บทที่ 28 วิวัฒนาการสู่หงส์เพลิง
บทที่ 28 วิวัฒนาการสู่หงส์เพลิง
คลื่นเพลิงดำเนินต่อเนื่องถึงสิบกว่านาทีจึงสิ้นสุดลง ต้นไม้บริเวณใกล้เคียงถูกเผาทำลายทั้งหมด งูจี้เลี่ยนนั้นก็ถูกคลื่นไฟเผาจนกลายเป็นเนื้องูย่าง
เย่เชียนซิงทั้งสามคนอยู่ภายใต้การปกป้องของพลังน้ำแข็งจากต้าไป๋(ไป๋ต้า) จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
เมื่อคลื่นเพลิงมลายหายไป นกขนาดใหญ่เท่านกอินทรี ลำตัวสีแดงสดทั้งตัว ดูสง่างามปรากฏต่อหน้าทุกคน
สัตว์เลี้ยงวิญญาณ: หงส์เพลิง/หงส์เพลิง (สายพันธุ์ย่อยของหงส์)
คุณสมบัติ: ธาตุเพลิงเทพ
การประเมิน: ระดับหกดาวครึ่ง (แบบเติบโตได้)
ระดับ: E5
ความสามารถ: ขนเพลิงเผาฟ้า (โจมตีเป็นวงกว้าง)
ดาบเพลิงมหันต์เผาโลกา (โจมตีเป้าหมายเดี่ยว)
ต้านทานธาตุไฟ (ต้านทานความเสียหายจากธาตุไฟทั้งหมด)
จุดอ่อน: ธาตุน้ำเทพ
เงื่อนไขการเลื่อนระดับ: ......
เส้นทางวิวัฒนาการ: ......
"สำเร็จแล้ว!" เย่เชียนซิงตบขาดังเผียะ
ฮัวฮัววิวัฒนาการเป็นหงส์เพลิงสำเร็จแล้ว ตามตำนานหงส์เพลิงเป็นสายพันธุ์ย่อยของหงส์ สืบเชื้อสายมาจากหงส์เพลิง แต่กลับมีชื่อเสียงไม่ด้อยไปกว่าหงส์เลยด้วยความสามารถของตัวเอง หากพูดถึงพลังในการต่อสู้จริงๆ อาจจะแข็งแกร่งกว่าหงส์ด้วยซ้ำ
ธาตุเพลิงเทพสูงกว่าธาตุไฟหลายขั้น ธาตุน้ำทั่วไปไม่สามารถต้านทานเพลิงเทพได้ อานุภาพก็แรงกว่าไฟธรรมดาหลายเท่า อย่างน้อยในเมืองเจียงหนาน ฮัวฮัวคงไม่เจอคู่ต่อสู้ที่สามารถต้านทานมันได้
"ฮัวฮัว" เซี่ยเสี่ยวอวี่อุทานด้วยความทึ่ง ฮัวฮัวตรงหน้าแตกต่างจากฮัวฮัวตัวเดิมโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป แม้แต่บุคลิกก็ยกระดับขึ้นหลายเท่า
เซี่ยเสี่ยวอวี่เชื่อมโยงทางวิญญาณกับฮัวฮัว จึงรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของเธอในตอนนี้ได้ แม้เพิ่งเลื่อนขึ้นระดับ E แต่พูดถึงพลังในการต่อสู้ อาจจะเทียบกับปีศาจระดับ D ได้เลย
"เท่จังเลย" ซูถีล่าก็อดชื่นชมไม่ได้ นี่แหละคือลักษณะที่หงส์เพลิงควรจะเป็น แค่รูปลักษณ์ก็สู้กับต้าไป๋ของเขาได้แล้ว
"จี๋จี๋จี๋" เมื่อเห็นเซี่ยเสี่ยวอวี่ ฮัวฮัวก็ส่งเสียงจี๋จี๋จี๋ แล้วบินมาข้างหน้าเซี่ยเสี่ยวอวี่ เอาหัวเขี่ยไม่หยุด ทำเอาความสง่างามหล่นหายไปทันที
"พี่เชียนซิง ข้าไม่รู้จะขอบคุณพี่ยังไงดีแล้ว" ดวงตาของเซี่ยเสี่ยวอวี่แดงด้วยความซาบซึ้ง
"เด็กโง่ ความสัมพันธ์ของเราสองคนต้องขอบคุณด้วยเหรอ?" เย่เชียนซิงยิ้มพลางลูบหัวเซี่ยเสี่ยวอวี่ พูดอย่างอ่อนโยน
"เชียนซิง ไม่นึกว่าเจ้าจะเก่งขนาดนี้ ถึงกับทำให้ฮัวฮัววิวัฒนาการเป็นหงส์เพลิงได้ ตอนนี้คุณภาพของมันคงสูงกว่าต้าไป๋ของข้าแล้วสินะ?" ซูถีล่าพูดด้วยความทึ่ง
"จริงๆ แล้วสูงกว่าต้าไป๋ และสูงกว่าไม่ใช่แค่ขั้นเดียว แม้แต่เจ้าโง่ก็ยังสู้ไม่ได้" เย่เชียนซิงพูดตามจริง ระบบให้การประเมินฮัวฮัวที่ระดับหกดาวครึ่ง สูงกว่าเจ้าโง่ถึงดาวครึ่งเชียวนะ
ดูเหมือนจะรู้สึกถึงความหม่นหมองเล็กน้อยของซูถีล่า เย่เชียนซิงจึงยิ้ม
"ถีล่า จริงๆ แล้วต้าไป๋ก็มีช่องทางพัฒนาเหมือนกัน ตอนนี้เขาเป็นแค่สายพันธุ์ย่อยของกิเลนมีโอกาสวิวัฒนาการเป็นกิเลนสายพันธุ์แท้ได้"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของซูถีล่าก็เป็นประกาย รีบถามทันที
"จะช่วยให้เขาวิวัฒนาการได้ยังไง? ต้องใช้ไฟเผาเหมือนกันใช่ไหม ถ้าใช่ก็ให้ฮัวฮัวเผามันเลย"
ได้ยินแบบนั้น มุมปากของเย่เชียนซิงก็กระตุก มองไปที่ต้าไป๋ แน่นอน ตอนนี้ต้าไป๋กำลังมองซูถีล่าด้วยสายตาเศร้าสร้อย ได้เจ้านายแบบนี้มา ช่างกรรมจริงๆ
"ถ้าปล่อยให้ฮัวฮัวเผาเขา คืนนี้พวกเราคงได้กินเนื้อกิเลนแน่ๆ" เย่เชียนซิงแซว แล้วก็เห็นสายตาเศร้าสร้อยของต้าไป๋หันมาทางเขาในทันใด
"แค่กๆ พูดเรื่องจริงจังดีกว่า การวิวัฒนาการของต้าไป๋ค่อนข้างยากหน่อย จริงๆ แล้วกิเลนมีสายเลือดของมังกร ดังนั้นถ้าอยากให้ต้าไป๋วิวัฒนาการ ก็ต้องเติมพลังมังกรให้มัน"
"พลังมังกร?" ซูถีล่าสะดุ้ง
มังกร ก่อนยุคใหม่ไม่มีใครเชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตชนิดนี้อยู่จริง แต่หลังจากยุคใหม่มาถึง ผู้คนไม่เพียงเชื่อในการมีอยู่ของมังกร แต่ยังเคยพบเห็นด้วย
แต่แม้แต่ในหมู่ปีศาจ มังกรก็ยังเป็นชนิดที่หายากมาก การจะได้มาซึ่งพลังมังกร ต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากลำบากจริงๆ
แต่ซูถีล่าก็กลับมาสงบใจได้เร็ว เขาไม่กลัวความยากลำบาก สิ่งที่กลัวคือความเป็นไปไม่ได้ ขอเพียงต้าไป๋มีโอกาสวิวัฒนาการ เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องทำให้ต้าไป๋วิวัฒนาการเป็นกิเลนสายพันธุ์แท้ให้ได้!
