บทที่ 152 แผนการ
เรื่องนี้จะมีตอนฟรีทั้งหมด 1-200 ตอน และ....ถ้ายอดกดไลก์เพิ่ม 100 ก็จะแถมให้ฟรี 20 ตอนครับ (ปล.เริ่มนับจาก 8700 นะ เช่นขึ้นไป 8800 ก็บวกให้ 20 ตอน ถ้ายอดมันขึ้นยันจบเรื่อง ก็เปิดให้ฟรีหมดอะ)
*ครบหมื่น แถม 100 ตอนไปอีก เอาเป็นว่าจำกัดวันด้วยแล้วกัน เพราะงี้ถ้าเกิดครบขึ้นมาแบบ 2 ปีต่อมาลืมแหง เอาถึง 1/4/2568 นะครับ ก็คือ 1 เมษายน*
แฟนเพจกดไลก์ได้ที่ ยักษาแปร | Facebook
บทที่ 152 แผนการ
「ผมเห็นด้วยกับคุณนะ!」
โจวต้วนหยุนหัวเราะร่า ส่งเหล้าให้เกาหยาง ทั้งคู่ดื่มหมดแก้วรวดเดียว
「สองคนนั้นดื่มเก่งจริง ๆ นะ」ถังซินหัวเราะมองทั้งสองคน ก่อนจะหันไปมองแก้วเหล้าของหลินเสวียน:
「คุณก็ดื่มไปเยอะเหมือนกันนะ ไม่เป็นไรเหรอคะ? 」
「พอไหวครับ ผมดื่มได้เยอะอยู่」
「ไม่แปลกใจเลยที่คุณสนใจเรื่องการจำศีล หลินเสวียน เพราะศาสตราจารย์สวี่หยุนใช่ไหมคะ? 」ถังซินกระพริบตา มองหลินเสวียน
「ก็ไม่เชิงหรอกครับ」หลินเสวียนเติมเหล้าใส่แก้วตัวเองจนเต็ม:
「ผมแค่สงสารลูกสาวของศาสตราจารย์สวี่หยุน หวังว่าเธอจะอยู่รอดจนถึงวันที่แคปซูลจำศีลออกสู่ตลาด เชิญครับ ขอให้โครงการวิจัยของคุณประสบความสำเร็จโดยเร็ว มีคนไข้จำนวนมากที่รอคอยพวกคุณอยู่นะครับ」
「ฉันจะพยายามเต็มที่ค่ะ」
ถังซินวันนี้ก็ดื่มไปเยอะเหมือนกัน เธอยกแก้วขึ้นชนกับหลินเสวียนพร้อมรอยยิ้ม
ที่จริงแล้ว…
หลินเสวียนคิดว่าถังซินวันนี้จะไม่ดื่มเหล้าซะอีก
เพราะวันนี้มีแค่เธอคนเดียวที่เป็นผู้หญิง และก็ไม่ใช่สถานที่ทางธุรกิจอะไร เธอไม่ดื่มก็ไม่มีใครว่าอะไร เพื่อนร่วมชั้นกันทั้งนั้น จะทำยังไงก็ได้ตามใจชอบ
แต่ที่ไหนได้ เธอก็เข้มแข็งไม่เบาเลยนี่นา
โจวต้วนหยุนกับเกาหยางเมาหนักมาก...ดื่มกันยาวนานเหลือเกิน
ดื่มเหล้าไปสองขวดแล้ว โจวต้วนหยุนก็สั่งคนขับรถส่งมาเพิ่มอีกสองขวด ทั้งคู่ยังคงดื่มต่อ ไม่ยอมหยุด
หลินเสวียนกับถังซินดื่มจนได้ที่แล้ว จึงไม่สนใจสองคนที่นั่นตะโกนโวยวาย คุยกันเงียบ ๆ ที่โต๊ะตัวเอง
ถังซินบอกหลินเสวียนว่าวงออร์เคสตราของพวกเธอจะมีการแสดงในงาน “เทศกาลดนตรีเมืองตงไห่” ในเร็ว ๆ นี้ และชวนหลินเสวียนไปดู
ออร์เคสตราน่ะเหรอ...
