ตอนที่แล้วบทที่ 539 การล่มสลายของภาคี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 541 สามวันผ่านไป

บทที่ 540 ข่าวสารจากคากุ ไคโอ


【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 540 ข่าวสารจากคากุ ไคโอ

“ข่าวแน่นะเหรอ?”

ห้องทดลองในอาคารแคมปัสอเวนเจอร์ส โทนี่กับพวกอยู่ที่นี่

หลังจากวางสายกับเปปเปอร์ สตีฟก็แจ้งข่าวร้ายให้โทนี่ฟัง

ความสัมพันธ์ระหว่างภาคีนักฆ่ากับอเวนเจอร์สไม่สนิทสนมมากนัก แต่ก็เคยร่วมมือกันบ้าง โดยเฉพาะโทนี่เคยมีเรื่องหวุดหวิดกับลุคมาก่อน ดังนั้นข่าวที่ภาคีนักฆ่าล่มสลายจึงทำให้เขาตกใจไม่น้อย

“ข่าวมาจากดีเฟนเดอร์ส”

นาตาชาตอบโทนี่ทันที “ข่าวบอกว่ามาจากเจ้าหน้าที่ติดต่อที่รอดชีวิตจากภาคีนักฆ่า และเขาพูดถึง ‘เทพเมฆาอัคคี’ ด้วย”

“เทพเมฆาอัคคี? ฟังดูคุ้น ๆ นะ”

โทนี่ขมวดคิ้ว ชื่อที่นาตาชาพูดทำให้เขารู้สึกคุ้น ๆ เล็กน้อย

“เทพเมฆาอัคคีคือผู้บงการเหตุการณ์ไชน่าทาวน์ครั้งแรก และเป็นสาเหตุสำคัญที่เผิงไหลมาอยู่ที่นิวยอร์ก ตามข้อมูลของชีลด์ อาซิงกับอาจารย์ยิปมาปรากฏตัวที่นิวยอร์กก็เพราะเทพเมฆาอัคคีนี่แหละ……”

จากคำบอกเล่าของผู้ส่งสารเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มนักฆ่าลับครั้งนี้ ดูเหมือนเหตุการณ์ทั้งหมดเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับ “เทพเมฆาอัคคี” นอกจากนี้ ในคำบอกเล่าเดียวกันยังมีการกล่าวถึงชายชราที่นั่งอยู่บนรถเข็น และชายหญิงคู่หนึ่งที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งตรงกับลักษณะของฝาแฝดผู้มีพลังพิเศษที่ซูซานเคยพูดถึงในฐานทัพไฮดร้าอย่างน่าตกใจ

“ฝาแฝดผู้มีพลังพิเศษเหรอ?”

โทนี่หรี่ตามองข้อมูลที่นาตาชาส่งให้ แล้วหันไปตะโกนบอกอัลตรอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

“อัลตรอน แสดงข้อมูลที่ถอดรหัสได้จากฐานทัพไฮดร้า”

“ครับ คุณสตาร์ค”

เมื่อได้ยินคำสั่งของโทนี่ ดวงตาของอัลตรอนเปล่งแสงสีฟ้าอ่อน ก่อนจะฉายข้อมูลจากสมองของมันขึ้นบนจอภาพเสมือนจริงตรงหน้า

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ด้วยการวิเคราะห์ของปัญญาประดิษฐ์ ข้อมูลที่เหลืออยู่ในฐานทัพไฮดร้าถูกถอดรหัสออกมาจนสำเร็จแล้ว ถึงแม้ข้อมูลส่วนใหญ่จะสูญหายไปเพราะด็อกเตอร์โซล่า แต่จากข้อมูลที่เหลืออยู่น้อยนิด โทนี่ก็พอจะคาดเดาแผนการบางอย่างของไฮดร้าได้ รวมถึงการทดลองวิจัยอัญมณีแห่งจิตใจด้วย

“อ๊าาาา——”

“ไม่ โปรดเถอะ ปล่อยผมไปเถอะ!”

“ร่างกายของผม ร่างกายของผม ผมรู้สึกตัวไม่รู้เรื่อง!”

“ฆ่าผมเถอะ ฆ่าผมเถอะ!”

ภาพจากบันทึกของอัลตรอนเผยให้เห็นการทดลองต่าง ๆ ที่สตรัคเกอร์ทำในฐานไฮดร้า โดยใช้พลังของอัญมณีแห่งจิตใจ

“ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ การลงโทษสตรัคเกอร์ยังเบาไปหน่อย” สตีฟพูดพลางกำหมัดแน่น ใบหน้าเรียบเฉย สายตาจับจ้องภาพการทดลองมนุษย์ที่โหดเหี้ยมในบันทึก

“หยุดตรงนี้ อัลตรอน” โทนี่ที่ยืนข้างสตีฟ เหลือบไปเห็นบางอย่างในบันทึก จึงสั่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อโทนี่สั่ง อัลตรอนก็หยุดภาพตามคำสั่ง

“ขยายภาพ”

“เพิ่มความคมชัด”

ทันทีที่โทนี่สั่ง ภาพบางส่วนในบันทึกก็ถูกปรับเปลี่ยน

“ใช่พวกเขาทั้งสองคนหรือเปล่า?” โทนี่มองภาพชายหญิงสองคนที่ถูกขังในห้องทดลอง แล้วหันไปถามนาตาชาที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“ผมสีเงิน ผมสีแดง?”

นาตาชาจ้องมองสีผมโดดเด่นของทั้งสองคนในภาพ นึกถึงข้อมูลที่ได้รับจากดีเฟนเดอร์ส เธอมั่นใจเกือบเต็มร้อยว่าบุคคลทั้งสองในบันทึกของไฮดร้า คือคนที่กลุ่มผู้รอดชีวิตจากภาคีบอกว่าเป็นผู้บุกโจมตีร้านขายของโบราณ และเป็นผู้ล้างบางกลุ่มภาคีนักฆ่า

“ยืนยันตัวตนของพวกเขาได้ไหม อัลตรอน?”

สตีฟเงยหน้าขึ้นมองเงาสองเงาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก่อนหันไปถามปัญญาประดิษฐ์ที่อยู่ข้างกาย

“ในข้อมูลของไฮดร้า อาจยังมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ทดลองเหลืออยู่”

อัลตรอนจ้องมองสตีฟ ดวงตาเรืองแสงด้วยข้อมูลมหาศาล เพียงเสี้ยววินาทีก็ค้นเจอสิ่งที่กัปตันอเมริกาต้องการจากข้อมูลมหาศาลของไฮดร้า

“เปโตร แม็กซิมอฟฟ์”

“วันด้า แม็กซิมอฟฟ์”

ข้อมูลการทดลองเกี่ยวกับฝาแฝดจากไฮดร้าปรากฏขึ้นบนจอภาพภายในอาคารแวมไพร์

โทนี่มองรายละเอียดบางอย่างในข้อมูล ดวงตาเป็นประกายแวบหนึ่ง

“ท่านครับ”

จาร์วิสที่เงียบมาตลอด เอ่ยขึ้น เป็นการเตือนทุกคนในอาคาร

“ระบบรักษาความปลอดภัยตรวจพบการบุกรุกเข้ามาในอาคาร”

“เปิดระบบรักษาความปลอดภัย!”

ได้ยินคำเตือนของจาร์วิส โทนี่จึงเก็บอาการ รีบสั่งการตอบโต้ทันที

“ระบบรักษาความปลอดภัยเปิดใช้งานแล้ว”

ทันทีที่โทนี่พูดจบ ปากกระบอกปืนนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นมาจากซอกซอยต่าง ๆ ภายในตึกอเวนเจอร์ส เล็งไปยังเงาปริศนาผู้บุกรุก หลังจากเหตุการณ์โจมตีของดีโอและดัลซิม โทนี่ได้ปรับปรุงตึกอเวนเจอร์สใหม่หมดจด ติดตั้งระบบปืนอัตโนมัติไว้หลายจุด

“ท่านครับ ระบบล็อคเป้าหมายไม่ได้ครับ เขาเร็วเกินไป”

ทว่า ระบบรักษาความปลอดภัยที่โทนี่สร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน กลับใช้การไม่ได้อย่างที่คิด

จาร์วิสส่งภาพการเคลื่อนไหวของเป้าหมายจากกล้องวงจรปิดภายในตึกอเวนเจอร์ส มาที่ห้องแล็บที่โทนี่และคนอื่น ๆ อยู่

“เปโตร แม็กซิมอฟฟ์ ความเร็วเหนือมนุษย์!”

ด้วยระบบประมวลผลอันทรงพลังของอัลตรอน เหล่าอเวนเจอร์สจึงเห็นภาพเงาที่เคลื่อนไหวช้าลงหลายเท่า จากภาพกล้องวงจรปิด

เงาที่บุกรุกเข้ามาในตึกอเวนเจอร์ส คือ เปโตร หรือที่รู้จักกันในนาม ควิกซิลเวอร์ หนึ่งในฝาแฝดพี่น้องที่ทำลายภาคีนักฆ่าจนล่มสลายไปแล้ว

ตั้งแต่จาร์วิสส่งภาพผู้บุกรุกมา จนถึงตอนที่โทนี่และคนอื่น ๆ จำหน้าควิกซิลเวอร์ได้ ใช้เวลาแค่สิบกว่าวินาที

แต่ในเวลาอันน้อยนิดนั้น ควิกซิลเวอร์ก็ฝ่าระบบรักษาความปลอดภัยที่โทนี่สร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนในห้องแล็บอย่างไม่สนใจอะไร

“โทนี่ สตาร์ค!”

ควิกซิลเวอร์ปรากฏตัวในห้องแล็บที่เหล่าอเวนเจอร์สอยู่ เขามองโทนี่ เป้าหมายที่เขาหมายตาไว้ แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“ดูเหมือนนายจะรู้จักฉันแล้วสินะ”

สายตาของควิกซิลเวอร์กวาดไปทั่วหน้าจอที่อัลตรอนโปรเจ็กต์ข้อมูลขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าตัวเองปรากฏอยู่บนนั้น เขาจึงเข้าใจในทันทีว่าเหล่าอเวนเจอร์สรู้จักตัวตนของเขากับวันด้าแล้ว

เผชิญหน้ากับความแค้นที่แผ่รังสีออกมาจากควิกซิลเวอร์ โทนี่แตะปุ่มบนโต๊ะทดลองเบา ๆ ในเสี้ยววินาทีต่อมา ชุดเกราะเหล็กที่เบาบางก็ไต่ขึ้นมาตามแขนของเขาที่สัมผัสโต๊ะ เพียงชั่วพริบตา ชุดเกราะเหล็กแบบง่าย ๆ ก็สวมอยู่บนตัวโทนี่แล้ว

“เฮ้อ~”

โทนี่ถอนหายใจยาวเมื่อรู้สึกถึงชุดเกราะเหล็กที่ห่อหุ้มร่างกาย จากนั้นก็ยกฝ่ามือขึ้นชี้ไปที่ควิกซิลเวอร์ตรงหน้า ถามเสียงเข้มว่า “บอกมา เปโตร แม็กซิมอฟฟ์ นายบุกเข้ามาในตึกอเวนเจอร์สด้วยจุดประสงค์อะไร?”

ภายในตึกอเวนเจอร์ส ไม่ใช่แค่โทนี่เท่านั้นที่เตรียมพร้อมรับมือ

ควิกซิลเวอร์หันไปมองเหล่าอเวนเจอร์สที่กำลังเฝ้าระวังอยู่ นึกถึงคำสั่งของ【คากุ ไคโอ】ก่อนออกเดินทาง จึงพยายามระงับความแค้นที่ปะทุอยู่ในใจให้สงบ สูดหายใจเข้าลึก ๆ เบี่ยงสายตาหนีโทนี่ แล้วตอบเสียงเย็นชาว่า “สบายใจได้ โทนี่ สตาร์ค คราวนี้ฉันไม่ได้มาเพื่อฆ่านายหรอก……”

ถึงแม้ควิกซิลเวอร์จะเกลียดโทนี่อย่างสุดหัวใจ แต่เขาก็รู้ว่า ภายใต้การคุ้มกันของเหล่าอเวนเจอร์ส ถึงแม้จะมีความเร็วเหนือมนุษย์ เขาก็ไม่สามารถฆ่าไอรอนแมนได้ง่าย ๆ

ดังนั้น เขาจึงเก็บซ่อนอารมณ์ไว้ ใช้เสียงเรียบนิ่งกล่าวว่า “ฉันมาส่งข่าวให้พวกนาย อีกสามวันข้างหน้า 【คากุ ไคโอ】จะมาเยี่ยม ถึงเวลานั้น หวังว่าพวกนายจะส่งตัวผู้ที่ฆ่าเผิงไหล ผู้สังหารเทพมารไฟเมฆ มาให้ฉัน”

“【คากุ ไคโอ】เหรอ?”

