บทที่ 3 ปีศาจน้อยจอมกวนใจ
บทที่ 3 ปีศาจน้อยจอมกวนใจ
แม้จะไม่เคยพบกับพ่อแท้ๆ แต่ในฐานะลูก หลี่เซี่ยนอวี่รู้สึกอึดอัดในใจอย่างบอกไม่ถูก
"เรื่องเก่าแก่ ไม่อยากพูดถึงแล้ว" ย่าทวดทำท่าเบื่อหน่าย
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากนึกถึงเรื่องราวในอดีต เรื่องราวในตอนนั้น พูดออกมาคงเป็นเรื่องราวที่ยาวและน่าตื่นเต้นแน่ๆ
หลี่เซี่ยนอวี่จำต้องเปลี่ยนเรื่อง ถามว่า "แล้วย่าทวดเป็นอะไรกันแน่ครับ? บางทีคำพูดผมอาจไม่ค่อยเหมาะ แต่ผมที่เป็นนักศึกษาป.ตรี คิดคำพูดที่เหมาะสมไม่ออกจริงๆ"
เรื่องปีศาจโบราณอะไรนั่น อย่างน้อยก็ใช้ทฤษฎีวิทยาศาสตร์อธิบายได้ครึ่งหนึ่ง ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตก่อนประวัติศาสตร์ก็แล้วกัน แต่คุณย่าที่ตายมา 150กว่าปีแล้ว มาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไง?
"ตอนฉันอายุ18 ตระกูลหล่อหลอมฉันเป็นวิญญาณนักรบ สิงสถิตในลูกแก้ววิเศษ มีแต่ผู้สืบเชื้อสายตระกูลหลี่เท่านั้นที่ปลุกฉันได้ ใน 100ปีที่ผ่านมา ฉันเปลี่ยนเหลนมาหลายคน เหลนคนก่อนคือพ่อของแก และแกก็จะเป็นเหลนคนใหม่ของฉัน เข้าใจไหม"
"แบบนี้แสดงว่าย่าทวดแซ่หลี่ด้วยสินะครับ" หลี่เซี่ยนอวี่กลืนน้ำลาย "งั้นไม่ใช่ย่าทวด ผมควรเรียกท่านว่า ทวดของทวด ของทวด... ของอาทวดสิครับ?"
"อาทวด ฟังดูน่าเกลียดจัง" ย่าทวดย่นจมูก
"ย่าทวดฟังดูดีกว่า"
ลำดับญาติจะเรียกอย่างสบายๆ แบบนี้ได้เหรอ?
แต่ถ้าจะจริงจังขึ้นมา บรรพบุรุษเมื่อ 150ปีก่อน ก็เรียกยากจริงๆ ย่าทวดก็ย่าทวดไปเถอะ อย่างน้อยก็ฟังดีกว่า อาทวด
หลังจากนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบ หลี่เซี่ยนอวี่ที่ความคิดถูกทำลายครุ่นคิดอยู่ พยายามเคี้ยวและย่อยความรู้เกี่ยวกับทายาทปีศาจโบราณ
ก่อนหน้านี้ ถ้ามีคนมาพูดเรื่องปีศาจโบราณอะไรพวกนี้กับเขา เขาคงพ่นน้ำใส่หน้าคนๆนั้นตายไปแล้ว
แต่ความจริงตรงหน้าทำให้เขาโต้แย้งไม่ได้ พินัยกรรมของพ่อ ลูกแก้วสีดำที่ละลายในปาก ผมคลอดย่าทวดออกมา...