จริง ๆ แล้วหลินเสวียนไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
แต่ถังซินชวนอย่างจริงใจ บอกว่าไม่ใช่แค่การแสดงออร์เคสตราเท่านั้น ยังมีการแสดงของดาราอีกมากมาย นอกจากเพลงแล้วก็ยังมีการแสดงเต้นรำอลังการมาก หลินเสวียนจึงตอบตกลง
จนกระทั่งพนักงานมาบอกว่าร้านจะปิดแล้ว ฝั่งเกาหยางกับโจวต้วนหยุนถึงยอมเลิกรา สองคนนี้ดื่มกันตั้งแต่ทุ่มกว่าจนถึงเที่ยงคืน เรียกว่าเจอคู่ดื่มที่ใช่เลยทีเดียว
ลงมาชั้นล่าง คนขับรถของโจวต้วนหยุนเปิดประตูหลังของโรลส์-รอยซ์ แฟนทอม ให้เกาหยางกับโจวต้วนหยุนขึ้นรถ
โรลส์รอยซ์รุ่นแฟนทอมเป็นรถสี่ที่นั่ง จึงเหลือที่นั่งสำหรับโจวต้วนหยุนส่งเกาหยางกลับบ้านเพียงคนเดียว ส่วนหลินเสวียนต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้านกับถังซิน
「หลินเสวียน! แกจะมาซื้อรถที่ร้านฉันเมื่อไหร่เนี่ย!」 เกาหยางลดกระจกรถลง แล้วตะโกนเสียงดังจากในโรลส์รอยซ์
「ว่างเมื่อไหร่ก็ไป เชื่อฉันเหอะน่า พูดคำไหนคำนั้น」
หลินเสวียนโบกมือลาทั้งสอง
「หลินเสวียน เราไปขึ้นรถกันเถอะ」
ถังซินชี้ไปที่แท็กซี่ที่จอดอยู่ข้างทาง
หลินเสวียนเงยหน้ามอง
เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้สายตาพร่ามัว เหมือนภาพช้า รู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวช้าลงไปครึ่งจังหวะ
ถนนเงียบสงบมาก
หลังจากโรลส์รอยซ์ของโจวต้วนหยุนขับออกไปแล้ว นอกจากเสียงพนักงานร้านอาหารที่กำลังเก็บโต๊ะเก้าอี้ รอบตัวก็เงียบกริบเหลือเกิน
แท็กซี่คันหนึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างทางรอผู้โดยสาร
ถนนทั้งสองข้างทางมืดมิด บรรยากาศแบบนี้…คุ้น ๆ
ถังซินเดินนำไปถึงข้างแท็กซี่ เตรียมจะเปิดประตูรถ——
ปัง!
ด้านหลัง หลินเสวียนคว้ามือเธอไว้
「ห๊ะ? 」
ถังซินหันกลับไปมองมือของหลินเสวียนที่กำลังจับมือเธออยู่ แววตาของเธอดูตกใจเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเปล่า เธอรู้สึกว่าฝ่ามือของหลินเสวียนอุ่น ๆ นาฬิกาข้อมือดิจิทัลของเขาโผล่พ้นแขนเสื้อมา ตัวเลขสีเงินบนหน้าปัดแสดงเวลา——
00:42
“หลิน… หลินเสวียน?” ถังซินแก้มแดงระเรื่อ มืออีกข้างยกขึ้นไปหลังใบหู ใช้นิ้วชี้เล่นกับเส้นผม
“คุยกันต่ออีกสักหน่อยไหม?” หลินเสวียนยิ้ม
“ก็ดีค่ะ” ถังซินหันไปมองทางอื่น
“จะ…จะเปลี่ยนที่คุยกันไหมคะ?”
“ที่นี่ก็ได้”
“ที่นี่เหรอคะ?” ถังซินดูงง ๆ เหลือบมองซ้ายมองขวา แล้วหันไปยิ้มให้หลินเสวียน
“ที่นี่ดูไม่ค่อยเหมาะกับการคุยกันเท่าไหร่เลยนะคะ เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อนร่วมงานพาฉันไปที่บาร์น่านั่งแห่งหนึ่ง เราไปที่นั่นกันไหมคะ?”
หลินเสวียนมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง
00:43
“ก็ดี ไปล้างไวน์หน่อยก็ดี”
เขาปล่อยมือถังซิน แล้วไปเปิดประตูรถแท็กซี่ด้านหลัง——
เปิดได้ง่ายดาย
จากนั้นชี้มือให้ถังซินขึ้นรถ
“คุณนั่งหลังนะครับ ผมนั่งหน้า”
แล้วเขาก็ไปเปิดประตูฝั่งคนขับ——
เปิดได้ไม่มีปัญหาอะไร
เขาถอนหายใจออกมา…
แน่ล่ะ คงคิดมากไปเองสินะ
นั่งที่เบาะข้างคนขับ เขามองไปทางคนขับ เป็นคนขับรถแท็กซี่วัยกลางคนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
“ไปไหนครับ?”
คนขับรถทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น ลูบจมูกเบา ๆ แล้วมองทั้งสองคน
「ตรงนี้ค่ะ」
ถังซินส่งโลเคชั่นบนมือถือให้คนขับรถดู
……
ในผับดนตรีสด นักร้องประจำร้านกำลังขับกล่อมเพลงโฟล์คช้า ๆ บนเวที
หลินเสวียนกับถังซินนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็ก ๆ มุมห้อง จิบเครื่องดื่ม
ถังซินพูดไม่หยุด เหมือนเปิดประตูน้ำเลยทีเดียว พูดจ้อไม่หยุด ต่างจากตอนอยู่ที่ร้านอาหาร เธอเล่าเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ และเรื่องสนุก ๆ ในที่ทำงานให้ฟังไม่ขาดสาย
หลินเสวียนก็ยิ้มรับฟังไปเรื่อย ๆ
แต่ในใจกลับคิดวนเวียนอยู่แต่กับถนนที่ไม่มีรถ ไม่มีคน และรถแท็กซี่ที่ไม่มีอะไรผิดปกติเลย
รายละเอียดมากมายชี้ให้เห็นว่า…
เขาเอง วิตกกังวลกับเวลา 00:42 มากเกินไปจริง ๆ
ในความคิดของเขา
เขาอาจจะถูกฆ่า และถังซินก็อาจจะถูกฆ่า… ตอนนี้เขาเริ่มคิดมากไปแล้ว
แต่ความจริงแล้ว
ทั้งตอนงานเลี้ยงรุ่น และวันนี้ ก็เป็นเพียงความตกใจเปล่า ๆ เขาตกใจตัวเองต่างหาก
ลองคิดดูดี ๆ การฆ่าคนให้ตรงกับเวลา 00:42 นั้นค่อนข้างยาก มีเวลาแค่ 60 วินาที ต้องให้เป้าหมายยืนอยู่บนถนนพอดี และต้องมีรถวิ่งมาชนด้วยความเร็วสูง…
ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ดูโหดร้ายเกินไป
หลินเสวียนคิดว่า ถ้าเขาหรือถังซินเป็นเป้าหมายของคนร้าย อย่างน้อยตอนที่ถังซินเอื้อมมือไปจับประตูรถ รถที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ควรจะเร่งความเร็วแล้ว ไม่งั้นจะไม่มีความเร็วพอที่จะชนให้ตายได้
แต่ความจริงแล้ว…
ไม่มีเสียงอะไรเลยสักนิด
คนขับแท็กซี่ก็เป็นปกติ ประตูรถเปิดได้ลื่นไหล แม้ถังซินจะไม่ได้ช่วย เธอก็ขึ้นแท็กซี่จากฟุตบาทได้อย่างปลอดภัย
ดังนั้น…
อาจจะเป็นเพราะฉันคิดมากไปเอง
ความรู้สึกหวาดระแวงแบบนี้ไม่ดีเลยจริง ๆ
ทั้งสองคุยกันต่ออีกสักพัก ก่อนจะเตรียมตัวกลับบ้าน
ออกจากประตูผับ ถังซินจับแขนหลินเสวียน ชี้ไปยังฝั่งตรงข้ามถนน:
「ตรงนั้น ฉันเรียกรถตี๋ตี๋มาแล้ว! เพิ่งหัดใช้ได้ไม่กี่วันนี้เอง ใช้สะดวกกว่าอูเบอร์เยอะเลย แอปของบ้านเราใช้แล้วง่ายดีจริง ๆ 」
ถังซินไม่วางใจหลินเสวียน จึงส่งหลินเสวียนกลับบ้านก่อน:
「บายบาย หลินเสวียน」
「ลาก่อนครับ」
หลินเสวียนโบกมือลา รถตี๋ตี๋ค่อย ๆ หายไปในความมืด
……
วันรุ่งขึ้น สายด่วนซุบซิบของเกาหยางก็มาตรงเวลา:
「อิอิอิ เมื่อวาน……」
「ไม่มีอะไรสักหน่อย」หลินเสวียนกำลังทำงานอยู่ที่บริษัท ใช้เมาส์ปรับแต่งแบบจำลองแมวไรน์ ตัดบทความคิดเพ้อฝันของเกาหยางทันที:
「สมองแกมันใส่อะไรที่เป็นประโยชน์บ้างไม่ได้หรือไง?」
「บ้า! เมื่อวานฉันกับโจวต้วนหยุนเห็นนะ! 」
เกาหยางแสดงความดูถูกด้วยเสียง “เชอะ!” เบา ๆ :
「รถเรายังเพิ่งออกไปเองนะ! แกก็ไปจับมือกับเธอซะแล้ว! พวกเรามองเห็นชัดเจนเลยในกระจกมองหลัง! แกนี่มันผู้ชายเลวทรามต่ำช้า อย่าทำแล้วไม่ยอมรับสิ!」
「ฉันแค่กลัวว่าเธอจะข้ามถนนไม่ปลอดภัย」
「เชอะ ๆ ๆ ! แกคิดว่าแม้แต่ตัวแกเองจะเชื่อคำแก้ตัวนี้เหรอ? ถังซินน่ะเด็กสามขวบหรือยายแปดสิบ? ข้ามถนนแค่นั้นแกยังไม่วางใจ!?」
「ไม่มีอะไรแล้ว บ๊ายบายนะ」
กึก
หลินเสวียนวางสายไปทันที
ติ๊งงงงงงง
พึ่งวางสายไปได้แป๊บเดียว เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นมาอีกแล้ว
เกาหยางนี่มันยังไม่เลิกราอีกเหรอเนี่ย?
หลินเสวียนมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ ผลปรากฏว่าเป็นชื่อที่คาดไม่ถึง——
ฉู่อันฉิง
เจ้าหญิงน้อยคนนี้มาหาอะไรกับฉันเนี่ย?
หลังจากรับสาย เสียงหวานใสก็ดังมา:
「รุ่นพี่หลินเสวียน คุณอยู่ที่ออฟฟิศบริษัทเหรอคะ? ฉันบังเอิญผ่านมาแถวนี้ เลยอยากจะเอาของมาให้ค่ะ!」
「ผมอยู่ครับ ชั้น 20 เดี๋ยวผมให้พนักงานต้อนรับไปรับคุณนะครับ」
「ไม่ต้อง ๆ ค่ะ ฉันขึ้นไปเองได้ค่ะ!」
ไม่กี่นาทีต่อมา
เจ้าหญิงแห่งตงไห่เสด็จมาถึงแล้ว
เธอยังคงแต่งตัวแบบนักศึกษาสาวสดใส ทำให้ห้องทำงานของหลินเสวียนดูราวกับมีกลิ่นหอมของดอกก๋วยฮวาในมหาวิทยาลัยตงไห่ลอยฟุ้ง
「วันนี้ลมอะไรพัดคุณมาเนี่ย? 」หลินเสวียนรินน้ำให้เธอ
「ฉันเอาตั๋วมาให้คุณนี่คะ!」
ฉู่อันฉิงหัวเราะคิกคัก แล้วหยิบตั๋วเข้าชมที่ประณีตออกมาจากกระเป๋า ส่งให้หลินเสวียน
หลินเสวียนรับมาดู……
《การแสดงดนตรีเมืองตงไห่ ที่นั่งวีไอพี》?
เมื่อวานนี้เพิ่งได้ยินถังซินพูดถึงคอนเสิร์ตนี้ วันนี้ก็ได้รับตั๋วจากฉู่อันฉิงแล้ว? บังเอิญเสียจริง!
「หรือว่า……จะมีการแสดงของคุณด้วยเหรอ? 」
หลินเสวียนเอ่ยถามตรงไปตรงมาอย่างที่คิด
「ใช่เลยค่ะ」
ฉู่อันฉิงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้วโยกตัวไปมาพลางพูดว่า:
「มีการแสดงบัลเลต์ของฉันด้วย! งานเลี้ยงปีใหม่ของพ่อฉันครั้งก่อน คุณเต้นรำกับฉัน……ฉันก็เลยบอกว่าควรจะตอบแทนคุณเสียหน่อย! การแสดงดนตรีครั้งนี้เยี่ยมมากเลยนะ!」
「ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวนะ มหาวิทยาลัยตงไห่ก็มีหลายรายการเลยล่ะ! ยังมีนักร้องชื่อดังวงดนตรีชื่อดังมาแสดงด้วย รุ่นพี่ต้องชอบแน่ ๆ !」
หลินเสวียนยิ้มอย่างจนใจ
คงไม่ใช่เพราะการเต้นวอลทซ์ในงานเลี้ยงครั้งนั้น ทำให้ฉู่อันฉิงเข้าใจผิดอะไรเกี่ยวกับฉันหรอกนะ?
ฉันไม่ใช่หนุ่มน้อยไฮโซที่ชอบการแสดงดนตรีและการเต้นรำหรอก ความรู้เรื่องดนตรีของฉันส่วนใหญ่มาจากหนัง ส่วนการเต้นรำ……ก็แค่พอได้เท่านั้นแหละ เพราะบังเอิญไปเจอจัง ๆ เข้า เลยชำนาญเท่านั้นเอง
「ขอบคุณสำหรับตั๋วนะ ถ้ามีเวลาว่าง ผมจะไป」
「ได้เลยค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะคะรุ่นพี่ บ๊ายบาย」
สาวน้อยร่าเริงมาไวไปไว โบกมือลาแล้วจากไป
หลินเสวียนตรวจสอบตั๋วเข้าชมที่นั่งพิเศษอีกครั้ง
โอ้โห…
ที่นั่งนี่ระดับวีไอพีสุด ๆ ไปเลย
แต่สถานะของฉู่ซานเหอชัดเจนอยู่แล้ว ฉู่อันฉิงจะได้ตั๋วแบบไหนก็ไม่แปลก ยิ่งเป็นการแสดงบัลเล่ต์ของเธอด้วยแล้ว… น่าจะได้มาเพราะเส้นสายมากกว่าใช่มั้ย?
「แต่ก็ไม่แน่ใจนะ」
หลินเสวียนส่ายหัว ฉันไม่ควรไปตัดสินคนรวยอย่างเธอง่าย ๆ สิ
วันนั้นในงานเลี้ยงปีใหม่ ฝีมือการเต้นสุดยอดของฉู่อันฉิงมันพิสูจน์ทุกอย่างแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น นั่นยังเป็นตอนที่ฉัน คู่เต้นมือสมัครเล่น ไปถ่วงเธออีก ทำให้เธอแสดงฝีมือเต็มที่ไม่ได้
ถ้าเธอได้เวทีที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ … มันคงสุดยอดมากแน่ ๆ
……
เย็นวันนั้น
ร้านอาหารฝรั่งเศสหรูแห่งหนึ่ง
ถังซินวางกระเป๋าถือลงข้าง ๆ มองโจวต้วนหยุนที่นั่งตรงข้ามแล้วส่งยิ้มให้
「ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะชวนฉันมากินข้าว」
「ก็เราเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนกันนี่นา ถือว่ามาเพิ่มความสัมพันธ์กันหน่อย」โจวต้วนหยุนเรียกพนักงานเสิร์ฟ แล้วสั่งอาหารเรียกน้ำย่อย
「คุณบอกว่ามีเรื่องของหลินเสวียนจะคุยกับฉันใช่มั้ย?」ถังซินมองโจวต้วนหยุน
โจวต้วนหยุนก้มหัวลงยิ้มบาง ๆ
「คุณถัง อาหารเรียกน้ำย่อยยังไม่มาเลยนะ รีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ」
「อย่ามาอ้อมค้อมเลยสิคะ」ถังซินยิ้มสุภาพ แล้วคลี่ผ้าเช็ดปากบนโต๊ะออก
「พูดมาตรง ๆ เลยก็ได้」
「คุณชอบหลินเสวียนใช่มั้ยล่ะ?」โจวต้วนหยุนยิ้มมองถังซิน
「ขอโทษนะที่ผมพูดตรงไปตรงมา แต่ผมคิดว่าคุณไม่ได้พยายามปกปิดความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อหลินเสวียนเลย หวังว่าคุณจะไม่ถือสา」
「มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิดอะไรหรอก」ถังซินพูดเสียงเบา 「ฉันก็ไม่ได้เป็นเด็กสาวอายุสิบกว่าขวบ อายุเท่านี้แล้ว ชอบใครสักคนมันก็เรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย พูดออกไปตรง ๆ ก็ได้ ฉันก็ชอบหลินเสวียนจริง ๆ แหละ」ถังซินลูบผมหน้าม้าเบา ๆ มองโจวต้วนหยุน 「แต่ฉันก็ไม่คิดว่าคุณจะมาสนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ถึงแม้เราจะรู้จักกันไม่นาน เจอกันแค่สองสามครั้งเอง แต่ฉันรู้สึกว่าคุณน่าจะยุ่งมาก」
「อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ เราเป็นเพื่อนเก่ากันนะ」โจวต้วนหยุนยกแก้วไวน์ออเดิร์ฟที่พนักงานเสิร์ฟมาให้ขึ้น 「ผมไม่ได้มาเผือกเรื่องของคุณหรอกนะ ผมอยากช่วยคุณต่างหาก」
「ช่วยฉันเหรอ?」ถังซินกระพริบตาเล็กน้อย ดูประหลาดใจ 「ถึงแม้จะขอบคุณในความหวังดีของคุณ…แต่ฉันรู้สึกว่าเรื่องความรักนี่ มันไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาช่วย」
「อ้าว…คุณยังไม่เข้าใจเรื่องวงการธุรกิจที่ตงไห่เลยเหรอครับ คุณคงไม่รู้หรอกว่าหลินเสวียนมีผู้หญิงมาชอบเยอะแค่ไหน คุณไม่รู้หรอกว่าคู่แข่งของคุณเป็นใครบ้าง」
โจวต้วนหยุนยิ้มบาง ๆ แล้วส่ายหัว ก่อนถอนหายใจเบา ๆ
「เอาล่ะ ผมจะพูดตรง ๆ เลยนะ……」
เขาวางแก้วเหล้าลง มองถังซินอย่างจริงจัง
「คุณไม่มีทางชนะหรอก ไม่มีโอกาสเลยสักนิด」
……
……
ทั้งสองเงียบไปนานสองนาน
พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามาเงียบ ๆ วางจานอาหารเรียกน้ำย่อยจานแรกบนโต๊ะ ก่อนโค้งตัวลาไป
ถังซินจมูกบานเล็กน้อย กอดอกพิงพนักเก้าอี้
「โจวต้วนหยุน นี่คุณพูดจาไม่สุภาพเกินไปหรือเปล่าคะ? คุณนัดฉันออกมาเพื่อมาเยาะเย้ยฉันอย่างนี้เหรอ?」
「ไม่ใช่เลย คุณเข้าใจผิดความหวังดีของผมผิดแล้ว」
โจวต้วนหยุนไขว้แขนวางบนโต๊ะ
「ถึงแม้ว่าหลินเสวียนจะมีสาว ๆ สวย ๆ รุมล้อม แต่พวกเธอก็ไม่ใช่ญาติพี่น้องอะไรกับผม ผมจะไปห่วงใยพวกเธอทำไม? พูดให้ถูกคือ พวกเราสองคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ผมย่อมอยู่ข้างคุณเสมอ」
「แล้วคุณหมายความว่ายังไงคะ?」
「ผมบอกไปแล้วไงว่า ผมอยากช่วยคุณ」 โจวต้วนหยุนมองถังซินพลางยิ้มบาง ๆ
「ผมมีแผนอยู่ แผนที่จะทำให้คุณได้หลินเสวียนมาครอบครอง 100% เลยนะ……」
「สนใจฟังไหมล่ะ?」