บทที่ 15 : ปลดปล่อยนักโทษ
แผนของอเล็กซ์ในตอนแรกคือให้ปิเอโตรจัดการทุกอย่างทั้งหมดท้ายที่สุดแล้ว ปิเอโตรเป็นสปีดสเตอร์ เขาสามารถพาอเล็กซ์เข้ามาในคุก และเก็บกุญแจเซลล์ทั้งหมดได้โดยไม่เตือนให้ทหารคนอื่นๆ หรือฟิสก์รู้ตัว สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าปิเอโตรสามารถเปิดเซลล์ทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น
แต่น่าเสียดาย แผนนี้ไม่สามารถใช้งานได้จริง
ระบบจ่ายพลังงานทั้งหมดของคุกมิวแทนต์ลับตั้งอยู่ในพื้นที่บนดิน และทั้งสองระบบนี้มีการเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา หากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในคุกใต้ดิน ระบบจ่ายพลังงานจะเปิดใช้งานระบบป้องกันอัตโนมัติทันที
ระบบป้องกันอัตโนมัตินี้คือ กำแพงไฟฟ้าขั้นสูง ทุกคนที่พยายามผ่านกำแพงไฟฟ้าจะถูกช็อตจนไหม้เกรียม และกำแพงนี้จะปิดล้อมคุกมิวแทนต์ทั้งหมดทันที ทำให้ทั้งคนข้างในและข้างนอกไม่สามารถผ่านเข้าออกได้
แม้ว่าอาจมีมิวแทนต์บางคนที่ทรงพลังพอจะฝ่ากำแพงไฟฟ้านี้ไปได้ แต่พวกเขาจะถูกจับตัวกลับมาอีกในเวลาไม่กี่วัน และการปล่อยตัวมิวแทนต์เพียงไม่กี่คนก็ไม่อาจทำให้แผนการของอเล็กซ์สำเร็จได้ ดังนั้น แนวคิดนี้จึงไม่สามารถใช้งานได้
ในทำนองเดียวกัน แผนการที่จะทำลายระบบจ่ายพลังงานก่อนเพื่อป้องกันกำแพงไฟฟ้าจากการทำงาน แล้วค่อยปล่อยตัวนักโทษก็ไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน
การทำลายระบบจ่ายพลังงานจะทำให้คุกมิวแทนต์ทั้งแห่งถูกล็อกดาวน์ ทหารจะล้อมรอบพื้นที่นี้ ปิเอโตรไม่สามารถหลบหลีกกระสุนในพื้นที่แคบๆ แบบนั้นได้ และผลลัพธ์เดียวที่รอเขาคือความตาย แม้ว่าจะสำเร็จ แต่เขาจะสามารถปล่อยมิวแทนต์ได้สักกี่คน? แผนนี้ก็จะล้มเหลวเช่นกัน
ดังนั้น เพื่อให้แผนสำเร็จ มีเพียงตัวเลือกเดียว ปล่อยตัวนักโทษก่อน แล้วค่อยทำลายระบบจ่ายพลังงานจากภายนอกเพื่อปิดการทำงานของกำแพงไฟฟ้า
ด้วยวิธีนี้ มิวแทนต์จำนวนมากสามารถหลบหนีได้ และทหารข้างนอกจะไม่สามารถต่อกรกับมิวแทนต์จำนวนนับไม่ถ้วนได้
เพื่อให้แผนนี้สำเร็จ อเล็กซ์และปิเอโตรต้องแบ่งหน้าที่กัน ระบบจ่ายพลังงานถูกป้องกันอย่างแน่นหนา และอเล็กซ์ไม่มั่นใจว่าเขาสามารถทำลายมันได้ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น งานนี้จึงตกเป็นของปิเอโตร ส่วนอเล็กซ์จะจัดการปลดล็อกเซลล์
เมื่อแบ่งงานกันชัดเจน ทั้งสองคนก็เริ่มปฏิบัติการทันที อเล็กซ์ซ่อนกุญแจและแกล้งทำเป็นเจ้าหน้าที่เปลี่ยนเวร เดินออกจากห้องไปอย่างไม่รีบร้อน
ขณะเดินผ่านทางเดินในคุก ความชื้น ความเย็น กลิ่นเลือด และกลิ่นเนื้อเน่า รวมกับเสียงโซ่ที่ลากไปตามพื้น สร้างบรรยากาศเหมือนนรก
อเล็กซ์ก้มหน้า พยายามลดการดึงดูดความสนใจ พร้อมกับเหลือบมองมิวแทนต์ที่ถูกขังอยู่ในเซลล์ด้านข้างอย่างอยากรู้อยากเห็น
บางคนหลับอยู่ ขณะที่บางคนตื่นและมองอเล็กซ์ด้วยสายตาเย็นชา แม้พวกเขาจะไม่รู้จักอเล็กซ์ แต่พวกเขารู้จักเครื่องแบบของเขา ในคุกมิวแทนต์ การไปขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องอันตรายมาก
อเล็กซ์ต้องยอมรับว่า ผู้คุมฟิสก์ได้ฝึกนักโทษเหล่านี้มาอย่างดี
เขาสังเกตเห็นใบหน้าคุ้นเคยหลายคน เช่น ไซเรน (Siren), ไซล็อค (Psylocke), สไปรท์ (Sprite) และอดีตสมาชิก X-Men คนอื่นๆ ที่เขาเคยรู้จักจากชีวิตก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ยังมีบางคนที่ยังไม่แสดงพลังมิวแทนต์ที่ชัดเจน ทำให้อเล็กซ์ไม่สามารถระบุพวกเขาได้...
คุกทั้งแห่งเต็มไปด้วยบรรยากาศที่หม่นหมอง แม้แต่ในหมู่เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ ขณะที่อเล็กซ์เดินผ่านเจ้าหน้าที่ที่ง่วงนอนอยู่ คนๆ นั้นก็แค่เหลือบมองอเล็กซ์ครู่หนึ่งก่อนจะปิดตาอีกครั้งเพื่อหลับต่อ น้ำหยดจากเพดานคุก และในความมืด เสียงน้ำเสียที่ไหลผ่านท่อเพิ่มบรรยากาศอึดอัดและกดดัน
อเล็กซ์แทบจินตนาการไม่ได้ถึงสภาพที่ไร้มนุษยธรรมที่เหล่ามิวแทนต์เหล่านี้ต้องเผชิญทุกวัน หากเป็นเขา เขารู้ตัวเองดีว่าจะต้องเสียสติในเวลาไม่เกินสามวัน
เมื่อเขาเดินลงบันไดไป กลิ่นเหม็นก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ
ในชั้นที่สาม อเล็กซ์พบกับผู้ที่กลายเป็นมิวแทนต์ที่มีลักษณะคล้ายสัตว์ประหลาดเหมือนที่ปิเอโตรเคยพูดถึง เช่น ไนท์ครอว์เลอร์ (Nightcrawler) ที่นอกจากพลังวาร์ปแล้วยังดูคลุ้มคลั่งเหมือนสัตว์ร้าย
นอกจากนี้ยังมี แองเจิล (Angel) ที่สูญเสียปีกไปข้างหนึ่ง และ บีสต์ (Beast) ที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตสีฟ้าขนาดใหญ่
ขณะเดินผ่าน คิตตี้ ไพรด์ (Kitty Pryde) ซึ่งหลอมรวมกับเสาเหล็ก อเล็กซ์สังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรเลย ดวงตาไร้ชีวิตของเธอบ่งบอกว่าเธอ "ตายจากภายใน" ไปแล้ว
"วันนี้มาเร็วเหรอ?" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามพลางหาวเมื่อเห็นอเล็กซ์ เขาดูประหลาดใจที่เพื่อนร่วมงานของเขาขยันพอจะมาเปลี่ยนกะก่อนเวลา
"เร็ว? ฉันว่าสายแล้วมากกว่า" อเล็กซ์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ
ในวินาทีถัดมา อเล็กซ์หยิบปืนกลเก็บเสียงออกมาและยิงใส่เจ้าหน้าที่ที่ง่วงนอนทันที ไม่มีใครคาดคิดว่าอเล็กซ์จะลงมือกะทันหัน และด้วยความง่วงที่ยังครอบงำ เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจึงไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้
เสียงปืนทำให้นักโทษในเซลล์ตื่นตัวทันที พวกเขาเริ่มตื่นเต้น กลิ่นเลือดกระตุ้นพวกเขาให้พุ่งตัวเข้าหาลูกกรง ราวกับฉลามที่ได้กลิ่นเลือดในน้ำ
"เงียบซะ ไอ้พวกประหลาด!" อเล็กซ์ตะโกนรู้ว่าการยิงปืนนั้นต้องไปปรากฏในกล้องวงจรปิดแน่นอน แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องรีบเคลื่อนไหว
"ฉันจะปล่อยพวกนายออกไป" เขาพูดพลางถอดเสื้อแจ็คเก็ตของเจ้าหน้าที่ออก
แทนที่จะใช้กุญแจ เขายกมือซ้ายขึ้น พร้อมลำแสงพลังงานอนุภาคที่รวมตัวกัน ก่อนจะยิงลำแสงทำลายประตูเซลล์ที่ใกล้ที่สุดจนแตกกระจาย
ภายในเซลล์นั้นคือบีสต์ (Beast) ที่รีบพุ่งตัวออกมา เขามองหน้าอเล็กซ์ และหันไปมองประกายโลหะบนมือซ้ายของอเล็กซ์ ดูเหมือนเขาจะกลัวพลังทำลายล้างของมัน
หลังจากลังเลไม่กี่วินาที เมื่อเห็นว่าอเล็กซ์ไม่ได้ขัดขวางเขา บีสต์คำรามเสียงดังแล้วพุ่งไปยังศพของเจ้าหน้าที่ก่อนจะเริ่มกัดกินอย่างตะกละตะกลาม
เห็นภาพนี้ อเล็กซ์ต้องหายใจลึกหลายครั้ง แม้จะอยู่ในโลกนี้มานาน เขาก็ยังไม่ชินกับภาพแบบนี้และยังรู้สึกคลื่นไส้อยู่
เขาเพิกเฉยต่อบีสต์ที่กำลังกินศพ และรีบเดินไปยังเซลล์อื่นๆ ใช้กุญแจปลดล็อกประตู
ในระหว่างนั้น เขาต้องยิงแองเจิลจนหัวระเบิด เพราะเขาพยายามโจมตีอเล็กซ์ แต่หลังจากนั้น ทุกอย่างก็ราบรื่นขึ้น
เหล่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้ แม้จะถูกสัญชาตญาณดิบครอบงำ แต่ก็ยังมีความมีเหตุผลเพียงพอที่จะเข้าใจว่า การต่อต้านมนุษย์ที่กำลังช่วยพวกเขาหลบหนีจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ถ้าพวกเขาต้องการเอาชีวิตรอด...