ทุกอย่างกำลังบอกเขาว่า ถึงเวลาต้องปรับความคิดใหม่แล้ว
ย่าทวดดูเหนื่อย นอนหลับบนโซฟา
หลี่เซี่ยนอวี่นั่งข้างๆ พินิจสาวน้อยที่อ้างตัวว่าเป็นย่าทวด สวยมากเลย ใบหน้านี้เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนเลย หน้าตาประณีต สำคัญที่ผิว ผู้หญิงสวยแค่ไหนก็มีตำหนิที่ผิวบ้าง แต่ย่าทวดอาจเป็นเพราะร่างกายพิเศษ ผิวของเธอไม่มีตำหนิใดๆ ขาวละเอียด เหมือนสาวสวยในการ์ตูน
ให้เรียกว่า ย่าทวด ไม่ได้จริงๆ... อย่างน้อยก็ย้อมผมให้ขาว แต้มรอยย่นสักหน่อย ลุคนักเรียนมัธยมปลายของย่าทวด ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
เหมือนมีอะไรดลใจ หลี่เซี่ยนอวี่ยื่นนิ้วไปแตะแก้มน้อยๆ ของย่าทวด
ย่าทวดพึมพำ คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย
น่ารักชะมัด!
หลี่เซี่ยนอวี่คิด
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เขาเหม่อไปครึ่งวัน จนถึงเวลาอาหาร ท้องก็หิว
เขาปลุกย่าทวด พูดว่า "เราออกไปกินข้าวกันเถอะ ถ้าย่าทวดต้องกินข้าวนะครับ"
พอได้ยินเรื่องกิน ย่าทวดก็ฮึกเหิมขึ้นมา พลิกตัวลุกขึ้นนั่ง ตายังหรี่ แต่พูดออกมาแล้ว
"ฉันอยากกินผักดองผัดหมู ต้องมีหนังหมูกรอบด้วยนะ"
หลี่เซี่ยนอวี่: "......"
ย่าทวดอยู่กับพ่อผม ผ่านชีวิตลำบากอะไรมาเนี่ย?
หลี่เซี่ยนอวี่ตบอกอย่างองอาจ "ไม่กินผักดองผัดหมูหรอกครับ ย่าทวด ผมจะพาไปกินภัตตาคารใหญ่"
หลี่เซี่ยนอวี่อยู่ในห้องชุด เดินออกจากตึกก็เจอร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านตัดผม และร้านค้าต่างๆ มากมาย
ในยุทธภพเล่าลือกันว่า ไก่ตุ๋นหลานโจวเอสเคาน์ตี้ มีสักร้านที่ต้องถูกใจคุณ
ภัตตาคารเอสเคาน์ตี้ ในฐานะเชนร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ แค่ในย่านเพื่อพาณิชย์นี้ก็มี 3สาขา ร้านไก่ตุ๋น 2ร้าน ก๋วยเตี๋ยวหลานโจวยังไม่มี ขยายช้าไป ต้องตำหนิ
แต่หลี่เซี่ยนอวี่ไม่ค่อยชอบกินก๋วยเตี๋ยวหลานโจว รู้สึกว่าเนื้อวัวบางจนจะถูกลมพัดไปได้
ภัตตาคารเอสเคาน์ตี้ ที่นั่งริมประตู
หลี่เซี่ยนอวี่กับย่าทวดนั่งจ้องหน้ากัน ต่างคนต่างสั่งชุดซุปนกพิราบ กับชุดซุปไก่ดำ กินจนน้ำตาไหล
ย่าทวดปากเต็มไปด้วยอาหาร แก้มป่อง "อร่อยจัง อร่อยจัง หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้กินอาหารอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้"
หลี่เซี่ยนอวี่ "ผมก็เหมือนกันครับย่าทวด ผมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาครึ่งเดือนแล้ว"
คู่สามีภรรยาวัยรุ่นที่เป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ นี้ เจ้าของร้านที่มีรอยคล้ำใต้ตาหนัก แอบมองย่าทวดเป็นระยะ
ในร้านยังมีลูกค้าอีกไม่กี่คน ตอนนี้ไม่กินข้าวแต่จ้องมองคนแทน
เด็กสาววัยมัธยมปลาย แต่รูปร่างโดดเด่นมาก ขายาวเอวบางก้นกลม หน้าสวยจนใช้รูดบัตรเครดิตได้
ย่าทวด "แกนิสัยเหมือนพ่อเลย ไอ้ขี้จน"
หลี่เซี่ยนอวี่ "ผมไม่ได้จนนะ ครอบครัวพ่อบุญธรรมผมรวยมาก ผมแค่เอาเงินไปใช้เปิดห้องหมด"
ย่าทวด "เปิดห้อง?"
