บทที่ 550 ยอดฝีมืออันดับหนึ่งในดินแดนนี้! (ฟรี)

พลังอันน่าเกรงขามแผ่ซ่านไปทั่วจักรวาล แสงเซียนอันเจิดจ้าส่องสว่างไปทั่วทุกหนแห่ง ทำให้ดวงดาวนับล้านสั่นสะเทือน

แสงเซียนอันเจิดจ้านั้นสามารถมองเห็นได้แม้จากระยะทางข้ามดินแดนมากมาย

ปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ย่อมทำให้ผู้คนนึกถึงการทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลายหรือขั้นเซียนเอก!

"จะเป็นผู้ใดกัน?"

ประมุขเผ่าหงส์หายวับไปในห้วงอวกาศ มุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้น เขาต้องการไปดูให้เห็นกับตาว่าใครกันที่สามารถทำลายข้อจำกัดและก้าวเข้าสู่ขั้นไม่เสื่อมสลายหรือขั้นเซียนเอก

หรือว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งจากเผ่ายักษ์ที่ก้าวเข้าสู่ขั้นเทพยักษ์!

ประมุขเผ่าจู้เชวี่ย ประมุขเผ่าฉีหลิน เผ่าเทพ เผ่าเก้าวิกฤต ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งมากมายต่างพากันเคลื่อนที่ไปยังทิศทางนั้น

เต๋าซู่ เทพจ้าวแห่งหยางเต๋า เทพจ้าวแห่งหยวนชู และผู้แข็งแกร่งจากพันธมิตรแห่งวิถีเต๋าต่างก็เคลื่อนที่ไปดูให้รู้แน่ชัด

ประมุขพันธมิตรแห่งวิถีเต๋า เต๋าไห่เจิน ทะลวงขั้นเซียนเอกในทะเลแห่งความวุ่นวาย ไม่มีค่าอ้างอิง เว้นแต่พวกเขาจะไปผจญภัยในทะเลแห่งความวุ่นวายเพื่อแสวงหาโอกาสทะลวงขั้น

การที่เฉิงไห่อันทำลายขีดจำกัดและก้าวเข้าสู่ขีดสุดของขั้นอมตะ สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วจักรวาล

พลังเซียนและพลังวิญญาณในจักรวาล รวมถึงพลังแห่งความวุ่นวายบริสุทธิ์ ไหลบ่าราวกับแม่น้ำแห่งดวงดาว หลั่งไหลเข้าสู่นครจักรพรรดิเหาหยาง ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนในนครได้ชำระร่างกายด้วยพลังอันบริสุทธิ์

"นี่คือ... จักรพรรดิกำลังทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลายใช่หรือไม่?" ในราชสำนักเหาหยาง เทพแห่งดาบและผู้อื่นต่างตกตะลึงและตื่นเต้น

พลังอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ นอกจากการทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลายเพื่อก้าวเป็นเซียนผู้ไม่เสื่อมสลายแล้ว พวกเขานึกไม่ออกว่าจะมีสิ่งใดสร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้

"แต่ดูไม่เหมือนนะ มีเพียงพลังกดดันอันน่าเกรงขาม แต่กลับไม่เห็นวิกฤตสวรรค์รวมตัว!"

การบรรลุขั้นไม่เสื่อมสลายหรือขั้นเซียนเอก ย่อมมีวิกฤตสวรรค์อันน่าเกรงขามลงมา แต่ขณะนี้พวกเขากลับไม่รู้สึกถึงพลังของวิกฤตสวรรค์เลย

ร่างของเฉิงไห่อันลอยขึ้น ดุจดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า แขวนอยู่บนฟากฟ้า แผ่รัศมีอันไร้ขอบเขต สว่างจ้าตาตระการ มีลายวิเศษแห่งกฎเกณฑ์มากมายล้อมรอบ กฎแห่งมหาสุริยะปรากฏชัด

ในขณะนี้ เขาคือดวงอาทิตย์ดวงหนึ่ง แสงสว่างส่องไปทั่วจักรวาล ครอบครองพลังอันไร้ขีดจำกัด

"นี่..."

เหล่าทหารเซียนและแม่ทัพในราชสำนักเหาหยางต่างตะลึงงัน เฉิงไห่อันราวกับกลายร่างเป็นดวงอาทิตย์ ส่องแสงไปทั่วทั้งเก้าสวรรค์สิบทิศ

หลังจากทำลายขีดจำกัดแล้ว เขายังคงเปลี่ยนแปลงไม่หยุด กฎเกณฑ์แห่งวิถีล้อมรอบ พลังโลหิตท่วมฟ้า แม้อยู่ห่างออกไปหลายดินแดนดาวก็ยังมองเห็นได้พลังอันไร้ขีดจำกัดแผ่ซ่าน แสงดาวนับล้านรวมตัวกัน หลั่งไหลมาราวกับแม่น้ำแห่งดวงดาว เป็นภาพอันน่าอัศจรรย์

แม้อยู่ห่างออกไปหลายดวงดาว บนดาวโบราณทั้งสี่อย่างไท่ซู่ ฮวนอวี่ เทียนซวน และฉี่หยาง ผู้คนนับไม่ถ้วนที่เงยหน้ามองขึ้นไป ต่างก็เห็นดวงอาทิตย์อันเจิดจ้าดวงนั้นที่กำลังแผ่รัศมีอันไร้ที่สิ้นสุด

เต๋าไห่เจินทุ่มเทสุดกำลัง ก็ยังไม่สามารถทำลายขีดจำกัดได้ จึงเลือกที่จะทะลวงขั้นเซียนเอกแทน

เฉิงไห่อันอาศัยพลังมหาศาลที่ได้จากการใช้ค่าการสังหาร พยายามบุกทะลายอยู่หลายสิบปีจึงทำลายขีดจำกัดได้สำเร็จ จะเห็นได้ว่าการทำลายขีดจำกัดในขั้นอมตะนั้นยากเพียงใด การทะลวงครั้งนี้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่

"ท่านสวามี เขาจะเป็นอะไรหรือไม่?" ฮั่นเจียงเสวียแสดงความกังวล

"อย่ากังวลไปเลย พลังของท่านสวามีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่ได้ทะลวงถึงขั้นไม่เสื่อมสลาย แต่ก็คงใกล้เคียงแล้ว" หลินชิววั่นกล่าวปลอบใจ

เฉิงไห่อันยังไม่ได้ตื่นจากการทะลวงขั้น พลังโลหิต พลังเทพ และร่างกายของเขายังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน เขาก็กำลังเข้าใจและควบคุมวิถีแห่งมหาสุริยะ

ประมุขเผ่าหงส์ ประมุขเผ่าจู้เชวี่ย ประมุขเผ่าฉีหลิน เต๋าซู่ เทพจ้าวแห่งหยางเต๋า ประมุขเผ่าเทพ จ้าวแห่งนกอินทรีปีกทอง และยอดฝีมือมากมายในจักรวาลฉีกห้วงอวกาศมาถึง พวกเขาเห็นดวงอาทิตย์ขนาดมหึมาในทะเลดาวเบื้องหน้า ที่กำลังแผ่รัศมีและพลังอันน่าเกรงขาม

"นั่นคือ...?"

ทุกคนมองด้วยสายตาจริงจัง พลังกดดันนั้นช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน

แม้จะห่างออกไปทะเลดาวหนึ่ง ก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว

"นั่นคือจักรพรรดิเหาหยาง!"

เมื่อมองผ่านรัศมีอันเจิดจ้าและกฎเกณฑ์แห่งวิถี พวกเขาก็เห็นชัดว่านั่นคือร่างของเฉิงไห่อัน

"จักรพรรดิเหาหยาง?!"

"เขาทะลวงถึงขั้นไม่เสื่อมสลายแล้วหรือ?!"

ยอดฝีมือทั้งหลายยืนอยู่ในทะเลดาว ทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัว

หวาดกลัวว่าจะมีผู้บรรลุขั้นไม่เสื่อมสลายปรากฏขึ้น ทั้งจักรวาลจะต้องยอมศิโรราบต่อพลังอันน่าเกรงขามของเขา

เมื่อรู้ว่าผู้ที่ทะลวงขั้นคือจักรพรรดิเหาหยาง สีหน้าของยอดฝีมือทั้งหลายต่างกันออกไป บางคนหวาดกลัว บางคนตื่นเต้น

ผู้ที่ตื่นเต้นล้วนเป็นผู้ฝึกฝนจากเผ่ามนุษย์!

