บทที่ 456: วิหคเพลิงซ่อน
เฉียวซางอ่านไปสักพักก็รู้สึกเบื่อหน่ายและไม่สนใจอีกต่อไป
ข้อมูลในฟอรั่มแทบไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสัตว์อสูรของผู้เข้าแข่งขันที่มีโอกาสคว้าแชมป์เลย ดูแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่
เฉียวซางเลยจดชื่อที่ปรากฏในกระทู้ไว้คร่าวๆก่อนออกจากฟอรั่ม จากนั้นเปิดหน้าแถบค้นหา กะว่าจะลองหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งของที่อาจจะถูกนำมาประมูลในงานการประมูลมู่เฉินในปีนี้
โดยปกติแล้ว สิ่งของที่น่าจะปรากฏในงานประมูลมักจะมีข่าวลือหรือข้อมูลหลุดออกมาก่อนเสมอ
เมื่อพิมพ์คำว่า "การประมูลมู่เฉิน" ลงในแถบค้นหา ไม่นานหน้าเว็บก็โหลดขึ้นมา
[เสียใจค่ะ เนื้อหาที่คุณต้องการเข้าชมไม่มีอยู่]
เฉียวซาง: “...”
จะลึกลับไปถึงไหนกัน...
เธอมองดูเวลาแล้วตัดสินใจปิดโทรศัพท์ นอนพักเอาแรงแทน
วันต่อมา
ที่ชั้น 15 ของโรงแรมโหมถิง ภายในสนามฝึกสัตว์อสูร
หยาเป่าสวมกำไลปรับขนาด ควบคุมขนาดร่างกายให้อยู่ในช่วงสุนัขเขี้ยวเพลิง ขณะกำลังใช้พลังจิตควบคุมลูกเหล็กแรงโน้มถ่วงกว่าหนึ่งโหล
เมื่อสวมกำไลปรับขนาดแล้ว นอกจากจะทำให้ขนาดร่างกายเล็กลง พลังงานที่สัตว์อสูรปล่อยออกมาก็จะลดลงตามไปด้วย
เฉียวซางเห็นแบบนั้นเลยถามขึ้นว่า
"หยาเป่า วันนี้ทำไมไม่ฝึกทักษะประเภทไฟล่ะ?"
เมื่อมาถึงสนามฝึก หยาเป่าก็ให้ซุนเป่านำลูกเหล็กแรงโน้มถ่วงออกมาจากวงแหวนมิติทันที
ข้อดีของการกว้านซื้อของจากร้านขายอุปกรณ์ก็คือ สามารถหาไอเทมสำหรับทุกสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน และลูกเหล็กแรงโน้มถ่วงก็คือหนึ่งในนั้น
แม้ลูกเหล็กจะมีขนาดเล็กเหมือนลูกแก้ว แต่แต่ละลูกกลับมีน้ำหนักถึง 20 กิโลกรัม
ปกติจะใช้มันฝึกฝนความแม่นยำและความเข้มข้นของพลังจิต
หยาเป่า ตอบกลับด้วยเสียงดังฟังชัดขณะที่ใช้พลังจิตควบคุมลูกเหล็กไปด้วย
"ย่าห์ ย่าห์!" ในเมื่อคู่ต่อสู้ไม่กลัวไฟ มันก็จะใช้ทักษะสายพลังจิตจัดการเจ้านั่นซะ!
เฉียวซางชะงักไปเล็กน้อย ก่อนถามกลับอย่างสงสัย
"ที่แกพูดถึงน่ะ คือวิหคเพลิงซ่อนใช่ไหม?"
วิหคเพลิงซ่อนคือร่างพัฒนาระดับสูงของนกแผดเผา
หยาเป่าพยักหน้าตอบรับด้วยความมั่นใจ
เฉียวซาง: “…”
แบบนี้แล้วเธอจะพูดยังไงดี? จะให้บอกตรงๆเลยเหรอว่าถ้าเจอกับเจ้านั่น เธอไม่ได้ตั้งใจจะส่งมันลงสนามเลย… เธอครุ่นคิดสักพักก่อนจะพูดออกมาอย่างอ้อมค้อมว่า
"จริงๆแล้ว ยังมีคู่ต่อสู้อีกตั้งเยอะ เราอาจจะไม่ได้เจอมันก็ได้นะ"
หยาเป่าแสดงสีหน้าจริงจังพร้อมร้องตอบ
"ย่าห์ ย่าห์!" ยังไงก็มีโอกาสเจอ! ต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า!
เฉียวซาง: “…”
ขณะที่เธอกำลังคิดจะพูดความจริงออกมา จู่ๆก็มีสัตว์อสูรตัวหนึ่งเดินเข้ามาในสนามฝึก มันมีขนหลากสี แต่สีแดงยังคงเป็นสีหลัก หัวประดับด้วยขนสีเขียวสองเส้นที่ดูเหมือนมงกุฎ และดวงตาที่หรี่ลงเหมือนนอนไม่พอ
สนามฝึกสัตว์อสูรของโรงแรมโหมถิงเป็นพื้นที่สาธารณะ แขกทุกคนที่พักในโรงแรมสามารถเข้ามาใช้บริการได้
เฉียวซางมองสัตว์อสูรที่เดินเข้ามาแล้วถึงกับอึ้ง นี่มันวิหคเพลิงซ่อน…!
ในเวลาเดียวกัน หยาเป่าก็เห็นวิหคเพลิงซ่อนตัวนั้นเช่นกัน มันทันหยุดการฝึก ดวงตาเปล่งประกายความตื่นเต้น และร้องเสียงดังเชิญชวนการต่อสู้ออกมา
วิหคเพลิงซ่อนหยุดเดินจ้องมองหยาเป่าอยู่สองวินาที ก่อนจะอ้าปากหาวออกมาอย่างไม่สนใจ
หยาเป่า: “…”
ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงที่ฟังดูอ่อนเพลียราวกับนอนไม่พอก็ดังขึ้นจากด้านหลังของวิหคเพลิงซ่อน
"ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?"
ถัดมาไม่กี่วินาที หญิงสาวที่มีใบหน้าที่ดูเรียบง่ายแต่ก็น่ารักปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเฉียวซาง
ทันใดนั้นใบหน้าของหญิงสาวก็ซ้อนทับกับภาพถ่ายในเอกสารข้อมูลของซ่งซินเยวี่ย
เฉียวซาง: "!!!"
เธอถึงกับตกตะลึง คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอซ่งซินเยวี่ยที่นี่! ตอนแรกเธอคิดว่าวิหคเพลิงซ่อนที่เห็นอาจเป็นแค่สัตว์อสูรสายพันธุ์เดียวกันเท่านั้น แต่เธอไม่เคยคาดคิดว่าวิหคเพลิงซ่อนตัวนี้จะเป็นตัวเดียวกับในข้อมูล!
“เฮาเฮา”
ทางฝั่งนั้นวิหคเพลิงซ่อน หันไปร้องเรียกซ่งซินเยวี่ย
เมื่อได้ยินเสียงของวิหคเพลิงซ่อน ซ่งซินเยวี่ยจึงหันไปมองสัตว์อสูรที่อยู่ไม่ไกลนัก มันมีขนาดเพียงประมาณ 60 เซนติเมตร แต่กลับดูสง่างามและงดงามมาก
ทันใดนั้น สมองของซ่งซินเยวี่ยก็ปลอดโปร่งขึ้นมาทันที ความง่วงหายไปหมดสิ้น
นี่... นี่มันเหมือนสุนัขเพลิงพร่างพรายในร่างย่อส่วนชัด ๆ!
ซ่งซินเยวี่ยคิดถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหันไปมองข้าง ๆ และแน่นอนว่าเห็นร่างที่อาจารย์ผู้ดูแลพูดถึงไม่รู้กี่ครั้งอยู่ตรงนั้น
"เฉียวซาง..." เธอเผลอพูดชื่ออีกฝ่ายออกมาเบาๆ
ในขณะนั้นเอง หยาเป่าก็ร้องออกมาอีกครั้งด้วยความตื่นเต้นและเปี่ยมไปด้วยพลังการต่อสู้ พร้อมจ้องไปที่วิหคเพลิงซ่อน
เฉียวซางมองดูหยาเป่าแล้วเดินตรงไปหาซ่งซินเยวี่ย เธอทักทายอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม ก่อนเข้าเรื่องทันที
"สวัสดี ขอถามตรงๆเลยนะ พอจะให้เราลองสู้กับวิหคเพลิงซ่อนของเธอหน่อยจะได้ไหม?"
ซ่งซินเยวี่ยชะงักไปเล็กน้อย เธอหวนนึกถึงคำพูดของอาจารย์ผู้ดูแลที่เคยบอกกับเธอว่า
"เฉียวซางจากภูมิภาคเย่หัว แม้จะอายุน้อย แต่ในบางด้านก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพ สัตว์อสูรพรายพิชิตเหมันต์ ของเธออาจเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในรอบชิงระดับประเทศครั้งนี้"
เมื่อคิดได้ดังนั้น ซ่งซินเยวี่ยจึงพยักหน้าตอบ
"ได้สิ"
"ย่าห์ ย่าห์!"
หยาเป่าแสดงสีหน้าตื่นเต้นอย่างมากเมื่ออีกฝ่ายตอบตกลง
เมื่อทั้งสองฝ่ายยืนประจำที่ หยาเป่าก็เดินไปข้างหน้า ขณะดวงตาเริ่มเปล่งแสงสีฟ้า มันมองไปที่กำไลปรับขนาดบนอุ้งเท้าของตัวเองเพื่อเตรียมตัว
แต่จู่ๆซ่งซินเยวี่ยก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
"เดี๋ยวก่อน! เธอจะส่งสุนัขเพลิงพร่างพรายลงมาแข่งเหรอ?"
เฉียวซางไม่แปลกใจที่ซ่งซินเยวี่ยรู้จักหยาเป่า เพราะตอนที่อีกฝ่ายมาถึง เธอได้ยินเสียงซ่งซินเยวี่ยพูดชื่อเธอเบาๆอยู่แล้ว เธอจึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายจำเธอได้
"มีปัญหาอะไรเหรอ?" เธอถามกลับ
ดวงตาสีฟ้าของหยาเป่าจางลง แสดงสีหน้าสงสัย
ซ่งซินเยวี่ยลังเลอยู่สักครู่ ก่อนจะพูดออกมาในที่สุด
"วิหคเพลิงซ่อนของฉันไม่ชอบสู้กับสัตว์อสูรสายไฟ มันคิดว่าไม่มีอะไรท้าทาย"
เฉียวซาง: "???"
หยาเป่า: "???"
เหมือนจะยืนยันคำพูดของเจ้าของ วิหคเพลิงซ่อนหันมามองหยาเป่าแวบหนึ่ง ก่อนจะใช้ปีกปิดปากหาว แล้วหันหลังเดินจากไป
เฉียวซาง: "!!!"
หยาเป่า: "!!!"
ซ่งซินเยวี่ยรีบขอโทษ
"ขอโทษด้วยนะ!" แล้วหันไปวิ่งตามวิหคเพลิงซ่อนพลางพูดว่า
"อย่าเพิ่งไปสิ! ไม่สู้ก็ไม่เป็นไร แต่แกยังไม่ได้ฝึกเลยนะ!"
เฉียวซาง: "..."
หยาเป่า: "ย่าห์ ย่าห์! ย่าห์ ย่าห์!" มันไม่เคยโดนดูถูกขนาดนี้มาก่อน!
หยาเป่ายืนจ้องมองแผ่นหลังของวิหคเพลิงซ่อนด้วยความโมโหสุดขีด ขณะที่ใบหน้าของมันเริ่มแดงด้วยความโกรธ มันขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความอยากจะพุ่งเข้าไปจัดการอีกฝ่ายทันที
เฉียวซางรีบอุ้มหยาเป่าขึ้นมาเพื่อปลอบใจ
"ไม่เป็นไรนะ! ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวในสนามแข่งจริงเราก็จะได้เจอมัน แล้วแกจะแสดงให้มันเห็นเองว่าแกเก่งขนาดไหน!"
"ย่าห์ ย่าห์!"
หยาเป่าชี้ไปทางที่วิหคเพลิงซ่อนเดินจากไปพร้อมแสดงสีหน้าขุ่นเคือง มันร้องออกมาด้วยความไม่พอใจ แต่ถ้าแข่งจริงเราอาจจะไม่ได้เจอมันนี่!
เฉียวซาง พูดอย่างจริงจัง
"เราจะต้องได้เจอมันแน่นอน!"
"ย่าห์ ย่าห์?"
หยาเป่าหยุดแยกเขี้ยว ดวงตาที่ชุ่มน้ำมองผู้ฝึกของมันด้วยความสงสัยราวกับถามว่า จริงเหรอ?
เฉียวซาง กัดฟันพูดหนักแน่น
"จริงสิ!"
"ย่าห์!"
เมื่อได้ยินดังนั้น หยาเป่าก็กลับมามีแรงฮึกเหิมอีกครั้ง มันกระโดดลงจากแขนเฉียวซาง เดินไปยังกองลูกเหล็กแรงโน้มถ่วงและเริ่มต้นฝึกใหม่ด้วยหางที่แกว่งไปมาอย่างกระตือรือร้น
เฉียวซางถอนหายใจเบาๆ ไม่น่าเลย… ไม่น่าชวนซ่งซินเยวี่ยสู้ตั้งแต่แรก เธอเริ่มรู้สึกเสียใจแล้วสิ
แต่ในเมื่อเธอรับปากหยาเป่าไปแล้ว เธอย่อมต้องให้มันลงแข่งแน่นอนหากได้เจอซ่งซินเยวี่ย
ตอนนี้คงต้องคิดหากลยุทธ์เฉพาะเพื่อให้หยาเป่าสามารถรับมือกับวิหคเพลิงซ่อนได้โดยตรง ถ้ารอจนถึงวันแข่งแล้วค่อยเจอปัญหานี่ คงไม่ทันการณ์แน่...
เฉียวซางตกอยู่ในห้วงความคิด ขณะที่สมองของเธอเริ่มวางแผนอย่างจริงจัง