ตอนที่ 978 ผมรู้จักไหม?
คนที่เรียกขวาง เย่เฉิน ไว้ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือ เซวีย ผิงเยว่ หัวหน้าตระกูลเซวียในเซี่ยงไฮ้ ซึ่ง เย่เฉิน รู้จัก
ถัดมา หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งก็เดินตามมาข้างๆ เซวีย ผิงเยว่
หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งผมยาวคนนี้ ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เซวีย ผิงเยว่ คือ เซวีย เยว่เยี่ยน ลูกสาวของเขา
“คุณเย่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ครับ?”
เซวีย ผิงเยว่ ถามด้วยความประหลาดใจ
เมื่อได้ยินพ่อของเธอเรียก เย่เฉิน ว่า ‘คุณเย่’ เซวีย เยว่เยี่ยน พลันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ไปพลางมอง เย่เฉิน ด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ
ก่อนหน้านี้เธอเรียนปริญญาเอกอยู่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แต่ทันทีที่กลับมา เธอก็ได้ยินเรื่องบางอย่าง..
พ่อของเธอเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดแย้งกับเศรษฐีที่นามสกุล ‘เย่’ คนหนึ่ง ถึงขั้นขับไล่พี่ชายของเธอ เซวีย ไห่หมิง ออกจากตระกูลเป็นเวลาสามปี ปล่อยให้ไปเผชิญชะตากรรมเอาเอง
นอกจากนี้ ยังยกคฤหาสน์หรูในโครงการ ถานกง ถึงสองหลังให้เป็นของขวัญเพื่อขอโทษเขา
สิ่งนี้ทำให้ เซวีย เยว่เยี่ยน ไม่พอใจอย่างมาก คฤหาสน์สองหลังก็ยังพอรับได้ แต่เรื่องการขับไล่พี่ชายออกจากตระกูลเป็นเวลานานถึง 3 ปี มันถือว่าเกินไป!
แม้ว่า เซวีย ไห่หมิง จะเป็นคนเสเพลอย่างมากในสายตาคนอื่นๆ แต่เขาก็เป็นพี่ชายที่ดีกับเธอมาก
เพียงเพราะคนที่นามสกุล ‘เย่’ คนนี้เป็นที่โปรดปรานของ คุณหม่าแห่ง Penguin Group ตระกูลเซวีย ของพวกเธอถึงกับต้องยอมขนาดนี้เลยหรือ?!!!
ถึงแม้คนที่นามสกุล ‘เย่’ คนนี้จะเป็นที่โปรดปราน และทรงอิทธิพลในเซี่ยงไฮ้มาก แต่เมื่อออกนอกเซี่ยงไฮ้ หรือแม้แต่ไปต่างประเทศ เขาก็เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น!!!
หลายปีที่เรียนปริญญาเอกในสหรัฐฯ เธอเคยพบเศรษฐีมามากมาย และแน่นอนว่ามุมมองของเธอกว้างขึ้น
ดังนั้นเพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับคนที่นามสกุล ‘เย่’ พ่อของเธอยอมสั่งสอนพี่ชายเธอก็มากพอแล้ว แต่การขับออกจากตระกูลถึงสามปีนั้นเกินไปมาก
ด้วยเหตุนี้ เซวีย เยว่เยี่ยน จึงรู้สึกไม่พอใจ เย่เฉิน อย่างมาก
วันนี้ เพื่อฉลองการกลับมาของเธอ พ่อของเธอจึงจองโต๊ะที่นี่ แต่คาดไม่ถึงว่าจะเจอคนที่นามสกุล ‘เย่’ คนนั้นที่นี่ ..ช่างโชคร้ายจริงๆ
เซวีย เยว่เยี่ยน บ่นในใจ
“เยว่เยี่ยน นี่คือ คุณเย่ ที่พ่อเคยพูดถึง รีบทักทาย คุณเย่ สิ”
เซวีย ผิงเยว่ รีบพูด หวังให้ เย่เฉิน และเซวีย เยว่เยี่ยน รู้จักกัน เพื่อเพิ่มเครือข่ายความสัมพันธ์ให้แก่ลูกสาวของเขา
แต่ เซวีย เยว่เยี่ยน ที่ไม่ชอบ เย่เฉิน อยู่แล้ว แค่พยักหน้าอย่างเย็นชาเป็นการทักทาย โดยไม่คิดจะพูดอะไร
เมื่อเห็นเช่นนี้ เซวีย ผิงเยว่ ก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะลูกสาวคนเล็กของเขาถูกตามใจจนเสียคน
“อ้อ ที่แท้ก็หัวหน้าตระกูลเซวีย”
เย่เฉิน พูดขึ้นทันที ตอนแรกเขาคิดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อถูกเรียกตัว
“คุณเย่ ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว ผมขอเลี้ยงข้าว คุณเย่ ในห้องส่วนตัวของผมสักมื้อนะครับ”
เซวีย ผิงเยว่ เชิญ เย่เฉิน อย่างอบอุ่น
เมื่อได้ยินดังนั้น เซวีย เยว่เยี่ยน ก็ไม่พอใจทันที ทำไมถึงให้ เย่เฉิน มาร่วมโต๊ะกับพวกเราด้วย
เย่เฉิน คนนี้ก็แค่โอ้อวดในเซี่ยงไฮ้ แต่เมื่อเทียบกับทุนใหญ่ และบริษัทระดับโลกในต่างประเทศ เขาก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรพิเศษเลย
ขณะที่ เซวีย เยว่เยี่ยน กำลังคิดหาวิธีให้พ่อปฏิเสธคำเชิญ เย่เฉิน ก็พูดขึ้นทันที :
“ไว้คราวหน้าดีกว่า วันนี้ผมมีนัดแล้ว”
เย่เฉิน ปฏิเสธ
“อ่า น่าเสียดายจริงๆ”
เซวีย ผิงเยว่ พูดด้วยความเสียดายนิดๆ
แต่สำหรับ เซวีย เยว่เยี่ยน เธอกลับรู้สึกดีใจที่ไม่ต้องร่วมโต๊ะกับ เย่เฉิน คนนี้
“ว่าแต่ คุณเย่ คนที่สามารถเชิญ คุณเย่ ได้ เขาคงต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลมากแน่ๆ ใช่ไหมครับ?”
เซวีย ผิงเยว่ ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ผมรู้จักไหม?”
“หัวหน้าตระกูลเซวีย อาจจะไม่รู้จัก เขาไม่ใช่คนจีน แต่เป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งแรกของประเทศน้ำมันชื่อ อดัมเบิร์ต ครับ”
เย่เฉิน ตอบ
“อะไรนะ ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งแรกของประเทศน้ำมัน?!”
เมื่อได้ยินคำตอบของ เย่เฉิน เซวีย ผิงเยว่ ถึงกับตกตะลึง
ไม่คิดเลยว่าความสัมพันธ์ของ คุณเย่ จะกว้างขวางถึงเพียงนี้
เขารู้จักคนในประเทศน้ำมันที่ห่างไกล แถมยังเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งแรกของประเทศนั้นอีกด้วย
แม้ว่า เซวีย ผิงเยว่ จะไม่ค่อยรู้เรื่องธนาคารนี้นัก แต่แค่ชื่อที่มีคำว่า ‘ราชวงศ์’ และเกี่ยวข้องกับประเทศน้ำมัน ก็บอกได้แล้วว่าต้องไม่ธรรมดา
หาก เซวีย ผิงเยว่ ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องธนาคารนี้มากนักยังตกใจขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึง เซวีย เยว่เยี่ยน ที่เคยได้ยินเรื่องราวของธนาคารนี้มาบ้างแล้ว
ตอนนี้ เซวีย เยว่เยี่ยน จ้องมอง เย่เฉิน ด้วยสีหน้าตกตะลึง
ความยิ่งใหญ่ของธนาคารแห่งแรกของประเทศน้ำมันนั้น ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
แต่ว่าคนที่มีนามสกุล ‘เย่’ คนนี้ จะไปรู้จักกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารนี้ได้อย่างไร?