หากเผ่ามนุษย์มียอดฝีมือก้าวเข้าสู่ขั้นไม่เสื่อมสลายเป็นคนแรก ทั้งจักรวาลก็จะต้องยกย่องเผ่ามนุษย์เป็นใหญ่

"ไม่มีร่องรอยของวิกฤตสวรรค์ ดูไม่เหมือนการก้าวเข้าสู่ขั้นไม่เสื่อมสลายนัก!"

มียอดฝีมือกระซิบ พวกเขาไม่พบร่องรอยของวิกฤตสวรรค์ในทะเลดาวแห่งนี้

"แต่พลังกดดันอันน่าเกรงขามบนร่างเขานั้นไม่ใช่ของปลอม!"

"เขาทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลายได้อย่างไรโดยไม่เรียกวิกฤตสวรรค์ และยังคงอยู่ในดินแดนนี้ได้?"

นี่คือสิ่งที่ยอดฝีมือทั้งหมดอยากรู้

หนึ่งแสนปีก่อน ไม่นานหลังจากที่ผู้มีพลังขั้นไม่เสื่อมสลายหายไป ก็มียอดฝีมือที่เหลือเพียงก้าวเดียวก็จะทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลายหรือขั้นเซียนเอก แต่วิกฤตสวรรค์กลับอันตรายผิดปกติ ทำให้พวกเขาดับสลายใต้วิกฤตสวรรค์

แม้จะมีบางคนที่โชคดีสำเร็จ ก็รีบออกจากจักรวาลนี้ ไม่ได้อยู่นาน

ตอนนี้พลังของเฉิงไห่อันไม่ด้อยไปกว่าผู้ที่เพิ่งทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลาย แต่กลับไม่มีวิกฤตสวรรค์ลงมา นี่เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การศึกษา

หากแก้ปัญหานี้ได้ บางทีพวกเขาอาจไม่ต้องเสี่ยงโชคในทะเลแห่งความวุ่นวาย

"โอ้!"

หลังจากผ่านไปนาน เฉิงไห่อันก็ตื่นขึ้น พลังอันน่าเกรงขามแผ่ซ่านไปทั่ว กดดันทั้งจักรวาล แม้แต่ประมุขเผ่าหงส์ก็ยังต้านทานได้ยาก

เมื่อเผชิญกับพลังของเฉิงไห่อัน แม้แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากคารวะ นี่คือความเคารพต่อผู้มีระดับขั้นสูงกว่า เป็นการกดดันจากระดับขั้นและระดับชีวิตที่สูงกว่า

เมื่อลืมตาขึ้น ดวงตาของเฉิงไห่อันเปล่งรัศมีอันเจิดจ้า ทะลุผ่านห้วงอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด ทำให้จ้าวแห่งนกอินทรีปีกทองและคนอื่นๆ เหงื่อเย็นผุดขึ้นทั้งตัว

พลังกดดันนี้ช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน! กดดันจนหนังศีรษะของพวกเขาชา

ราวกับว่าเฉิงไห่อันเพียงขยับนิ้วมือก็สามารถกดพวกเขาได้

เฉิงไห่อันลุกขึ้น รัศมีอันไร้ที่สิ้นสุดแผ่ซ่านจากร่าง ลายวิเศษแห่งกฎเกณฑ์นับหมื่นห่อหุ้มร่าง เปล่งประกายศักดิ์สิทธิ์

"คารวะจักรพรรดิเหาหยาง!"

ในขณะนี้ ยอดฝีมือที่ยืนอยู่ในทะเลดาวแห่งนี้ไม่มีใครกล้าล่วงเกิน

ผู้ที่เทียบชั้นกับขั้นไม่เสื่อมสลาย ในยุคที่ไม่มีผู้บรรลุขั้นไม่เสื่อมสลายและขั้นเซียนเอก ก็คือยอดฝีมือสูงสุด ผู้เป็นหนึ่งในดินแดนนี้!

กล้าล่วงเกินเฉิงไห่อันในตอนนี้ ก็เหมือนถือโคมไฟเข้าส้วม คือการหาความตาย!

"ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี"

เฉิงไห่อันยังคงแผ่พลังอันน่าเกรงขาม เขาเพียงยกมือขึ้นเล็กน้อยและกล่าวอย่างสุภาพ

"ไม่ทราบว่าทุกท่านมาที่ดินแดนดาวเหาหยางของข้าด้วยเรื่องใด?"

