บทที่ 167: ภารกิจของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ!
บทที่ 167: ภารกิจของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ!
เซียวซิงหยูนั่งอยู่มุมหนึ่งของตู้โดยสาร เหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง
บนชานชาลาที่เต็มไปด้วยผู้คน พวกเขากำลังห้อมล้อมหญิงสาวรูปร่างสูงสง่าคนหนึ่ง
ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า เธอดูราวกับนางฟ้า เปล่งประกายความงามอย่างน่าหลงใหล
ผมยาวสลวยดุจแพรไหม พลิ้วไหวไปตามสายลม
รูปร่างบอบบาง ใบหน้ารูปไข่ที่งดงามไร้ที่ติ บ่งบอกถึงความสง่างามและความมั่นใจ ทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงความงามและเสน่ห์ของเธอ
หญิงสาวผู้นี้คือซ่างกวนเฉียน องค์หญิงเพียงพระองค์เดียวของประเทศ และเป็นธิดาคนเดียวของซ่างกวนหลาน
ถ้าดูจากใบหน้าแล้ว ซ่างกวนเฉียนมีส่วนคล้ายกับซ่างกวนหลานเพียงสามส่วน
แต่ออร่าของทั้งสองคน คล้ายกันถึงเจ็ดส่วน!
แค่ยืนเฉยๆ ซ่างกวนเฉียนก็สามารถดึงดูดสายตาของทุกคนได้
การปรากฏตัวของเธอ สว่างไสวราวกับดวงดาว
“สวย…สวยจริงๆ”
เซียวซิงหยูเป็นคนเรื่องมาก เขาไม่ค่อยจะชมผู้หญิงแบบนี้เลย
โชคดีที่มู่หรงซินซินไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่งั้นถ้าได้ยินคำพูดนี้เข้า…เธอคงต้องอารมณ์เสียแน่ๆ
ข้างๆซ่างกวนเฉียนตอนนี้ มีกิเลนศักดิ์สิทธิ์นั่งอยู่
กิเลนตัวนี้มีขนาดเท่ากับสิงโตตัวผู้ที่โตเต็มวัย ทั่วทั้งร่างเป็นสีขาว มีเกล็ดดูราวกับคริสตัลที่เรียบเนียนและใสสะอาด
บนหัวของมันมีเขาเกลียวสีขาว ยาวประมาณสามสิบเซนติเมตร เปล่งประกายแสงเเละออร่าอันเย็นยะเยือกออกมา
กิเลนเหมันต์ตัวนี้คืออสูรคู่ใจของซ่างกวนเฉียน และเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 21 ปีที่ซ่างกวนหลานมอบให้
ซ่างกวนเฉียนใช้กิเลนเหมันต์ตัวนี้ ผ่านการทดสอบระดับหกดาว จนได้กลายเป็นปรมาจารย์อสูรระดับหกดาว
การที่อายุแค่ยี่สิบต้นๆ แต่สามารถเป็นปรมาจารย์อสูรระดับหกดาวได้ ถือว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ
ซ่างกวนเฉียนไม่ทำให้ชื่อเสียงขององค์หญิงเสื่อมเสีย แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่สืบทอดมาทางสายเลือด
…..
ณ ขณะนี้ ฉินเยี่ยนหรันเดินมาที่ประตูตู้โดยสาร เธอย่อตัวลงเพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุด
“ฉินเยี่ยนหรันแห่งกิลด์นภา ขอต้อนรับองค์หญิงเพคะ”
“หัวหน้าฉิน ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนั้นหรอก” ซ่างกวนเฉียนไม่ได้ถือเรื่องยศศักดิ์ที่ทุกคนคิด
“เอ่อ…เชิญองค์หญิงขึ้นรถเพคะ”
ซ่างกวนเฉียนเก็บกิเลนเหมันต์เข้าไปในตราอสูร แล้วก้าวขึ้นรถไฟอย่างว่าง่าย
“องค์หญิง ทรงงดงามมากเพคะ!”
“องค์หญิง ช่วยลงพระนามให้ฉันหน่อยได้ไหมเพคะ!”
“องค์หญิง ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมเพคะ!”
เหล่านักเรียนที่ได้เจอซ่างกวนเฉียนเป็นครั้งแรก ต่างก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่
เเต่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในตู้โดยสาร ฉินเยี่ยนหรันจึงเชิญซ่างกวนเฉียนเข้าไปพักผ่อนในตู้ VIP
……
ภายในตู้ VIP
“องค์หญิงเพคะ อีกหนึ่งสถานีก็จะถึงเมืองหวงหยานแล้ว คงจะใช้เวลาเดินทางจากที่นี่อีกประมาณ 30 นาที หม่อมฉันจะไปรินน้ำมาถวายเพคะ” ฉินเยี่ยนหรันพูดอย่างสุภาพ
“ไม่ต้องหรอก”
“ให้เซียวซิงหยูมารินน้ำให้ฉัน”
ฉินเยี่ยนหรันถึงกับสะดุ้ง ตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคำถาม
“องค์หญิงทรงขอให้เซียวหยูมารินน้ำถวาย?”
“หรือว่าเซียวหยูรู้จักกับองค์หญิง?”
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉินเยี่ยนหรันจึงเผลอถามออกไปทันที
“องค์หญิง หม่อมฉันขออนุญาตถามนะเพคะ…พระองค์ทรงรู้จักกับเซียวซิงหยูหรือเพคะ?”
ซ่างกวนเฉียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็กลับมายิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเดิม
“ถามเเบบนี้…มันเสียมารยาทนะ?”
ฉินเยี่ยนหรันรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้องเย็น หญิงสาวตรงหน้าคือองค์หญิงที่เธอไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้
“หม่อมฉันขอประทานอภัยเพคะ”
ฉินเยี่ยนหรันโค้งคำนับขอโทษ แล้วรีบเดินออกจากตู้ VIP ทันที
….
อีกด้าน ภายในตู้โดยสารหมายเลข 15
อู๋เซิงโหย่วและซ่งหู่กำลังคุยกันเรื่อง “ใครจะได้เป็นราชบุตรเขย”
“ซ่งหู่ นายคิดว่าองค์หญิงสวยไหม?”
“นายก็ถามอะไรแปลกๆ องค์หญิงก็เหมือนกับฝ่าบาทตอนสาวๆนั่นแหละ ทั้งสวยทั้งเพอร์เฟค!”
ซ่างกวนหลานนั้นได้รับการยกย่องให้เป็น “หญิงงามอันดับหนึ่งของประเทศ”
เเละไม่ใช่เพราะฐานะของเธอ…ต่อให้จะไม่ได้เป็นฝ่าบาท ความงามของเธอก็ยังคงเป็นที่สุดของประเทศ
ซ่างกวนเฉียนเป็นลูกสาวของซ่างกวนหลาน ถึงแม้จะได้รับความงามมาแค่สามส่วน แต่ก็ยังงดงามราวกับนางฟ้าอยู่ดี
“ไม่รู้ว่าใครจะได้แต่งงานกับองค์หญิงนะ”
“ฉันว่าซิงหยูมีโอกาส!”
เซียวซิงหยูกรอกตามองบนเเล้วพึมพำทันที “เลิกพูดไร้สาระ เเล้วเอาฉันเข้าไปเกี่ยวข้องได้แล้ว”
“เเต่ฉันคิดเเบบนั้นจริงๆนะ, ฉันว่านายกับองค์หญิงเหมาะสมกันมาก!”
“นั่นสิ เเละถ้านายได้เป็นราชบุตรเขย องค์หญิงก็จะเป็นเพื่อนของเราด้วย!”
“พอฝ่าบาทสละราชสมบัติ นายก็จะได้เป็นจักรพรรดิ ส่วนพวกฉันก็จะได้เป็นพระสหาย!”
เมื่อเห็นเพื่อนๆกำลังฝันเฟื่องเรื่องตำแหน่ง เซียวซิงหยูก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะขี้เกียจจะบ่นพวกมันเเล้ว
เเละทันใดนั้นก็เอง ฉินเยี่ยนหรันก็เดินเข้ามาในตู้โดยสารหมายเลข 15
“เซียวหยู”
“พี่เยี่ยนหรัน มีอะไรเหรอครับ?”
ฉินเยี่ยนหรันโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูเซียวซิงหยู “องค์หญิงมีรับสั่ง ให้เธอไปรินน้ำถวาย”
“ทำไมต้องเป็นผมด้วย?”
“ฉันจะไปรู้เหรอ บอกมาตามตรงเถอะ เธอกับองค์หญิงมีเรื่องอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า?”
เซียวซิงหยูส่ายหน้าอย่างงุนงง เขาเคยเจอกับซ่างกวนหลานก็จริง แต่ไม่เคยเจอซ่างกวนเฉียนมาก่อนเลย
“เอาเถอะ…ตอนนี้รีบไปตู้ VIP ได้แล้ว”
ภายในตู้ VIP ซ่างกวนเฉียนนั่งอยู่บนโซฟาหนัง ในมือถือเอกสารที่มีตราประทับรูปหัวมังกร
เซียวซิงหยูเปิดประตูเข้ามา เเละในมือของเขากำลังถือถ้วยชาอุ่นๆอยู่
เมื่อเซียวซิงหยูเงยหน้าขึ้น เขาก็ถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง
การได้เห็นใกล้ๆแบบนี้ ถึงจะสัมผัสได้ว่าความงามของซ่างกวนเฉียนนั้น มีผลกระทบต่อสายตาของผู้ชายมากแค่ไหน
ความงามของซ่างกวนหลานนั้น โดดเด่น งดงาม และมีความเป็นผู้ใหญ่อย่างมาก…ส่วนซ่างกวนเฉียนก็เหมือนกับซ่างกวนหลานเวอร์ชั่นสาวๆ
เธอดูบริสุทธิ์ สดใส และสามารถสะกดใจชายหนุ่มได้อย่างง่ายดาย
“เธอยืนไกลจากฉันตั้งแปดวา เเล้วเเบบนี้ฉันจะดื่มน้ำได้ยังไง?”
เซียวซิงหยูรีบตั้งสติ เดินเข้าไปใกล้ เเล้วยื่นถ้วยชาให้ซ่างกวนเฉียนอย่างสุภาพ
“เชิญองค์หญิงดื่มชา”
ซ่างกวนเฉียนจิบชาไปหนึ่งจิบ หลังจากนั้น…ดวงตาที่งดงามก็เป็นประกาทันที
“ท่านนักบวชเซียว ชารสชาติดี”
“องค์หญิง…” เซียวซิงหยูใจเต้นแรง
ซ่างกวนเฉียนดึงชายกระโปรงขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นป้ายที่เอวของเธอ
ป้ายวิญญาณจักรพรรดิ!
ป้ายนี้เป็นสัญลักษณ์ของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ
เซียวซิงหยูก็มีป้ายนี้เหมือนกัน มันเป็นของที่ซ่างกวนหลานมอบให้เขา
“ผู้หญิงคนนั้นช่างเดาใจยากจริงๆ เธอถึงกลับส่งลูกสาวเข้ากองกำลังวิญญาณจักรพรรดิด้วย”
ซ่างกวนเฉียนวางถ้วยชาลง แล้วยื่นเอกสารให้เซียวซิงหยู
“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องไปตรวจราชการที่เมืองหวงหยาน?”
ซ่างกวนเฉียนเก็บรอยยิ้ม น้ำเสียงจงของเธอเย็นชาลงหนึ่งระดับ
“ตามรายงานของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิ หนึ่งเดือนก่อน…มีอสูรสายปลอมตัว แฝงตัวเข้ามาในเมืองหวงหยาน”
เซียวซิงหยูเคยอ่านหนังสือมากมายในห้องสมุดของวิทยาลัยชิงหลง เขารู้ดีว่าอสูรสายปลอมตัวนั้นน่ากลัวแค่ไหน
อสูรประเภทนี้สามารถปลอมตัวเป็นมนุษย์ แล้วแฝงตัวเข้าไปในดินแดนของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย
เเละจากข้อมูลนี้ เซียวซิงหยูก็เริ่มเข้าโหมดการวิเคราะห์อีกครั้ง
“ที่หุบเหวกกระดูกขาวและเทือกเขาคุนหมี่ไม่มีอสูรปรากฏตัวเลย”
“เเละตอนนี้มีอสูรสายปลอมตัวแฝงตัวเข้ามาในเมืองหวงหยาน”
“ข้อมูลเหล่านี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกัน…”
เเต่ทันใดนั้นเอง ซ่างกวนเฉียนก็พูดขึ้น “ท่านนักบวชเซียว ฟังคำสั่ง”
“ครับ!”
“ฝ่าบาทมีรับสั่ง ให้เราสองคนร่วมมือกันสืบสวนคดีอสูรสายปลอมตัวที่แฝงตัวเข้าไปในเมืองหวงหยาน ห้ามมีข้อผิดพลาดโดยเด็ดขาด”
คำสั่งนี้ทำให้เซียวซิงหยูเหงื่อตกทันที
“ฉันเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับสองดาว เเต่ยายแก่คนนั้นกลับให้ฉันมาเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ขนาดนี้”
“นี่เธอจะทดสอบฉัน?...หรือจะแกล้งฉันกันแน่เนี่ย?”
…..
อีกด้าน
ภายในตำหนักเย่หลาน ในพระราชวังหลวง
ซ่างกวนหลานมองหิมะที่โปรยปรายอยู่ด้านนอก มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“เซียวซิงหยู ครั้งนี้อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”
…………………….