ตอนที่แล้วตอนที่ 67 : หน่วยความทรงจำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 69 : มันเลือกฉันเหรอ?

ตอนที่ 68 : ป้ายคำสั่ง


.

ในความสับสนวุ่นวายผู้คุมกฎสามคนก็โจมตีจุดสำคัญเข้าพอดี จึงได้ดูดซับออร่าจิตสังหารหลังจากที่ศพสลายไป

.

ดวงตาของพวกเขาลุกวาว ภายใต้จิตใจของพวกเขามีบางสิ่งกำลังเติบโตขึ้น ความเหนื่อยล้าที่เคยมีพลันหายไป แม้แต่หลังก็ยืดตรงอย่างไม่รู้ตัว ความองอาจผึ่งผายปรากฏตรงหว่างคิ้วของพวกเขา

"ทำไมถึงยังยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ รีบออกมาสิ!" เหยียนซีไฉพูดอีกครั้ง

ทุกคนก็เดินออกไปอย่างเชื่อฟัง

"ใช้เวลาไปครึ่งค่อนวันกว่าจะดูดซับออร่าจิตสังหารได้…ด้วยความเร็วระดับนี้แล้วเมื่อไหร่ถึงจะดึงดูดความสนใจจากเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารได้ล่ะ?" เหยียนซีไฉพูดอย่างไม่พอใจ

"ของแบบนี้มันแล้วแต่คน" ผูเหวินที่อยู่ด้านข้างอธิบาย "คนบางคนก็เกิดมาเพื่อวิถีทหารโดยธรรมชาติ แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าคนเพียงแค่คนเดียว แต่พวกเขาก็จะดึงดูดเส้นทางสู่เทพเจ้าได้ บางคนก็ไม่เหมาะที่จะเดินบนเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร ดังนั้นแม้ว่าจะรวบรวมออร่าจิตสังหารมากมายแค่ไหน ก็อาจจะไม่สามารถดึงดูดเส้นทางสู่เทพเจ้าได้... "

"ฉันรู้น่าๆ " เหยียนซีไฉโบกมือ "นั่นคือเหตุผลที่ฉัน เชิญนายมา...ถ้าคนสิบคนไม่พอ งั้นก็เอาคนมาร้อยสองร้อยคน ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฉันเหยียนซีไฉจะไร้วาสนาในการก้าวสู่เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร"

พูดจบเขาก็ชี้ไปยังผู้คุมกฎทั้งสามคนที่ดูดซับออร่าจิตสังหาร

"รีบใช้ทักษะของนายทั้งสามคนถ่ายทอดออร่าจิตสังหารมาให้ฉันเร็ว"

ผูเหวินส่ายหน้า "พลังของคำว่า [กลืน] ยังไม่มากนัก ต้องอดทนรอให้พวกมันสะสมออร่าจิตสังหารจนมากพอก่อนถึงจะใช้งานได้ มิฉะนั้นประสิทธิภาพก็จะต่ำเกินไป"

" ...ก็ได้ ถ้างั้นเราต้องหาสถานที่ที่มีการฉายภาพการเข่นฆ่ามากกว่านี้แล้วค่อยๆ..."

บูม——!

ก่อนที่เหยียนซีไฉจะพูดจบ พื้นดินใต้เท้าของเขาสั่นสะเทือน!

ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นเมฆสลายตัว อสรพิษสีดำทมิฬกำลังเคลื่อนตัวออกมาจากด้ามของดาบยักษ์ จากนั้นก็ตกลงไปยังบริเวณไม่ไกลจากพวกเขานัก...

เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของเหยียนซีไฉก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ

"เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร นี่เข้ามานานแค่ไหน ทำไมถึงมีคนดึงดูดความสนใจจากเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารได้แล้ว!"

"ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น...ครั้งนี้ในกลุ่มผู้คุมกฎมีอัจฉริยะด้วยเหรอ?" ผูเหวินครุ่นคิด "หรือจะเป็นหลู่ซวนหมิง?"

"ลองไปดูกัน" เหยียนซีไฉพูดขึ้น

"เราไม่สามารถยั่วโมโหหลู่ซวนหมิงได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น...นั่นก็แตกต่างออกไป"

ทุกคนรีบ ไปยังจุดที่เส้นทางเทพเจ้าตกลงมา

.

.......

.

"หมายเลข 8 มีคนดึงดูดเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารได้แล้ว"

.

ผู้ช่วงชิงเปลวไฟเห็นเหตุการณ์นั้นจากระยะไกลพูดขึ้น

"ฉันเห็นแล้ว" ดวงตาของหมายเลข 8 ติดตามริบบิ้นสีดำไปจนสุดปลายทาง และในที่สุดมันก็ตกลงไปบนผิวของอัญมณีสีแดงเข้มบนด้ามดาบ

"นั่นคือรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร...."

"รากฐานมันอยู่ในด้ามดาบ แล้วเราจะขโมยมันยังไง ปีนขึ้นไปเหรอ?"

"ไม่ได้" หมายเลข 8 ส่ายหัว "สถานที่ที่เราอยู่เป็นเพียงพื้นที่ที่เล็กที่สุดในคลังโบราณวิถีทหาร แน่นอนว่ามันทั้งเรียบง่ายและไม่อันตราย ทั้งยังเป็นสถานที่ที่อาณาจักรออโรร่าใช้ในการทดสอบ...แต่หากยิ่งเข้าใกล้ดาบนั่นมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น"

"ว่ากันว่าในส่วนลึกของคลังโบราณวิถีทหาร ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่และทรงพลังอีกมากมาย...อย่าว่าแต่เราเลย ต่อให้เป็นปราชญ์จอมโจรมาเองก็ใช่ว่าจะหลบเลี่ยงดาบเล่มนั้นพ้น"

"แล้วเราจะขโมยรากฐานยังไงล่ะ?"

"เราไม่สามารถสัมผัสรากฐานโดยตรงได้ แต่เรารอให้รากฐานนั่นมาสัมผัสเราเองได้"

หมายเลข 8 ยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่ริบบิ้นสีดำที่ยื่นออกมาจากฐาน "นั่นคือสื่อกลางที่ทำให้เราสัมผัสมันได้ และมันเป็นโอกาสเดียวที่จะขโมยรากฐาน... "

"หากอยากขโมยรากฐาน เราจำเป็นต้องดึงดูดเส้นทางเทพเจ้ามาเสียก่อน...ดังนั้นเราจึงต้องเป็นเหมือนผู้คุมกฎพวกนั้น รวบรวมออร่าจิตสังหารเพื่อดึงดูดความสนใจจากรากฐาน?"

"นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด"

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน อีกด้านหนึ่งก็มาถึงหุบเหวขนาดใหญ่

ใจกลางหุบเหว ทหารหุ้มเกราะมากกว่าห้าสิบนายรวมตัวกันโดยหันหน้าไปข้างหน้าด้วยจิตสังหารที่เข้มข้น

ผู้ช่วงชิงเปลวไฟทั้งเจ็ดยืนอยู่หน้าทางเข้าหุบเหวต่างมองหน้ากัน และพยักหน้าเล็กน้อย

ครู่ต่อมา พวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปในหุบเหวพร้อมกัน!

.

.......

.

เจ็ดคนในหุบเหว

.

เหนือเฉินหลิงมีริบบิ้นสีดำทอดยาวขึ้นไปบนท้องฟ้า รัศมีอันเยือกเย็นและสง่างามสาดส่องลงมา

"...เส้นทางเทพเจ้า?" เฉินหลิงจำได้ว่าสถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้น ตอนอยู่ที่คฤหาสน์ของหม่าจง เมื่อเขาดึงดูดความสนใจของเส้นทางเทพเจ้าครั้งนั้นก็เป็นแบบนี้

แต่ความแตกต่างก็คือริบบิ้นในเวลานั้นหนากว่าและแข็งแรงกว่า มันเหมือนกับขั้นบันไดที่ทอดลงมาจากท้องฟ้า...แต่อันที่อยู่ตรงหน้าเขาซึ่งยื่นออกมาจากด้ามอัญมณีของดาบยักษ์สีดำนั้นแตกต่าง

"สิ่งนี้จะนำไปสู่เส้นทางเทพเจ้า?" เฉินหลิงพูดด้วยความประหลาดใจ "มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"

ไม่ใช่ว่า หลายคนที่เข้ามาในคลังโบราณวิถีทหาร ไม่ง่ายที่จะได้รับมันไม่ใช่เหรอ?

เฉินหลิงสับสนเล็กน้อย ท้ายที่สุดเขาสุ่มเลือกคนสิบคนจากหุบเหวและฆ่าพวกเขาทั้งหมดในทันที...โดยเขาไม่เคยคาดหวังว่าตนเองจะดึงดูดเส้นทางเทพเจ้าได้ง่ายดายขนาดนี้ นับตั้งแต่เขาเข้าสู่คลังโบราณมายังผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารนี่...ทำไมไม่ค่อยสงวนท่าทีเลย?

ทำไมทุกครั้งที่ฉันเย้าหยอกนิดหน่อย ก็ดี๊ด๊าวิ่งแจ้นมาหาแล้ว?

"นั่นคือรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร?" ดวงตาของเฉินหลิงจ้องมองไปยังปลายทางอีกฝั่งของริบบิ้นสีดำ มีอัญมณีฝังอยู่บนด้ามดาบ เขาลองยื่นมือออกไปเพื่อจะสัมผัสอัญมณีชิ้นนั้น ซึ่งเป็นรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร

แต่ก่อนที่ปลายนิ้วเขาจะแตะริบบิ้นสีดำ จู่ๆ มันก็สั่นเทาเหมือนคนตกใจ!

ราวกับว่ามันเห็นบางสิ่งที่น่ากลัว มันจึงถอยหนีออกไปอย่างรวดเร็ว... เฉินหลิงยื่นมือออกไปสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า

เฉินหลิง: ...

เขามองย้อนกลับไปในความว่างเปล่าด้านหลังเขา ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่งค่อยๆ จางลง "ผู้ชม" มันข่มขู่ให้เส้นทางเทพเจ้าหวาดกลัว และไม่ปล่อยให้เฉินหลงมีโอกาสได้สัมผัส

เป็นอย่างที่คิดไว้ แม้ว่าเขาจะเข้ามาในคลังโบราณวิถีทหารก็ตาม แต่ตอนจบก็ยังคงเหมือนเดิม

"เส้นทางเทพเจ้าวิ่งหนีเมื่อเห็นฉัน...นี่มันยุ่งยากแล้ว"

เฉินหลิงขมวดคิ้ว

เขาไม่สามารถแตะต้องเส้นทางเทพเจ้าได้ แล้วเขาจะขโมยรากฐานของมันได้ยังไง?

ในกรณีนี้ บางทีเขาอาจต้องปล้นมันจากกลุ่มผู้ช่วงชิงเปลวไฟ...แต่มันไม่ง่ายที่เขาจะฆ่าผู้ช่วงชิงเปลวไฟหกคนด้วยตัวคนเดียว หรือจะยืมมีดฆ่าคน แต่ว่าตอนนี้ผู้คุมกฎกับผู้ช่วงชิงเปลวไฟขัดแย้งกันและแยกทางกันแล้ว เขาจะทำยังไงให้ทั้งสองฝ่ายมาต่อสู้กันอีก

ขณะที่เฉินหลิงกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ จู่ๆ เงาสีดำก็ตกลงมาจากเส้นทางเทพเจ้าซึ่งถอยกลับ บางสิ่งร่วงลงจากท้องฟ้าอันมืดมิดและตกลงไปตรงหน้าเฉินหลิงอย่างแม่นยำ

.

ตุ๊บ——

.

เฉินหลิงถูกดึงดูดด้วยเสียงน่าอึดอัด เขาเห็นเพียงแค่ป้ายคำสั่งเปื้อนเลือดอันหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนพื้นเงียบๆ

เขามองไปยังรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าที่เคยถอยหนีด้วยความสับสน ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า หยิบป้ายคำสั่งขึ้นมาวางไว้ในมือของเขาแล้วมองอย่างละเอียด

นี่เป็นป้ายคำสั่งที่ล้าสมัยมาก มันให้ความรู้สึกเย็นเหมือนวัสดุโลหะบางชนิด เมื่อมองผ่านคราบเลือดสีดำหนาๆ ก็แทบจะไม่สามารถอ่านคำสองคำที่สลักบนนี้ได้...นี่ไม่ใช่อักษรจีนตัวย่อที่เฉินหลิงคุ้นเคย ตรงข้ามมันเหมือนอักษรจีนแบบจ้วนซู*

เฉินหลิงไม่สามารถอ่านอักษรจ้วนซูได้ แต่เมื่อพิจารณาจากโครงร่าง ตัวอักษรตัวแรกดูเหมือนตัวอักษรคำว่า "ไป๋" มาก

ไป๋ ?

เฉินหลิงนึกถึงปราชญ์จอมโจร ไป๋เย่ ที่หมายเลข 8 พูดถึงตอนอยู่บนรถไฟทันที...แต่คำที่สองดูไม่เหมือนคำว่า "เย่" เลยสักนิด นอกจากนี้ป้ายคำสั่งยังมีกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อีกด้วย มันไม่ใช่สิ่งของจากยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน

เฉินหลิงจ้องมองตัวอักษรตัวที่สองบนป้ายโดยละเอียดเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็ลังเลและดึงตัวอักษรจีนตัวย่อซึ่งดูคล้ายกันออกมาตัวหนึ่ง...

บนพื้นสีเทา ตัวอักษรทั้งสองถูกต่อเข้าด้วยกัน และเกิดเป็นชื่อๆ หนึ่งที่ทำให้หัวใจของเฉินหลิงสั่นสะท้าน

[ไป๋ฉี]

.

...........

จ้วนซู [小篆] อักษรสมัยราชวงศ์จิ้น

.

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด