บทที่ 61 คุณสมบัติ
เมื่อเสียงนุ่มดังขึ้น บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดรอบข้างกลับยิ่งหนักอึ้งมากขึ้น ความกดดันเริ่มแผ่กระจายจนแทบหายใจไม่ออก
ภายใต้การจับตามองของเหล่าคนในชุดคลุมสีดำ บรรดาศิษย์ฝึกหัดรอบข้างค่อย ๆ เดินไปข้างหน้าและเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ
ใบหน้าของพวกเขาแสดงถึงความกังวลใจ นอกจากไม่กี่คนแล้ว ส่วนใหญ่ต่างมีสีหน้าที่ตึงเครียดและหัวใจเต็มไปด้วยความกังวลและไม่สบายใจ
"มานี่สิ" เสียงของอาเรยอนดังขึ้นขณะที่เขามองดูแถวของเหล่าศิษย์ฝึกหัด
ที่หน้าสุดของแถว เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ดูเหมือนเพิ่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
"วางมือของเจ้าไว้บนคริสตัลนี้" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง
อาเรยอนมองไปยังศิษย์ฝึกหัดที่ยืนอยู่ด้านหน้าและทำท่าทางให้เขาทำตาม
เมื่อได้ยินคำแนะนำของอาเรยอน เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลรีบวางมือลงบนลูกแก้วคริสตัลที่อยู่ตรงหน้าเขาทันที
"หลับตาลงและพยายามสัมผัสมันอย่างระมัดระวัง..." เสียงที่แฝงไปด้วยความลึกลับดังขึ้นผ่านเข้าหูของเด็กฝึกหัด พร้อมกับน้ำเสียงที่แฝงความชี้นำอย่างเข้มข้น
ภายใต้สายตาของผู้คนรอบข้าง ใบหน้าของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ดูตึงเครียดค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เขาหลับตาลงอย่างช้า ๆ ราวกับกำลังสวดบางอย่างอยู่ในใจ
เมื่อเวลาผ่านไป ลูกแก้วคริสตัลสีดำตรงหน้าของเขาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
แสงอ่อนบางเริ่มปรากฏขึ้นภายในลูกแก้วคริสตัลที่มืดสนิท แม้แสงนั้นจะดูอ่อนแอ ราวกับเปลวเทียนที่สามารถดับลงได้ทุกเมื่อ แต่ก็ยังคงมีอยู่จริง และมองเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านลูกแก้วคริสตัลสีดำ
"คุณสมบัติระดับหนึ่ง..." อาเรยอนเอ่ยขึ้นเบา ๆ เมื่อสังเกตคุณสมบัติ เสียงของเขาเจือด้วยความผิดหวังที่เห็นได้ชัด
"ถอยไปได้แล้ว"
หลังจากผ่านไปสักครู่ เมื่อเห็นว่าศิษย์ฝึกหัดตรงหน้าไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ อาเรยอนจึงโบกมือ และทันใดนั้น ชายในชุดคลุมสีดำสองคนก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและลากตัวศิษย์ฝึกหัดออกไปทางด้านข้าง
เสียงร่างกระแทกพื้นดังขึ้นอย่างรุนแรงในทันที
ใบหน้าของอาเรยอนไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ เขาเพียงกล่าวว่า "คนต่อไป"
เมื่อได้ยินเสียงของเขา ศิษย์ฝึกหัดที่ยืนอยู่ข้างหลังรีบเดินออกมาอย่างรวดเร็วและเริ่มการทดสอบเหมือนกับคนก่อนหน้า
ในขณะที่เหล่าศิษย์ฝึกหัดคนอื่น ๆ กำลังเข้ารับการทดสอบ อาเดียร์มองออกไปยังระยะไกล
ระหว่างที่การทดสอบคุณสมบัติเริ่มขึ้น สมาชิกจากตระกูลพ่อมดก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาจากระยะไกล พวกเขาดูเร่งรีบและเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ราวกับว่าพวกเขากำลังตึงเครียดพอ ๆ กับเหล่าศิษย์ฝึกหัดเลย
ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น อาเดียร์ยังเห็นซิดรูและวารา ที่ในตอนนี้ต่างกำลังมองเขาด้วยความกระวนกระวาย ขณะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความกังวลใจ
เมื่อมองดูเหตุการณ์นี้ อาเดียร์ก็ถอนหายใจในใจ
ก่อนที่จะมาถึงที่นี่ ดยุคอาเรียลได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพ่อมดแก่เขามากมาย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของคุณสมบัติการเป็นพ่อมด
สิ่งที่เรียกว่า "คุณสมบัติการเป็นพ่อมด" นั้นหมายถึงพรสวรรค์โดยกำเนิดของพ่อมด ซึ่งสามารถส่งผลต่อความสำเร็จในอนาคตของพ่อมดได้อย่างมาก ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อาเดียร์ก็เงยหน้ามองไปข้างหน้า
ในขณะนี้ ผู้ที่กำลังเข้ารับการทดสอบคือเจ้าชายผมทองจากอาณาจักรแห่งหนึ่ง แอนดรูว์
เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เขากลับดูมั่นใจในตัวเองอย่างมาก ไม่เพียงแต่สีหน้าของเขาจะไม่เคร่งขรึมหรือวิตกกังวล แต่ยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าผลการทดสอบจะออกมาเป็นอย่างไร
แน่นอนว่า พิจารณาด้วยครอบครัวและสถานะภูมิหลังของเขา เป็นไปได้มากว่าครอบครัวของเขาได้ทำการทดสอบในเบื้องต้นไปก่อนแล้ว
ภายใต้สายตาของทุกคน ลูกแก้วคริสตัลสีดำเริ่มเปล่งแสงสว่างจ้า ซึ่งสว่างกว่าผลการทดสอบของคนก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นผลลัพธ์เช่นนี้ คนจากตระกูลของแอนดรูว์ต่างก็ถอนหายใจโล่งอกในใจ
ในฐานะครอบครัวผู้ทรงอำนาจที่ปกครองดัชชี พวกเขาย่อมมีวิธีการในการทดสอบคุณสมบัติการเป็นพ่อมดของบุคคล แต่แม้ว่าจะสามารถคาดการณ์ผลได้คร่าว ๆ เเต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้
เมื่อเห็นผลการทดสอบเช่นนี้ พวกเขาก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก และต่างตื่นเต้นยินดี
"ไม่เลว คุณสมบัติชั้นที่สาม"
ในระยะไกล อาเรยอนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลังจากสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์ เขามองไปที่แอนดรูว์ด้วยสายตาชื่นชม "ไปยืนด้านหลังข้า"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แอนดรูว์ยิ้มอย่างมั่นใจและเดินไปข้างหน้า ท่าทางดูภาคภูมิใจอย่างมาก
เขามีคุณสมบัติที่คู่ควรจะภาคภูมิใจจริง ๆ
คุณสมบัติการเป็นพ่อมดเป็นมาตรฐานที่สำคัญอย่างยิ่ง และในแต่ละระดับก็จะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันไป คุณสมบัติชั้นที่สามนับว่าเป็นสิ่งที่โดดเด่นมาก และตราบใดที่มีความพยายาม แม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ก็ยังมีโอกาสถึง 10% ที่จะได้เป็นพ่อมดที่เเท้จริง
เมื่อเปรียบเทียบกับโอกาสเล็กน้อยที่คนอื่นจะได้เป็นพ่อมดที่เเท้จริง ตัวเลขนี้ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว และสามารถเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ
ในระยะไกล หลังจากได้ยินข่าวนี้ เสียงอุทานเบา ๆ ก็ดังขึ้น
สายตาหลากหลาย ทั้งความอิจฉา ความริษยา และความตื่นเต้น ต่างจับจ้องมาที่ร่างของแอนดรูว์ ทำให้รอยยิ้มของเขายิ่งเจิดจ้าขึ้นไปอีก
หลังจากมองไปรอบ ๆอย่างละเอียดเเล้ว อาเดียร์ก็ส่ายหัว
"จนถึงตอนนี้ มีศิษย์ฝึกหัดที่เข้ารับการทดสอบทั้งหมด 10 คน ในจำนวนนั้น 7 คนมีคุณสมบัติชั้นที่หนึ่ง, 2 คนมีคุณสมบัติชั้นที่สอง, และคนเดียวที่มีคุณสมบัติชั้นที่สามก็คือแอนดรูว์ นี่มันจริง ๆ แล้ว..."
เขาส่ายศีรษะ ดูเหมือนจะหมดหนทางอยู่ไม่น้อย
หลังจากนั้นไม่นาน ภายใต้สายตาของเขา เด็กสาวผมแดงที่มีธนูสีเขียวอ่อนสะพายอยู่บนหลังได้เดินขึ้นมาทำการทดสอบ
แสงสว่างจ้าค่อย ๆ ปรากฏขึ้นจากคริสตัลสีดำ เมื่อเห็นดังนั้น เด็กสาวผมแดงที่ชื่อซิททิสก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เธอเองก็มีคุณสมบัติชั้นที่สาม และดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าแอนดรูว์เล็กน้อย เธอจึงถูกเรียกให้ไปยืนด้านหลังโดยชายชุดคลุมสีเทาทั้งสอง
แม้ว่าความเร็วของการทดสอบจะไม่รวดเร็วนัก แต่ก็ไม่ได้ช้าเกินไปเช่นกัน หลังจากศิษย์ทุกคนทำการทดสอบไปทีละคน ในที่สุดก็ถึงตาของอาเดียร์ก้าวออกไป
โดยไม่พูดอะไรมาก เขาเดินขึ้นไปข้างหน้าและวางมือของเขาบนคริสตัลสีดำ
ความรู้สึกสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ค่อย ๆ แผ่ออกมาจากฝ่ามือของเขา นำพาความรู้สึกร้อนลวกบางอย่างที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
เมื่อเขาหลับตาลง เสียงของอาเรยอนก็ดังขึ้นในหูของเขา ลึกลงไปในจิตใจ ทำให้สติของอาเดียร์เริ่มเลือนลาง
[ตรวจพบสนามรังสีที่ไม่ทราบที่มา มีผลต่อจิตที่ทำให้เกิดภาพหลอนในตัวโฮสต์อย่างรุนแรง]
ในตอนนี้ เสียงหุ่นยนต์ของชิป A.I. ดังขึ้นในจิตใจของเขา ทำให้สติของอาเดียร์ที่เริ่มพร่ามัวฟื้นคืนกลับมาในทันที
ด้วยความเเข็งเเกร่งของร่างกายของอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ ความต้านทานของเขาต่อพลังของชายชุดคลุมสีเทาเหล่านั้นแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ มาก เขาเพียงแค่รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย แต่ไม่ถึงขั้นที่จะได้รับผลกระทบทั้งหมด และด้วยความช่วยเหลือของชิป A.I. ในตอนนี้ เขาก็ตื่นตัวในทันที
อาเดียร์ยืนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยให้พลังงานปริศนาค่อย ๆ แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยที่เขาไม่ขัดขืนด้วยพลังใจของตน
ความรู้สึกพร่ามัวเข้าปกคลุมเขา เหมือนอยู่ในความฝันที่คลุมเครือ มีทั้งความรู้สึกโดดเดี่ยวและหลงทาง
ในความพร่ามัวนั้น อาเดียร์เห็นท้องฟ้าที่ลึกล้ำ
ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยก๊าซสีเทาเข้ม และรอบตัวเขามีดวงดาวแขวนสูงอยู่บนท้องฟ้า ส่องแสงลงมาบนร่างของเขา
"คุณสมบัติระดับสี่!" เสียงอุทานด้วยความประหลาดใจดังขึ้นด้านหน้า และแทรกเข้ามาในหูของอาเดียร์ ทำลายสภาพพร่ามัวที่เขาอยู่
เพียงเท่านั้น อาเดียร์ก็ลืมตาขึ้นและมองไปข้างหน้า
เบื้องหน้า คริสตัลสีดำเข้มที่เคยลึกลับบัดนี้ส่องสว่างเจิดจ้า แสงนั้นราวกับขจัดความมืดที่ลึกล้ำออกไปจนหมด ดูเจิดจ้าอย่างยิ่ง
ด้านหน้า ใบหน้าของอาเรยอนเปลี่ยนไป เขามองอาเดียร์ด้วยความประหลาดใจ "เจ้าเป็นครึ่งเอลฟ์จริง ๆ หรือ?"
ในแววตาของเขามีความสนใจมากอย่างเห็นได้ชัดเจน เขายืนอยู่ตรงนั้นและถอนหายใจเบา ๆ "ครึ่งเอลฟ์ที่มีคุณสมบัติระดับสี่ ช่างหายากยิ่งนัก"
"สายเลือดผสมของเอลฟ์และมนุษย์มักจะให้กำเนิดอัจฉริยะที่แท้จริง แม้การมีคุณสมบัติระดับนี้จะน่าประหลาดใจ แต่ก็ยังพอจะยอมรับได้"
เสียงแหบพร่าของคริซูดังขึ้นจากด้านหลัง และในน้ำเสียงนั้นก็มีแววของความประหลาดใจอยู่ด้วยเช่นกัน
"เจ้าสามารถมายืนข้างหลังข้าได้เช่นกัน" อาเรยอนกล่าวกับอาเดียร์ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม น้ำเสียงที่ใช้มีความอ่อนโยนซึ่งหาได้ยากนัก
อาเดียร์พยักหน้าอย่างสงบและค่อย ๆ เดินไปยังด้านหลังชายในชุดคลุมสีเทาสองคน
เมื่อเปรียบเทียบกับคุณสมบัติระดับสามที่มีโอกาสเพียง 10% ในการก้าวหน้า คุณสมบัติระดับสี่กลับมีโอกาสสูงกว่ามาก ซึ่งมีความน่าจะเป็นเกือบ 50%
ซึ่งหมายความว่าในอนาคต หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อาเดียร์จะมีโอกาสก้าวหน้าเป็นพ่อมดที่เเท้จริงอย่างน้อย 50% เขาจึงต้องจริงจังกับเรื่องนี้
นอกจากนี้ ในทางทฤษฎี คุณสมบัติระดับสี่ถือเป็นคุณสมบัติที่สูงที่สุดที่สามารถเกิดขึ้นได้ในกลุ่มคนธรรมดา ส่วนคุณสมบัติระดับห้านั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดในกลุ่มคนธรรมดา มีเพียงรุ่นแรกของพ่อมดที่ทรงพลังเท่านั้นที่อาจมีคุณสมบัตินี้
เกี่ยวกับคุณสมบัติของตนเอง อาเดียร์ก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
ก่อนจะมาที่นี่ เขาได้เรียนรู้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพ่อมดจากดยุคอาเรียล
คุณสมบัติของพ่อมดนั้นหายากมาก แม้แต่คุณสมบัติระดับหนึ่งที่ต่ำที่สุดก็ไม่ได้พบเห็นได้บ่อยนักในครอบครัวพ่อมด ส่วนคุณสมบัติระดับสี่นั้นหายากยิ่งกว่า ในทวีปหนึ่ง อาจไม่มีปรากฏเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งแสดงถึงความหายากของมัน
การที่คุณสมบัติที่หายากเช่นนี้ปรากฏในตัวอาเดียร์ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
"สายเลือดครึ่งเอลฟ์คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ข้ามีคุณสมบัติเป็นพ่อมด แต่ก็น่าจะมีเหตุผลอื่นที่ทำให้ข้าสามารถก้าวไปถึงระดับนี้ได้ ..."
ในขณะนั้นเอง อาเดียร์ก็ระลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับพ่อมดในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคิดในใจว่า "หากข่าวลือเป็นความจริง คุณสมบัติของพ่อมดน่าจะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับจิตวิญญาณ"
"ในแง่ของจิตวิญญาณ เนื่องจากข้าได้ผ่านการข้ามภพถึงสามครั้ง ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของข้าควรจะแกร่งกว่าคนธรรมดามาก เป็นไปได้ว่าคุณสมบัติดั้งเดิมของร่างกายนี้ได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง จึงนำมาสู่ผลลัพธ์นี้"
"อีกทั้ง หากแกนผลึกที่ข้าได้มาจากโลกก่อนหน้านี้สามารถเสริมความแข็งแกร่งในแง่อื่น ๆ พร้อมกับเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย มันก็อาจจะส่งผลต่อคุณสมบัติของข้าในระดับหนึ่งเช่นกัน"
แม้ว่าในใจของเขาจะมีเรื่องให้คิดมากมาย แต่ใบหน้าของเขากลับไม่มีแสดงออกถึงสิ่งใด เพียงแค่ยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างหลังอาเรยอน พร้อมกับคนอีกสองคนจากก่อนหน้า
ในระยะไกล ท่ามกลางเสียงร้องแผ่วเบาแสดงความตื่นเต้น สายตาหลายคู่ต่างจับจ้องมายังอาเดียร์
ในกลุ่มฝูงชน อาเดียร์มองเห็นซิดรูและวาราที่ในขณะนั้นกำลังมองมาทางเขาด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด
รอบตัวพวกเขา ผู้คนจากครอบครัวพ่อมดอื่น ๆ ต่างก็มองอาเดียร์ด้วยสายตาเร่าร้อน
ในฐานะที่เขาเป็นสมาชิกของครอบครัวพ่อมด อาเดียร์จึงมีเสน่ห์ดึงดูดใจพวกเขาอย่างมาก
ด้วยสายเลือดครึ่งเอลฟ์และคุณสมบัติระดับสี่ อาเดียร์มีโอกาสสูงมากที่จะกลายเป็นพ่อมดที่เเท้จริงในอนาคต
เมื่อ อาเดียร์ ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพ่อมดในฐานะลูกครึ่งเอลฟ์ ลูกหลานของเขาจะมีคุณสมบัติพ่อมดภายในสามชั่วอายุคน และสัดส่วนของลูกหลานที่มีคุณสมบัติพ่อมดจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันน่าดึงดูดอย่างมากสำหรับครอบครัวพ่อมดเหล่านี้