เมื่อได้ยินชื่อแปลก ๆ ที่ควิกซิลเวอร์พูด สีหน้าของนาตาชาเปลี่ยนไปเล็กน้อย นายนึกถึงเงาของชายชราผู้ใช้รถเข็นที่เหล่าดีเฟนเดอร์สเคยพูดถึง

“เตรียมตัวไว้เถอะ เหล่าอเวนเจอร์ พวกนายเหลือเวลาอีกแค่สามวัน”

หลังจากส่งสารจาก【คากุ ไคโอ】ให้เหล่าอเวนเจอร์ สายตาของควิกซิลเวอร์กวาดไปทั่วโทนี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในชุดเกราะไอรอนแมน ความแค้นที่เพิ่งระงับไป กลับเดือดพล่านอีกครั้ง “ถึงเวลานั้น ฉันจะไม่เฉยชาเหมือนตอนนี้แล้ว โทนี่ สตาร์ค ฉันจะเอาความเจ็บปวดที่พวกนายทำให้ฉันพี่น้อง กลับคืนไปเป็นร้อยเป็นพันเท่า!”

“……”

ภายใต้หมวกเหล็ก โทนี่ได้ยินถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความแค้นของควิกซิลเวอร์ ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเงียบงัน

เขาเคยคิดว่าตัวเองที่เป็นไอรอนแมนแล้ว จะลืมเลือนอดีตได้ แต่การปรากฏตัวของควิกซิลเวอร์ครั้งนี้ กลับเป็นการเตือนเขาอย่างชัดเจนว่า ความผิดพลาดที่เขาเคยทำ ไม่ได้หายไปเพราะการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ แต่กลับตามหลอกหลอนเขามาอีกครั้ง

หายใจเข้าลึก ๆ โทนี่กดอารมณ์ปั่นป่วนในใจลง มองควิกซิลเวอร์ตรงหน้าผ่านช่องมองของเกราะเหล็ก “ขอโทษนะ สำหรับความเสียหายที่ฉันเคยก่อ เปโตร แต่ความผิดพลาดของฉันไม่ใช่เหตุผลให้พวกนายฆ่าคนบริสุทธิ์ การกระทำของพวกนายกับภาคีนักฆ่านั้น มันเกินกว่าการแก้แค้นไปมากแล้ว”

“ภาคีนักฆ่า?”

ภายในตึกอเวนเจอร์ส ควิกซิลเวอร์ขมวดคิ้ว ใบหน้าแสดงความสับสนอย่างเห็นได้ชัด “ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงอะไร”

“หา?”

นาตาชามองควิกซิลเวอร์ไม่ละสายตาตั้งแต่เขาปรากฏตัว เมื่อเห็นสีหน้าเปลี่ยนไปของควิกซิลเวอร์ แววตาของเขาก็วาวขึ้น นาตาชามองไปที่นายหน้าที่คาร์เตอร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

สองสายลับระดับสูงต่างรับรู้ถึงความผิดปกติจากปฏิกิริยาของควิกซิลเวอร์

“เตรียมตัวไว้ พวกอเวนเจอร์ส เวลาของเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว”

แต่ก่อนที่นาตาชาจะถามอะไรต่อ ควิกซิลเวอร์ตัดสินใจว่าไม่อยู่ในตึกอเวนเจอร์สต่อได้อีกแล้ว เขากลัวว่าจะอดใจไม่ไหว ลงมือทำร้ายโทนี่

ทันทีที่ควิกซิลเวอร์พูดจบ ร่างของเขาก็กลายเป็นแสงสีเงินวาบหายไปต่อหน้าเหล่าอเวนเจอร์ส

“อัลตรอน!”

โทนี่มองตามควิกซิลเวอร์ที่หายไป แล้วตะโกนเรียกอัลตรอนที่อยู่ข้าง ๆ โดยไม่ลังเล

“เข้าใจแล้วครับ คุณสตาร์ค”

โทนี่ไม่พูดอะไรต่อ อัลตรอนพยักหน้าเบา ๆ แสงสีฟ้าอ่อน ๆ ในดวงตาของมันวาบแวม ทันใดนั้น ยานพาหนะลับ ๆ ภายในตึกอเวนเจอร์สก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ล็อกเป้าหมายไว้ที่ร่างที่กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงออกจากตึกอเวนเจอร์ส

“ทุกคน เรื่องพี่น้องสองคนและภาคีนี้ ดูท่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด”

นาตาชาเพ่งมองไปยังจุดที่ควิกซิลเวอร์หายไป นานจนความเงียบแผ่ปกคลุม นายมองเหล่าอเวนเจอร์ที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

……

ปัง! ปัง! ปัง!

ภายในโกดังร้างกลางชนบท ห่างจากนิวยอร์กหลายร้อยกิโลเมตร วันด้ายืนอยู่หน้าประตูโกดัง นายมองไปเบื้องหน้าอย่างเงียบ ๆ

คากุ ไคโอ นั่งอยู่รอบกองไฟ ยื่นมือผอมแห้ง ๆ ออกไปอุ่นใกล้เปลวเพลิง

“ไม่ต้องกังวลมากนักหรอกยัยหนู”

คากุ ไคโอเหลือบมองวันด้าที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูโกดังมาสักพัก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ช้า ๆ “แค่ส่งข้อความธรรมดา ๆ เท่านั้นแหละ ด้วยความเร็วของพี่ชายเธอ คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก”

“ฉันรู้ แต่ฉันกลัวว่าเปโตรจะใจร้อนเกินไป”

คำปลอบใจของคากุ ไคโอ ไม่ช่วยบรรเทาความกังวลบนใบหน้าของวันด้าเลย นายยังคงจ้องมองไปยังนอกโกดัง พลางพึมพำ

ในฐานะฝาแฝด เธอเข้าใจนิสัยของพิทโร รวมถึงความแค้นที่เขามีต่อโทนี่ สตาร์ค เป็นอย่างดี

“รู้ไหมนะ ยัยหนู”

แม้เสียงของวันด้าจะเบาบางแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ยังลอดเข้าไปถึงหูของคากุ ไคโอ

เขามองวันด้าที่พิงประตูโกดังอยู่ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “อย่างที่ว่า น้ำกับไฟนั้นไร้ความปรานี ในโลกนี้ไม่มีอะไรยากแก่การควบคุมไปกว่าน้ำกับไฟแล้ว เปลวไฟนำพาความอบอุ่นมาให้ ช่วยให้เราปรุงอาหารได้ แต่ถ้าพลาดเพียงนิดเดียว ก็จะทำให้เราไหม้ หรือแม้แต่พรากชีวิตไปได้อย่างง่ายดาย…”

เสียงแหบพร่าของคากุ ไคโอ ดูเหมือนจะมีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นพิเศษ

ขณะฟังถ้อยคำของเขา สายตาของวันด้าก็ถูกดึงดูดไปโดยไม่รู้ตัว มองไปยังเงาที่นั่งล้อมกองไฟอยู่

“อย่างไรก็ตาม เธอต้องเข้าใจนะ ยัยหนู ที่มนุษย์เป็นมนุษย์ได้ก็เพราะเรารู้จักควบคุมระยะห่าง เปลวไฟแม้จะทำร้ายคนได้ แต่ก็สามารถนำความอบอุ่นมาให้ได้เช่นกัน” ภายใต้สายตาของวันด้า คากุ ไคโอ ค่อย ๆ ยื่นมือที่เหี่ยวย่น แห้งผอม ทะลุผ่านเปลวไฟ โดยไม่มีอันตรายใด ๆ “เช่นเดียวกับความแค้น เธอต้องควบคุมพลังแห่งความแค้นนี้ อย่าให้ความแค้นมาควบคุมเธอ”

พูดจบ คากุ ไคโอก็หันหน้าไปมองวันด้า เผยยิ้มใจดี แม้จะไร้ฟัน แต่กลับดูอ่อนโยน

(จบตอน)

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด