ตอนที่ 425 จื่อเยียนเหยียนและหลินชิงถังร่วมมือกัน (ฟรี)
ตอนที่ 425 จื่อเยียนเหยียนและหลินชิงถังร่วมมือกัน
“ส่งของที่ตกลงมา เฉิงเสวียนหมิง!”
ไป๋จื่ออันปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเฉิงเสวียนหมิง เขาพูดกับเฉิงเสวียนหมิง
ผลลัพธ์ของการฝึกฝนออกมาแล้ว ไป๋จื่ออันได้ที่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย เหนือกว่าเฉิงเสวียนหมิง
แบบนี้เฉิงเสวียนหมิงก็ต้องทำตามสัญญา นำเปลวเพลิงพิเศษ เปลวเพลิงวิญญาณชางหลางออกมา
“ชิ! ครั้งหน้าฉันจะต้องเอาชนะนายให้ได้! ชิงเพลิงวิญญาณชางหลางกลับคืนมา!”
เฉิงเสวียนหมิงกัดฟัน เขาดูไม่เต็มใจ
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องนำเปลวเพลิงพิเศษ เปลวเพลิงวิญญาณชางหลางออกมา
ยังไงซะการเดิมพันระหว่างเขากับไป๋จื่ออันก็เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป
ถ้าหากเขาไม่ทำตามสัญญา ชื่อเสียงของเขาก็จะเสียหาย
เฉิงเสวียนหมิงไม่มีทางเลือก เขาก็เลยต้องนำเปลวเพลิงวิญญาณชางหลางออกมา
“ฉันจะรอนายเสมอ ถ้านายได้เปลวเพลิงพิเศษมาอีกเมื่อไหร่ ฉันก็พร้อมที่จะเดิมพันกับนาย!”
ไป๋จื่ออันยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ เขารับเปลวเพลิงวิญญาณชางหลางมากับมือ
พูดตามตรงว่าถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ไป๋จื่ออันคงจะไม่สนใจคำยั่วยุของเฉิงเสวียนหมิง
อย่างที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้ ตราบใดที่ศัตรูพ่ายแพ้ให้กับเขา พวกเขาก็จะไม่มีทางตามเขาทัน พวกเขาจะถูกเขาทิ้งห่าง
ดังนั้นตามปกติแล้ว ไป๋จื่ออันจะไม่สนใจคู่ต่อสู้ที่พ่ายแพ้ให้กับเขา
เฉิงเสวียนหมิงเองก็เหมือนกัน
เพียงแต่ว่าไม่คิดเลยว่าโชคของเฉิงเสวียนหมิงจะดีขนาดนี้ เขาได้ของดีๆ มาหลายอย่าง
เรื่องนี้ทำให้ไป๋จื่ออันประทับใจเขามากขึ้น
บางทีอีกสักพัก เฉิงเสวียนหมิงก็อาจจะได้ของดีๆ อีกก็ได้
แบบนี้ไป๋จื่ออันก็ยินดีที่จะให้โอกาสเขาในการท้าทาย
ถ้าหากเฉิงเสวียนหมิงได้ของดีๆ มา เขาสามารถใช้โอกาสนี้ช่วงชิงมันมาได้
ทำไมจะไม่ทำแบบนั้นล่ะ?
เรื่องนี้ก็ถือว่าจบลงชั่วคราว
เปลวเพลิงวิญญาณชางหลางตกไปอยู่ในมือของไป๋จื่ออันอย่างเป็นทางการ การฝึกฝนในโลกหนามโลหิตที่สถาบันจัดขึ้นก็จบลงชั่วคราว
ต่อไปก็เป็นเวลาว่าง
ถ้าหากวางแผนที่จะกลับไปโรงเรียน ก็สามารถกลับไปยังมหาวิทยาภูตเร้นลับพร้อมกับอาจารย์ได้
ถ้าหากวางแผนที่จะฝึกฝนต่อไปในโลกหนามโลหิต ทางโรงเรียนก็จะไม่ห้าม เพียงแต่ว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของตัวเอง
ไป๋จื่ออันไม่ได้พูดอะไร เขาก็ต้องอยู่ในโลกหนามโลหิตต่อไป
ยังไงซะโลกหนามโลหิตก็ยังมีค่าให้พัฒนา
ไป๋จื่ออันอยากจะลองดูว่าเขาจะได้รับผลประโยชน์อะไรอีกรึเปล่า
ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์วิญญาณอื่นๆ ของไป๋จื่ออันยังไม่ได้เริ่มฝึกฝน
ที่สำคัญที่สุดก็คือไป๋จื่ออันยังไม่เจอสัตว์วิญญาณหนามโลหิตตัวจริง
ไป๋จื่ออันอยากรู้อยากเห็นมาก เขาอยากจะรู้ว่าสัตว์วิญญาณหนามโลหิตตัวจริงนั้นเป็นยังไง
ด้วยเหตุผลมากมายเหล่านี้ ไป๋จื่ออันจึงไม่อยากจะจากไป
“ไป๋จื่ออัน นายอยากจะรวมทีมกับพวกเรารึเปล่า? พวกเราเจอสัตว์วิญญาณระดับราชาขั้นต้นที่บาดเจ็บอยู่ตัวหนึ่ง!”
“ถ้านายร่วมมือกับพวกเรา บางทีพวกเราก็อาจจะกำจัดสัตว์วิญญาณระดับราชาตัวนั้นได้!”
“ตอนนั้นพวกเราก็จะได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาล!”
ตอนนั้นเอง ใครสองคนก็เดินมาหาไป๋จื่ออัน
หนึ่งในนั้นสะพายหอกมังกรแดง ส่วนอีกคนหนึ่งถือดาบสีน้ำเงิน
พวกเธอคือจื่อเยียนเหยียนกับหลินชิงถัง
เหมือนกับไป๋จื่ออัน จื่อเยียนเหยียนกับหลินชิงถังก็วางแผนที่จะฝึกฝนต่อไป พวกเธอไม่ได้คิดที่จะกลับไปสถาบันไปง่ายๆ
แต่ไป๋จื่ออันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นทั้งสองคนมาด้วยกัน
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่จื่อเยียนเหยียนกับหลินชิงถังสนิทกัน?
แต่ถ้าหากคิดดูดีๆ แล้ว มันก็สมเหตุสมผล
ทั้งสองคนต่างก็เป็นนักรบ คนหนึ่งฝึกหอก ส่วนอีกคนหนึ่งฝึกดาบ แถมยังเป็นศิษย์ของสำนักจิตวิญญาณแห่งศิลป์
การที่พวกเธอจะร่วมมือกันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ระหว่างที่ฝึกฝน ทั้งสองคนได้พบกับสัตว์วิญญาณระดับราชาที่บาดเจ็บตัวหนึ่ง
ดังนั้นในหนึ่งอาทิตย์นี้ พวกเธอจึงแทบจะไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่นๆ พวกเธอมัวแต่สังเกตการณ์สัตว์วิญญาณระดับราชาที่บาดเจ็บ
ด้วยเหตุนี้เอง ตอนที่สรุปผลลัพธ์ อันดับของพวกเธอจึงไม่ได้สูงมาก
และตอนนี้ เพื่อที่จะกำจัดสัตว์วิญญาณระดับราชาที่บาดเจ็บตัวนั้น พวกเธอจึงคิดที่จะร่วมมือกับไป๋จื่ออัน
จริงๆ แล้วถ้าหากให้เวลาพวกเธอมากพอ พวกเธอก็สามารถกำจัดสัตว์วิญญาณระดับราชาตัวนั้นได้
แต่เมื่อผู้มีพลังระดับราชาเข้ามาในโลกหนามโลหิต พวกเธอก็มีเวลาน้อยลง
ดังนั้นพวกเธอจึงคิดถึงไป๋จื่ออัน หวังว่าจะร่วมมือกับไป๋จื่ออัน
“ผมคงไม่ไปหรอกครับ ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำ”
ไป๋จื่ออันครุ่นคิดเล็กน้อย เขาพูดขึ้นอย่างช้าๆ
ต่อไปไป๋จื่ออันยังมีหลายเรื่องที่ต้องทำ เขาไม่มีเวลามาเล่นกับพวกเธอ
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการปกป้องจากพี่น้องซี มู่ตี๋ พวกเธอก็น่าจะปลอดภัย
ดังนั้นหลังจากที่คิดดูดีๆ แล้ว ไป๋จื่ออันก็ปฏิเสธ
เว้นแต่ว่าหลังจากที่เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พวกเธอยังไม่สามารถกำจัดสัตว์วิญญาณระดับราชาตัวนั้นได้
ตอนนั้นไป๋จื่ออันก็อาจจะช่วยพวกเธอ
จื่อเยียนเหยียนกับหลินชิงถังรู้สึกช่วยไม่ได้
แต่ในเมื่อไป๋จื่ออันปฏิเสธแล้ว พวกเธอก็จะไม่พูดอะไรมาก
“ต่อไปก็ถึงเวลาที่ฉันต้องลงมือแล้ว!”
หลังจากที่มองจื่อเยียนเหยียนกับหลินชิงถังจากไปแล้ว ไป๋จื่ออันก็รู้สึกตัว เขาเตรียมที่จะเริ่มลงมือ
ไป๋จื่ออันเคลื่อนไหว เขาก็ออกจากจุดรวมพลโดยตรง
ครู่ต่อมา เมื่อไป๋จื่ออันปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็มาถึงเทือกเขาแห่งหนึ่ง
หลังจากที่ใช้ความสามารถตรวจจับของ [เนตรหยั่งรู้] ยืนยันว่าไม่มีใครตามมาแล้ว ไป๋จื่ออันก็เริ่มลงมือ
ไป๋จื่ออันเรียกสุริยะอีกาสีทองออกมา
จากนั้นไป๋จื่ออันก็นำเปลวเพลิงวิญญาณชางหลางที่เพิ่งจะได้มาออกมา ป้อนมันให้กับสุริยะอีกาสีทองโดยตรง
“หวีด!”
สุริยะอีกาสีทองร้องออกมาด้วยความดีใจ
ด้วยประสบการณ์ก่อนหน้านี้ มันรู้ดีว่าเปลวเพลิงพิเศษนี้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อมัน
เมื่อคิดได้แบบนั้น สุริยะอีกาสีทองก็ใช้พรสวรรค์ [เพลิงอีกาสีทอง] เริ่มดูดซับ
ไม่นานเปลวเพลิงพิเศษ เปลวเพลิงวิญญาณชางหลางก็ถูกสุริยะอีกาสีทองดูดซับจนหมด
[เผ่าพันธุ์] : สุริยะอีกาสีทอง (ไฟ หยาง)
[...] : ...
[ทักษะ] : ... เพลิงอีกาสีทอง (ส้ม・ขั้นเทพเจ้า)
“ความเชี่ยวชาญทักษะพรสวรรค์เพลิงอีกาสีทองได้รับการพัฒนาเป็นขั้นเทพเจ้าแล้ว!”
“เยี่ยม แบบนี้พรสวรรค์ [เพลิงอีกาสีทอง] ก็จะห่างจากการวิวัฒนาการแค่ก้าวเดียว!”
ดวงตาของไป๋จื่ออันเต็มไปด้วยความดีใจที่ไม่อาจจะปกปิดได้