดีว่านี่คือคนที่เธอจะสัมภาษณ์ในวันนี้ จึงลุกขึ้นและยื่นมือไปข้างหน้า

“สวัสดีค่ะ ฉันคือ หม่าเสี่ยวเสี่ยว จากสำนักข่าวซินจิงรับผิดชอบการสัมภาษณ์ของคุณในวันนี้!”