"พวกเรารับรู้ได้ว่ามีผู้ทะลวงขั้นบรรลุไม่เสื่อมสลาย จึงมาแสดงความยินดี ไม่คิดว่าจะเป็นท่านจักรพรรดิเหาหยาง ขอแสดงความยินดีที่ท่านบรรลุขั้นไม่เสื่อมสลาย อมตะนิรันดร์ ไม่มีวันดับสลาย!" ประมุขเผ่าหงส์รีบกล่าวขึ้นก่อน

คนอื่นๆ ก็ตอบสนอง พากันกล่าว

"ขอแสดงความยินดีที่ท่านจักรพรรดิบรรลุขั้นไม่เสื่อมสลาย อมตะนิรันดร์ ไม่มีวันดับสลาย!"

"ขอแสดงความยินดีที่ท่านจักรพรรดิบรรลุขั้นไม่เสื่อมสลาย อมตะนิรันดร์ ไม่มีวันดับสลาย!"

ยอดฝีมือและประมุขเผ่าทั้งหลายต่างแสดงความยินดีอย่างเคารพ ไม่กล้าแสร้งทำแม้แต่น้อย

เฉิงไห่อันยิ้มบางๆ นี่กำลังทดสอบเขาสินะ?

หงส์แก่ตนนี้ช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ

"ทุกท่าน ข้าไม่ได้บรรลุขั้นไม่เสื่อมสลาย พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว!" เฉิงไห่อันไม่มีอะไรต้องปิดบัง

ด้วยพลังและวรยุทธ์ของเขาในตอนนี้ ไม่ด้อยไปกว่าต้นพูมู่ในขั้นไม่เสื่อมสลายที่เขาและเต๋าไห่เจินร่วมมือกันสังหาร และอาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ!

นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดจากการที่เฉิงไห่อันทำลายขีดจำกัดของขั้นอมตะ แม้ไม่ใช่ขั้นไม่เสื่อมสลาย แต่พลังของเขาก็ไม่แพ้ผู้บรรลุขั้นไม่เสื่อมสลาย

"นี่... ท่านจักรพรรดิล้อเล่นแล้ว!" ประมุขเผ่าหงส์ยิ้มเจื่อนอย่างงุนงง

"ข้าเพียงแค่ทำลายขีดจำกัดของขั้นอมตะ ไม่ได้ทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลาย"

"สภาพของดินแดนนี้เป็นอย่างไร อย่าบอกข้าว่าพวกท่านไม่รู้"

หลังจากทำลายขีดจำกัด เฉิงไห่อันถึงรู้ในที่สุดว่า การทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลายในจักรวาลนี้จะเผชิญกับวิกฤตสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัว แม้จะโชคดีทะลวงผ่านได้ ก็ไม่อาจอยู่ในจักรวาลนี้ได้นาน

แม้แต่เต๋าไห่เจินก็ยังถูกจักรวาลปฏิเสธ ไม่อาจเข้ามาได้

จักรวาลนี้ไม่อาจรองรับผู้มีพลังขั้นไม่เสื่อมสลายอีกต่อไป การมีอยู่ของผู้บรรลุขั้นไม่เสื่อมสลายจะค่อยๆ ทำให้จักรวาลนี้เดินทางสู่การดับสลาย

ประมุขเผ่าหงส์และคนอื่นๆ ยิ้มเจื่อน

"พวกเราคิดว่าท่านจักรพรรดิมีวิธีพิเศษที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤตสวรรค์และบรรลุขั้นไม่เสื่อมสลายได้"

ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกตกตะลึงในใจ จักรพรรดิเหาหยางช่างเป็นอัจฉริยะที่พบได้ยากจริงๆ ถึงกับสามารถทำลายขีดจำกัดของขั้นอมตะได้

และเพียงแค่ทำลายขีดจำกัดก็มีพลังและบารมีเทียบเท่าผู้บรรลุขั้นไม่เสื่อมสลาย อัจฉริยะระดับนี้หลายหมื่นปีก็ยังหาไม่พบสักคน

"ฮึ อยากจะทะลวงขั้น ก็ไปลองดวงในทะเลแห่งความวุ่นวายสิ ไม่เช่นนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าชะตาของพวกเจ้าจะแข็งแกร่งพอหรือไม่!" เฉิงไห่อันยิ้มบางๆ

