ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 186 เชือดไก่ให้ลิงดู
ฟาร์มขั้นเทพกับประตูมิติตามใจนึก ตอนที่ 186 เชือดไก่ให้ลิงดู
“ข่าวพวกนี้ เธอได้มาจากที่ไหน” หงอี้เอ่ยถามด้วยความสงสัย เขาคิดว่าเปิ่นซีรู้ข่าวสารมากมาย แต่บางเรื่องเธอก็ไม่ค่อยแน่ใจ
“การปรากฏตัวของสมาคมนักล่า ข่าวสารมาจากตระกูล!”
“สถานการณ์บนดาวดวงนี้ค่อนข้างตึงเครียด ตระกูลจึงให้ฉันถอนตัว กลับไป ยกเลิกการลงทุนที่นี่” เปิ่นซีกล่าวอย่างเชื่องช้า
“เธอจะเลือกอย่างไร” หงอี้ถาม
“ฉันเชื่อใจนาย ดังนั้นฉันจะไม่กลับไป” เปิ่นซีกล่าวอย่างมั่นใจ
“อีกอย่าง พวกเราได้ให้ซูหลินพัฒนาพื้นที่ฟาร์มของตัวเองอย่างปลอดภัยแล้ว ช่วงนี้ไม่ให้เธอออกมา”
“สมาคมนักล่า มักจะใช้วิธีการที่โหดเหี้ยม ไม่มีวิธีการใดที่พวกเขาทำไม่ได้” เปิ่นซีเสริม
“ขอบใจ” หงอี้ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าก็เคร่งขรึมลงเล็กน้อย
สำหรับการไล่ล่าที่มุ่งเป้ามาที่เขา เขาไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าสมาคมนักล่าจะสามารถขัดขวางไม่ให้เขาเข้าไปในพื้นที่ฟาร์มได้ พวกเขาก็ไม่สามารถขัดขวางระบบส่งเขาไปยังที่อื่นได้
เขาก็แค่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเท่านั้น
การถูกคนอื่นมองว่าเป็นเหยื่อ เป็นเรื่องที่น่ารำคาญ
แต่ หงอี้ก็ไม่สามารถลงมือสังหารพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมีมิติแห่งความว่างเปล่า การที่จะสังหารพวกเขาทั้งหมดนั้นยากมาก
ถ้าเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว หงอี้มั่นใจว่าสามารถสังหารพวกเขาได้ในครั้งเดียว
ยันต์แท้คมดาบสวรรค์ พลังความเป็นตาย ถ้ำสวรรค์ดวงดาว หงอี้มั่นใจว่าสามารถใช้ความสามารถทั้งสามนี้สังหารพวกเขาได้ ก่อนที่พวกเขาจะหลบเข้าไปในมิติ
แต่ พวกเขามีจำนวนมาก
“นายกำลังคิดอะไรอยู่” เปิ่นซีถามด้วยความอยากรู้อย่างมาก
“แน่นอนว่าต้องเป็นฝ่ายลงมือก่อน”
“การตั้งรับ ไม่ใช่สไตล์ของฉัน!”
หงอี้กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา
“หลายคนกำลังรอให้นายลงมือ”
“พวกเขาอยากรู้ว่าพลังยุทธ์และความสามารถของนายเป็นอย่างไร”
“พวกเขารู้ว่านายได้รับรางวัลมากมาย แต่พวกเขาไม่รู้ว่าพลังยุทธ์และความสามารถในการต่อสู้จริง ๆ ของนายเป็นอย่างไร” เปิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พวกเขาจะได้เห็นเอง!”
“ถึงแม้พวกเขาจะรู้ความสามารถของฉัน แล้วมันจะทำไม!”
“ฉันไม่ใช่สมาคมนักล่า การสังหารคนอื่น ไม่จำเป็นต้องไล่ล่า” หงอี้กล่าวอย่างใจเย็น
“พลังของเธอเพิ่มขึ้นมากเลยนะ!”
สัมผัสได้ถึงปราณของเปิ่นซี หงอี้ถามด้วยความตกใจ
ร่างกายของเธอ มีพลังเทียบเท่าพลังมังกรหกตัวแล้ว
ครั้งที่แล้ว เธอยังมีแค่พลังมังกรสี่ตัวเท่านั้น
“ต้องขอบคุณนายเลย ฉันทำภารกิจของโรงประมูลสำเร็จ ได้รับรางวัลมากมาย บวกกับทรัพยากรที่ตระกูลเตรียมไว้ให้ การบำเพ็ญเพียรของฉันจึงราบรื่นและรวดเร็วมาก” เปิ่นซียิ้ม
“แต่ เมื่อเทียบกับนายแล้ว ก็ยังคงห่างไกลกันมาก...”
สุดท้าย เปิ่นซีก็เสริม
“ฉันก็แค่โชคดีเท่านั้นเอง” หงอี้ยิ้ม
“จริงสิ หวู่เสิ่นกับห่าวฉีอยู่ที่ไหน?”
หงอี้ถาม เปลี่ยนเรื่อง
“ช่วงก่อนหน้านี้ ซูหลินนำตัวอย่างตำนานเทพนิยายกลับมา คาดว่าตอนนี้พวกเขากำลังศึกษาวิจัยอยู่” เปิ่นซียิ้ม
“ฮ่า ๆ... พี่ใหญ่อี้ ฉันมาแล้ว!”
ลำแสงเคลื่อนย้ายปรากฏขึ้น พร้อมกับเสียงหัวเราะที่สดใสของหวู่เสิ่น
จากนั้น ร่างที่สูงใหญ่และแข็งแกร่งของหวู่เสิ่นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหงอี้
“ที่แท้ พี่ชายอี้ก็คิดถึงพวกเรา...”
เสียงของห่าวฉีก็ดังขึ้น พร้อมกับความสุภาพ
“คิดถึงพวกนายก็ไม่เชิง ฉันคิดว่าพวกนายคงจะถูกสมาคมนักล่าขู่จนหนีไปแล้ว...” หงอี้ยิ้ม
เขารู้สึกว่าหวู่เสิ่นและห่าวฉีก็แข็งแกร่งขึ้นมาก
ดูเหมือนว่า พวกเขาก็พัฒนาพื้นที่ฟาร์มของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
“หนีไป?”
“เป็นไปได้ยังไง ฉันมีพี่ชายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ สมาคมนักล่ากระจอกงอกง่อยแล้วจะทำไม!” หวู่เสิ่นหัวเราะ แต่ดวงตาที่ร้อนแรงจ้องมองหงอี้ ทำให้หงอี้รู้สึกขนลุก
“แข็งแกร่งจริง ๆ!”
“ไม่นาน ฉันก็จะมีนักสู้อวกาศเป็นเพื่อน!” ห่าวฉีพยักหน้าเห็นด้วย
“นักสู้อวกาศ?”
“ฉันต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้ก่อน!”
หงอี้ยิ้มจาง ๆ
“พี่ใหญ่อี้ตั้งใจจะจัดการพวกเขาหรือ?” หวู่เสิ่นมองหงอี้ด้วยความคาดหวัง
“นายจะช่วยหรือ?” หงอี้ถาม
“แน่นอน!”
“ฉันจะคอยเชียร์นาย!” หวู่เสิ่นยิ้ม
“และจะคอยดูว่าจะเรียนรู้วิชาอะไรได้บ้าง!”
“ช่างไร้อนาคต นายไม่คู่ควรกับชื่อหวู่เสิ่น...” หงอี้พูดอย่างจนใจ
“เวรเอ๊ย พี่ใหญ่ นายพูดแบบนี้ได้ยังไง”
“สมาคมนักล่าขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม แม้แต่นักสู้อวกาศก็ยังกล้าสังหาร นายอย่าลืมฉันสิ...” หวู่เสิ่นส่ายหัว
“สังหารนักสู้อวกาศ?”
“โอหังขนาดนั้นเลยเหรอ?” หงอี้ตกใจอย่างมาก
“ก็มีข่าวลือแบบนั้นแหละ จริงหรือไม่จริงพวกเราก็ไม่รู้ ด้วยพลังและฐานะของพวกเรา ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะติดต่อกับพวกเขา” ห่าวฉีพยักหน้า
“รู้ไหมว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน?” หงอี้หรี่ตาลงเล็กน้อย ถามอย่างใจเย็น
อยากจะจัดการเขาเหรอ?
เขาต้องลงมือก่อน
“เมื่อสองวันก่อน พวกเรายังสามารถตรวจจับยานอวกาศของพวกเขาที่อยู่นอกชั้นบรรยากาศได้!”
“แต่ตอนนี้ หาไม่เจอแล้ว คาดว่าพวกเขาคงจะซ่อนตัว”
“ด้วยการปกป้องของพลังงานแห่งความว่างเปล่า ยานอวกาศของพวกเราจึงตรวจจับพวกเขาได้ยาก...” ห่าวฉีส่ายหัว
นอกชั้นบรรยากาศ!
ดวงตาของหงอี้เป็นประกาย
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ การก้าวออกไปนอกชั้นบรรยากาศไม่ใช่เรื่องยาก
“ศัตรูอยู่ในที่มืด ฉันอยู่ในที่สว่าง แบบนี้มันไม่สนุก!”
หงอี้ส่ายหัวอย่างจนใจ
“แล้วทหารกล้าตายล่ะ?”
หงอี้ถาม
ถ้าสังหารสมาคมนักล่าไม่ได้ ก็สังหารทหารกล้าตายพวกนั้นก็แล้วกัน
“นายจะลงมือ?”
เปิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไม่ใช่ว่ามีคนกำลังรอดูอยู่เหรอ?”
“งั้นก็เชือดไก่ให้ลิงดูก็แล้วกัน”
หงอี้กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา
“เห็นยานอวกาศที่ล้อมรอบจิ่วโจวไหม”
“บนยานอวกาศเหล่านั้น มีทหารกล้าตายอยู่!” ห่าวฉีชี้นิ้วไปรอบ ๆ กล่าวอย่างเชื่องช้า
“มีอยู่ทั้งหมด?”
“หมายความว่ายังไง?”
“หมายความว่า พวกเขาแฝงตัวอยู่ในคาราวานการค้า?” หงอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ทหารกล้าตาย มักจะซ่อนตัวอยู่!”
“ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นทหารกล้าตาย มีเพียงตอนที่พวกเขาลงมือเท่านั้น ถึงจะแสดงเจตจำนงที่แท้จริงออกมา” ห่าวฉีกล่าวอย่างจนใจ
“แล้วพวกเธอรู้ได้ยังไงว่าทหารกล้าตายมาถึงแล้ว?” หงอี้ยิ่งสงสัยมากขึ้น
“ข่าวกรอง!”
“ข่าวสารมาจากหอคอยสวรรค์เร้นลับในฟาร์มจักรวาล ข่าวสารของพวกเขาไม่เคยผิดพลาด!” เปิ่นซีกล่าวอย่างเชื่องช้า
“เพื่อที่จะได้ข่าวสารนี้มา ฉันต้องใช้เหรียญคริสตัลไปไม่น้อย!”
“ขอบใจ ข่าวสารน่าเชื่อถือก็ดีแล้ว!”
“ฉันไม่อยากทำร้ายผู้บริสุทธิ์!” หงอี้ยิ้มจาง ๆ จากนั้นก็ลอยขึ้นฟ้า มุ่งหน้าไปยังยานอวกาศเหล่านั้น
