ตอนที่ 69 : มันเลือกฉันเหรอ?
.
ไป๋ฉีเทพสังหาร?
.
ไป๋ฉีชื่อนี้ แน่นอนว่าเฉินหลิงเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ถ้าศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทั้งหมด ก็จะรู้ว่าชื่อนี้มีชื่อเสียงมาก
เพราะอะไรป้ายคำสั่งถึงมีคำว่า "ไป๋ฉี" สองคำนี้ แถมยังหล่นลงมาจากเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร
และไม่ว่ายังไงก็ตาม จังหวะที่มันร่วงลงมาหรือตำแหน่งที่ตกลงมามันเหมือนกับ...มีคนจงใจส่งมันมาไว้ในมือของเขา
เมื่อมองดูดาบยักษ์สีดำทมิฬที่แทงทะลุท้องฟ้าและพื้นดิน จู่ๆ ความคิดก็แวบขึ้นมาในใจของเฉินหลิง...ในเมื่อคลังโบราณวิถีทหารคือ "หน่วยความทรงจำ" จากเหตุการณ์สงครามในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ถ้าเช่นนั้นก็ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับแม่ทัพที่มีชื่อเสียงใช่ไหม?
อย่างเช่น ไป๋ฉี?
เฉินหลิงมองดูป้ายคำสั่งอย่างละเอียด พยายามค้นหาเบาะแสบางอย่างเพิ่มเติมจากป้ายคำสั่ง แต่ทว่าขณะนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากระยะไกล
"แปลก ทำไมเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารถึงหายไปอีกแล้วล่ะ?"
"ถ้ามีใครควบคุมมัน แน่นอนว่ามันต้องหายไป...ดูจากที่ตั้งแล้ว คนคนนั้นควรจะยังไปไม่ไกล"
"ที่นี่มีหุบเหว! ข้างในมีภาพฉายประวัติศาสตร์การเข่นฆ่าอยู่สิบภาพ อาจเป็นคนคนนั้นที่เพิ่งรวบรวมจิตสังหารแล้วดึงดูดเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร"
เฉินหลิงได้ยินเสียงของเหยียนซีไฉในหมู่คนที่กำลังเดินมา
เขาถือป้ายคำสั่งไป๋ฉีไว้ในมือ หรี่ตาลง แล้วความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาอย่างรวดเร็ว
เขาเก็บป้ายคำสั่งไว้ในแขนเสื้อของตนเองอย่างไม่ลังเล จากนั้นใช้มือขวาฉีกใบหน้าของตนเอง ใบหน้านั้นปลิวหายไป ตอนนี้เขาได้กลายเป็นป้ายคำสั่งไป๋ฉีที่เหมือนกับป้ายคำสั่งที่เขาเก็บไว้ในแขนเสื้อทุกประการ และเขานอนนิ่งๆ อยู่ในหุบเหวลึก
....หลังจากเฉินหลิงฆ่าคนในหุบเหวทั้งสิบคนไป ดูเหมือนภาพฉายประวัติศาสตร์ได้รีเซตใหม่อีกครั้ง พวกทหารยึดครองปากทางเข้าหุบเหว เหยียนซีไฉกับคนอื่นๆ ถูกกันไว้ด้านนอก เขาจึงพยายามเขย่งเท้าดูว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น
.
"มีใครอยู่ข้างในมั้ย?" เหยียนซีไฉถาม
"ไม่รู้ ภาพฉายพวกนี้บัง ฉันมองเห็นไม่ชัด"
"งั้นก็ฆ่าพวกมันให้หมดก่อนค่อยว่ากัน"
"...นายน้อยเหยียน นี่มันภาพฉายตั้งสิบภาพนะ! เรา...เราจะสู้มันไหวเหรอ... "
"ไร้ประโยชน์! มีน้องผูอยู่ที่นี่ยังจะกลัวอะไรอีก รีบไปจัดการให้ฉัน!" เหยียนซีไฉโกรธมากจึงแตะผู้คุมกฎคนหนึ่งเข้าไปในหุบเหวทั้งอย่างนั้น
"นั่นมันสุนัขของกองทัพฉิน! ฆ่า!!"
ทหารหุ้มเกราะสิบนายรีบวิ่งกรูเข้ามาพร้อมหอกในมือโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผูเหวินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบกระดาษคำว่า "นิ่ง" ออกมาอีกครั้ง หยุดการเคลื่อนไหวของทหารทั้งสิบนายชั่วคราว ผู้คุมกฎอีกคนก็ใช้วิธีเดียวกันนี้รุมฆ่าเหล่าทหารทั้งหกคนด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ทหารสามคนที่หลุดรอดจากคำว่า "นิ่ง" ก็ต่อสู้กับผู้คุมกฎหลายคนอย่างดุเดือด!
เมื่อเผชิญหน้ากับทหารทั้งสามที่ยังมีชีวิตอยู่และสามารถเคลื่อนไหวได้ ทุกคนก็เกิดสับสน ทยอยถอยกลับไป จนกระทั่งถึงทางตัน
"อย่ามองฉัน… คำว่า 'นิ่ง' ใช้ได้กับเป้าหมายได้เพียงช่วงสั้นๆ และมีผลได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนี้ฉันก็ช่วยพวกนายไม่ได้" ผูเหวินรู้สึกถึงการจ้องมองของเหยียนซีไฉ จึงพูดพร้อมยักไหล่
"พวกไร้ประโยชน์!" เหยียนซีไฉตวาด "วันนี้ใครก็ตามที่สะสมจิตสังหารได้มากสุด ถ้ากลับไปสำนักงานใหญ่ของผู้คุมกฎในเมืองออโรร่าแล้ว มีตำแหน่งไหนอยากเป็นเลือกมาได้เลย แต่ใครก็ตามที่สะสมน้อยที่สุด บิดาจะไล่มันออก!"
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ผู้คุมกฎทุกคนก็ดูเหมือนฉีดเลือดไก่* วิ่งเข้าหาทหารหุ้มเกราะทั้งสามอย่างบ้าคลั่ง หอกอันแหลมคมเฉือนไปทั่วร่างกายของพวกเขา และทิ้งบาดแผลอันน่าสยดสยองไว้มากมาย
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การรุกทะลวงอย่างไม่กลัวตายบวกกับจำนวนคนที่มากกว่า ภายใต้ความกดดันนี้ทหารหุ้มเกราะทั้งสามจึงถูกแยกออกจากกัน ในที่สุดพวกเขาก็เสียชีวิตภายใต้เงื้อมมือผู้คุมกฎที่โหดเหี้ยมที่สุด
ทุกคนต่างดูดซับออร่าจิตสังหาร และดวงตาของพวกเขาก็ลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ
แม้แต่ผู้คุมกฎที่ขาเป๋อย่างเสี่ยวเจี่ยน หลังจากใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายฆ่าทหารหุ้มเกราะแล้วสีหน้าของเขาก็ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ความมืดมนในดวงตาค่อยๆ หายไป สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือความมั่นใจที่เขาไม่เคยมีมาก่อน...
นี่ก็คือออร่าจิตสังหารงั้นเหรอ?
เสี่ยวเจี่ยนมองดูมือของเขาอย่างสงสัย เขาชอบความรู้สึกนี้มาก
เมื่อเห็นฉากนี้ ท่าทางของเหยียนซีไฉก็ผ่อนคลายลงในที่สุด เขารีบเดินเข้าไปในหุบเหวและมองเข้าไปในส่วนลึก
"เป็นยังไงบ้าง? มีคนมั้ย?"
"...ดูเหมือนจะไม่มีใคร" ผู้คุมกฎก้าวเข้าไปดูบริเวณด้านหน้าเล็กน้อยแต่ก็ไม่เห็นใครเลย
"คนที่เป็นคนแรกที่ได้รับเส้นทางเทพเจ้า เขาคงจะไปแล้ว..."
.
แกร๊ง -
.
ป้ายคำสั่งเปื้อนเลือดหลุดออกจากหินผาอย่าง 'ประจวบเหมาะ' แล้วตกลงมาตรงหน้าเหยียนซีไฉ
"เฮ้ นี่อะไรน่ะ?"
เหยียนซีไฉเห็นป้ายคำสั่งเปื้อนเลือดจึงก้มลงหยิบมันขึ้นมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ผูเหวินที่อยู่ด้านข้างก้าวไปข้างหน้าดูประหลาดใจเมื่อเห็นอักษรเล็กๆ บนป้ายคำสั่ง!
"ไป๋ฉี?!"
"ไป๋ฉี ใคร?"
"เป็นแม่ทัพท่านหนึ่งในเรื่องเล่าสมัยโบราณ" ผูเหวินจ้องมองอักษรที่สลักไว้ด้วยความตกใจ "มีบันทึกเกี่ยวกับเขา และส่วนใหญ่ถูกทำลายไปในภัยพิบัติ...แต่ว่ากันว่าครั้งหนึ่งเขาเคยถูกเรียกว่า 'เทพสังหาร'
"เทพสังหาร" เมื่อเขาได้ยินสองคำนี้ แม้ว่าเหยียนซีไฉไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ก็ยังตกใจ เขาถามอย่างรวดเร็วว่า "เป็นไปได้มั้ยว่าเขายังมีชีวิตอยู่?"
"...เป็นไปไม่ได้"
ผูเหวินส่ายหัว "นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่มีสงครามและการเข่นฆ่ากันตลอด ความจริงแล้วพาหะมันคือคลังโบราณ แต่บุคคลในประวัติศาสตร์ยังไงก็เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์....แม้ว่าไป่ฉีจะปรากฏตัวจริงๆ มากสุดมันก็เป็นเพียงแค่ภาพฉายการเข่นฆ่าเท่านั้น การที่คนจากประวัติศาสตร์ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้"
เหยียนซีไฉหมดความสนใจทันที
"อย่างงั้น ของนี้ก็เป็นของปลอม?"
"ไม่ บนป้ายมีออร่าของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารเข้มข้น...น่าจะไม่ใช่ของปลอม" ผูเหวินพูดด้วยความไม่มั่นใจเท่าไร
"แม้มันจะเป็นเพียงภาพฉาย ทว่าสถานะของไป๋ฉีภายในคลังโบราณแห่งนี้น่าจะอยู่บนจุดสูงสุด....ป้ายคำสั่งของเขาปรากฏที่นี่ บางทีเส้นทางเทพเจ้ากำลังบอกบางอย่างกับนายอยู่"
"เส้นทางเทพเจ้ากำลังบอกใบ้บางอย่างกับฉัน?" เหยียนซีไฉถือป้ายคำสั่งไว้ในมือและตกตะลึงเป็นเวลานาน
"ที่นายจะพูด...คือมันเลือกฉัน?"
เมื่อเอ่ยถึงคำสุดท้ายน้ำเสียงของเหยียนซีไฉก็สั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น!
เวลานี้ความทุกข์ที่อยู่ในใจทั้งหมดของเหยียนซีไฉพลันสลายหายไปสิ้น รู้ไหมว่าทุกปีมีคนจำนวนมากไม่รู้เท่าไรเข้ามาที่คลังโบราณเพื่อเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร แต่มีสักกี่คนที่ถูกเส้นทางเทพเจ้าเลือกและมอบของบางอย่างให้
หากเป็นไปตามที่ผูเหวินพูดจริงๆ น้ำหนักของป้ายคำสั่งไป๋ฉีมันมากพอที่จะสังหารผู้คุมกฎที่เข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ ต่อให้เขาจะไม่ได้เหยียบย่างเข้าสู่วิถีศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนี้ก็ตาม แต่หลังกลับบ้านขอแค่เขามีป้ายคำสั่งนี้ก็ยังทำให้ผู้อาวุโสทุกคนในครอบครัวตกใจได้!
คนที่ถูกเลือกโดยเส้นทางเทพเจ้า คำนี้จะมีสักกี่คน แม้กระทั่งฆ่าคู่แข่งคนอื่นๆ ที่คิดจะแย่งชิงตำแหน่งทายาทกลุ่มหอการค้าได้ในพริบตา!
ผูเหวินตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของเหยียนซีไฉ
เขารู้สึกว่าเหยียนซีไฉอาจเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อผิด...
แต่เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจและความบ้าคลั่งของอีกฝ่าย หลังจากผูเหวินลังเลอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
"ฉันรู้ดี ว่าฉันเหยียนซีไฉโชคร้ายมานาน ต้องมีสักวันที่สวรรค์จะเห็นใจ ผู้ช่วงชิงเปลวไฟพวกนั้นยังบอกอีกว่าฉันเกิดมาโชคดีเป็นขี้เมาหยำเป เขาช่างไม่รู้อะไรซะเลย" เหยียนซีไฉหัวเราะลั่น
"ป้ายคำสั่งไป๋ฉี! ป้ายคำสั่งไป๋ฉี! มีของชิ้นนี้อยู่ ใครในเมืองออโรร่ายังกล้าดูถูกฉันอีก!"
.
.
.
........
ฉีดเลือดไก่* คึกคัก, ตื่นเต้น