ตอนที่แล้วบทที่ 12 หอมจริงๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 คนไร้ค่าหนึ่งคน ยังต้องให้กังวลอีกสองคน?

บทที่ 13 การคาดเดาเกี่ยวกับยุคเสื่อมถอยของพุทธศาสนา


บทที่ 13 การคาดเดาเกี่ยวกับยุคเสื่อมถอยของพุทธศาสนา

3วันต่อมา ช่วงเที่ยงของวันเสาร์ ณ โรงแรมใหญ่เมืองเอส(S)

อาหารกลางวันของหลี่เซี่ยนอวี่กับย่าทวด คือผัดหมี่ หลังจากกินข้าวผัดไม่ใส่ไข่มา 2วัน ในที่สุดย่าทวดก็ได้สมใจ

เติมไข่ต้มน้ำแดง น่องไก่ และไข่ผัดลงในเส้นหมี่ แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ หลังจากที่เคยกินอาหารในร้านที่เฉลี่ยคนละ 200หยวน คุณหนูตระกูลพันล้านอย่างย่าทวด ก็เริ่มดูถูกอาหารของโรงแรมใหญ่เมืองเอสเสียแล้ว

เธอใช้ตะเกียบคีบเส้นหมี่ที่เป็นมันวาว จับผิดไปเสียทุกอย่าง บ่นว่าน้ำมันมีกลิ่นแปลกๆ ไข่ผัดคาวเกินไป ไข่ต้มน้ำแดงไม่สด น่องไก่เนื้อแก่เกินไป เหนียวติดฟัน

"จะกินหรือไม่กินก็ตามใจ" หลี่เซี่ยนอวี่พูด

"ไม่กินแล้ว" ย่าทวดพองแก้ม เหวี่ยงตะเกียบลงบนโต๊ะ

"ถ้าย่าไม่กิน ผมกิน" หลี่เซี่ยนอวี่คีบน่องไก่กับไข่ต้มในน้ำแดงจากชามของเธอ

"แก..." ย่าทวดโกรธจัดแย่งกลับมา ใบหน้าเล็กๆ โกรธจัด "เจ้าเหลนคนนี้ช่างไม่กตัญญูเอาเสียเลย ไม่น่ารัก"

แสงแดดสดใสสาดส่องบนถนน อากาศดีๆ เหมาะแก่การเดินเล่น หลี่เซี่ยนอวี่ถอนหายใจยาว

ผมชื่อ หลี่เซี่ยนอวี่ เงินเก้าหมื่นที่เหลือถูกย่าทวดผลาญหมดไปใน 3วันมานี้ ตอนนี้ผมกำลังร้อนใจสุดๆ

ตอนนี้ทรัพย์สินทั้งหมดของหลี่เซี่ยนอวี่ มีแค่เงินสด 5,000หยวนที่ถอนมาวันก่อน ถ้าอยู่คนเดียวก็พอได้ แต่มาเจอย่าทวดนักผลาญเงินแบบนี้ เงินแค่นี้รับมือไม่ไหวแน่

หลี่เซี่ยนอวี่เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงพูดว่า "ผู้หญิงกับคนเลวเลี้ยงดูยากที่สุด" ผู้หญิงล้วนเป็นคนหลอกลวง ยิ่งสวยยิ่งหลอกเก่ง!

ประโยคนี้พิสูจน์ได้ชัดที่สุดจากย่าทวด

ทั้งๆที่ตกลงกันว่า ค่าใช้จ่ายประจำวันต้องไม่เกิน 150 หยวน ย่าทวดรับปากอย่างไม่เต็มใจ

พอเขาไปเรียน เธอก็แอบออกไปช็อปปิ้งที่ห้างใกล้ๆ ซื้อกระเป๋า ซื้อเสื้อผ้า ซื้อรองเท้าส้นสูง แถมยังมีขนมกองเต็มเตียง

3วัน เงินในบัญชีถูกย่าทวดผลาญจนหมดเกลี้ยง

หลี่เซี่ยนอวี่โมโหจนเกือบทำผิดต่อบรรพบุรุษ ถามเธอว่าทำไมไม่รักษาสัญญา ย่าทวดตอบอย่างหนักแน่น "ฉันสัญญาว่าจะไม่เติมเงินในเกม นี่ฉันผิดสัญญาตรงไหน?"

หลี่เซี่ยนอวี่เกือบหัวใจวายตายคาที่

2แสนหยวน สำหรับนักศึกษาที่ไม่มีรายได้ เป็นเงินก้อนใหญ่ที่คิดไม่ถึง

วันนั้นเขาอยากจะตีย่าทวดจริงๆ ผลักเธอลงบนโซฟา ถอดรองเท้าจะฟาดก้นย่าทวด ใครจะรู้ว่าย่าทวดแค่สูดปาก หลี่เซี่ยนอวี่ที่เมื่อครู่โกรธจัด ในวินาทีต่อมาก็ร้อง "โอยๆ" ล้มพับอ่อนระทวยบนพื้น กุมเอวทั้ง2ข้าง ตัวสั่น

ย่าทวดนั่งขัดสมาธิบนโซฟา หน้าแดงระเรื่อ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แต่สายตากลับขี้อาย พูดอย่างโกรธๆ "กล้าตีฉัน ฉันก็จะดูดแกจนแห้ง"

หลี่เซี่ยนอวี่ที่เพิ่งสัมผัสความรู้สึกถูกดูดพลังที่เอว เข้าใจอย่างเจ็บปวดว่า ไม่ใช่บรรพบุรุษไม่สามารถฝึกย่าทวด แต่พวกเขาต่างหากที่ถูกฝึกแทน

ย่าทวดก็คือย่าทวดนั่นแหละ!

......

"ย่าทวดครับ พวกเราไม่มีเงินจริงๆแล้วนะ" หลี่เซี่ยนอวี่หน้าเศร้า "ผมยังเป็นนักศึกษานะครับ ไม่มีรายได้ ย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ ต่อไปเราจะไม่มีเงินแม้แต่จะกินข้าว"

"ขอโทษนะ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้น่ะ แต่ก่อนฉันก็ใช้เงินแบบนี้ มีเงินแล้วไม่ใช้ คงกลายเป็นไอ้งั่ง" ย่าทวดยอมรับผิด ทำท่าทางเหมือนจะดี แต่หลี่เซี่ยนอวี่รู้ว่านี่ไม่อาจเปลี่ยนนิสัยผลาญเงินของเธอได้

"ช่างเถอะๆ ยังไงเราก็ไม่มีเงินแล้ว ผมไม่มีอะไรจะเสีย จะกลัวอะไรย่าทวดที่มีแต่ตัว" หลี่เซี่ยนอวี่พูด

"พวกเราไปปล้นธนาคารกันเถอะ" ย่าทวดเสนอ

"บ้าไปแล้ว ผมเป็นพลเมืองดี ที่เคารพกฎหมาย"

"ไม่ต้องกลัว ฉันเคยปล้นธนาคารมาก่อน" ย่าทวดพูดอย่างมั่นใจ "ง่ายมาก หิ้วถุงผ้า เจอใครก็ตี เจอกระจกก็ทุบ แล้วแกก็จะรวยได้"

"ย่าเคยปล้นธนาคารด้วยเหรอ?" หลี่เซี่ยนอวี่ตกใจ

"ก็จนตรอก ไม่มีเงินใช้น่ะ" ย่าทวดเท้าคางด้วยมือเดียว กลอกตาขึ้นบน ท่าทางน่ารัก

"พ่อของแก ไม่คิดจะก้าวหน้า ไม่เป็นเรื่องหาเงิน ฉันก็ต้องไปปล้นธนาคารเอง พวกมนุษย์ธรรมดาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก ในธนาคารมีเงินเยอะแยะ แต่ว่าหลังจากนั้นพ่อแกถูกสมาคมพุทธ-เต๋า ออกหมายจับข้อหา ก่อกวนความสงบเรียบร้อยของสังคม 3เดือน ฮิฮิ..."

ฮิ! บ้าบออะไรของย่า!

ย่านี่มันหายนะชัดๆ

หลี่เซี่ยนอวี่พูดอย่างจริงจัง "ย่าทวด ต่อไปผมจะพยายามหาเงินมาเลี้ยงดูย่า ถึงต้องขายไต ผมก็จะเลี้ยงย่า"

ย่าทวดยิ้มสดใส "อืม นี่แหละ เริ่มน่ารักแล้ว"

หลี่เซี่ยนอวี่: (`_´)ゞ

"จริงสิ ย่าทวด เช้านี้หลังออกกำลังกาย ผมลองฝึกพลัง แต่พบว่า จับความรู้สึกของพลังไม่ได้เลย" หลี่เซี่ยนอวี่พูด "แถมตอนนี้จมูกผมเหมือนไม่ค่อยสบาย รู้สึกเหมือนสูดหมอกควันเข้าไปมากเกินไป"

