บทที่ 1 : จุดจบของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่
"ถ้านี่คือฝันร้าย ฉันก็ควรตื่นขึ้นได้แล้ว"
อเล็กซ์เดินอย่างไร้ชีวิตชีวาบนถนนสปาดินา ใจกลางนิวยอร์ก แม้แสงแดดจะเจิดจ้าและส่องลงบนตัวเขา แต่กลับไม่สามารถลบเลือนความหม่นหมองในจิตใจได้ แม้จะอยู่ท่ามกลางถนนที่คึกคักที่สุดในเมือง หัวใจของอเล็กซ์กลับว่างเปล่าเหมือนเขาไม่เข้ากับโลกใบนี้เลย
อเล็กซ์ไม่ได้มาจากโลกนี้และเขาเองก็จำไม่ได้ว่ามาที่นี่ได้อย่างไร ราวกับเขาตื่นขึ้นมาจากอาการแฮงค์โอเวอร์ และเมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ข้างถนนกับกลุ่มคนไร้บ้าน
ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่เขาอยู่ในโลกนี้ และยิ่งเขารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่มากขึ้นเท่าไร ใจของเขาก็ยิ่งจมดิ่งลงในความสิ้นหวัง เขากระชับกระเป๋าสะพายแน่นขึ้นราวกับว่าของในนั้นจะมอบความอุ่นใจให้เขาได้ แม้ว่า "ความปลอดภัย" จะกลายเป็นสิ่งหายากในโลกนี้ไปแล้วก็ตาม
กระเป๋าใบนั้นเขาเก็บได้ รวมถึงของข้างใน ตอนที่มาถึงโลกนี้ อเล็กซ์รู้สึกตื่นเต้นมาก การเดินทางข้ามโลกเป็นสิ่งที่เขาคิดว่าจะได้เจอแค่ในนิยายหรือการ์ตูนเท่านั้น การได้สัมผัสมันด้วยตัวเองทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นๆ ในโลกเดิมถึง 99.9999%
ความตื่นเต้นพุ่งถึงขีดสุดเมื่อเขาเห็นคำว่า "สตาร์ก" ในหนังสือพิมพ์ ชื่อนี้เป็นชื่อที่เขาคุ้นเคยดีจากการดูภาพยนตร์และซีรีส์ของมาร์เวล โทนี่ สตาร์ก ไอรอนแมน จะมีใครในนิวยอร์กที่ใช้ชื่อนี้ได้อีก? และชื่อนี้ยังปรากฏบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ Weekly World Enquiry
แต่เมื่ออเล็กซ์เลื่อนสายตาลงมาอ่านพาดหัวข่าว ใจเขาแทบหยุดเต้น
"กลุ่มแบ่งแยกดินแดน 'อเวนเจอร์ส' ถูกทำลาย! โทนี่ สตาร์ก ผู้นำองค์กรก่อการร้าย เสียชีวิตในสนามรบ"
"อะไรนะ?" อเล็กซ์อึ้ง มือที่จับหนังสือพิมพ์สั่นเล็กน้อย เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่อ่าน
"อเวนเจอร์สกลายเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดน? โทนี่ สตาร์กกลายเป็นผู้ก่อการร้าย? แล้วเขาตายไปแล้วเหรอ?"
เขารีบอ่านต่อเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่แคลิฟอร์เนียเมื่อหลายวันก่อน ควินเจ็ตลำสุดท้ายของอเวนเจอร์สถูกยิงด้วยขีปนาวุธแพทริออต ทำให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดน 'อเวนเจอร์ส' ถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก ยานควินเจ็ตนั้นบรรทุกสมาชิกอเวนเจอร์สที่เหลืออยู่ แต่ตำแหน่งของพวกเขาถูกเปิดเผยในระหว่างอพยพ ทำให้ทุกคนเสียชีวิต
โทนี่ สตาร์ก เดิมทีเป็นอัจฉริยะด้านวิทยาศาสตร์และเจ้าของทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เขาได้สร้างชุดเกราะโลหะขึ้นมา เปลี่ยนชื่อเป็นไอรอนแมน และรวบรวมกลุ่มคนที่มี "ทักษะพิเศษ" เพื่อก่อตั้งองค์กรก่อการร้าย 'อเวนเจอร์ส' ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อล้มล้างประธานาธิบดี X
สมาชิกอเวนเจอร์สประกอบไปด้วยบุคคลมากความสามารถ เช่น สตีเฟน สเตรนจ์ นักวิทยาศาสตร์แฮงค์ พิม และภรรยาของเขา รวมถึงธอร์ที่อ้างว่าเป็นการกลับชาติมาเกิดของเทพเจ้าสายฟ้า แต่ตอนนี้ องค์กรที่พยายามโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการของประธานาธิบดี X ได้ล่มสลายไปนานแล้ว เหลือเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่ยังหลบซ่อนตัว
สี่วันต่อมา อเล็กซ์เห็นฉากการประหารชีวิตคลินต์ บาร์ตัน หรือ 'ฮอว์คอาย' บนถนน คลินต์ถูกหักหลังขณะหลบหนี ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย แม้เขาจะมีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็หมดแรงสู้เมื่อเผชิญหน้ากับกองทหารจำนวนมหาศาล
เสียงปืนดังขึ้น "ปัง!" คลินต์ บาร์ตันที่คุกเข่าอยู่ถูกยิงที่ศีรษะ เลือดไหลนองพื้น ชุดสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขายังคงอยู่ ผู้คนรอบข้างส่งเสียงกรีดร้อง ทั้งด้วยความตื่นเต้นและตกใจ สำหรับพวกเขา การได้เห็นการประหารชีวิตของฮอว์คอาย ผู้ที่ทำให้ประธานาธิบดี X ปวดหัวมานาน ถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น
อเล็กซ์ที่ยืนดูเหตุการณ์จากฝูงชนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเหล่า 'อเวนเจอร์ส' ถึงยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อโค่นล้มประธานาธิบดี X
"ทำไม? โลกนี้เกิดอะไรขึ้น?"
"ทำไมศาสตราจารย์ X ผู้ก่อตั้ง X-Men ถึงกลายเป็นทรราช?"
"ทำไมชุดเกราะของไอรอนแมนถึงไม่ตรวจจับขีปนาวุธ?"
"ทำไมหมอสเตรนจ์ถึงไม่ใช้เวทมนตร์?"
"ทำไมธอร์ถึงถูกฆ่าด้วยขีปนาวุธทั้งๆ ที่ถือค้อนอยู่?"
อเล็กซ์จ้องมองร่างของฮอว์คอายด้วยความรู้สึกอัดอั้น ทุกอย่างดูแปลกประหลาดและน่ากลัวจนเกินไป แม้กระทั่งความรู้สึกคลื่นไส้จากการเห็นศพ เขาก็ยังไม่ใส่ใจ
"ฉันมาที่โลกแบบไหนกันแน่?"
--
ในอีกไม่กี่วันต่อมา
อเล็กซ์ยังคงเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนน พร้อมทั้งใช้ความทรงจำจากชีวิตก่อนหน้านี้เป็นแนวทางในการค้นหาข้อมูลในโลกอันแตกสลายใบนี้
ในฐานะผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ไม่มีเอกสารหรือเงินติดตัว อเล็กซ์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าร่วมกลุ่มคนขอทาน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองอดตาย แต่สถานะนี้กลับมีข้อดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะกลุ่มคนขอทานนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลลับเกี่ยวกับโลกใบนี้ ข้อมูลที่คนทั่วไปไม่มีวันล่วงรู้
ตัวอย่างเช่น ในเหตุการณ์ที่ทำให้อเวนเจอร์สถูกทำลายล้าง มันเกิดจากการทรยศของอดีตสมาชิกทีมอย่าง สการ์เล็ทวิทช์ เธอยอมขายข้อมูลและฐานที่มั่นของอเวนเจอร์สให้ประธานาธิบดี X เพื่อปกป้องตัวเอง
"โทนี่ สตาร์กคงไม่เคยคิดเลยว่าผู้ที่นำหายนะมาสู่ทีมอเวนเจอร์ส จะเป็นคนในกลุ่มของเขาเอง"
ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง ดาราหนังผู้ใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ "เอนแชนเทรส" ฆ่าผู้จัดการส่วนตัวของเธอ ซึ่งก็คือ นาเมอร์ ราชาแห่งแอตแลนติส เหตุผล? เพราะเขาหลอกลวงความรู้สึกของเธอ เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในแทบลอยด์ทุกฉบับ และยังเป็นหัวข้อสนทนาในกลุ่มคนขอทาน
อเล็กซ์ยังได้ยินว่ากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กลายเป็นดินแดนที่ไร้การปกครอง เต็มไปด้วยแก๊งอาชญากรและความรุนแรง จนได้รับฉายาว่าเป็นสถานที่ที่วุ่นวายที่สุดในโลก
อเล็กซ์เคยคิดจะไปสำรวจที่นั่น แต่ถูกคนในกลุ่มขอทานเตือนว่า "นั่นมันนรกบนดิน น่ากลัวยิ่งกว่านรกจริงๆ ถ้านายไม่อยากตายในสงครามของแก๊ง หรือถูกสัตว์กลายพันธุ์กิน นายอย่าแม้แต่จะคิดไปที่นั่นในชาตินี้"
นี่คือโลกที่เหมือนกับฝันร้าย เหล่าซูเปอร์ฮีโร่และวายร้ายในความทรงจำของอเล็กซ์เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ พวกเขากลายเป็นเพียงบทที่จบลงด้วยความเจ็บปวดและโศกนาฏกรรม สิ่งที่เคยเป็นแหล่งพลังอันยิ่งใหญ่กลับกลายเป็นคำสาปที่นำพาพวกเขาสู่ความหายนะ
ในโลกนี้ ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่คนไหนที่จบอย่างมีความสุข แม้กระทั่งมนุษย์ต่างดาว
เมื่อคืนก่อน อเล็กซ์ได้ยินเรื่องราวจากคนขอทานคนหนึ่งเกี่ยวกับกองทัพครีที่ถูกถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์จนกลายเป็นเศษซากลอยอยู่ในอวกาศ
เมื่อบทสนทนาสิ้นสุดลง อเล็กซ์หยุดยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง บนประตูมีป้ายเขียนว่า "ปิดเพื่อการประมูล" เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบลวดสองเส้นออกมาจากกระเป๋า เขาสอดลวดเข้าไปในรูกุญแจ ขยับมันไปมาสักพักจนประตูเปิดออก
บ้านที่ถูกปิดเพื่อการประมูลมักจะไม่มีใครดูแลจนกว่าจะขายได้ สิ่งนี้กลายเป็นโอกาสทองของคนขอทาน เพราะไม่มีใครอยากนอนกลางถนนหากยังมีทางเลือกนอนในบ้าน
เจ้าของบ้านคนก่อนชื่อ เบ็น ปาร์คเกอร์ หลานชายของเขาเคยทำการทดลองทางเคมี แต่เกิดอุบัติเหตุถูกแมงมุมที่ผ่านการฉายรังสีกัด หลังจากนั้น เขาป่วยหนักจนเสียชีวิตกลางถนน พร้อมกับทำลายครอบครัวของตัวเองไปด้วย
เมื่อเปิดประตู อเล็กซ์รีบก้าวเข้าไปในบ้านอย่างระมัดระวัง เขามองออกไปข้างนอกก่อนจะปิดประตูโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ หลังจากมั่นใจว่าไม่มีใครตามเขามา เขาล็อกประตู
"กลับมาแล้วเหรอ? ได้อะไรบ้าง?"
ทันทีที่ปิดประตู เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ตัวอเล็กซ์ ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่ทันสังเกตว่าชายคนนั้นโผล่มาเมื่อไหร่แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการตกใจ ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ใช่ครั้งแรก
"ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าใช้ความเร็วพิเศษแบบสุ่มสี่สุ่มห้า" อเล็กซ์พูดพลางผลักชายคนนั้นออก และเดินไปที่ห้องนั่งเล่นโดยไม่หันกลับมา
"ก็ฉันเบื่อนี่ นายหายออกไปทีเป็นวันๆ ฉันอยู่แต่ในบ้าน ก็ไม่น่าจะมีใครเห็น"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อเล็กซ์หันกลับมามองชายผมเงินตรงหน้า น้ำเสียงของเขาเฉียบขาดขึ้น
"จริงเหรอ? หรือนายลืมไปแล้วว่าถูกจับได้ยังไง? ปีเอโตร คราวนี้นายอยากจะเสียอะไรอีก? ขาซ้ายหรือขาขวา? หรือว่าการเสียมือซ้ายไปเมื่อครั้งนั้นยังไม่พอสอนบทเรียนนาย?"