มันไม่สมเหตุสมผลเลย
แม้กระทั่งลูกหลานของมหาเศรษฐีระดับโลกที่เธอรู้จักในสหรัฐฯ ก็ยังไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น จากที่ เย่เฉิน คนนี้พูด ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งแรงของประเทศน้ำมันคนนี้เป็นฝ่ายเชิญ เย่เฉิน มารับประทานอาหาร ไม่ใช่ เย่เฉิน เชิญเขา..
นี่ทำให้ความหมายของเรื่องนี้ใหญ่โตขึ้นไปอีก
‘ฉันไม่เชื่อหรอก มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ…’
เซวีย เยว่เยี่ยน คิดอย่างไม่พอใจในใจ เธอไม่เชื่อว่าเครือข่ายของ เย่เฉิน จะกว้างถึงเพียงนี้
สิ่งที่แม้แต่ลูกหลานของมหาเศรษฐียังทำไม่ได้ เด็กหนุ่มหน้าตาเหมือนเพิ่งยี่สิบกว่าคนหนึ่งจะทำได้อย่างนั้นหรือ?
มันเป็นไปไม่ได้เลย!!!
อย่างไรพวกเธอก็ไม่มีทางตรวจสอบได้ว่าสิ่งที่ เย่เฉิน คนนี้พูดนั้นมันจริง หรือโกหก
ใช่ มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ เย่เฉิน ต้องการโอ้อวดเลยพูดเกินจริงเกี่ยวกับตัวตนของชาวต่างชาติคนนั้น
ในขณะที่ เซวีย เยว่เยี่ยน กำลังคิดวิจารณ์ เย่เฉิน ในใจ ก็มีแขกสองคนเดินเข้ามาในร้านอาหาร และมุ่งหน้ามาทางนี้
“คุณเย่ครับ”
“สวัสดีครับ คุณเย่”
แขกสองคนเมื่อเห็น เย่เฉิน ยืนอยู่ก็รีบเดินเข้ามาทักทายด้วยภาษาอังกฤษทันที
เมื่อ เซวีย เยว่เยี่ยน เห็นใบหน้าของหนึ่งในแขกคนนั้น เธอก็ถึงกับยืนอึ้งไปทันที ราวกับถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ!!
ถ้าเธอดูไม่ผิด หนึ่งในนั้นคือ โรเดอริค เจ้าของบริษัท เบิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล กรุ๊ป
เขามาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?!
เซวีย เยว่เยี่ยน ถึงกับช็อก เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอเคยเข้าร่วมงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ซึ่ง โรเดอริค เองก็เข้าร่วม
พ่อของเพื่อนคนหนึ่งของเธอเป็นเพื่อนเก่าของ โรเดอริค จึงพยายามจะแนะนำ เซวีย เยว่เยี่ยน ให้รู้จักกับ โรเดอริค
แต่ โรเดอริค เพียงแค่มองเธอด้วยหางตา แล้วก็เดินจากไปทันที
ไม่ได้พูดคุยอะไรกับเธอเลยแม้แต่คำเดียว หรือแสดงท่าทางอะไรด้วยซ้ำ
โรเดอริค แทบไม่ได้ใส่ใจอะไรเธอเลย..
แม้ เซวีย เยว่เยี่ยน จะไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะอีกฝ่ายเป็นคนที่เธอไม่อาจเอื้อมถึง
ไม่คิดเลยว่าเพียงไม่กี่เดือนต่อมา เธอจะได้พบ โรเดอริค อีกครั้งที่นี่
และนอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก...