บทที่ 168: เมืองหวงหยาน!
บทที่ 168: เมืองหวงหยาน!
“องค์หญิง ชาเย็นหมดแล้ว ผมจะไปรินใหม่ให้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ภายในตู้วีไอพี
เซียวซิงหยูและซ่างกวนเฉียนเพิ่งจะคุยเรื่องข่าวกรองภายในกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิเสร็จ
ถึงแม้ซ่างกวนเฉียนจะยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา แต่เธอก็เป็นลูกสาวของซ่างกวนหลาน ภายใต้ใบหน้าอันงดงามนี้ ใครจะรู้ว่าซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้มากแค่ไหน
เซียวซิงหยูรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศในตู้โดยสาร เขาจึงหาข้ออ้างเพื่อออกไปสูดอากาศข้างนอก
แต่ซ่างกวนเฉียนก็เอ่ยห้ามไว้ทันที
“ฉันไม่กระหายน้ำแล้ว เจ้าอยู่ที่นี่แหละ รอไปถึงเมืองหวงหยานพร้อมกับฉัน”
ในตู้โดยสารมีเพียงเซียวซิงหยูและซ่างกวนเฉียนเท่านั้น บรรยากาศที่อึดอัดอยู่แล้วก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้นไปอีก
“เซียวซิงหยู เธอผ่อนคลายหน่อยได้ไหม? เห็นเธอตื่นเต้นแบบนี้ ฉันก็พลอยประหม่าไปด้วย”
“ผม...ผมไม่ได้ตื่นเต้นสักหน่อย”
ซ่างกวนเฉียนอยากแกล้งเซียวซิงหยูเล่น จึงโบกมือเรียกเขา
“มานี่สิ”
เซียวซิงหยูก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว, ตอนนี้เขายืนห่างจากซ่างกวนเฉียนประมาณหนึ่งเมตร
ตามธรรมเนียมแล้ว บุคคลสำคัญอย่างซ่างกวนเฉียนจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เกินหนึ่งเมตรเป็นอันขาด
เซียวซิงหยูคิดว่าตัวเองรักษาระยะห่างได้ดีแล้ว แต่ซ่างกวนเฉียนก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“เข้ามาใกล้ฉันอีกหน่อยสิ”
“หา?”
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำสองนะ”
เซียวซิงหยูได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปใกล้ซ่างกวนเฉียนอีกหนึ่งก้าว
ตอนนี้ทั้งสองคนยืนห่างกันเพียงยี่สิบเซนติเมตร
ในระยะใกล้ขนาดนี้ เซียวซิงหยูอดไม่ได้ที่จะชื่นชมผิวพรรณที่เนียนละเอียดของหญิงสาวตรงหน้า
“กลิ่นซากุระ? ไม่สิ นี่น่าจะเป็นกลิ่นกายของซ่างกวนเฉียน เหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด…”
ก่อนหน้านี้เซียวซิงหยูเคยเข้าใกล้ซ่างกวนหลาน และตอนนี้เขาก็ได้เข้าใกล้ซ่างกวนเฉียน…กลิ่นกายของแม่ลูกคู่นี้เหมือนกันมาก เเละมันคือกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกซากุระ
ซ่างกวนเฉียนยกมือขวาขึ้น นิ้วเรียวสวยของเธอสัมผัสปลายจมูกของเซียวซิงหยู
เซียวซิงหยูทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ในใจกลับเต้นรัวราวกลับกลองศึก
“นี่หล่อนคิดจะทำอะไร? อย่าบอกนะว่าคิดจะ..…”
ความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นมาในหัวของเซียวซิงหยูมากมาย
เเต่หลังจากนั้น เสียงของซ่างกวนเฉียนดึงสติของเซียวซิงหยูกลับมา
“หน้าตาหล่อเหลาดีนะ โดยเฉพาะดวงตานี่ สวยมาก”
“ขอบพระทัยองค์หญิงที่ทรงชม”
“ที่จริงฉันสงสัยมานานแล้ว ว่าเธอมีเสน่ห์อะไร ถึงทำให้เสด็จแม่ชื่นชมเธอได้ถึงเพียงนี้”
เซียวซิงหยูแสร้งทำเป็นใสซื่อ พรางยิ้มแห้งๆ “ผมคงดวงดีมั้งครับ?”
“ฉันอยู่กับเสด็จแม่มา 22 ปี ฉันรู้จักนิสัยของท่านดี เสด็จแม่ไม่เคยชื่นชมใครขนาดนี้มาก่อน และยังมอบป้ายวิญญาณจักรพรรดิให้เธอก่อนเวลาอีกด้วย”
ซ่างกวนเฉียนหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นทันที “ป้ายวิญญาณจักรพรรดิของเธออยู่ไหน? เอาออกมาให้ฉันดูหน่อยสิ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูก็มีสีหน้าลำบากใจทันที
“ผมไม่ได้พกมาด้วย…”
“กล้าโกหกฉันด้วยเหรอ? ของสำคัญขนาดนั้น เธอต้องพกติดตัวตลอดเวลาอยู่แล้ว!”
ท่าทางอึกๆอักๆ ของเซียวซิงหยู ทำให้ซ่างกวนเฉียนเริ่มหงุดหงิด
“เซียวซิงหยู ฉันสั่งในฐานะองค์หญิงแห่งประเทศมังกร เอาป้ายวิญญาณจักรพรรดิออกมาเดี๋ยวนี้!”
“องค์หญิง ผมไม่ได้ไม่อยากให้ดูนะ แต่มันไม่สะดวกจริงๆ ถ้ากระหม่อมหยิบออกมาตอนนี้ จะถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างยิ่ง”
ท่าทางอ้ำอึ้งของเซียวซิงหยู ทำให้ซ่างกวนเฉียนเดาออกทันที
“อ้อ เธอซ่อนป้ายไว้ในรองเท้าสินะ? ไม่ต้องห่วง ฉันไม่รังเกียจเท้าเหม็นๆ ของเธอหรอก รีบเอาออกมาได้เเล้ว”
“เปล่าพ่ะย่ะค่ะ ผมไม่ได้ซ่อนไว้ในรองเท้า…”
“ไม่ว่าเจ้าจะซ่อนไว้ที่ไหนก็ต้องเอาออกมา นี่เป็นคำสั่ง!”
เซียวซิงหยูกัดริมฝีปากล่าง ทำท่าทางเหมือนสาวน้อยขี้อาย
“ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขออภัย”
เซียวซิงหยูพูดจบก็ปลดเข็มขัดออกทันที
ซ่างกวนเฉียน องค์หญิงผู้สง่างาม ถึงกับทำหน้าเหวอเป็นครั้งแรกในชีวิต
“เจ้า...เจ้ากำลังทำอะไร!”
“ก็พระองค์สั่งให้กระหม่อมเอาป้ายวิญญาณจักรพรรดิ ออกมานี่พ่ะย่ะค่ะ”
โชคดีที่ในตู้โดยสารไม่มีใครอื่น
เพราะตอนนี้ เซียวซิงหยูกำลังรูดซิปกางเกงลง ต่อหน้าต่อตาซ่างกวนเฉียน…
ซ่างกวนเฉียนกัดริมฝีปาก เธอแทบจะรักษาภาพลักษณ์ขององค์หญิงเอาไว้ไม่อยู่ มือทั้งสองข้างปิดตาตัวเองเอาไว้
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น นิ้วของเธอก็แอบเผยอออกเล็กน้อย
เซียวซิงหยูควานหาอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็หยิบป้ายออกมาได้
“องค์หญิง เชิญเปิดตาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ซ่างกวนเฉียนลดมือลง ใบหน้าแดงก่ำอย่างมาก
“เซียวซิงหยู! เธอกล้าล้อเล่นกับฉันแบบนี้ได้ยังไง อยากตายรึไง!”
“ก็พระองค์สั่งให้ผมเอาป้ายวิญญาณจักรพรรดิออกมา ไม่ว่ายังไงก็ต้องเอาออกมาให้ได้ไม่ใช่หรือ?”
ซ่างกวนเฉียนพูดไม่ออก เธอสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อปรับอารมณ์
“เอาป้ายมา”
“องค์หญิงโปรดทอดพระเนตร”
“ไม่ต้องเข้ามาใกล้ขนาดนั้น!”
ด้วยระยะที่ใกล้มาก ซ่างกวนเฉียนได้กลิ่นอายบุรุษจางๆจากป้ายวิญญาณจักรพรรดิ
ถึงแม้ซ่างกวนเฉียนจะอายุมากกว่าเซียวซิงหยูสองสามปี แต่เธอก็ยังเป็นสาวน้อยวัยยี่สิบต้นๆที่ยังไม่เคยผ่านโลกมาก่อน เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ย่อมอดที่จะเขินอายไม่ได้
“เซียวซิงหยู! เธอนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ!” ซ่างกวนเฉียนพูดอย่างขุ่นเคือง
“ผมเจ้าเล่ห์ตรงไหน?” เซียวซิงหยูทำหน้าตาใสซื่อ
“ใครเขาเอาป้ายวิญญาณจักรพรรดิซ่อนไว้ในกางเกงกัน มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละ!”
เซียวซิงหยูหน้าแดงก่ำ เเล้วรีบอธิบาทันที
“ฝ่าบาทเคยรับสั่งว่า ป้ายวิญญาณจักรพรรดิสำคัญมาก ผมจึงเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด”
ซ่างกวนเฉียนส่ายหน้า เเล้วพูดอย่างปลงๆ “ช่างเถอะ ช่างเถอะ รีบใส่กางเกงให้เรียบร้อยก่อน ค่อยคุยกัน”
หลังจากเซียวซิงหยูใส่กางเกงเรียบร้อยแล้ว ซ่างกวนเฉียนก็ตรวจสอบป้ายวิญญาณจักรพรรดิในมือของเขาอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่ของปลอม
“ดูเหมือนเสด็จแม่จะไว้ใจเจ้ามาก ถึงขั้นตั้งใจจะฝึกฝนเจ้าด้วยตัวเองเลยทีเดียว”
“องค์หญิง ผมขอถามหน่อยเถอะ…พระองค์เป็นถึงองค์หญิงที่มีฐานะสูงส่ง เเต่ทำฝ่าบาทถึงส่งท่านมาอยู่ในกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิเเบบนี้ได้?”
สมาชิกของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก
ภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็ล้วนเป็นภารกิจลับที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้
เซียวซิงหยูคิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีแม่คนไหน ส่งลูกสาวตัวเองเข้ามาเสี่ยงอันตรายแบบนี้
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรถาม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูจึงเงียบเสียงลง
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ยอมแพ้
เขาแอบใช้ดวงตาเทพอสูรตรวจสอบซ่างกวนเฉียน
“ผู้หญิงคนนี้ไม่มีพลังของมังกร!”
“หรือว่าเธอจะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของซ่างกวนหลาน?”
ซ่างกวนหลานเป็นมังกรดำ, ตามหลักเหตุผลแล้ว ซ่างกวนเฉียนก็น่าจะเป็นลูกมังกรดำเหมือนกัน
และดวงตาเทพอสูรไม่มีทางผิดพลาด ซ่างกวนเฉียนเป็นมนุษย์ ไม่มีพลังของมังกรอยู่ในร่างกายแม้แต่น้อย
“ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างซ่างกวนหลานกับซ่างกวนเฉียนจะมีอะไรซับซ้อนกว่าที่คิดไว้ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ควรไปก้าวก่ายมากเกินไป ด้วยพลังของฉันในตอนนี้ ยังไม่ควรมีเรื่องกับแม่ลูกคู่นี้…เก็บตัวเงียบๆ ค่อยๆพัฒนาตัวเองไปก่อนดีกว่า!”
เซียวซิงหยูยึดมั่นในกลยุทธ์การพัฒนาตัวเองอย่างเงียบๆ เน้นความรอบคอบและมุ่งมั่น
…..
เวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ทันใดนั้น เสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบ รถไฟกำลังจะถึงสถานีปลายทาง เมืองหวงหยาน”
รถไฟขบวนที่ 13 ค่อยๆหยุดลง
นอกหน้าต่าง ณ เวลานี้…เป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
บนทะเลทราย มีเมืองโบราณตั้งตระหง่านอยู่
นี่คือเมืองหวงหยาน ด่านชายแดนทางตะวันตกของแคว้นมังกร
ภายในเมืองหวงหยาน คือดินแดนของแคว้นมังกร…นอกเมืองหวงหยาน คือดินแดนของอสูรที่เต็มไปด้วยอันตราย
“เซียวซิงหยู ถึงแล้ว”
“อืม”
“อย่าลืมภารกิจของเราล่ะ ต้องหาอสูรสายปลอมตัวที่แฝงตัวอยู่ในเมืองหวงหยานให้เจอ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อซ่างกวนเฉียนลงจากรถไฟ เซียวซิงหยูก็เดินตามหลังเธอไป
เบื้องหน้า เธอคือองค์หญิง ส่วนเขาคือคนธรรมดา
แต่เบื้องหลัง ทั้งสองคนเป็นสมาชิกของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิที่กำลังทำภารกิจลับอยู่
…………………