ทั้งๆที่เช้านี้อากาศดี แต่ใครจะคิดว่ายังพลาดสูดหมอกควันเข้าไป

ย่าทวดแสดงท่าทีเบื่อหน่ายอย่างที่ไม่ค่อยเห็นด้วย "พรสวรรค์ในการฝึกพลังของแกไม่ดี ละเลยไปหลายวัน ประตูสวรรค์ปิดแล้ว เป็นธรรมดาที่จะจับพลังไม่ได้ ส่วนหมอกควันพิษ หลายวันมานี้ หมอกควันพิษมีทั้งเข้มข้นและเบาบาง แต่ไม่เคยจางหายไป

กลางคืนมองไม่เห็นดวงดาว กลางวันไม่เห็นท้องฟ้าสีคราม มนุษย์ธรรมดาไม่รู้สึก แต่สำหรับผู้ฝึกพลัง นี่คือพิษร้าย บางทีแกอาจพูดถูก ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว อาจเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยของพุทธศาสนาแล้วก็ได้"

"แล้วทายาทในยุคนี้ จะฝึกพลังยังไงล่ะ?" หลี่เซี่ยนอวี่พูด "ต้องมีวิธีสิครับ"

"คงจะหลบไปฝึกในที่ลับกันหมดแล้วมั้ง หรือไม่ก็อาจมีวิธีเอาชนะหมอกควันพิษ ฉันเพิ่งฟื้นได้ไม่นาน ยังไม่เคยติดต่อกับพวกเขา ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" ย่าทวดพูด

หลี่เซี่ยนอวี่จึงจินตนาการไปเอง สมมุติแบบเหนือธรรมชาติ อาจจะมีพวกผู้ยิ่งใหญ่สร้างดินแดนวิเศษ พลังล้นเหลือ ไม่ต้องสูดหมอกควันในโลกปัจจุบันอีก

สมมุติแบบวิทยาศาสตร์ พวกเขาคงปรับปรุงวิธีฝึกพลัง สามารถขับหมอกควันพิษ ออกจากร่างกายได้

สมมุติแบบไม่ต้องคิดเยอะ พวกเขาคงผ่านการปรับตัวหลายปี พวกเขามีภูมิต้านทาน ไม่กลัวการสูดหมอกควันพิษแล้ว

หลี่เซี่ยนอวี่โน้มเอียงไปทางสมมุติข้อสุดท้าย

กินข้าวเสร็จ พาย่าทวดเดินกลับบ้าน ระหว่างทางผ่านร้านผักผลไม้ ย่าทวดจ้องตะกร้าสตรอว์เบอร์รีสีแดงสด

ฤดูนี้ ยังอีกหลายเดือน กว่าจะถึงฤดูสตรอว์เบอร์รี่ แต่ในตลาดก็มีขายแล้ว

ย่าทวดมองตาปริบๆ "หลี่เซี่ยนอวี่ สตรอว์เบอร์รี่หวานไหม?"

หลี่เซี่ยนอวี่มองเธอ พูดว่า "รอแป๊บ"

ย่าทวดยิ้มอย่างดีใจ "อืมๆ"

หลี่เซี่ยนอวี่เดินเข้าร้าน ถามเจ้าของร้าน "สตรอว์เบอร์รี่หวานไหมครับ?"

เจ้าของร้านโฆษณาสินค้าตัวเอง "หวาน หวานมาก สดใหม่ทั้งนั้น"

หลี่เซี่ยนอวี่ "อ้อ" แล้วเดินกลับไปหาย่าทวด "ถามแล้ว หวาน"

ย่าทวด "......"

"ฉันอยากกินสตรอว์เบอร์รี" ย่าทวดพูด

"ไม่มีเงิน" หลี่เซี่ยนอวี่ทำหน้าเคร่งเดินต่อไป

ฤดูนี้สตรอว์เบอร์รี่ต้องแพงมาก ชาตินี้เขาเกลียดผลไม้อยู่ 3อย่าง อย่างหนึ่งคือสตรอว์เบอร์รี่ อย่างหนึ่งคือเชอร์รี่ อีกอย่างหนึ่งคือทุเรียน

เพราะมันจะทำให้รู้ว่า “เรายากจน” แค่ซื้อผลไม้กินก็ยังไม่กล้า

ในเมืองเซี่ยงไฮ้นี่ ออกไปซื้อผลไม้นิดหน่อย ค่าอาหารทั้งวันก็หมดแล้ว

ย่าทวดเดินตามหลังเขา ยื่นมือเล็กๆ จับชายเสื้อหลี่เซี่ยนอวี่ "หลี่เซี่ยนอวี่ ฉันอยากกินสตรอว์เบอร์รี่"

"ฉันอยากกินสตรอว์เบอร์รี่"

"ฉันอยากกินสตรอว์เบอร์รี่"

"ฉันอยากกินสตรอว์เบอร์รี่"

--------------------------------

ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ

หากพบคำผิด แจ้งได้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด