บทที่ 22 : การตื่นรู้
ปิเอโตร รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝัน ในความฝันนั้น เขาเกิดในเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แม้จะห่างไกล แต่กลับปลอดภัยและไม่ค่อยถูกรบกวนจากคนภายนอก ชาวเมืองใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น
พ่อแม่ของเขาทำงานให้เจ้าของฟาร์ม ดูแลม้าป้อนหญ้า ผ่าฟืนและต้อนแกะ เจ้าของฟาร์มเป็นชายชรามีหนวดเคราครึ้ม ซึ่งเล่าลือกันว่าในวัยหนุ่มเขาเคยเดินทางไปทั่วโลก ปิเอโตรชอบชายชราคนนี้ เพราะเขามักแบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจให้ฟัง
เจ้าของฟาร์มไม่เคยปฏิบัติต่อครอบครัวของปิเอโตรเหมือนเป็นคนแปลกหน้า ทุกเย็นเขาจะชวนทุกคนมานั่งล้อมโต๊ะทานอาหารร่วมกัน ผู้ใหญ่ดื่มเบียร์ ส่วนเด็กๆ ได้ดื่มน้ำผลไม้หลากหลายชนิด
ครั้งหนึ่ง ปิเอโตรเคยขอลองดื่มเบียร์ แต่ชายชรากลับบอกว่ามีแค่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่ดื่มได้ หลังจากเซ้าซี้อยู่นาน เจ้าของฟาร์มจึงยอมรับปากว่า เมื่อปิเอโตรโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจะให้ลองดื่มเบียร์เก่าเก็บของเขา
เย็นวันหนึ่ง หลังจากต้อนแกะเข้าคอกเสร็จ ปิเอโตรวิ่งกลับฟาร์มพร้อมกับสุนัขคู่ใจของเขา เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปและเริ่มช่วยเหลืองานพ่อแม่ที่แก่ตัวลง
"คุณปู่! ผมต้อนแกะกลับมาแล้ว!" ปิเอโตรตะโกน พลางวิ่งเข้าไปหาเจ้าของฟาร์ม
"กลับมาแล้วเหรอ ดื่มน้ำก่อนสิ อย่ารีบเร่งนักเลย" ชายชราตอบ พลางทำความสะอาดปืนไรเฟิลของเขา ปิเอโตรเคยเห็นเขาใช้ปืนนี้ไล่หมีที่หลงจากภูเขามาในเมือง
"ช่างมันเถอะครับคุณปู่ คุณรับปากจะเล่านิทานให้ผมฟังวันนี้นะ! เมื่อครั้งก่อนคุณเล่าเรื่องสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลอนๆ แล้วมันจบยังไงครับ?" ปิเอโตรพูดด้วยความกระตือรือร้น พร้อมดึงเก้าอี้มานั่งตรงหน้าชายชรา
ชายชราหัวเราะเบาๆ กับความใจร้อนของปิเอโตร ก่อนจะวางปืนไรเฟิลลงอย่างระมัดระวัง ห่อด้วยผ้ากระสอบ แล้วเก็บไว้ในกล่อง ก่อนจะเดินไปยังห้องเก็บของ
ปิเอโตรรู้ดีว่าชายชรากำลังไปหาเบียร์สักแก้วก่อนเริ่มเล่าเรื่อง จึงนั่งรออย่างใจเย็น
ชายชราเดินเข้าไปในห้องเล็กๆ ข้างบ้าน ห้องนั้นเก็บเครื่องมือและข้าวของต่างๆ รวมถึงถังเบียร์ที่เขารักนักรักหนา สายตาของชายชราหยุดอยู่ที่ตัวอักษรสีขาวที่พ่นไว้บนถัง แม้จะซีดจางและเสียหายไปบ้าง แต่ยังคงอ่านออกว่า Stark Industries
เขาหยิบแก้วไม้สองใบจากข้างถัง ปิเอโตรนั่งรออย่างกระวนกระวาย แต่เขาก็รู้ว่าการรอคอยนั้นอาจเป็นส่วนที่สนุกที่สุด
ไม่กี่นาทีผ่านไป หรืออาจจะนานกว่านั้น ชายชราเดินออกจากห้องเก็บของพร้อมแก้วเบียร์ ปิเอโตรยิ้มกว้าง แต่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติในท่าทางของเขา การเคลื่อนไหวนั้นแข็งกระด้าง ราวกับเครื่องจักร
"คุณปู่ คุณโอเคไหม?" ปิเอโตรถามด้วยความกังวล
"ไม่มีอะไรหรอก แค่เวลาของฉันเหลือไม่มากแล้ว" ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะเดินมาที่โต๊ะ และวางแก้วสองใบลง
"คุณปู่เคยบอกว่าเด็กดื่มเบียร์ไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ?" ปิเอโตรถาม พลางพยายามเลี่ยงไม่แตะต้องแก้วเบียร์
"เธอไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ปิเอโตร แม้ในสายตาฉัน เธอจะยังเป็นเด็กเสมอก็ตาม" ชายชรากล่าว พลางยกแก้วขึ้นดื่ม
ความเงียบปกคลุมฟาร์ม มีเพียงเสียงชายชราดื่มเบียร์เท่านั้นที่ดังอยู่ ปิเอโตรนั่งนิ่ง ครุ่นคิดอะไรเงียบๆ สายตาเหลือบมองไปยังบ้านสุนัข แต่เจ้าสุนัขของเขาหายไปแล้ว เหลือเพียงพรมเก่าๆ ที่ปกคลุมด้วยขนสุนัข...
หลังจากความเงียบยาวนาน ปิเอโตร เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบาๆ
"คุณปู่... ผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ใช่ไหม?"
เจ้าของฟาร์มวางแก้วเบียร์ลง ใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง แต่สายตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
"ขอโทษนะลูกชาย ฉันตอบคำถามนั้นไม่ได้"
"ผมจำได้ทุกวันในที่นี่ แต่ว่า..." ปิเอโตรกวาดสายตามองรอบตัว ราวกับต้องการจดจำทุกสิ่งทุกอย่างในฟาร์มให้ติดตรึงอยู่ในใจ "แต่บางอย่างในตัวผมบอกว่านี่ไม่ใช่ชีวิตจริงของผม"
"แล้วลูกคิดจะเลือกอะไรล่ะ?"
"ผมไม่รู้..." ปิเอโตรลุกขึ้นยืน นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตว่าตัวเองสูงกว่าเจ้าของฟาร์มที่ยังนั่งอยู่ "ผมอยากอยู่ที่นี่ แต่ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ผมต้องทำให้สำเร็จ"
"ถ้างั้นก็ไปทำมันเถอะ ลูกชาย" ชายชราตอบ น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาแต่หนักแน่น
"แล้วผมจะออกไปจากที่นี่ได้ไหม?" ปิเอโตรถามตาเบิกกว้าง
"ฉันไม่รู้หรอก เพราะฉันไม่เคยลองออกไป" เจ้าของฟาร์มพูดพร้อมรอยยิ้ม
ปิเอโตรนิ่งไปชั่วครู่ เขาอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายกลับไม่มีคำใดหลุดออกมา เขาก้มศีรษะมองชายชราผู้เลี้ยงดูเขามา ความคิดในหัวสับสนอลหม่าน
เวลาราวกับหยุดนิ่ง ทุกสิ่งในฟาร์มเหมือนถูกแช่แข็งหญ้าที่เคลื่อนไหวไปตามสายลม ผีเสื้อที่ร่ายรำท่ามกลางดอกไม้ แม้กระทั่งหยดน้ำจากเครื่องพ่นน้ำในอากาศ ทุกอย่างเหมือนถูกหยุดไว้
ในที่สุด ชายชราก็วางแก้วเบียร์ลงบนโต๊ะ แต่ตอนนั้น ปิเอโตร ได้หายไปแล้ว เหลือเพียงแก้วเบียร์ที่ยังไม่ได้แตะต้องวางอยู่บนโต๊ะ
"...ฉันน่าจะเก็บไว้...สำหรับครั้งหน้า..."
ความเงียบงันแผ่ปกคลุม ความคิดของปิเอโตรล่องลอยไร้จุดหมาย เขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน หรือเวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันเหมือนความฝันที่ไร้เสียงและไร้รูปร่าง ปิเอโตรใช้เวลานานในการรวบรวมสติที่แตกกระจายทีละน้อย
ทันใดนั้น ความรู้สึกในร่างกายก็กลับคืนมา เสียงและสัมผัสถาโถมเข้ามา รุนแรงจนเกือบทำให้สติแตกอีกครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ค่อยๆ ลืมตา และจิตสำนึกของเขากลับคืนสู่ร่าง
เบื้องหน้าเขา อเล็กซ์ นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ มือหนึ่งจับพวงมาลัย อีกมือถือพิซซ่าชิ้นใหญ่หน้าซาลามี่
อเล็กซ์เหลือบมองเขา ก่อนพูดขึ้นขณะเคี้ยวพิซซ่าด้วยท่าทางสบายๆ
"ฟื้นแล้วเหรอ? หิวไหม? จะเอาอะไรสักหน่อยไหม?"