บทที่ 12 หอมจริงๆ
บทที่ 12 หอมจริงๆ
ตอนที่หลี่เซี่ยนอวี่หาเจอ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอนั่งเดียวดายอยู่บนขอบถนน กอดเข่า ดวงตาสะท้อนแสงไฟทั่วเมือง แต่ไร้จุดโฟกัส คิดอย่างฟุ้งซ่าน
เงาจากด้านหลัง มองแล้วราวกับสาวน้อยอกหักที่น่าสงสาร สวยงาม แต่เดียวดาย ถ้าถ่ายรูปจะได้อารมณ์สวยงามแบบสาววัยใสผิดหวังในความรัก
หลี่เซี่ยนอวี่สังเกตว่าขาย่าทวดยาว นั่งกอดเข่า มองจากด้านข้าง น่องเรียวตรง ใต้กระโปรง ผิวขาวนวล
คงเพราะถนนในเมืองเป็นซอกซอย เธอเดินไปเรื่อยๆ จนหลงทาง มองรอบตัวอย่างงุนงง โลกนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว ยุคของเธอผ่านไป 150ปี
โลกที่ใหญ่โต แต่คนที่มีสายสัมพันธ์กับเธอจริงๆ มีแค่เหลนคนปัจจุบัน คนเดียวเท่านั้น
นี่คือความเหงาที่สุด
ในใจยังโกรธ ไม่ยอมรับโทรศัพท์หลี่เซี่ยนอวี่ ได้แต่นั่งเหม่ออยู่ข้างถนน
หลี่เซี่ยนอวี่ที่เดินหาจนเหนื่อยโขก็วางใจ ย่าทวดมีวิชาที่สั่นสะเทือนฟ้าดิน แต่ถูกผนึกไว้ ก็ไม่ต่างจากหญิงสาวทั่วไป ดึกๆแบบนี้ ถ้าเจอโจรหื่น เธอไม่มีพลังต่อสู้ คงได้แค่ตะโกนสุดเสียง ช่วยด้วย!
"ย่าทวด..." หลี่เซี่ยนอวี่เดินเข้าไปใกล้ เรียกเบาๆ
ย่าทวดโกรธไม่ตอบ
หลี่เซี่ยนอวี่นั่งข้างๆ "ขอโทษครับ"
ย่าทวดหันหน้าไปอีกทาง
หลี่เซี่ยนอวี่เกาหัว งงหน่อยๆ เรื่องง้อผู้หญิงเขาชำนาญ ถึงแต่ก่อนเคยเป็นคนเจ้าชู้ แต่คำหวานที่ใช้ง้อผู้หญิงคงไม่เหมาะจะใช้กับย่าทวด
คงไม่มีเหลนคนไหนบ้าพอจะใช้คำหวานง้อย่าทวดหรอก
"แกไม่เหมือนพวกเขา"
เงียบอยู่นาน ย่าทวดพูดขึ้นมา
"ใครหรอ"
"เหลนของฉัน"
หลี่เซี่ยนอวี่ "บอกว่าไม่เหมือน จริงๆก็เหมือน เพราะเราใส่เครื่องแบบสีเขียวเหมือนกัน"
"พวกเขาไม่กล้าพูดกับฉันแบบนี้ รวมถึงพ่อแกด้วย พวกเหลนเจอฉันก็เหมือนเจอของล้ำค่า หรือไม่ก็เคารพพลัง หรือไม่ก็บูชาบรรพบุรุษ ยอมฉันทุกอย่าง คอยปรนนิบัติรับใช้" ย่าทวดพูด
"อาจเป็นเพราะผม... ไม่รู้เรื่องพลังเลย?"
ในหัวหลี่เซี่ยนอวี่นึกภาพบรรพบุรุษ คลานเหมือนลูกหมาที่เท้าย่าทวด ตะโกนว่า ย่าทวดสุดเท่ พาผมบินหน่อย!!
ย่าทวดหัวเราะอย่างราชินี...
เขาคิด นี่ไงถึงเลี้ยงจนเสียนิสัยใช้เงินมือเติบ
"ไม่แค่นั้น" ย่าทวดพูดเสียงอู้อี้
"พวกเขาไม่กล้าแอบมองนมกับก้นฉันเหมือนแกหรอก แกนี่เป็นเหลนที่ไม่กตัญญู ไม่น่ารักเลย"
หลี่เซี่ยนอวี่ตกใจ ที่แท้ที่ผมแอบมองนมกับก้นย่าทวด เธอเห็นหมดเลยเหรอ
ย่าทวดหันมา ทำตาโตด้วยความโกรธ "ฉันไม่อยู่กับแกแล้ว ฉันจะกลับเข้าลูกแก้ว รอรุ่นต่อไปของแก"
หลี่เซี่ยนอวี่กางมือพูด "แต่ย่าจะกลับเข้าลูกแก้วยังไงล่ะ"
ย่าทวด "ฉันจะให้พระหัวโล้นผนึกฉัน"
หลี่เซี่ยนอวี่ "ลองคิดดูก่อนมั้ย"
"ไม่มีอะไรต้องคิด"
"งั้นก็ได้ เรื่องผนึกค่อยว่ากัน มากินข้าวก่อน"
"ไม่กิน"
"อร่อยนะ"
"ฮึ่ย ตระกูลหลี่ของฉัน แต่ก่อนเป็นตระกูลดังก้องโลก ของดีของหายาก มีอะไรที่ฉันจะไม่เคยกิน"
"ไม่กินจริงๆเหรอ"
"ถึงฉันจะหิวตาย ตายอยู่ข้างถนน กระโดดจากตรงนี้ไปกลางถนนโดนรถชน หรือโดนผนึก ฉันก็ไม่กิน"
พูดจบ หลี่เซี่ยนอวี่ก็ได้ยินเสียง โครก คราก! ดังมาจากท้องน้อยแบนราบของย่าทวด
ย่าทวด "..."
20นาทีต่อมา ชั้นสองของร้านอาหาร ระเบียงกลางแจ้ง
สายลมยามค่ำพัดผ่าน กระทบต้นไม้ในกระถางบนระเบียง แสงไฟสว่าง
โต๊ะสองที่นั่ง หลี่เซี่ยนอวี่กับย่าทวดนั่งหันหน้าเข้าหากัน บนโต๊ะมีข้าวผัดสับปะรด ต้มข่าไก่ ปลานึ่งมะนาว แกงกะหรี่ไก่ และน้ำส้มคั้น 2แก้ว
ข้าวผัดสับปะรด สดชื่น มีรสหวานนิดๆ
ต้มข่าไก่ หอมกลมกล่อม มีรสหวานตามหลัง
ปลานึ่งมะนาว เนื้อนุ่ม ละเอียด ผสมความเปรี้ยวของมะนาว เพิ่มรสชาติ
แกงกะหรี่ไก่ เป็นของดีรสเลิศ เป็นเมนูที่หลี่เซี่ยนอวี่ต้องสั่ง
ย่าทวดที่อ้างว่า 100กว่าปีก่อน เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ กินของดีมาทุกอย่าง ก้มหน้าก้มตากินแบบตะกละ เธอยัดข้าวผัดสับปะรดจนแก้มป่อง ยังโลภอยากตักต้มข่าไก่กับแกงกะหรี่อีก
ลูกค้าโต๊ะข้างๆ เหลียวมองบ่อยๆ ตกใจกับท่ากินของสาวสวยคนนี้
"อร่อยมั้ยครับ ย่าทวด" หลี่เซี่ยนอวี่ ถามอย่างยิ้มๆ
"อร่อย อร่อย..." ย่าทวดตอบอืดๆ พยายามกลืนอาหารลงท้องอย่างยากลำบาก จนเกือบสำลัก รีบคว้าน้ำส้มคั้นมาดื่มรวดเดียว
"หอมไหมครับ?" หลี่เซี่ยนอวี่ถามล่อ
ย่าทวดตาโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว พยักหน้าหงึกๆ "หอมจริงๆ!"
ช่างเป็นย่าทวดผู้แข็งแกร่งจริงๆ
หลี่เซี่ยนอวี่ ยกมุมปากขึ้น "ย่าทวด จะโทรหาพระหัวโล้นเมื่อไหร่ครับ"
ย่าทวดหยุดชะงัก มองสำรับอาหารเต็มโต๊ะ ดวงตาเล็กๆ เหลือบมองไปมา "เอ่อ... ค่อยว่ากันวันหลังดีกว่า"
หลี่เซี่ยนอวี่รีบต่อ "งั้นไม่ต้องกลับไปในลูกแก้วก็ได้ แต่เราต้องตกลงกันสักหน่อย"
ย่าทวดมองเขา "หืม... ในเมื่อแกจริงใจขนาดนี้ ฉันก็จะลองฟังดูก็ได้"
หลี่เซี่ยนอวี่พูด "ย่าทวดก็เห็นสถานการณ์ของผมแล้ว ยากจน!! แบบตัวพิมพ์ใหญ่เลย!! ต่อไปย่าทวดเล่นเกมได้ แต่ห้ามเอาเงินไปเติมเกม ค่าใช้จ่ายต่อวัน ห้ามใช้เกิน 100หยวน"
ย่าทวดขู่ "งั้นฉันจะกลับเข้าลูกแก้ว"
หลี่เซี่ยนอวี่ "งั้นก็รีบโทรเลย"
ย่าทวดโกรธ "...เจ้าเหลนคนนี้ ช่างไม่กตัญญูเอาเสียเลย ไม่น่ารัก"
กลับเข้าลูกแก้วก็จะไม่ได้กินของอร่อยพวกนี้ ไม่ได้เล่นเกมอีก...
เธอพินิจพิจารณา มองหลี่เซี่ยนอวี่อย่างระแวดระวัง เห็นว่าเขาไม่สะทกสะท้าน จึงยื่นนิ้วก้อยขาวเนียนออกมา ใช้นิ้วหัวแม่มือจับไว้ ทำท่าวัดนิ้ว "ขอเพิ่มอีกนิดนึงนะ"
หลี่เซี่ยนอวี่ "นิดนึงคือเท่าไหร่"
ย่าทวดลองเชิง " 1,000หยวน?"
"ไม่เอา"
"งั้น 500"
"50 ไม่ให้เกินกว่านี้"
"เจ้าเหลนคนนี้ ช่างไม่กตัญญูเอาเสียเลย ไม่น่ารัก"
สุดท้ายค่าใช้จ่ายรายวันของย่าทวดถูกจำกัดที่ 150 หยวน
หลี่เซี่ยนอวี่นึกอย่างได้ใจ บรรพบุรุษช่างโง่จริงๆ แค่เด็กผู้หญิงคนเดียวยังจัดการไม่ได้
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เพลง "ฟู่กว้า" ของซือเทียนโฮ่ว
หลี่เซี่ยนอวี่มองชื่อผู้โทร เป็นศาสตราจารย์ชิน โทรตอบกลับมาเสียที
"หลี่เซี่ยนอวี่ ฉันถามแผนกการเงินแล้ว ไม่มีอะไรผิดนะ ในบัญชีมี 2แสนหยวนจริงๆ" พอรับสาย เสียงศาสตราจารย์ชินก็ดังมา
หลี่เซี่ยนอวี่เหลือบมองย่าทวดที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย ตอนนี้เธอกินปลานึ่งมะนาวหมดแล้ว กำลังจิบน้ำซุป พลางกินข้าวผัดสับปะรด
เขาช่วยเก็บเส้นผมที่ตกลงมาของย่าทวด ทัดไว้หลังหู พลางถอนหายใจ "ขอโทษครับ ผมเข้าใจผิดเอง"
ศาสตราจารย์ชิน "เรื่องการเข้าร่วมกลุ่มเป่าเจ๋อ คิดว่ายังไงบ้าง?"
หลี่เซี่ยนอวี่เงียบไป ในหัวผุดภาพทายาทปีศาจชิงชิง ที่งดงามแต่น่ากลัว และภาพซูเหว่ยที่ถูกหามออกไปในถุงเก็บศพ
แม้จะใฝ่ฝันที่จะเป็นเหมือนสไปเดอร์แมน ที่สามารถเหินเหาะได้ เจอศัตรูก็ยิงใย ปิ้วๆ ใส่ได้ แต่เขาก็กลัวอันตราย กลัวความตาย
แม้จะเพิ่งก้าวเข้าสู่โลกใหม่ได้ไม่นาน แต่เขาก็รู้ว่าโลกนั้นมีอันตรายและความวุ่นวาย การตายของจางหมิงอวี้และซูเหว่ยก็เป็นหลักฐาน
หลี่เซี่ยนอวี่ลังเลอยู่นาน จึงพูดว่า "ผมขอคิดดูอีกที"
ศาสตราจารย์ชินใจกว้าง "ไม่มีปัญหา คิดออกแล้วค่อยโทรหาฉัน"
วางสายแล้ว ย่าทวดก็กินเสร็จพอดี ดึงทิชชู่มาเช็ดมุมปากอย่างสง่างาม ดูเหมือนจะเห็นความกังวลของเขา จึงบ่นว่า "กลัวอะไร มีย่าทวดคุ้มครองอยู่ รับรองว่าแกต้องครองราชย์ในโลกทายาทแน่"
หลี่เซี่ยนอวี่หัวเราะเยาะ "เก่งกาจนัก แล้วทำไมถึงปกป้องพ่อผมไว้ไม่ได้ล่ะ?"
ย่าทวดพูดไม่ออก แค่นเสียงฮึดฮัดแล้วหันหน้าหนีไม่สนใจเขา
--------------------------------
ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ
หากพบคำผิด แจ้งได้เลย