แม้แต่เขาเองก็ยังไม่คิดจะทะลวงขั้นไม่เสื่อมสลายในจักรวาลนี้ แล้วเขาจะมีวิธีอะไรได้

"เมื่อทุกท่านมาจากที่ไกล ไฉนไม่แวะมาที่ราชสำนักเหาหยางของข้าสักหน่อย!" เฉิงไห่อันเอ่ยเชิญ เพื่อแสดงอำนาจบารมีของราชสำนักเหาหยาง

เช่นเดียวกับที่วรยุทธ์ของเขาทำลายขีดจำกัดได้ จนไม่มีใครในจักรวาลนี้เป็นคู่ต่อสู้ได้อีก อำนาจของราชสำนักเหาหยางก็จะต้องอยู่เหนือเผ่าพันธุ์ทั้งหลายในที่สุด

"เมื่อท่านจักรพรรดิเชิญ พวกเราไม่กล้าปฏิเสธ!"

พลังอันน่าเกรงขามบนร่างเฉิงไห่อันทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดขัดขืน

ต่อให้เป็นประมุขเผ่าหงส์ ประมุขเผ่าฉีหลิน จ้าวแห่งจู้เชวี่ย จ้าวแห่งนกอินทรีปีกทอง หรือจ้าวแห่งเทพจะเป็นอย่างไร เมื่อเผชิญหน้ากับเฉิงไห่อันในตอนนี้ พวกเขาก็เหมือนกำลังเผชิญหน้ากับภูเขาอันสูงตระหง่าน ช่างสูงเกินเอื้อมจริงๆ

พลังและบารมีบนร่างเฉิงไห่อันได้ก้าวพ้นขั้นอมตะไปอย่างสมบูรณ์แล้ว จุดนี้ไม่มีทางปลอมแปลงได้แม้แต่น้อย

ในราชสำนักเหาหยาง ทหารเซียนและแม่ทัพนับไม่ถ้วน เมื่อเห็นร่างของเฉิงไห่อัน ต่างก็เปล่งเสียงโห่ร้องดังสนั่นฟ้า

"จักรพรรดิ!"

"จักรพรรดิ!"

"จักรพรรดิ!"

ทหารทั้งราชสำนักเหาหยางแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ จิตใจเต็มเปี่ยมด้วยพลัง ยิ่งเลื่อมใสศรัทธาในตัวจักรพรรดิเฉิงไห่อัน

ในสายตาของพวกเขา เฉิงไห่อันคือผู้บรรลุขั้นไม่เสื่อมสลาย เซียนเอกผู้ยังมีชีวิต พลังของเขาได้ก้าวล้ำเหนือสวรรค์แล้ว

เฉิงไห่อันโบกมือ เสียงของเขาดังก้องไปทั่วราชสำนัก "ทุกคนในราชสำนัก ฉลองใหญ่หนึ่งเดือน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดราชสำนักจะออกให้ ร่วมเฉลิมฉลองกันทั่วหล้า!"

"ดี!"

"ขอแสดงความยินดีที่จักรพรรดิอมตะนิรันดร์ พระชนม์ยืนนาน!"

"ขอแสดงความยินดีที่จักรพรรดิอมตะนิรันดร์ พระชนม์ยืนนาน!"

เหล่าทหารเซียนและแม่ทัพร้องพร้อมกัน เสียงโห่ร้องสั่นสะเทือนฟ้าดิน

ราชสำนักเหาหยางจัดงานเลี้ยงใหญ่ ยอดฝีมือจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในจักรวาลต่างมุ่งหน้าสู่ดินแดนดาวเหาหยางเพื่อเข้าเฝ้าเฉิงไห่อัน

ผู้ที่ไม่ใช่เซียนผู้ไม่เสื่อมสลายแต่มีพลังเทียบเท่า ย่อมจะต้องสร้างชื่อเสียงกึกก้องไปทั่วจักรวาล!

พร้อมกับที่ชื่อเสียงของเฉิงไห่อัน ผู้ที่ไม่ใช่เซียนผู้ไม่เสื่อมสลายแต่มีพลังเทียบเท่าแผ่ไปทั่ว เมื่อเวลาผ่านไป อำนาจบารมีของราชสำนักเหาหยางก็ยิ่งทวีความยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

(จบบท)