หลี่เซี่ยนอวี่ "ก็เหมือนพิธีของโจวกงในสมัยโบราณของพวกคุณ"
ย่าทวดแปลกใจ "เจ้าหลี่น้อย แกแต่งงานมีครอบครัวแล้วเหรอ?"
หลี่เซี่ยนอวี่ "ไม่ใช่ครับย่าทวด ยุคสมัยต่างกันแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องแต่งงาน แฟนหนุ่มสาวก็ทำเรื่องของสามีภรรยาได้"
หลังจากย้ายออกมาอยู่คนเดียว หลี่เซี่ยนอวี่ก็ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี มักจะชวนพี่สาวๆ ไปคุยเรื่องชีวิตและความฝันที่โรงแรม
ย่าทวดพูดต่อ "นั่นก็คือไปเที่ยวโรงโสเภณีไงล่ะ เรื่องแบบนี้พ่อแกก็เคยทำ ดีนะที่ยังไม่มีเมีย ตอนนี้แกยังเป็นคนธรรมดาอยู่ ขั้นแรกของการฝึกฝน คือการบำรุงรากฐาน ถ้าแกมีเมียแล้ว ย่าทวดจะกลุ้มใจ"
"ย่าทวดครับ ผมเป็นผู้ชาย ผมรับปากได้ แต่ฮอร์โมนของผมคงรับปากไม่ได้หรอกครับ" หลี่เซี่ยนอวี่พูดอ้อมๆ เรื่องฝึกฝนอะไรนั่น เขาไม่รู้ แต่ดูจากท่าทางของย่าทวด ดูเหมือนจะไม่ให้เขาแตะต้องผู้หญิงอีก
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฮอร์โมนแกก็จะยอมเอง" ย่าทวดโบกมือน้อยๆ
หลี่เซี่ยนอวี่: "......"
หมายความว่าไง?
เขามองรูปร่างยั่วยวนของย่าทวด นึกถึงคำในพินัยกรรมของพ่อ อะไรที่ว่าจิตวิญญาณอะไรนั่น เขาเป็นเด็กบริสุทธิ์ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจ
ขณะที่หลี่เซี่ยนอวี่กำลังคิดฟุ้งซ่าน ก็ได้ยินเสียงครวญครางเบาๆ จากข้างเท้า ก้มลงมอง หมาตัวสกปรกนั่งอยู่ที่ประตู จ้องมองเขาตาละห้อย
คงเป็นหมาที่ถูกเจ้าของทิ้ง ขนที่เคยขาวตอนนี้เป็นสีเทาสกปรก พันกันยุ่งเหยิง
"หมา ฝรั่ง?" ย่าทวดขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ โยนน่องไก่ที่แทะครึ่งหนึ่งไปตรงหน้ามัน
"ไปๆๆ!" เจ้าของร้านผู้หญิงเดินมา เธอเตะหมาไปหลายที "น่าจะทุบขาอีกข้างให้หักซะเลย"
หมาตัวนั้นร้องครวญคราง เดินกะเผลกออกไป หยุดที่ริมทาง นั่งข้างแปลงต้นไม้
"ย่าทวดมองอะไรครับ" หลี่เซี่ยนอวี่สังเกตเห็นย่าทวดมองเจ้าของร้านบ่อยๆ
"แกไม่เห็นเหรอ?" ย่าทวดถามอย่างสงสัย แล้วก็นึกขึ้นได้ "อ๋อ แกยังไม่ปลุกพลัง เลยมองไม่เห็น"
หลี่เซี่ยนอวี่งง "เห็นอะไรครับ?"
ย่าทวดลดเสียงลง "ข้างหลังเจ้าของร้าน…มีผี"
"หา?" หลี่เซี่ยนอวี่หันไปมองเจ้าของร้าน ข้างหลังเขาไม่มีใคร "ย่าทวดอย่าล้อเล่นสิครับ โลกนี้ไม่มีผีหรอก"
ย่าทวดยิ้มหรี่ตา "อยากเห็นไหม?"
หลี่เซี่ยนอวี่พยักหน้าทันทีโดยไม่ลังเล
"แต่จะต้องใช้พลังของแกนิดหน่อยนะ" ย่าทวดเตือน
"ไม่เป็นไรครับ เมื่อเทียบกันแล้ว ผมอยากเห็นว่าผีหน้าตาเป็นยังไงมากกว่า สวยเหมือนย่าทวดไหม"
ย่าทวดขมวดคิ้ว "ฉันไม่ใช่ผี ฉันเป็นวิญญาณนักรบ"
ว่าแล้วเธอก็ดูดอะไรบางอย่างจากปากหลี่เซี่ยนอวี่ ใบหน้าขาวผ่องของเธอมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที ดูเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา จากนั้นชี้นิ้วเหมือนดาบ แตะเบาๆ ที่กลางหน้าผากหลี่เซี่ยนอวี่
ตอนแรกไม่มีอะไรผิดปกติ แต่หลังจากนิ้วย่าทวดออกไป 3วินาที ดวงตาทั้ง 2ข้าง ของหลี่เซี่ยนอวี่เริ่มร้อนผ่าว เหมือนมีเปลวไฟสองกองลุกอยู่ในลูกตา
ย่าทวดกัดริมฝีปากพูด "ลองมองดูอีกที"
เขาหันไปมองเจ้าของร้าน ม่านตาหดตัวทันที เจ้าของร้านกำลังผัดหมี่ ข้างหลังเขามียายแก่ชุดสีเทายืนอยู่ เขย่งปลายเท้า เป่าลมเย็นใส่คอเจ้าของร้านไม่หยุด
เมื่อกี้ยังไม่มีใครเลย
"เปิดแอร์เบาๆ หน่อย หนาวจัง" เจ้าของร้านผัดอาหารพลางหันไปตะโกนบอกภรรยา
"อากาศร้อนขนาดนี้ ยืนผัดอาหารยังหนาวอีก" ภรรยาบ่น "เป็นไข้หรือไง?"
ไม่มีใครเห็นยายคนนั้น ลูกค้าก็กินข้าวตามปกติ ภรรยาเจ้าของร้านถือถาดเดินไปมา พวกเขาไม่เห็นยายคนนั้นเลย ภาพที่น่าขนลุกทำให้ขนหลี่เซี่ยนอวี่ลุกชัน
ตอนนั้นเอง ยายชุดเทาดูเหมือนจะรู้สึกถึงสายตาของหลี่เซี่ยนอวี่ กำลังเป่าอยู่ก็หันขวับมามอง หมุนหัว 180 องศา
หลี่เซี่ยนอวี่เห็นหน้าเธอชัดเจน ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย สีหน้าไร้ชีวิต ลูกตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด จ้องมองหลี่เซี่ยนอวี่นิ่งๆ
อากาศเหมือนน้ำแข็งปกคลุม
มือหลี่เซี่ยนอวี่สั่นเล็กน้อย เดือนมิถุนายน แต่เขารู้สึกเหมือนตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง
"อย่ามอง" ย่าทวดยื่นมือน้อยๆ ปิดตาเขา พูดเสียงเข้ม "อย่าสบตากับเธอ จะตามติดตัวแกนะ"
สบตาแล้วรู้เลย ว่าเจอคนที่ใช่?
หลี่เซี่ยนอวี่กลืนน้ำลาย พยักหน้า พอดีตอนนั้น ความร้อนในตาก็หายไป หลังย่าทวดปล่อยมือ หลี่เซี่ยนอวี่แอบมองข้างหลังเจ้าของร้าน พบว่าตัวเองมองไม่เห็นยายชุดสีเทาตนนั้นแล้ว
"ดวงพ่อแม่ของเจ้าของร้านมืดมน แสดงว่าเพิ่งเสียพ่อหรือแม่ ยายคนนั้นน่าจะเป็นแม่ของเขา" ย่าทวดพูดเสียงเบา
"คนตายแล้ว วิญญาณจะอยู่ในโลก 7วัน ถ้ามีความผูกพันลึกซึ้ง ก็จะอยู่ในโลกมนุษย์นาน ดวงตาของยายเป็นสีแดง นี่เป็นสัญญาณของความแค้น ลูกไม่กตัญญู พ่อแม่เลยมีความแค้น"
"เจ้าของร้านจะตายไหมครับ?"
"เป่าลมอมตะดับไฟบวงสรวง ก็แค่ป่วยหนักไม่กี่วัน" ย่าทวดพูด "เรื่องครอบครัวอย่าไปยุ่ง ไม่เกี่ยวกับเรา"
หลังจากเจอเรื่องนี้ หลี่เซี่ยนอวี่ไม่มีอารมณ์กินข้าวอีก จ่ายเงินผ่านอาลีเพย์แล้วรีบจูงย่าทวดออกมา
"ย่าทวดครับ โลกนี้มียมโลกจริงๆ เหรอ?"
"คนตายเหมือนไฟดับ โลกนี้ไม่มีเทพเจ้า" ย่าทวดส่ายหน้า
งั้นก็ไม่มีสินะ?
หลี่เซี่ยนอวี่เงียบๆ ขีดฆ่า "ยมโลก" ออกจากตัวเลือก เข้าใจโลกใหม่เพิ่มอีกนิด พูดอย่างเสียดาย "ผมนึกว่าจะมีการเวียนว่ายตายเกิด... อึก..."
ทันใดนั้น เขารู้สึกเหมือนร่างกายถูกรีดเอาพลังออกไป มือกุมท้อง ค่อยๆ ทรุดลงพื้น
ความรู้สึกนี้คุ้นมาก เหมือนไตทำงานหนักเกิน
เขาแทบจะเดินตรงไม่ได้
"บอกแล้วไงว่าจะใช้พลังนิดหน่อย" ย่าทวดนั่งยองๆ ข้างเขา
หลี่เซี่ยนอวี่ "ย่าทวดเข้าใจคำว่าพลัง ผิดหรือเปล่าครับ"
ย่าทวดงง "ไตเป็นที่เก็บพลัง ไตอ่อนแอก็เลือดลมไม่ดี สุขภาพผู้ชายเกี่ยวข้องกับไตโดยตรง นอกจากปวดเอว แกยังมีอาการไม่สบายอื่นอีกไหม?"
"ไม่มีครับ..."
"งั้นก็ไม่ผิดนี่"
หลี่เซี่ยนอวี่แทบร้องไห้ "พลังที่ย่าทวดพูดถึง กับพลังที่ผมคิด ไม่เหมือนกัน"
ย่าทวดอธิบาย "ฉันเป็นวิญญาณนักรบ พลังของวิญญาณนักรบมาจากเจ้าของร่าง เจ้าของร่างยิ่งแข็งแกร่ง พลังรบที่ฉันใช้ได้ก็ยิ่งแรง พัดลมเปิดระดับ1 กับระดับ5 ใช้ไฟไม่เท่ากัน สภาพแกตอนนี้ แค่ระดับ 0.5"
หลี่เซี่ยนอวี่หน้าซีด "เปรียบเทียบได้ชัดเจนมาก"
เขานึกถึงพินัยกรรมของผีพ่อ ย่าทวดเป็นปีศาจน้อยจอมกวนใจ
ที่แท้ก็หมายความแบบนี้นี่เอง!
--------------------------------
ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ
หากพบคำผิด แจ้งได้เลย