บทที่ 4 ฉันชอบยุคสมัยนี้
บทที่ 4 ฉันชอบยุคสมัยนี้
"ย่าทวดครับ ผมมองไม่เห็นคุณยายคนนั้นแล้ว" หลี่เซี่ยนอวี่นั่งอยู่ริมถนน มือกุมเอว กุมท้อง ที่ปวดระบม เขาต้องพักสักหน่อย
"ฉันปิดตาทิพย์ของแกชั่วคราว จำไว้นะ ต่อไปถ้าเห็นวิญญาณอาฆาต อย่าได้สบตากับพวกมันเป็นอันขาด" ย่าทวดกล่าว
"เมื่อครู่เป็นวิชาลับของตระกูลหลี่ ศาสตร์แห่งดวงตาทิพย์ ฉันอาศัยพลังของแก เพื่อเปิดตาทิพย์ให้"
หลี่เซี่ยนอวี่พยักหน้าอย่างงุนงง
สายลมยามราตรีพัดเย็นสบาย เหลนชายนั่งกุมเอวบนพื้นด้วยสีหน้าหม่นหมอง ส่วนย่าทวดยืนสง่างาม ผมดำสยายลู่ลม นางมองซ้ายมองขวาอย่างสนใจใคร่รู้ แสงไฟในเมืองส่องประกายในดวงตางดงามของนาง ดูไร้เดียงสาราวทารกแรกเกิดที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่อโลกใบใหม่ นอกจากตึกสูงระฟ้าและแสงไฟสวยงาม สิ่งที่นางเห็นมากที่สุดคือรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ครั้งสุดท้ายที่นางได้สัมผัสกับโลกนี้ คือตอนอยู่กับหลี่อู่เซียง สมัยนั้นรถยนต์ยังเป็นของหายาก เหลนคนก่อนขี่จักรยานจีนยี่ห้อฟีนิกซ์ ก็รู้สึกว่าตัวเองดูดีมีระดับแล้ว
ยุคสมัยพัฒนาไป แต่คนไม่จำเป็นต้องพัฒนาตาม เหลนคนปัจจุบันดูเหมือนจะไม่มีแม้แต่จักรยานสักคัน
ชิ!
ตระกูลหลี่ของเรายิ่งตกต่ำลงทุกที
นั่งอยู่ข้างถนนประมาณ 10นาที เมื่อรู้สึกว่าอาการปวดเอวทุเลาลง เขาก็ลุกขึ้นพลางประคองเอว "ย่าทวด"
เสียงของหลี่เซี่ยนอวี่ดึงนางออกจากภวังค์ความคิด นางหันมามองเหลนคนใหม่พลางเอ่ยเสียงใส "มีอะไรหรือ?"
"พ่อของผมเป็นคนยังไง?"
"ก็เป็นคนแบบนั้นแหละ"
"แบบนั้นคือยังไงครับ?"
"ก็ถือว่าไม่เลวนะ เขาเป็นเหลนที่โดดเด่นที่สุดของข้า แต่ดวงชะตาไม่ดี โชคร้าย จึงจากไปเร็ว" ย่าทวดเอ่ยพลางลูบคางขาวผ่อง
"ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ป่านนี้ข้าคงหลุดพ้นจากพันธนาการทั้งหมดแล้ว"
หลุดพ้นจากพันธนาการ...
หลี่เซี่ยนอวี่นึกถึงคำในพินัยกรรมของพ่อผู้ล่วงลับ อดบ่นไม่ได้ "ฟังแล้วพ่อดูเก่งมากเลยนะครับ"
ย่าทวด "พ่อของแกเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก ถ้าให้เวลาเขาอีก 20ปี บางทีฉันอาจใช้พลังของเขา เพื่อหลุดพ้นจากพันธนาการทั้งหมดได้"
การหลุดพ้นจากพันธนาการ คงไม่เกี่ยวกับการดูดพลังและเรี่ยวแรงของผมหรอกนะ
หลี่เซี่ยนอวี่หดคอด้วยความกังวลถึงอนาคตของตน "พันธนาการอะไรหรอ?"
ย่าทวดไม่ตอบ เพียงมองไปยังแสงไฟที่ริบหรี่ในที่ไกลๆ แล้วยิ้ม
รอยยิ้มของเธอช่างงดงามนัก แฝงไว้ด้วยเรื่องราวมากมาย หลี่เซี่ยนอวี่เห็นร่องรอยกาลเวลาในดวงตาของเธอเป็นครั้งแรก
ไม่เหมือนกับภาพสาวน้อยที่นอนดิ้น ขอขนมกินบนโซฟาตอนกลางวันเลย
เมื่อเดินผ่านร้านสะดวกซื้อ ย่าทวดก็เรียกร้องอยากกินขนม กลัวว่าเธอจะเข้าไปแกะขนมในร้านตามใจชอบ หลี่เซี่ยนอวี่จึงให้เธอรออยู่ข้างนอก แล้วตัวเองวิ่งเข้าไปซื้อ
เมื่อออกมา เขาเห็นย่าทวดกำลังคุยกับคนแก่ผมขาวโพลนอย่างสนุกสนาน
คนแก่สวมชุดรักษาความปลอดภัย เวลายิ้มใบหน้าดูเหมือนดอกเบญจมาศแก่ๆ ที่เหี่ยวย่น
หลี่เซี่ยนอวี่รู้จักเขา เขาคือลุงชิน ยามของหมู่บ้าน
เป็นคนแก่ที่เจ้าชู้มาก มีแฟนในหมู่บ้านหลายคน
ตอนนี้ลุงชินก้มตัวประจบ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอาใจ
แม่ง ไอ้แก่นี่หมายตาย่าทวดของเราซะแล้ว
"เฮ้ย ลุงชิน นี่แฟนผมนะ" หลี่เซี่ยนอวี่ก้าวยาวๆ ออกจากร้านสะดวกซื้อ ดึงร่างสูงสง่าของย่าทวดมายืนข้างหลังตน
"แกมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่" ลุงชินรู้จักหลี่เซี่ยนอวี่มานาน จึงทักด้วยเสียงติดตลก "ทั้งสวยทั้งสดใสขนาดนี้ด้วย"
หลี่เซี่ยนอวี่กลอกตา "ไม่เกี่ยวกับลุงหรอก"
ลุงชิน "ไอ้หนุ่ม อย่าระแวงนักเลย ลุงไม่ได้จะพาแฟนแกหนีหรอก"
หลี่เซี่ยนอวี่คิดในใจ เลิกพูดเถอะ เรื่องราวของคุณลุง เขาลือกันไปทั่วแล้ว
ไม่อยากพูดอะไรอีก หลี่เซี่ยนอวี่ถือถุงขนมมือซ้าย มือขวาจูงมือย่าทวด เดินเข้าตึก
ลุงชินมองตามหลังทั้งสอง รอยยิ้มไม่เปลี่ยน แต่แววตาขุ่นมัว
ในลิฟต์ เขาเตือน "ย่าทวด ต่อไปอย่าเข้าใกล้ไอ้แก่เจ้าชู้นั่นนะ"
ย่าทวดกะพริบตาใสแจ๋ว "ทำไมล่ะ"
หลี่เซี่ยนอวี่ "ไอ้แก่นั่นมีกิ๊กในหมู่บ้านตั้งหลายคน เจ้าชู้มาก เห็นย่าทวดสวย คงคิดไม่ดี"
"ดูไม่เหมือนนะ"
"ย่าทวดไม่รู้หรอกว่า จิตใจคนนี่โหดร้ายแค่ไหน"
"ชิ! ย่าทวดอยู่มา 100กว่าปี จะมาสอนเรื่องคนกับฉันหรอ?"
"อ้อ ย่าทวด ชื่อจริงของย่าทวดคืออะไรครับ? ผมคงเรียกย่าทวดไปตลอดไม่ได้ เรียกส่วนตัวไม่เป็นไร แต่ต่อหน้าคนอื่นเรียกไม่ออก"
เธอฟาดหัวหลี่เซี่ยนอวี่ทีหนึ่ง "เคารพผู้อาวุโส รู้ไหม?"
กลับถึงบ้าน หลี่เซี่ยนอวี่เปลี่ยนผ้าปูที่นอนและผ้าห่มในห้องนอนใหญ่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้องนี้ไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป แต่เป็นของย่าทวด
เขาย้ายไปห้องเล็ก ที่เป็นห้องรับแขก แต่เดิมห้องรับแขกเตรียมไว้ให้ย่าทวด แต่หลังจากที่เธอเดินดูทั้ง 2ห้อง ก็เลือกห้องนอนใหญ่ ที่แสงสว่างกว่า และพื้นที่กว้างกว่า ย่าทวดบอกว่า “ไม่ได้ ข้าทนความอึดอัดไม่ได้”
วันนี้เป็นวันเสาร์ ปกติเวลานี้ หลี่เซี่ยนอวี่จะเปิดคอมเล่นเกมยิงกันจนดึก
ในห้องนั่งเล่น หลี่เซี่ยนอวี่บังคับตัวละครหลบมุมเล่นแบบเต่า การบุกฆ่าอย่างห้าวหาญนั้นเป็นของคนโกง ส่วนย่าทวดนั่งอยู่บนโซฟาด้านหลัง
เธอจ้องมองโทรทัศน์ไม่กะพริบตา นั่งหลังตรงเอวบาง ดวงตาสะท้อนแสงจากจอโทรทัศน์ สีหน้าสนุกสนานและมีความสุข
เธอค้นพบข้อดีอีกอย่างของยุคนี้ เมื่อ 20ปีก่อน ที่เธอดูโทรทัศน์ จอเล็กๆ สีขาวดำ บางครั้งยังมีภาพจุดขาวๆ ปรากฏ แต่ตอนนี้ โทรทัศน์ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า และเป็นสีสันสวยงาม
ย่าทวดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ พลางพูดจ้อกแจ้ก "20ปีแล้วที่ไม่ได้ดูข่าวภาคค่ำ คิดถึงจังเลย"
ตอนนี้ เธอสวมชุดนอนของหลี่เซี่ยนอวี่อยู่
หลี่เซี่ยนอวี่คลิกเมาส์ตุบๆ แทรกขึ้น "ผมก็ไม่ได้ดูข่าวภาคค่ำมา 20ปีเหมือนกัน"
เธอไม่สนใจ เปลี่ยนช่องต่อไปพลางพูด "เอ๊ะ ทำไมผู้หญิงยุคนี้ หน้าตาเหมือนกันไปหมดจังเลย"
หลี่เซี่ยนอวี่โดนยิงหัวจากระยะไกล บ้าเอ้ย หลบดีๆ แบบนี้ยังโดน... เขาชำเลืองมองจอแอลซีดี เธอกำลังดูละครย้อนยุค 'เจินหวนจงกุ้ย' ละครดังเมื่อไม่กี่ปีก่อนจากค่ายเทียนฟางเอ็นเตอร์เทนเมนต์
นักแสดงในเรื่อง ล้วนหน้าเรียวตาโต คิ้วตรง ฝรั่งคงมองไม่ออกว่าใครเป็นใครนอกจากแยกชายหญิง
"อืม ก็ผลิตออกมาเป็นล็อตๆน่ะ เดี๋ยวก็ชิน ยุคนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อย่างเช่น มันมั่งคั่ง ข้าวของอุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องกลัวความอดอยาก การคมนาคมก็สะดวก เดินทางง่าย มีความบันเทิงมากขึ้น ชีวิตไม่น่าเบื่อ การแต่งงานก็เป็นอิสระ ไม่ใช่ยุคที่พ่อแม่จัดการให้แล้ว" หลี่เซี่ยนอวี่ยักไหล่
"แล้วแกเคยมีแฟนกี่คนล่ะ" ย่าทวดนั่งขัดสมาธิบนโซฟา ยิ้มๆ ทั้งสงสัย ทั้งห่วงใย
"เยอะแยะเลยครับ" หลี่เซี่ยนอวี่ตอบ
"พ่อแกรักเดียวใจเดียวกว่านะ นอกจากแม่แก เขาก็เคยคบแค่นักพรตหญิงคนเดียว" ย่าทวดกลอกตาอย่างน่ารัก บ่นพึมพำ "ทายาทรุ่นนี้ ทำไมเหลวไหลนัก"
หลี่เซี่ยนอวี่ก้มหน้านิ่ง บรรพบุรุษสั่งสอนลูกหลาน เป็นเรื่องปกติธรรมดา เขาไม่กล้าเถียง
เล่นเกมต่อไป เล่นไปเล่นมา ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ คุ้นๆ นั่นคือกลิ่นแชมพูที่เขาใช้ประจำ
พอหันไปมอง ย่าทวดยืนอยู่ข้างหลังเงียบๆ ดูเขาเล่นเกม
"นี่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ ย่าทวดน่าจะเคยเห็น แต่มันพัฒนาไปเร็วมากใน 20ปีที่ผ่านมา ไม่เหมือนเดิมเลย มีคำพูดที่ว่า ไฟจุดประกายอารยธรรมมนุษย์ คอมพิวเตอร์จุดประกายยุคเทคโนโลยี
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ มันเป็นแค่อุปกรณ์ดูหนังและเล่นเกม เกมที่ผมเล่นนี่ต้องใช้ทั้งสมองและทักษะมาก คนทั่วไปเล่นไม่ได้หรอก"
"ให้ฉันลองไหม?"
"ย่าทวด?"
หลี่เซี่ยนอวี่เบิกตาโต เห็นท่าทางสนใจใคร่รู้ของย่าทวด
"ได้ แต่บอกก่อนนะ เกมนี้ไม่ใช่ว่าใครก็เล่นได้ อย่าทุบคอมล่ะ"
เขาลุกให้ที่นั่ง ย่าทวดนั่งลง หลังตรง จ้องมองคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง สีหน้าน่ารักมาก
ย่าทวดคนนี้จริงๆ แล้วอายุแค่18 เธอแค่ตายเร็วเท่านั้น...
ว่าแต่วิญญาณนักรบ คืออะไรกันแน่ เธอดูเหมือนคนธรรมดา แต่กลับยืนยันว่า ตัวเองตายไปแล้ว
เครื่องบินบินผ่าน ตัวละครกระโดดร่ม
หลี่เซี่ยนอวี่คอยสอนข้างๆ บอกวิธีเก็บของและการใช้ปุ่มต่างๆ
ไม่นาน "เอ๊ะ มีอะไรสกปรกบนจอ..."
หลี่เซี่ยนอวี่มอง "อ๋อ ย่าทวดโดนพิษ รีบวิ่งเร็ว... เก็บปืน กด 'shift' วิ่งเร็ว ไปหารถ..."
ย่าทวดหนีไม่รอด เธอโดนพิษเล่นงานตาย
"หา? แค่นี้ก็ตายแล้ว?" เธอโยนเมาส์ พองแก้ม "ไม่สนุกเลย"
เกมที่2 หลี่เซี่ยนอวี่สอนอย่างใจเย็น
"อย่าเห็นคนก็ยิงทันที หัวร้อนไม่มีทางรอดถึงตอนจบหรอก ต้องหาที่หลบก่อร"
"เล่นเกมก็เล่นไป อย่าโยกตัวไปมา"
"เฮ้ย ย่าทวดยิงแม่นจังเลยนะ?"
ฝีมือของย่าทวดทำเอาหลี่เซี่ยนอวี่ตกตะลึง แม้จะเป็นมือใหม่ แต่ปฏิกิริยาและการยิงแม่นมาก ถือปืนไรเฟิลไล่ยิงไปทั่ว
"เกมนี้สนุกจัง ฉันชอบยุคนี้" ใบหน้างดงามของย่าทวดเผยรอยยิ้ม
--------------------------------
ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ
หากพบคำผิด แจ้งได้เลย