บทที่ 2 : ซากปรักหักพัง

ใช่แล้ว ชายผมสีเงินตรงหน้านั้นคือหนึ่งในมิวแทนต์ชื่อดังที่อเล็กซ์จำได้ในความทรงจำของเขา ควิกซิลเวอร์ (Quicksilver)

แต่ในตอนนี้ สภาพของเขาน่าสงสารอย่างมาก ผมที่เคยเรียบร้อยเริ่มยุ่งเหยิงจากการไม่ได้หวีมานาน และหนวดเคราก็รกบนใบหน้า ไม่มีใครเดาได้เลยว่าเขายังเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีเท่านั้น

ที่น่าตกใจที่สุดคือ แขนขวาของเขา เขามีเพียงแขนเสื้อที่ว่างเปล่า แขนขวาถูกตัดขาดโดยใครบางคน แผลนั้นไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม เขาเพียงแค่หยุดเลือดเอาไว้ ซึ่งส่งผลให้แขนของเขาไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าบาดแผลจะหายด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ แต่ก็ยังดูน่าสะพรึงกลัว

อเล็กซ์พบกับปิเอโตรเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนั้นเขากำลังแย่งอาหารกับสุนัขตัวหนึ่ง เขาหิวโหยจนแทบขาดใจ ความเร็วสูงของเขาทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานสูงตามไปด้วย หากเขาไม่ได้พบกับอเล็กซ์ในวันนั้น เขาอาจจะอดตาย และหากเขาหมดสติลง ขอทานคนอื่นๆ ก็ไม่สนใจว่าจะเป็นหรือตาย

ในช่วงแรก ปิเอโตรมีท่าทีระแวงอเล็กซ์ แต่เมื่อคุ้นเคยกันแล้ว เขาก็เริ่มเปิดใจเล่าเรื่องราวของตัวเอง เขาถูกขังในคุกมิวแทนต์โดย “ประธานาธิบดี X” และได้หลบหนีออกมา

เขาพยายามหนีออกจากคุกครั้งแรก แต่ถูกจับกลับไป และแขนของเขาก็ถูกตัดในเหตุการณ์นั้น

อเล็กซ์หยิบขนมปังหนึ่งก้อนและเบียร์สองขวดออกมาจากกระเป๋า เขาเก็บเบียร์ไว้ขวดหนึ่งสำหรับตัวเอง ก่อนจะยื่นอีกขวดและขนมปังให้ปิเอโตร แล้วพูดต่อว่า

"ฟังนะ ปิเอโตร ฉันไม่รู้ว่าประธานาธิบดี X มีพลังมากแค่ไหนแต่ฉันรู้ว่าแค่นายใช้พลังของนาย เขาอาจจะรับรู้ได้ ฉันไม่อยากตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกรายล้อมไปด้วยคนพวกนั้น ฉันเชื่อว่านายหนีมาอย่างยากลำบาก นายไม่อยากถูกจับกลับไปอีกใช่ไหม?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปิเอโตรก็นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต เขาไม่ได้พูดอะไร นั่งลงเงียบๆ เปิดเบียร์ด้วยมือข้างเดียวและจิบมัน

เมื่อเห็นเช่นนั้น อเล็กซ์ก็ถอนหายใจ โลกที่บ้าคลั่งนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เปิดโอกาสให้คนที่มีพลังพิเศษได้ใช้ชีวิต แต่ยังไม่เปิดโอกาสให้คนธรรมดาได้อยู่รอดด้วย

ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก สหรัฐฯ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นี่เป็นเหตุผลที่ประธานาธิบดี X ต้องการกำจัดทีมอเวนเจอร์สให้เร็วที่สุด

ราคาสินค้าพุ่งสูง ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัย และแต่ละรัฐตกอยู่ในความโกลาหล คาดการณ์กันว่าสงครามโลกครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เพียงแต่ตอนนี้ ทุกคนกำลังรอว่าใครจะเริ่มยิงกระสุนลูกแรกที่จะเป็นเหมือนตะปูตอกฝาโลงของโลกใบนี้

มีข่าวลือว่าจุดจบของโลกกำลังใกล้เข้ามา และมีเพียงพวกมิวแทนต์ที่เหมือนคนบ้าจะรอดชีวิตได้ในโลกนี้ ความสามารถพิเศษไม่ได้มอบชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน แต่มักนำพาความหายนะมาสู่พวกเขาแทน

อเล็กซ์เหลือบมองปิเอโตรที่อยู่ตรงข้าม บางทีเขาอาจเป็นคนเดียวที่ยังโชคดีอยู่บ้าง ความเร็วสูงของเขายังทำให้เขารอดชีวิตมาได้...

"สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง?" หลังจากความเงียบชั่วครู่ ปิเอโตรถามขึ้น

"สงครามใกล้เข้ามาแล้ว หลายคนเริ่มกระโดดตึกตายกันเป็นกลุ่ม ประธานาธิบดี X ยังคงเงียบสนิท คงกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง กิจกรรมของแก๊งอาชญากรก็เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ"

"แล้วทีมอเวนเจอร์สล่ะ?"

"พวกเขาตายหมดแล้ว แม้แต่ชายแก่ที่อ้างว่าเป็นร่างอวตารของธอร์ก็ถูกฆ่า คนที่ยังรอดชีวิตก็ซ่อนตัวอยู่ ฉันไม่มีทางตามหาพวกเขาได้ ถ้าฉันยังคงเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขา ฉันจะถูกหมายหัวแน่"

"นายคิดว่าเราจะทำสำเร็จจริงๆ เหรอ?" ปิเอโตรถามด้วยน้ำเสียงกังวล ในวัยเท่านี้ เขาควรจะอยู่ในโรงเรียน แต่นี่เขากลับต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย

"เราทำได้" อเล็กซ์ตอบหนักแน่น "ถ้าเราไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เราก็ไม่มีวันสำเร็จอะไรทั้งนั้น"

"ฉันได้ยินมาว่าที่เท็กซัสกำลังมีการก่อกบฏ ส่วนที่ชายแดนเม็กซิโกก็วุ่นวาย อาจจะเป็นโอกาสของเรา ถ้าเราทำสำเร็จ เราอาจหนีออกจากโลกบ้าๆ นี้ได้ แต่ทั้งนี้ สิ่งที่นายบอกฉันต้องเป็นเรื่องจริง"

"สิ่งที่ฉันพูดคือความจริง ฉันจะโกหกนายไปทำไม?" ปิเอโตรตอบกลับทันที น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดที่อเล็กซ์ไม่เชื่อใจ

อเล็กซ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเขารู้ดีว่าความเป็นไปได้ที่ปิเอโตรจะโกหกนั้นแทบไม่มี เนื่องจากสิ่งที่ปิเอโตรค้นพบเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่มีทางที่เขาจะรู้ล่วงหน้าได้

ปิเอโตรเคยถูกจับในข้อหาขโมย เขาไม่ได้ขโมยแค่จากนักธุรกิจหรือคนรวย บางทีเพราะความคึกคะนองในวัยหนุ่ม หรือความมั่นใจเกินตัวว่าเขาไม่มีทางพลาด เขาจึงกล้าบุกเข้าไปในห้องลับของประธานาธิบดี X เพื่อขโมย "สมบัติ" ข้างใน

ห้องลับนั้นถูกสร้างขึ้นโดยประธานาธิบดี X เอง ภายในเต็มไปด้วยสมบัติลับและถ้วยรางวัลจากการปราบอเวนเจอร์ส อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโลกนี้ไม่มีพลังงานเหนือธรรมชาติ สมบัติเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงของที่ดูยิ่งใหญ่ แต่กลับไร้ประโยชน์ในทางปฏิบัติ

ตัวอย่างเช่น "ดาร์คโฮลด์" ที่ได้มาจากการกวาดล้างลัทธินอกรีต และ "คัมภีร์แห่งวิชานติ" ที่ยึดมาจากด็อกเตอร์สเตรนจ์ แต่หนังสือเหล่านี้กลับไม่มีมนต์ใดๆ ที่ใช้งานได้จริง เหมือนเป็นของสะสมที่ดูเหมือนเพ้อฝันของคนบ้า

แต่ในบรรดาสิ่งที่ปิเอโตรบรรยาย มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้อเล็กซ์สนใจอย่างมาก

มันคือกล่องสีเหลืองเล็กๆ ขนาดประมาณโทรศัพท์มือถือ รูปลักษณ์ประณีต ดูแล้วไม่ใช่สิ่งที่ผลิตขึ้นบนโลก ข้างในกล่องมีคุกกี้ทรงกลมสีส้มเล็กๆ ที่มีแขนและขา มันทำได้เพียงหัวเราะ

ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร แต่สำหรับอเล็กซ์ เขารู้

นั่นไม่ใช่คุกกี้ธรรมดา แต่มันคือ "Miss Minutes" ผลิตภัณฑ์ขององค์กร TVA (Time Variance Authority) และกล่องนั้นก็คือ ตัวควบคุมเวลา

ในซีรีส์ 'Loki' TVA เป็นองค์กรที่ แคง สร้างขึ้นเพื่อควบคุมไทม์ไลน์ศักดิ์สิทธิ์และป้องกันสงครามข้ามจักรวาล พวกเขามีพลังมหาศาล รวมถึงการเดินทางระหว่างจักรวาลและลบไทม์ไลน์ที่ทำให้เกิดพาราด็อกซ์ ความสามารถนี้แสดงให้เห็นจากลิ้นชักที่เต็มไปด้วย Infinity Stones ในซีซั่นแรกของ 'Loki'

แม้องค์กรนี้จะไม่ค่อยปรากฏในคอมิกส์และไม่ใช่ตัวหลักในเหตุการณ์สำคัญ แต่สำหรับอเล็กซ์ สิ่งนี้คือข่าวดีที่สุด

แม้เขาจะไม่รู้ว่าโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร แต่ตราบใดที่เขาได้ตัวควบคุมเวลานั้น เขาก็สามารถหนีออกจากโลกที่ล่มสลายนี้ได้ เพราะอเล็กซ์ไม่คิดว่าตัวเองจะรอดจากสงครามโลกครั้งที่สาม

หลังจากดื่มเบียร์จนหมด อเล็กซ์มองไปที่ปิเอโตรที่เพิ่งกินขนมปังเสร็จ และพูดขึ้นว่า "เตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้เราจะเริ่มเคลื่อนไหว"