บทที่ 679 เปลี่ยนชื่อ หนังเรื่องนี้ชื่อว่า 《กังฟู》
บัญชีทางการของแอปพลิเคชันโต่วโส่วได้เผยแพร่วิดีโอต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานสร้างสรรค์ ทำให้กระแสแปลกใหม่ได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้น
ในวิดีโอเหล่านั้น เพลงที่ถูกนำมาใช้บ่อยที่สุดก็ยังคงเป็นเพลงที่สวี่เย่แต่งขึ้น โดยเฉพาะเพลงเด็ก
การใช้เพลงเด็กประกอบกับภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น
คราวนี้แหละ หัวใจที่ลุ้นระทึกของชาวเน็ตก็เหมือนจะสงบลงแล้ว
“อาการป่วยของผู้อำนวยการยังคงแพร่ระบาดต่อไปเรื่อยๆ!”
“เขาถึงกับแต่งเพลงขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อทำวิดีโอนี้เลยนะ!”
“ฉันเอาวิดีโอพวกนี้ไปให้พ่อแม่ดู แต่พวกเขายืนยันหัวชนฝาว่าไม่มีทางเป็นวิดีโอที่โพสต์จากบัญชีทางการแน่ๆ”
และบุคคลที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ก็คือสวี่เย่ เขาเลือกที่จะปิดทองหลังพระ ไม่โอ้อวดเลยแม้แต่น้อย
สิ่งที่เขาทำก็แค่การมอบบางสิ่งบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อโลกใบนี้เท่านั้นเอง
ความจริงแล้วในมือของเขายังมีเพลงอีกหลายเพลงที่สามารถปล่อยออกมาได้ แต่เขาเห็นว่าไม่มีความจำเป็นแล้ว
สิ่งที่เขาเชื่อมั่นก็คือพลังของประชาชนคนทั่วไป เพราะไฟเล็กๆ สามารถลุกลามกลายเป็นไฟป่า และชาวเน็ตก็มีความคิดสร้างสรรค์ที่คาดไม่ถึงเสมอ
ผลจากการโปรโมทผ่านวิดีโอเหล่านี้ก็เห็นผลชัดเจน
บวกกับความนิยมของซีรีส์เรื่อง 《หน่วยรบพิเศษ》 ที่ยังคงร้อนแรงไม่ลดลง ยังคงถูกเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีสถานีโทรทัศน์อีกหลายช่องที่ติดต่อเข้ามาขอซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปออกอากาศ
กระแสการสมัครเป็นทหารที่ซีรีส์กองกำลังทหารกล้า จุดขึ้นมา อย่างน้อยในช่วงครึ่งปีนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
ซีรีส์เรื่องนี้ได้สร้างคุณูปการไม่น้อยต่อการสร้างเสริมกองทัพของประเทศฮวาเซี่ย
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ กองกำลังทหารกล้า ทำให้ตู้ฉงหลินกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
เขายังมีบทภาพยนตร์ โจวฉู่ปราบสามภัย อยู่ในมือ
ช่วงนี้เขาจึงเตรียมตัวศึกษาและวิเคราะห์บทนี้ให้ละเอียด เพื่อรีบเริ่มการถ่ายทำโดยเร็วที่สุด
ในวงการซีรีส์โทรทัศน์ ตู้ฉงหลินแทบไม่เหลืออะไรให้พิสูจน์ตัวเองอีกแล้ว
ซีรีส์ที่เขากำกับแต่ละเรื่องล้วนแต่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดของวงการทั้งสิ้น
ดังนั้นเป้าหมายของเขาย่อมต้องหันกลับไปที่วงการภาพยนตร์อีกครั้ง เขาต้องการสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
อีกด้านหนึ่ง ภาพยนตร์เรื่อง Charlotte’s Troubles ก็สิ้นสุดการฉายแล้ว โดยทำรายได้รวมทั้งสิ้น 2.551 พันล้านหยวน
รายได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ และยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในชีวิตการกำกับของหูจินผิงอีกด้วย
หลังจากพักผ่อนไปหนึ่งเดือน หูจินผิงก็นำทีมนักแสดงจากสตูดิโอใหญ่เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Hello Mr. Billionaire
ส่วนสวี่เย่ก็กำลังทำงานด้านโพสต์โปรดักชันของภาพยนตร์เรื่อง กังฟู ควบคู่ไปกับการเตรียมงานสำหรับซีรีส์ มหากาพย์ตะวันตก และ ความสัมพันธ์แห่งภูเขาทะเล
ในโลกเดิมของเขา มหากาพย์ตะวันตก ใช้สถานที่ถ่ายทำในเมืองแห่งภาพยนตร์ในเขตหนิงเซี่ย ซึ่งในโลกใบนี้ เขตหนิงเซี่ยก็มีสถานที่ถ่ายทำที่คล้ายคลึงกันพอดี ตรงกับความต้องการของสวี่เย่
ส่วนซีรีส์ ความสัมพันธ์แห่งภูเขาทะเล ก็ถ่ายทำในเขตหนิงเซี่ยเช่นกัน
การเตรียมงานของสองโปรเจกต์นี้ค่อนข้างใช้เวลามาก สวี่เย่จึงเริ่มเตรียมการล่วงหน้าไปแล้ว
ในโลกเดิมของเขา ซีรีส์ ความสัมพันธ์แห่งภูเขาทะเล เป็นซีรีส์แนวสังคมที่มีเนื้อหาหนักแน่น สร้างสรรค์โดยบริษัท Daylight Entertainment ที่โด่งดังในวงการซีรีส์
ซีรีส์เรื่องนี้รวบรวมดารานักแสดงมากฝีมือเอาไว้มากมาย
ในช่วงที่ออกอากาศ ยังมีการทำออกมาเป็นสองเวอร์ชัน คือเวอร์ชันภาษาท้องถิ่นและเวอร์ชันภาษาจีนกลาง โดยเวอร์ชันภาษาท้องถิ่นกลับได้รับความนิยมมากกว่าและได้รับคำชมมากกว่า
แน่นอนว่าสวี่เย่เองก็ต้องการทำออกมาสองเวอร์ชันเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ต้องคัดเลือกนักแสดงที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
โชคดีที่นักแสดงที่ใช้ในซีรีส์เรื่องนี้ส่วนใหญ่เป็นนักแสดงจากเสียงกวงเอนเตอร์เทนเมนต์และสตูดิโอของเขา ซึ่งหลายคนพูดภาษาท้องถิ่นของกวานจงได้อยู่แล้ว
ภาษาท้องถิ่นดังกล่าวคล้ายคลึงกับภาษาที่ใช้ในซีรีส์ จึงถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ
ส่วนคนที่พูดภาษาท้องถิ่นไม่เป็น สวี่เย่ก็ให้พวกเขาไปเรียนล่วงหน้าแล้ว
นักแสดงเหล่านี้ต่างไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆ นี้ ต่อให้ต้องเรียนรู้ภาษาถิ่นใหม่ พวกเขาก็พร้อมที่จะร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็ถึงเดือนมิถุนายน
การทำงานด้านโพสต์โปรดักชันของ กังฟู ก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ใช้เวลาทำงานหลังการถ่ายทำยาวนานที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ที่สวี่เย่เคยถ่ายทำมา
การที่จะถ่ายทอดฉากต่อสู้ที่ตื่นตาตื่นใจในภาพยนตร์ออกมาให้สมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หลังจากที่เสร็จสิ้นการทำงานด้านโพสต์โปรดักชัน สวี่เย่ก็ส่งภาพยนตร์เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทันที
…
ที่แผนกตรวจสอบ
เมื่อข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง กังฟู ถูกส่งมาถึง ก็ถูกส่งตรงไปยังโต๊ะของเฉาหนาทันที
โดยทั่วไปแล้ว สมาชิกแผนกตรวจสอบจะไม่ตรวจสอบผลงานของสวี่เย่อีกต่อไปแล้ว
เช้าวันนั้น เฉาหนาที่สวมชุดกระโปรงดำ เสื้อเชิ้ตขาว พร้อมลุคผู้หญิงทำงาน เดินเข้ามาที่สำนักงานของเธอ
แม้ว่าจะเป็นเพียงเดือนมิถุนายน แต่สภาพอากาศในช่วงสองสามปีที่ผ่านมากลับร้อนขึ้นเรื่อยๆ เดือนนี้อุณหภูมิก็พุ่งทะลุสามสิบองศาแล้ว
ทันทีที่เฉาหนามาถึงสำนักงาน เธอก็เปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะ จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์และเข้าไปดูอีเมลงานในกล่องจดหมาย
เมื่อเห็นชื่อเรื่อง การผจญภัยของเจ้าลูกนักเลง เธอก็รู้ทันทีว่านี่คือภาพยนตร์ของสวี่เย่
ตอนที่สวี่เย่ส่งข้อมูลภาพยนตร์ไปจดทะเบียน เขาใช้ชื่อนี้เพื่อบันทึกชั่วคราว แต่ดูเหมือนชื่อนี้จะเป็นเพียงชื่อหลอกเท่านั้น
เฉาหนาเกิดความสนใจขึ้นมาทันที ช่วงนี้เธอได้ดูผลงานแย่ๆ มามากเกินไป
หลังจากที่สวี่เย่เปิดแนวทางภาพยนตร์ตลกแนวไร้สาระในวงการภาพยนตร์ ก็มีคนในวงการพยายามเลียนแบบแนวนี้บ้าง
บางคนที่รู้ว่าไม่มีโอกาสได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ก็หันไปทำภาพยนตร์ออนไลน์แทน
แต่ปัญหาคือ หลายเรื่องคุณภาพต่ำจนน่าผิดหวัง
หนังแนวตลกไร้สาระไม่ได้เหมาะกับทุกคนที่จะทำออกมาได้ดี
บางครั้งเฉาหนาถึงกับต้องนั่งดูไปพร้อมกับจิกนิ้วเท้าเพราะความอึดอัด
ในเมื่อเธอดูแล้วยังรู้สึกอึดอัดขนาดนี้ ก็ไม่เข้าใจเลยว่าพวกนักแสดงทนถ่ายทำกันไปได้อย่างไร
หนังบางเรื่องที่มีเนื้อหาเกินขอบเขตก็ยังสามารถส่งกลับไปแก้ไขได้ แต่บางเรื่องที่แค่ห่วยแตก ไม่มีอะไรผิดกฎ ก็ยังต้องปล่อยผ่าน
หลังจากที่ถูกผลงานเหล่านี้ทรมานมา เฉาหนาจึงตั้งหน้าตั้งตารอคอยผลงานเรื่องใหม่ของสวี่เย่
เธอชงกาแฟหนึ่งแก้วแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ เปิดเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาก่อน
ในเอกสารมีการระบุชื่อภาพยนตร์อย่างชัดเจน
ชื่อชั่วคราวคือ การผจญภัยของเจ้าลูกนักเลง ส่วนชื่ออย่างเป็นทางการคือ กังฟู
ใบหน้าของเฉาหนาแสดงความประหลาดใจ
“ชื่อหนังคือกังฟูเหรอ!”
เธอยังจำคำพูดของสวี่เย่ที่บอกว่าอยากถ่ายหนังเกี่ยวกับกังฟูได้อยู่เลย
ปัจจุบันหนังแนวกังฟูเสื่อมความนิยมไปแล้ว
ตลอดทั้งปีแทบจะไม่มีหนังแนวกังฟูออกมาเลย และถ้ามีก็มักจะคุณภาพไม่ดี
มีเพียงผู้กำกับรุ่นเก่าบางคนเท่านั้นที่พยายามถ่ายทำเพื่อรำลึกถึงความหลัง
การที่สวี่เย่ตัดสินใจทำหนังแนวกังฟู นับว่าเป็นความกล้าที่น่าชื่นชม
แต่การที่เขาตั้งชื่อหนังว่า กังฟู เพียงคำเดียว ในสภาพแวดล้อมของวงการบันเทิงปัจจุบัน รับรองได้เลยว่าจะต้องสร้างกระแสไม่น้อยแน่ๆ
เฉาหนาอดคิดไม่ได้ “สวี่เย่มีความทะเยอทะยานไม่น้อยเลยนะ”
แต่สำหรับเธอ เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ ชื่อหนังไม่ได้ผิดกฎ ถ้าสวี่เย่อยากตั้งชื่อแบบนี้ก็แล้วแต่เขา
แต่ในเมื่อกล้าตั้งชื่อแบบนี้ ตัวเนื้อหาก็ต้องสมกับชื่อด้วย
เฉาหนาไม่สนใจเนื้อเรื่องในเอกสารข้อมูลอีกต่อไป เธอเปิดไฟล์ภาพยนตร์เพื่อดูทันที
เฉาหนาตั้งใจจะตรวจสอบภาพยนตร์รอบแรกในมุมมองของผู้ชมคนหนึ่ง
ภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก เธอก็เห็นเหอซู่หงปรากฏตัวในภาพยนตร์
เหอซู่หงรับบทเป็นหัวหน้าแก๊งจระเข้ กำลังอาละวาดในสถานีตำรวจ
หลังจากที่เขาทุบตีผู้คนเสร็จแล้ว เขาก็ตะโกนด้วยท่าทีโอหังว่า "ยังมีใครอีก!"
คำพูดประโยคนี้ฝังลึกลงไปในหัวของเฉาหนาทันที
“หยิ่งยโสเกินไปแล้ว!”
แม้แต่เธอที่นั่งดูอยู่ก็ยังอยากจะลากเหอซู่หงออกมาแล้วต่อยสักทีสองที
เหอซู่หงพูดต่อ "ผู้หญิงสวยขนาดนี้ แค่บ้วนน้ำลายลงพื้น ก็โดนพวกคุณจับมาที่นี่แล้ว ยังมีกฎหมายเหลืออยู่ไหม? ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือเปล่า?"
ช่วงนี้เหอซู่หงแสดงบทหัวหน้าแก๊งมาเฟียได้อย่างสมบทบาทสุดๆ
แต่พอถึงช่วงท้าย หัวหน้าแก๊งจระเข้ที่โอหังขนาดนี้กลับถูกหัวหน้าแก๊งขวานฟันตายกลางถนน
ส่วนผู้หญิงของเขาก็ถูกเฉินเกอใช้ปืนยิงเสียชีวิต
“เหอซู่หงมารับเชิญบทนี้ ตายได้จังหวะพอดีเลยนะ” เฉาหนาคิดในใจ
เนื้อเรื่องแบบนี้ ถ้าตั้งอยู่ในยุคปัจจุบันคงจะผ่านการตรวจสอบยาก
แต่เนื่องจากฉากหลังของเรื่องไม่ได้เป็นยุคปัจจุบัน จึงไม่มีปัญหาอะไร
“หนังเรื่องนี้มีคุณภาพที่แตกต่างจริงๆ” เฉาหนาอดคิดชื่นชมในใจไม่ได้อีกครั้ง
เมื่อถึงฉากที่เมืองตรอกหมูปรากฏขึ้น ฉากถ่ายทำที่ใช้เทคนิคการถ่ายแบบช็อตยาวทำให้เฉาหนาถึงกับทึ่ง
การถ่ายทำแบบช็อตยาวแบบนี้ ในวงการภาพยนตร์มีผู้กำกับไม่กี่คนที่สามารถทำได้
ภาพเมืองตรอกหมูและตัวละครหลักทุกตัวต่างก็ปรากฏออกมาให้เห็นครบถ้วน
เมื่อถึงฉากที่เหล่าจอมยุทธ์ในเมืองตรอกหมูปะทะกับแก๊งขวาน ฉากต่อสู้นี้ทำให้เฉาหนาดูอย่างเพลิดเพลิน
“ต้องกังฟูเท่านั้น!”
แต่ที่นี่ก็ยังไม่ใช่จุดที่น่าตื่นเต้นที่สุด
โดยไม่ทันรู้ตัว เฉาหนาก็ดูจนลืมเวลาไปแล้ว
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเศษ ภาพยนตร์ก็จบลง
ในหัวของเฉาหนามีเพียงภาพเดียวเท่านั้น
ภาพของฝ่ามือที่ฟาดลงมาจากฟากฟ้า
ฉากที่สวี่เย่กระโดดลงมาจากที่สูงและฟาดฝ่ามือใส่พื้นนั้นสะเทือนใจมาก
เอฟเฟกต์เสียงในภาพยนตร์หลายฉากก็ทำให้เฉาหนาประหลาดใจ
เมื่อดูภาพยนตร์จำนวนมาก เธอก็แยกแยะได้ว่าภาพยนตร์เรื่องไหนมีคุณภาพดีหรือไม่ดี
ในภาพยนตร์ การเลือกใช้เพลงประกอบก็ถือเป็นส่วนสำคัญเช่นกัน
ในเรื่องนี้ สวี่เย่ไม่เคยทำงานลวกๆ
เอฟเฟกต์เสียงในภาพยนตร์ กังฟู ต่างก็ถูกทำออกมาอย่างพิถีพิถัน
หลังจากพักสักครู่ เฉาหนาก็หลุดออกจากความตื่นตะลึงที่เกิดจากการดูภาพยนตร์เรื่อง กังฟู
ผู้ชมจำนวนมากที่ได้เห็นฉากฝ่ามือฟาดลงมาจากฟากฟ้าเป็นครั้งแรก ต่างก็รู้สึกสะกดใจกับภาพนั้น
เฉาหนาก็เป็นหนึ่งในนั้น
เธอพึมพำเบาๆ "ภาพยนตร์เรื่องนี้มีองค์ประกอบทางศิลปะสูงมาก"
แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ แต่เธอก็สามารถสัมผัสได้ถึงองค์ประกอบทางศิลปะในภาพยนตร์เรื่องนี้
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสามารถขยายฐานผู้ชมให้กว้างขึ้นได้อีก
ในใจของเฉาหนารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับปฏิกิริยาของผู้ชมหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย
“กังฟู ชื่อดีจริงๆ!”
ไม่กี่วันต่อมา สวี่เย่ก็ได้รับข่าวสารจากแผนกตรวจสอบ
ภาพยนตร์ การผจญภัยของเจ้าลูกนักเลง ผ่านการตรวจสอบแล้ว และได้รับการอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อเป็น กังฟู
เมื่อได้รับข่าวนี้ กังฟู ก็พร้อมที่จะกำหนดวันฉายแล้ว
ครั้งนี้ สวี่เย่วางแผนจะฉายในช่วงวันหยุดฤดูร้อน เพื่อให้เข้าฉายในช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมสูงสุด
เขาจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้รายได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดให้ได้
ในโลกเดิมของเขา กังฟู ฉายครั้งแรกในปี 2004 ในจีนแผ่นดินใหญ่ทำรายได้ไป 1.7 พันล้านหยวน เอาชนะภาพยนตร์เรื่อง ซุ่มโจมตีสิบด้าน ขโมยหัวใจ และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: การกลับมาของราชา
ส่วนในฮ่องกง “กังฟู” ก็ยังคงเป็นแชมป์ทำรายได้ประจำปีนั้น สถิติรายได้นี้ถูกทำลายลงในปี 2011 โดยภาพยนตร์เรื่อง ครั้งนั้นไม่เคยลืม
ถ้าหากในโลกใบนี้ เขาไม่สามารถคว้าแชมป์รายได้ประจำปีได้ ก็คงจะน่าขายหน้ามาก
วันถัดมา บัญชีเวยป๋อทางการของภาพยนตร์ กังฟู ก็ถูกเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ และมีการโพสต์ข้อความแรก
“ภาพยนตร์ การผจญภัยของเจ้าลูกนักเลง ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กังฟู อย่างเป็นทางการ และจะเข้าฉายในช่วงวันหยุดฤดูร้อนเร็วๆ นี้!”
ทันทีที่โพสต์นี้เผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสฮือฮาอย่างมาก
“ชื่อหนังแค่คำว่ากังฟู? นี่มันช่างมั่นใจเหลือเกิน!”
“สุดยอดไปเลย ชื่อหนังโคตรเท่!”
“เป็นสไตล์ของผู้อำนวยการชัดๆ ถ้าจะทำก็ต้องทำให้สุด!”
“คุณมีสิทธิ์อะไรถึงได้เป็นตัวแทนของกังฟู? คุณคู่ควรแล้วเหรอ?”
“ฉันจะไปรายงาน! ห้ามใช้ชื่อนี้!”
ในเวลาไม่นาน กระแสวิพากษ์วิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตก็ร้อนแรงขึ้น
แม้ว่าภาพยนตร์จะยังไม่ได้เข้าฉาย แต่ความร้อนแรงกลับเกิดขึ้นก่อนแล้ว
ทุกอย่างล้วนอยู่ในความคาดการณ์ของสวี่เย่
นี่เพิ่งแค่ปล่อยชื่อภาพยนตร์ออกมาเท่านั้น อย่าเพิ่งตื่นเต้นไป ยังมีเพลงอีกเพลงรออยู่