ค่ำลง เย่เชียนซิงทั้งสามคนก่อกองไฟ นำร่างของงูจี้เลี่ยนและผู้ส่งเปลวไฟปฐพีมาอุ่น
ไข่มุกวิญญาณของงูจี้เลี่ยนถูกแกะออกมาแล้ว ส่วนเนื้อของมัน แม้งูจี้เลี่ยนจะมีพิษ แต่ภายใต้เพลิงเทพของฮัวฮัว พิษรุนแรงขนาดไหนก็ถูกอุณหภูมิสูงทำลายได้
แม้จะไม่มีเครื่องปรุง แต่ทั้งสามคนที่หิวมาทั้งวันก็กินอย่างเอร็ดอร่อย
"เอิ้ก เนื้อปีศาจ ข้าเพิ่งเคยกินครั้งแรกเลยนะ หรูหราจริงๆ" เย่เชียนซิงเรอด้วยความอิ่มหนำ พูดด้วยสีหน้ามีความสุข
ก่อนหน้านี้อย่าว่าแต่เนื้อปีศาจเลย แม้แต่เนื้อสัตว์ธรรมดาเขาก็แทบไม่ได้กิน ได้กินแต่ธัญพืชหยาบๆ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงรู้สึกมีความสุขมาก
จริงๆ ด้วย การเลี้ยงชีพด้วยความสามารถของตัวเองนี่มันสุดยอดจริงๆ
"เชียนซิง ข้าสงสัยอย่างหนึ่ง เจ้ารู้เรื่องสัตว์เลี้ยงวิญญาณดีขนาดนี้ ถึงขั้นทำให้หงส์เพลิงวิวัฒนาการออกมาได้ เก่งยิ่งกว่าพวกผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูที่ว่ากันอีก ทำไมถึงขัดสนเงินทองล่ะ?" ซูถีล่าถาม
"การเข้าใจเรื่องการเลี้ยงดูสัตว์วิญญาณกับการขาดเงินมันเกี่ยวอะไรกัน?" เย่เชียนซิงสงสัย
"เกี่ยวสิ เจ้าเก่งขนาดนี้ ถ้าไปเป็นผู้ฝึกสอน ต้องมีคนมาหาเจ้าเยอะแน่ๆ เพื่อฝึกสัตว์เลี้ยงวิญญาณ ผู้ควบคุมวิญญาณยอมจ่ายเงินมากๆ เลยนะ ดังนั้นผู้ฝึกสอนสัตว์เลี้ยงวิญญาณเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลย" ซูถีล่าพูดพลางมองด้วยความใฝ่ฝัน
"แม้แต่ผู้ควบคุมวิญญาณที่แข็งแกร่งมากๆ ก็ไม่กล้าล่วงเกินผู้ฝึกสอนง่ายๆ นะ"
ตอนนี้เย่เชียนซิงก็ทำหน้าประหลาดใจ จู่ๆ ก็มีความคิดวาบขึ้นมา รีบตบหัวตัวเองเสียงดัง
"ใช่แล้ว ทำไมข้าเพิ่งคิดได้ ข้าสามารถไปเป็นผู้ฝึกสอนได้นี่นา!"
ซูถีล่าเห็นความช้าในการตอบสนองของเย่เชียนซิง มุมปากก็กระตุก นี่ข้าพูดมาตั้งนานเจ้าถึงเพิ่งจะเข้าใจเหรอ
จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าเย่เชียนซิงโง่ แต่เป็นเพราะแต่เดิมเขาไม่เคยคิดไปในทางนี้ และก่อนหน้านี้เขาแทบไม่ได้ติดต่อกับวงการผู้ควบคุมวิญญาณเลย ส่วนเรื่องผู้ฝึกสอนก็แค่เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เข้าใจเลยสักนิด
"ถีล่า การเป็นผู้ฝึกสอนต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง?" เย่เชียนซิงถาม
ซูถีล่ามองเขาแปลกๆ ดูเหมือนว่าไอ้หมอนี่จะไม่รู้จริงๆ จึงอธิบายว่า
"ถ้าอยากเป็นผู้ฝึกสอนอย่างเป็นทางการ ก่อนอื่นเจ้าต้องไปสอบใบรับรองผู้ฝึกสอนก่อน พอมีใบรับรองแล้วเรื่องที่เหลือก็ง่าย เช่น เจ้าสามารถเช่าร้าน เปิดร้านฝึกสัตว์เลี้ยงวิญญาณ แล้วสร้างชื่อเสียง กับความสามารถของเจ้า ข้าว่าไม่นานชื่อของเจ้าก็จะกระฉ่อนไปทั่วเมืองเจียงหนานแน่"
ฟังคำพูดของซูถีล่า เย่เชียนซิงอดใจเต้นไม่ได้ ในใจจินตนาการถึงชีวิตในอนาคตไม่หยุด
และแล้วคืนหนึ่งก็ผ่านไป มีสัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับใหญ่สามตัวคอยคุ้มครอง พวกเขาจึงหลับสบายมาก จนกระทั่งรุ่งเช้าวันต่อมา
"พี่เชียนซิง ต่อไปเราจะไปไหนกัน?" เซี่ยเสี่ยวอวี่ถาม
เย่เชียนซิงหาวหนึ่งที แล้วหยิบแผนที่ออกมา นี่เป็นแผนที่ที่โรงเรียนแจกให้พวกเขา คงเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหลงทาง หรือหลงเข้าไปในป่าลึกแล้วเจออันตราย
เย่เชียนซิงชี้ไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนแผนที่
"จุดหมายต่อไป เขาเสวี่ยเฟิง"
