ตอนที่แล้วบทที่ 7 เหตุการณ์การตายของหนุ่มหล่อประจำโรงเรียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 ฉันยอมรับสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้

บทที่ 8 วิ่งให้เร็ว


บทที่ 8 วิ่งให้เร็ว

การนินทาไม่ใช่งานอดิเรกของผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็ชอบเหมือนกัน ระหว่างที่หยางกวงไท่เดินกลับหอพักพร้อมหนังสือในมือ เขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานอย่างละเอียด

จางหมิงอวี้ เป็นหนุ่มหล่อรวยที่มีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยการเงิน ทั้งรวย เรียนดี หน้าตาดี เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ

เมื่อเทียบกับจางหมิงอวี้ที่ครอบครัวมีบริษัทหลายแห่ง บ้านของหลี่เซี่ยนอวี่ก็ไม่มีอะไรจะอวดได้เลย

จางหมิงอวี้เปลี่ยนแฟนบ่อย ทำให้ชื่อเสียงไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์และความนิยมของเขาลดลง โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่ปากบอกว่า

"มีเงินแล้วไง ชอบเปลี่ยนแฟนบ่อย ผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้น ฉันไม่สนใจหรอก"

แต่ความจริงถ้าจางหมิงอวี้จีบ พวกเธอ 9ใน10 ก็หนีไม่พ้นกรงเล็บเสือหรอก

ฮึ ผู้หญิง!

แต่ลูกเศรษฐีที่มีอนาคตไกลขนาดนี้ ก็ต้องมาตายซะแล้ว

เช้าเมื่อวานตอน 7โมง ศพของจางหมิงอวี้ถูกพบที่สวนดอกไม้หลังห้องสมุด เปลือยกายทั้งตัว ไม่มีคราบเลือด ตายอย่างสงบราวกับหลับไป

คนที่พบศพคนแรกคือบรรณารักษ์ เพราะห้องสมุดเปิดตอน 7โมงเช้า

ตอนที่บรรณารักษ์พบเขา ร่างก็เย็นและแข็งตัวแล้ว

ตำรวจรีบมาถึงที่เกิดเหตุ หลังจากตรวจสถานที่ก็นำศพออกไป แถบกั้นที่เกิดเหตุเพิ่งจะเก็บเมื่อคืนวาน

ตอนกลางคืนทางมหาวิทยาลัยออกประกาศว่า จางหมิงอวี้เสียชีวิตกะทันหันที่สวนดอกไม้ ไม่ได้บอกสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักศึกษาทุกคนก็รู้กันดี ลูกเศรษฐีที่ชีวิตส่วนตัวไม่เรียบร้อย มาตายสภาพเปลือยกายในสวนดอกไม้ตอนเช้าตรู่ จะมีสาเหตุอื่นได้อีกหรอ

"จากเรื่องนี้จะเห็นว่า ไม่ใช่แค่...ปล่อยตัวมากเกินไปก็ตายได้ คนโสดกลับมามีชัยซะที" หยางกวงไท่พูดอย่างสะท้อนใจ

"......" หลี่เซี่ยนอวี่

บ้าชิบ โสดมีชัยบ้าอะไร

"แล้วตัวเอกฝ่ายหญิงเป็นใคร สืบได้มั้ย"

"ไม่รู้ ตำรวจสอบถามแฟนของจางหมิงอวี้แล้ว แต่ไม่ใช่เธอ เพื่อนร่วมห้องยืนยันได้" หยางกวงไท่พูดด้วยน้ำเสียงอิจฉา

"เรื่องนี้สืบยากนะ ได้ยินว่ามีผู้หญิงในมหาวิทยาลัยหลายคน ที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาเกินกว่าเพื่อนร่วมชั้น"

"ผู้ปกครองไม่มาเรียกร้องที่มหาวิทยาลัยเหรอ"

"จะเรียกร้องอะไร นิติเวชบอกว่า ตายกะทันหัน ทางมหาวิทยาลัยบอกว่าไม่เกี่ยว แล้วถึงจะเกี่ยวก็ต้องปัดความรับผิดชอบอยู่ดี มหาวิทยาลัยไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่หรอก โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยการเงินของเรา" หยางกวงไท่พูด

"คนดีๆ ทำไมถึงต้องจากไปด้วย" หลี่เซี่ยนอวี่พูดอย่างสะท้อนใจ ระหว่างทางกลับหอต้องผ่านห้องสมุดพอดี จู่ๆ หลี่เซี่ยนอวี่ก็มีความคิดกล้าๆกลัว

ย่าทวดเคยบอกว่า ชีวิตหลังความตาย วิญญาณจะคงอยู่บนโลกไปอีก 7วัน เขาเพิ่งเปิดตาทิพย์ จะเห็นวิญญาณของจางหมิงอวี้ได้มั้ยนะ

หลายวันมานี้เขาไม่เคยเห็นวิญญาณอีกเลย หนึ่งคือแถวนี้ไม่มีคนตาย สองคือวิญญาณร้ายก็ไม่ได้เพ่นพ่านไปทั่ว

เปิดตาทิพย์มา ก็เหมือนไม่ได้เปิด

คนธรรมดาที่ได้พลังวิเศษในตำนานก็เป็นแบบนี้แหละ ถึงจะอันตราย ก็อดใจไม่ได้ที่จะลองดู

เขาจึงลากหยางกวงไท่ตรงไปที่สวนดอกไม้หลังห้องสมุด ที่นี่ไม่ต่างจากปกติเท่าไหร่ แสงแดดส่องให้พืชเขียวชอุ่มเป็นประกาย หลี่เซี่ยนอวี่เพ่งสายตาอย่างแรง สำรวจทุกซอกทุกมุมของสวนดอกไม้อย่างละเอียด แต่ไม่เห็นเงาน่าขนลุกใดๆ

อาจจะต้องรีสตาร์ทตาใหม่!

เขากะพริบตาแรงๆ

"นายกะพริบตาถี่ๆ ทำไม"

หยางกวงไท่ไม่สนใจจะมาสมทบความวุ่นวายตรงนี้

"รีบกลับเอาหนังสือไปเก็บ แล้วกลับหอไปเล่นเกมกันเถอะ"

หลี่เซี่ยนอวี่ไม่สนใจเขา นึกขึ้นได้ว่าย่าทวดเคยพูดไว้ เรื่องผีเรื่องวิญญาณ อย่าพูดพล่อย การคิดถึงไม่เลิก ต้องมีการตอบสนอง

"จางหมิงอวี้ จางหมิงอวี้ จางหมิงอวี้..." เขาพึมพำ สายตากวาดมองทั่วสวนดอกไม้อย่างตั้งใจ หวังว่าจะเห็นวิญญาณของจางหมิงอวี้

ก็ยังไม่เห็น...

แปลกนะ คนเพิ่งตาย วิญญาณจะลอยไปไหนได้

กลับบ้านแล้วหรอ

หยางกวงไท่งุนงง แถมรีบอยากกลับไปเล่นเกม เร่งเร้าอยู่หลายรอบ

จนหลี่เซี่ยนอวี่ต้องยอมไป นัดแล้วไม่มา เลยเวลาเที่ยงคืน ก็ต้องกลับไปเล่นเกมแทน

หอพักชายของมหาวิทยาลัยการเงิน มีสภาพดี มีห้องน้ำส่วนตัว มีแอร์ ปลายทางเดินแต่ละชั้นยังมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

หลี่เซี่ยนอวี่ที่ยังไม่ยอมแพ้แอบโทรหาย่าทวดในห้องน้ำ

"มีอะไร"

อีกฝั่งของโทรศัพท์รับสายเร็ว มีเสียงไพเราะของย่าทวด พร้อมเสียงกดแป้นพิมพ์และคลิกเมาส์ดังเป็นจังหวะ

"ย่าทวด มีคนตายที่มหาวิทยาลัยผม" หลี่เซี่ยนอวี่พูดเสียงเบา

"อ้อ แล้วไง"

"แต่ผมมองไม่เห็นวิญญาณ ตาทิพย์ที่ย่าทวดเปิดให้เป็นแบบใช้ครั้งเดียวเหรอ"

"แน่นอนว่าไม่ใช่ จะมีตาทิพย์แบบใช้ครั้งเดียวที่ด้อยคุณภาพขนาดนั้นได้ยังไง" ย่าทวดคิดสักครู่

"เพิ่งตายเหรอ"

"ตายเมื่อวาน"

"ตายยังไง"

"ตายใต้ต้นโบตั๋น เป็นผีก็ยังหล่อ"

"อ้อ คนแบบนี้ตายแล้วก็ไม่ได้ดุร้าย ส่วนใหญ่คงเวียนวนอยู่แถวหอพักหญิง ไม่เห็นก็ช่างมันเถอะ เลิกยุ่งกับสถานที่ ที่มีคนตายซะ วิญญาณเป็นสิ่งอัปมงคลสุดขีด แกมีแค่ตาทิพย์ ไม่มีวิธีรับมือกับวิญญาณเลยสักอย่าง ถ้าเกิดเจอผีร้าย แกคงตายโดยไม่รู้ตัวเลย" ย่าทวดเตือนแล้วพูดต่อ

"หลังเลิกเรียน เอานมเปรี้ยวมาให้ย่าขวดนึงด้วย"

"ได้ครับย่าทวด"

"หลานชายน่ารักจริงๆ ช่างกตัญญู"

ย่าทวดหัวเราะ "งั้นเย็นนี้กินสเต๊กกันนะ"

"ไม่มีปัญหาครับย่าทวด"

"วางแล้วนะ อย่ามารบกวนย่าเล่นเกม"

เฮ้อ ถามเรื่องจริงจังแต่ไม่ได้คำตอบ ยังโดนใช้ไปซื้อนมเปรี้ยวอีกตั้ง 10ขวด

ห้องนอนก็ยังเหมือนเดิม รก แต่ไม่สกปรก ข้าวของวางไม่เป็นระเบียบ ตำรา เสื้อผ้า แก้วน้ำชา คอมพิวเตอร์วางระเกะระกะ เป็นสภาพห้องที่ทำให้คนเป็นโรคจิต ย้ำคิดย้ำทำเป็นบ้าได้

ใน 4คน คนหนึ่งไปเล่นบาสที่สนาม อีกคนไปเดทกับแฟนยังไม่กลับ เหลือแค่ 2คน หมาหัวใจโสดกับคุณชายโสด นั่งเล่นเกมอยู่ด้วยกัน

อาการข้างเคียงจากการสูญเสีย "พลัง" ยังไม่หายไป สมองมึนๆ สติช้ากว่าคนอื่นหนึ่งจังหวะ การควบคุมก็ตามไม่ทัน นั่งได้ครึ่งชั่วโมง หลี่เซี่ยนอวี่รู้สึกว่าไตทั้ง 2ข้าง เริ่มปวดๆ

กินยาแคปซูล "ชื่อเท่เกินกว่าจะพิมพ์ออกมา" ไปเม็ดหนึ่ง หลี่เซี่ยนอวี่บอกว่าไม่เล่นแล้วๆ จะเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำในหอไม่ได้รวมกับห้องอาบน้ำ เป็นแค่ห้องส้วมธรรมดา ถ้าอยากอาบน้ำต้องไปห้องอาบน้ำรวมที่กลางทางเดิน

นั่งบนชักโครก หลี่เซี่ยนอวี่คิดถึงเรื่องที่ตัวเองเพิ่งเปิดตาทิพย์ แต่กลับไม่เห็นจางหมิงอวี้ รู้สึกผิดหวังในใจ ความตื่นเต้นและกระตือรือร้นจากการได้พลังพิเศษครั้งแรก ถึงขั้นกลบความกลัวผีไปเลย

อยากเห็นผีอีกจัง

"เป็นความรู้สึกหลอนรึเปล่า ทำไมจู่ๆ รู้สึกหนาวจัง" หลี่เซี่ยนอวี่ที่นั่งอยู่บนชักโครกสะดุ้งทั้งตัวโดยไม่มีสาเหตุ แขนลุกเป็นขนไก่

อุณหภูมิในห้องน้ำลดลง 10กว่าองศาโดยไม่มีสัญญาณเตือน พร้อมกันนั้น ดวงตาทั้ง 2ข้าง ของเขาก็ร้อนวูบ ราวกับมีเปลวไฟลุกในดวงตา

ตอนนั้นเอง มีเสียงฟองอากาศดัง ปุดๆ จากด้านล่าง เขาก้มลงมองด้วยความสงสัย พอเห็นภาพ หลี่เซี่ยนอวี่ก็... ราวกับมีดาบฟันลงมาจากกระหม่อม ขนหัวลุกซู่

ในชักโครก มีใบหน้าซีดขาวลอยขึ้นมา ดวงตาว่างเปล่า พอดีสบตากับหลี่เซี่ยนอวี่ที่ก้มลงมา

สบตากัน อากาศราวกับหยุดนิ่ง

หลี่เซี่ยนอวี่: Σ(っ°Д°;)っ

หลี่เซี่ยนอวี่กรีดร้อง กระโดดสูง 3ฟุต ตกใจเหมือนกระต่ายน้อยถอยไปที่ประตูห้องน้ำ สายตาจ้องที่ชักโครกไม่วางตา มือสั่นระริกดึงกางเกง เขารีบร้อน แต่แขนสั่นมาก ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะดึงขึ้นได้

"เป็นอะไร" หยางกวงไท่เคาะประตู แล้วผลักเข้ามา

หลี่เซี่ยนอวี่พิงผนัง หลบอยู่หลังประตู จ้องมองชักโครก เหงื่อเย็นผุดที่หน้าผาก

หยางกวงไท่มองตามสายตาเขา ไม่เห็นอะไร ถามอย่างสงสัย "ร้องอะไรของนาย ทำเอาฉันตกใจ"

เขามองไม่เห็น ศีรษะค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากชักโครก เผยให้เห็นใบหน้าไร้ชีวิตครึ่งหน้า จ้องมองเขากับหลี่เซี่ยนอวี่ตาไม่กะพริบ

แล้วมันก็ปีนออกมา

จางหมิงอวี้!

หลี่เซี่ยนอวี่ค่อยๆสั่นด้วยความหนาว ผลักหยางกวงไท่ "นายออกไปก่อน ฉันยังเข้าห้องน้ำไม่เสร็จ..."

การคิดถึงไม่เลิก ต้องมีการตอบสนอง!!

จางหมิงอวี้มาหาเขา ก็ไม่ควรให้หยางกวงไท่มาพัวพัน

ย่าทวดบอกว่า ถ้าคนไม่ได้ตายแบบอาถรรพณ์ การอาฆาตก็ไม่แรง จะไม่กลายเป็นวิญญาณอาฆาต ถ้าไม่ใช่วิญญาณอาฆาต ก็ไม่มีความก้าวร้าวมากนัก

ถ้ามีความก้าวร้าว หลี่เซี่ยนอวี่ก็ไม่กลัว อ้าปากก็จะให้กระบวนท่าต่อสู้ 12ท่า รัวๆ ถ้าไม่ได้ผล ก็วิ่งกลับบ้านไปให้บรรพบุรุษช่วย

ผลักคนออกไป ปิดประตู หลี่เซี่ยนอวี่กลืนน้ำลาย พยายามทักทาย "เฮ้ เพื่อนร่วมมหาลัย"

ขาทั้ง 2ข้าง สั่นนิดๆ อารมณ์ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น เหมือนตอนดูหนังผี แค่ครั้งนี้เพิ่มความรู้สึกขึ้น 10เท่า

จางหมิงอวี้หน้าตาเหมือนคนตาย สายตาว่างเปล่า ค่อยๆ ลอยมาหน้าหลี่เซี่ยนอวี่

"วิ่ง รีบวิ่ง..."

--------------------------------

ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ

หากพบคำผิด แจ้งได้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด