ตอนที่แล้วบทที่ 165: ภารกิจพิเศษจากระบบ​!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 167: ภารกิจของกองกำลัง​วิญญาณจักรพรรดิ​!

บทที่​ 166: ซ่า​ง​กวน​เฉียน​


บทที่ 166: ซ่าง​กวน​เฉียน!

กลางดึกสงัด

“ประกาศ เส้นทางข้างหน้าคือเทือกเขาคุนหมี่…เทือกเขา​นี้จะมีอสูรสายยักษ์ปรากฏตัวออกมาเป็นจำนวนมาก ทุกคโปรดนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!”

เสียงประกาศดังปลุกเหล่านักเรียนที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้น​

“ตื่นได้แล้ว! ใกล้ถึงเทือกเขาคุนหมี่แล้ว!”

“บ้าเอ๊ย! เทือกเขาคุนหมี่!”

“อาจารย์เฉินเคยบอกว่า เทือกเขาคุนหมี่เป็นหนึ่งในห้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ ในหุบเขามีอสูรสายยักษาที่สูงกว่าร้อยเมตรอยู่เต็มไปหมดเลย!”

“ทุกคนเตรียมตัว!”

ทุกคนต่างระดมพลังวิญญาณ เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

เซียวซิงหยูมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่ไกลนักคือยอดเขาสูงตระหง่าน

ภูเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหมอกแห่งนี้ คือเทือกเขาคุนหมี่ หนึ่งในห้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ

บนภูเขาลูกนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของอสูรสายยักษา

อสูรสายยักษา ก็คืออสูรสายนักรบกลายพันธุ์นั่นเอง

ในเทือกเขาคุนหมี่นั้นมีบ่อน้ำพิเศษ​แห่งหนึ่ง น้ำในบ่อน้ำนี้มีความพิเศษมาก หากอสูรสายนักรบดื่มเข้าไป ร่างกายของพวกมันจะกลายพันธุ์ ความสูงและน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เเละเมื่ออสูรสายนักรบมีความสูงเกิน 100 เมตร ก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มอสูรสายยักษา

ถึงเซียวซิงหยูจะไม่เคยเห็นของจริงของพวกมันมาก่อน, แต่ก็เคยเห็นในรูปภาพและวิดีโอมาบ้าง

ในอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลและวิดีโอเกี่ยวกับเทือกเขาคุนหมี่มากมาย

เเละในวิดีโอ มักจะเห็นเงาดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในหมอกหนาทึบบนภูเขาเป็นครั้งคราว

เงาดำเหล่านั้นก็คืออสูรสายยักษา!

เมื่อมนุษย์ตัวเล็กๆ ยืนอยู่ใต้เท้าของอสูรสายยักษา พวกเขามักจะเกิดอาการกลัว…เป็นความกลัวที่ฝังลึกอยู่ในสัญชาตญาณ

คนที่จิตใจไม่แข็งพอ อาจจะเกิดอาการทางจิตจากความตกใจได้

ดังนั้น…เหล่านักเรียนจึงพากันหวาดกลัว เเละไม่กล้ามองออกไปนอกหน้าต่าง

….

สิบนาทีผ่านไป

ยี่สิบนาทีผ่านไป

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

ตลอดครึ่งชั่วโมง ทุกคนต่างตื่นตัวเเละกลัวว่าจะมีหัวของอสูรสายยักษาโผล่ออกมาจากหมอกดำนอกหน้าต่าง

แต่สุดท้าย​ มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับตอนที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาว

“รถไฟกำลังจะออกจากเขตเทือกเขาคุนหมี่”

เสียงประกาศดังขึ้น ทำให้ทุกคนงุนงงและเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง

“แปลกจริงๆ ใกล้จะผ่านเทือกเขาคุนหมี่แล้ว แต่เรายังไม่เห็นแม้แต่เงาของอสูรสายยักษาเลย!”

“ก่อนหน้านี้ก็หุบเหวกกระดูกขาว ตอนนี้ก็เทือกเขาคุนหมี่ เส้นทางอันตรายทั้งสองนี้ อันตรายกว่าหุบเขาห้าพิษอีก แต่กลับไม่มีอสูรออกมาโจมตีขบวนรถไฟเลย”

“หัวหน้าฉิน คุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนไหม?”

เมื่อเจอกับคำถามของเหล่านักเรียน ฉินเยี่ยนหรันก็ยิ่งมีสีหน้าลำบากใจมากขึ้น​

“เอ่อ…สถานการณ์แบบนี้ ฉันก็เพิ่งเคยเจอเหมือนกัน”

ตลอดสองปีที่ผ่านมา ฉินเยี่ยนหรันคุ้มกันขบวนรถไฟหมายเลข 13 มามากกว่าร้อยครั้ง

ในการเดินทางกว่าร้อยครั้งนี้ ทุกครั้งที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาวและเทือกเขาคุนหมี่ เธอจะต้องปวดหัวทุกที

เพราะที่หุบเหวกกระดูกขาวมักจะมีอสูรสายอันเดดออกมาเป็นจำนวนมาก ส่วนรอบๆเทือกเขาคุนหมี่ก็เต็มไปด้วยอสูรสายยักษาที่มีความสูงกว่าร้อยเมตร

พูดได้เต็มปากเลยว่า อสูรสายยักษาที่โตเต็มวัย แค่เหยียบเท้าครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ขบวนรถไฟหมายเลข 13 แบนเป็นกล้วยปิ้งได้เลย

แต่ครั้งนี้ ขณะที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาวและเทือกเขาคุนหมี่ ขบวนรถไฟหมายเลข 13 กลับแล่นผ่านไปได้อย่างราบรื่น ไม่เจออสูรแม้แต่ตัวเดียว

เเปลก!!!

สถานการณ์​ตอนนี้ มันแปลกมาก!

เรื่องนี้เกินกว่าประสบการณ์ของฉินเยี่ยนหรัน….และเกินกว่าความเข้าใจของทุกคน

ณ ขณะนี้…เซียวซิงหยูมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างมาก

เขารู้ดีว่าเมื่อเกิดเรื่องผิดปกติ มันย่อมต้องมีสาเหตุบางอย่าง​ที่แอบแฝงอยู่!

อีกสิบนาทีต่อมา ขบวน​รถไฟก็ได้แล่นออกจากเขตเทือกเขาคุนหมี่

เซียวซิงหยูยื่นหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่ลึกลับแห่งนี้ ก็ได้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในความมืดมิดเช่นเดิม

ถึงแม้เหล่านักเรียนจะรู้สึกงุนงง แต่ส่วนใหญ่ก็รู้สึกโล่งใจ

ตอนนี้นักเรียนที่ยังอยู่บนรถไฟ ล้วนผ่านการต่อสู้ที่หุบเขาห้าพิษมาแล้ว ทุกคนจึงได้คะแนนอย่างน้อย C ซึ่งหมายความว่าทุกคนสอบผ่านแล้ว

เเละการที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาวกับเทือกเขาคุนหมี่มาได้อย่างปลอดภัย…นั่นก็หมายความว่าการสอบกลางภาคใกล้จะจบลงแล้ว

รอดชีวิต และสอบผ่าน นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนทั้งหมด

มีเพียงเซียวซิงหยูเท่านั้นที่ยังคงมีสีหน้ากังวล

“หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มันรู้สึกแปลกๆ…เหมือนมีลางร้าย”

เซียวซิงหยูเพิ่งได้รับภารกิจพิเศษจากระบบ ภารกิจนี้มันเหมือนกับเสียงระฆังเตือนภัยที่บอกเป็นนัยๆว่าปลายทางของรถไฟขบวนนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด​การสอบ…แต่เป็นทะเลแห่งการนองเลือด

หลังจาก​นั้น​ไม่นาน ฟ้าก็เริ่มสาง

ตอนนี้คือเวลาหกโมงเช้า แสงอาทิตย์ยามเช้าได้ส่องผ่านหน้าต่างรถไฟ ตกกระทบใบหน้าของเซียวซิงหยู

เสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“สถานีต่อไป คือสถานีทะเลสาบเทียนหลาง”

อู๋เซิงโหย่วดีใจ รีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ซิงหยู…ดูจากแผนที่แล้ว สถานีทะเลสาบเทียนหลางเป็นสถานีก่อนสุดท้าย!”

ซ่งหู่ยิ้มเเล้วกล่าว​เสริม​ “แล้วสถานีทะเลสาบเทียนหลางก็เป็นเขตปลอดภัยด้วย รถไฟจะไม่ถูกอสูรโจมตี!”

เซียวซิงหยูมองแผนที่บนมือถือ แต่สีหน้าของเขายังคงเคร่งเครียดอยู่ดี

“ยิ่งใกล้ถึงสถานีปลายทาง สัญชาตญาณ​ของฉันก็ยิ่งกระตุ้น​เตือน…”

ทันใดนั้น​ เสียงของฉินเยี่ยนหรันก็ดังลอยมาจากลำโพง

“ทุกคน มารวมตัวกันที่ตู้โดยสารหมายเลข 8!”

ห้านาทีต่อมา นักเรียนและสมาชิกกิลด์นภาทั้งหมดก็ได้มารวมตัวกันที่ตู้โดยสารหมายเลข 8

ฉินเยี่ยนหรันยกมือขึ้นแล้วกดลง เป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบ

“ฉันเพิ่งได้รับแจ้งมา ตอนนี้จะขอประกาศเรื่องสำคัญเรื่อง​หนึ่ง”

ทุกคนหยุดพูดคุย เเล้วตั้งใจฟังทันที​

“สถานีต่อไปคือสถานีทะเลสาบเทียนหลาง”

“ตอนนี้…องค์หญิงเซี่ยงกวนเฉียน เพิ่งผ่านการทดสอบผู้ฝึกอสูรระดับหกดาว”

“องค์หญิงจะขึ้นขบวน​รถไฟหมายเลข 13…ที่สถานีทะเลสาบเทียนหลาง และเดินทางไปเมืองหวงหยานพร้อมกับพวกเรา”

สิ้นเสียงของฉินเยี่ยนหรัน ทุกคนในตู้โดยสารก็ส่งเสียง​ฮือฮาขึ้นมาทันที

“องค์หญิงเหรอ? ฉันเคยเห็นแต่ในหนังสือพิมพ์กับทีวี องค์​หญิง​งดงาม​มากเลย​นะ”

“ทริปนี้คุ้มค่าสุดๆ! มีโอกาสได้เจอองค์หญิงตัวจริงด้วย!”

“ฉันต้องจัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อย จะได้ไปทักทายองค์หญิงด้วยภาพลักษณ์ที่ดีที่สุด เผื่อฉันจะได้เป็นราชบุตรเขย”

“เจ้าจางเว่ย แกจะหลงตัวเองไปถึงไหน”

ถึงแม้จางเว่ยจะมีความสามารถในการฝึกอสูรต่ำ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้จักหาทางลัดในชีวิต

ซ่างกวนหลานมีลูกสาวคนเดียวคือเซี่ยงกวนเฉียน ถ้าใครได้แต่งงานกับองค์หญิงเเล้วได้เป็นราชบุตรเขย นั่นก็เท่ากับได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต…มีอำนาจล้นฟ้าในอนาคต

“ตื่นเต้นจังเลยเซียวซิง​หยู…เราจะได้เจอองค์หญิงแล้ว! นายไม่ตื่นเต้นบ้างเหรอ?”

“ซ่งหู่ นายใจเย็นๆหน่อย องค์หญิงก็เป็นคนเหมือนกับเรานี่แหละ ไม่ใช่เทพสักหน่อย”

“ไม่ใช่! เธอคือเทพธิดาของผม!”

อู๋เซิงโหย่วก็ตื่นเต้นไม่แพ้ซ่งหู่ แต่เขาก็ยังมีข้อสงสัยบางอย่าง​

“ว่าเเต่….ทำไมองค์หญิงถึงมาอยู่ที่ทะเลสาบเทียนหลางที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ได้?”

“ข้างหลังทะเลสาบเทียนหลาง คือธารน้ำแข็งไลกู่ มันเป็นสถานที่ทดสอบผู้ฝึกอสูรระดับหกดาว” เซียวซิงหยูวิเคราะห์ให้ทั้งสองฟัง

“เเล้วทำไมองค์หญิงที่ผ่านการทดสอบระดับหกดาวแล้ว ถึงไม่นั่งเครื่องบินกลับเมืองหลวง แต่กลับมานั่งรถไฟไปเมืองหวงหยานกับพวกเราล่ะ?”

“ฉันก็สงสัยเหมือนเจ้าอู๋ ไม่เข้าใจว่าองค์หญิงคิดอะไรอยู่”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ เซียวซิงหยูจึงอธิบายต่ออย่างใจเย็น

“เมืองหวงหยานเป็นเมืองชายแดนทางตะวันตกของประเทศ เป็นฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ”

“องค์หญิงซ่างกวนเฉียนเป็นองค์หญิงที่มีฐานะสูงส่ง การที่เธอเสด็จไปเยี่ยมเยือนเมืองหวงหยานด้วยตนเอง จะช่วยให้ทหารและประชาชนมีขวัญกำลังใจที่จะปกป้องประเทศชาติต่อไป”

“เเละถ้าฉันเดาไม่ผิด การกระทำครั้งนี้น่าจะเป็นคำสั่งของฝ่าบาท”

เซียวซิงหยูเดาถูก การที่ซ่างกวนเฉียนเสด็จไปเมืองหวงหยาน มันเป็นเพราะ​คำสั่งของซ่างกวนหลานั่นเอง

……

ไม่นาน รถไฟก็เริ่มชะลอความเร็ว และจอดที่ชานชาลา

ใกล้ๆกับชานชาลามีทะเลสาบขนาดใหญ่ตั้งอยู่ รูปร่างของทะเลสาบดูคล้ายกับดาวซิริอุส

นี่คือสถานีก่อนสถานีสุดท้ายของขบวนรถไฟหมายเลข 13…สถานีทะเลสาบเทียนหลาง

ด้านหลังทะเลสาบเทียนหลาง คือธารน้ำแข็งไลกู่ ซึ่งมันเป็นธารน้ำแข็งที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา

ในธารน้ำแข็ง เป็นที่อยู่อาศัยของอสูรสายน้ำแข็งที่แข็งแกร่ง เช่น เหยี่ยวนภาแข็ง นกอินทรีน้ำแข็งยักษ์ ช้างแมมมอธหิมะ…

รถไฟจอดสนิท ประตูของตู้โดยสารหมายเลข 8 ค่อยๆเปิดออก

“ทุกคน นั่นองค์หญิง!”

“องค์หญิงสวยมาก…สวยกว่าในทีวีอีก!”

“พวกเเก อย่ามาแย่งตำแหน่งราชบุตรเขยกับฉันนะ!”

……………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด