บทที่ 166: ซ่างกวนเฉียน
บทที่ 166: ซ่างกวนเฉียน!
กลางดึกสงัด
“ประกาศ เส้นทางข้างหน้าคือเทือกเขาคุนหมี่…เทือกเขานี้จะมีอสูรสายยักษ์ปรากฏตัวออกมาเป็นจำนวนมาก ทุกคโปรดนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!”
เสียงประกาศดังปลุกเหล่านักเรียนที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้น
“ตื่นได้แล้ว! ใกล้ถึงเทือกเขาคุนหมี่แล้ว!”
“บ้าเอ๊ย! เทือกเขาคุนหมี่!”
“อาจารย์เฉินเคยบอกว่า เทือกเขาคุนหมี่เป็นหนึ่งในห้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ ในหุบเขามีอสูรสายยักษาที่สูงกว่าร้อยเมตรอยู่เต็มไปหมดเลย!”
“ทุกคนเตรียมตัว!”
ทุกคนต่างระดมพลังวิญญาณ เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
เซียวซิงหยูมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่ไกลนักคือยอดเขาสูงตระหง่าน
ภูเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหมอกแห่งนี้ คือเทือกเขาคุนหมี่ หนึ่งในห้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ
บนภูเขาลูกนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของอสูรสายยักษา
อสูรสายยักษา ก็คืออสูรสายนักรบกลายพันธุ์นั่นเอง
ในเทือกเขาคุนหมี่นั้นมีบ่อน้ำพิเศษแห่งหนึ่ง น้ำในบ่อน้ำนี้มีความพิเศษมาก หากอสูรสายนักรบดื่มเข้าไป ร่างกายของพวกมันจะกลายพันธุ์ ความสูงและน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เเละเมื่ออสูรสายนักรบมีความสูงเกิน 100 เมตร ก็จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มอสูรสายยักษา
ถึงเซียวซิงหยูจะไม่เคยเห็นของจริงของพวกมันมาก่อน, แต่ก็เคยเห็นในรูปภาพและวิดีโอมาบ้าง
ในอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลและวิดีโอเกี่ยวกับเทือกเขาคุนหมี่มากมาย
เเละในวิดีโอ มักจะเห็นเงาดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในหมอกหนาทึบบนภูเขาเป็นครั้งคราว
เงาดำเหล่านั้นก็คืออสูรสายยักษา!
เมื่อมนุษย์ตัวเล็กๆ ยืนอยู่ใต้เท้าของอสูรสายยักษา พวกเขามักจะเกิดอาการกลัว…เป็นความกลัวที่ฝังลึกอยู่ในสัญชาตญาณ
คนที่จิตใจไม่แข็งพอ อาจจะเกิดอาการทางจิตจากความตกใจได้
ดังนั้น…เหล่านักเรียนจึงพากันหวาดกลัว เเละไม่กล้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
….
สิบนาทีผ่านไป
ยี่สิบนาทีผ่านไป
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ตลอดครึ่งชั่วโมง ทุกคนต่างตื่นตัวเเละกลัวว่าจะมีหัวของอสูรสายยักษาโผล่ออกมาจากหมอกดำนอกหน้าต่าง
แต่สุดท้าย มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับตอนที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาว
“รถไฟกำลังจะออกจากเขตเทือกเขาคุนหมี่”
เสียงประกาศดังขึ้น ทำให้ทุกคนงุนงงและเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง
“แปลกจริงๆ ใกล้จะผ่านเทือกเขาคุนหมี่แล้ว แต่เรายังไม่เห็นแม้แต่เงาของอสูรสายยักษาเลย!”
“ก่อนหน้านี้ก็หุบเหวกกระดูกขาว ตอนนี้ก็เทือกเขาคุนหมี่ เส้นทางอันตรายทั้งสองนี้ อันตรายกว่าหุบเขาห้าพิษอีก แต่กลับไม่มีอสูรออกมาโจมตีขบวนรถไฟเลย”
“หัวหน้าฉิน คุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนไหม?”
เมื่อเจอกับคำถามของเหล่านักเรียน ฉินเยี่ยนหรันก็ยิ่งมีสีหน้าลำบากใจมากขึ้น
“เอ่อ…สถานการณ์แบบนี้ ฉันก็เพิ่งเคยเจอเหมือนกัน”
ตลอดสองปีที่ผ่านมา ฉินเยี่ยนหรันคุ้มกันขบวนรถไฟหมายเลข 13 มามากกว่าร้อยครั้ง
ในการเดินทางกว่าร้อยครั้งนี้ ทุกครั้งที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาวและเทือกเขาคุนหมี่ เธอจะต้องปวดหัวทุกที
เพราะที่หุบเหวกกระดูกขาวมักจะมีอสูรสายอันเดดออกมาเป็นจำนวนมาก ส่วนรอบๆเทือกเขาคุนหมี่ก็เต็มไปด้วยอสูรสายยักษาที่มีความสูงกว่าร้อยเมตร
พูดได้เต็มปากเลยว่า อสูรสายยักษาที่โตเต็มวัย แค่เหยียบเท้าครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ขบวนรถไฟหมายเลข 13 แบนเป็นกล้วยปิ้งได้เลย
แต่ครั้งนี้ ขณะที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาวและเทือกเขาคุนหมี่ ขบวนรถไฟหมายเลข 13 กลับแล่นผ่านไปได้อย่างราบรื่น ไม่เจออสูรแม้แต่ตัวเดียว
เเปลก!!!
สถานการณ์ตอนนี้ มันแปลกมาก!
เรื่องนี้เกินกว่าประสบการณ์ของฉินเยี่ยนหรัน….และเกินกว่าความเข้าใจของทุกคน
ณ ขณะนี้…เซียวซิงหยูมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างมาก
เขารู้ดีว่าเมื่อเกิดเรื่องผิดปกติ มันย่อมต้องมีสาเหตุบางอย่างที่แอบแฝงอยู่!
อีกสิบนาทีต่อมา ขบวนรถไฟก็ได้แล่นออกจากเขตเทือกเขาคุนหมี่
เซียวซิงหยูยื่นหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่ลึกลับแห่งนี้ ก็ได้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในความมืดมิดเช่นเดิม
ถึงแม้เหล่านักเรียนจะรู้สึกงุนงง แต่ส่วนใหญ่ก็รู้สึกโล่งใจ
ตอนนี้นักเรียนที่ยังอยู่บนรถไฟ ล้วนผ่านการต่อสู้ที่หุบเขาห้าพิษมาแล้ว ทุกคนจึงได้คะแนนอย่างน้อย C ซึ่งหมายความว่าทุกคนสอบผ่านแล้ว
เเละการที่ผ่านหุบเหวกกระดูกขาวกับเทือกเขาคุนหมี่มาได้อย่างปลอดภัย…นั่นก็หมายความว่าการสอบกลางภาคใกล้จะจบลงแล้ว
รอดชีวิต และสอบผ่าน นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนทั้งหมด
มีเพียงเซียวซิงหยูเท่านั้นที่ยังคงมีสีหน้ากังวล
“หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มันรู้สึกแปลกๆ…เหมือนมีลางร้าย”
เซียวซิงหยูเพิ่งได้รับภารกิจพิเศษจากระบบ ภารกิจนี้มันเหมือนกับเสียงระฆังเตือนภัยที่บอกเป็นนัยๆว่าปลายทางของรถไฟขบวนนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุดการสอบ…แต่เป็นทะเลแห่งการนองเลือด
หลังจากนั้นไม่นาน ฟ้าก็เริ่มสาง
ตอนนี้คือเวลาหกโมงเช้า แสงอาทิตย์ยามเช้าได้ส่องผ่านหน้าต่างรถไฟ ตกกระทบใบหน้าของเซียวซิงหยู
เสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“สถานีต่อไป คือสถานีทะเลสาบเทียนหลาง”
อู๋เซิงโหย่วดีใจ รีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “ซิงหยู…ดูจากแผนที่แล้ว สถานีทะเลสาบเทียนหลางเป็นสถานีก่อนสุดท้าย!”
ซ่งหู่ยิ้มเเล้วกล่าวเสริม “แล้วสถานีทะเลสาบเทียนหลางก็เป็นเขตปลอดภัยด้วย รถไฟจะไม่ถูกอสูรโจมตี!”
เซียวซิงหยูมองแผนที่บนมือถือ แต่สีหน้าของเขายังคงเคร่งเครียดอยู่ดี
“ยิ่งใกล้ถึงสถานีปลายทาง สัญชาตญาณของฉันก็ยิ่งกระตุ้นเตือน…”
ทันใดนั้น เสียงของฉินเยี่ยนหรันก็ดังลอยมาจากลำโพง
“ทุกคน มารวมตัวกันที่ตู้โดยสารหมายเลข 8!”
ห้านาทีต่อมา นักเรียนและสมาชิกกิลด์นภาทั้งหมดก็ได้มารวมตัวกันที่ตู้โดยสารหมายเลข 8
ฉินเยี่ยนหรันยกมือขึ้นแล้วกดลง เป็นสัญญาณให้ทุกคนเงียบ
“ฉันเพิ่งได้รับแจ้งมา ตอนนี้จะขอประกาศเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง”
ทุกคนหยุดพูดคุย เเล้วตั้งใจฟังทันที
“สถานีต่อไปคือสถานีทะเลสาบเทียนหลาง”
“ตอนนี้…องค์หญิงเซี่ยงกวนเฉียน เพิ่งผ่านการทดสอบผู้ฝึกอสูรระดับหกดาว”
“องค์หญิงจะขึ้นขบวนรถไฟหมายเลข 13…ที่สถานีทะเลสาบเทียนหลาง และเดินทางไปเมืองหวงหยานพร้อมกับพวกเรา”
สิ้นเสียงของฉินเยี่ยนหรัน ทุกคนในตู้โดยสารก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที
“องค์หญิงเหรอ? ฉันเคยเห็นแต่ในหนังสือพิมพ์กับทีวี องค์หญิงงดงามมากเลยนะ”
“ทริปนี้คุ้มค่าสุดๆ! มีโอกาสได้เจอองค์หญิงตัวจริงด้วย!”
“ฉันต้องจัดแต่งทรงผมให้เรียบร้อย จะได้ไปทักทายองค์หญิงด้วยภาพลักษณ์ที่ดีที่สุด เผื่อฉันจะได้เป็นราชบุตรเขย”
“เจ้าจางเว่ย แกจะหลงตัวเองไปถึงไหน”
ถึงแม้จางเว่ยจะมีความสามารถในการฝึกอสูรต่ำ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้จักหาทางลัดในชีวิต
ซ่างกวนหลานมีลูกสาวคนเดียวคือเซี่ยงกวนเฉียน ถ้าใครได้แต่งงานกับองค์หญิงเเล้วได้เป็นราชบุตรเขย นั่นก็เท่ากับได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต…มีอำนาจล้นฟ้าในอนาคต
“ตื่นเต้นจังเลยเซียวซิงหยู…เราจะได้เจอองค์หญิงแล้ว! นายไม่ตื่นเต้นบ้างเหรอ?”
“ซ่งหู่ นายใจเย็นๆหน่อย องค์หญิงก็เป็นคนเหมือนกับเรานี่แหละ ไม่ใช่เทพสักหน่อย”
“ไม่ใช่! เธอคือเทพธิดาของผม!”
อู๋เซิงโหย่วก็ตื่นเต้นไม่แพ้ซ่งหู่ แต่เขาก็ยังมีข้อสงสัยบางอย่าง
“ว่าเเต่….ทำไมองค์หญิงถึงมาอยู่ที่ทะเลสาบเทียนหลางที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้ได้?”
“ข้างหลังทะเลสาบเทียนหลาง คือธารน้ำแข็งไลกู่ มันเป็นสถานที่ทดสอบผู้ฝึกอสูรระดับหกดาว” เซียวซิงหยูวิเคราะห์ให้ทั้งสองฟัง
“เเล้วทำไมองค์หญิงที่ผ่านการทดสอบระดับหกดาวแล้ว ถึงไม่นั่งเครื่องบินกลับเมืองหลวง แต่กลับมานั่งรถไฟไปเมืองหวงหยานกับพวกเราล่ะ?”
“ฉันก็สงสัยเหมือนเจ้าอู๋ ไม่เข้าใจว่าองค์หญิงคิดอะไรอยู่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวซิงหยูจึงอธิบายต่ออย่างใจเย็น
“เมืองหวงหยานเป็นเมืองชายแดนทางตะวันตกของประเทศ เป็นฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ”
“องค์หญิงซ่างกวนเฉียนเป็นองค์หญิงที่มีฐานะสูงส่ง การที่เธอเสด็จไปเยี่ยมเยือนเมืองหวงหยานด้วยตนเอง จะช่วยให้ทหารและประชาชนมีขวัญกำลังใจที่จะปกป้องประเทศชาติต่อไป”
“เเละถ้าฉันเดาไม่ผิด การกระทำครั้งนี้น่าจะเป็นคำสั่งของฝ่าบาท”
เซียวซิงหยูเดาถูก การที่ซ่างกวนเฉียนเสด็จไปเมืองหวงหยาน มันเป็นเพราะคำสั่งของซ่างกวนหลานั่นเอง
……
ไม่นาน รถไฟก็เริ่มชะลอความเร็ว และจอดที่ชานชาลา
ใกล้ๆกับชานชาลามีทะเลสาบขนาดใหญ่ตั้งอยู่ รูปร่างของทะเลสาบดูคล้ายกับดาวซิริอุส
นี่คือสถานีก่อนสถานีสุดท้ายของขบวนรถไฟหมายเลข 13…สถานีทะเลสาบเทียนหลาง
ด้านหลังทะเลสาบเทียนหลาง คือธารน้ำแข็งไลกู่ ซึ่งมันเป็นธารน้ำแข็งที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา
ในธารน้ำแข็ง เป็นที่อยู่อาศัยของอสูรสายน้ำแข็งที่แข็งแกร่ง เช่น เหยี่ยวนภาแข็ง นกอินทรีน้ำแข็งยักษ์ ช้างแมมมอธหิมะ…
รถไฟจอดสนิท ประตูของตู้โดยสารหมายเลข 8 ค่อยๆเปิดออก
“ทุกคน นั่นองค์หญิง!”
“องค์หญิงสวยมาก…สวยกว่าในทีวีอีก!”
“พวกเเก อย่ามาแย่งตำแหน่งราชบุตรเขยกับฉันนะ!”
……………………