ตอนที่ 68 : ป้ายคำสั่ง
.
ในความสับสนวุ่นวายผู้คุมกฎสามคนก็โจมตีจุดสำคัญเข้าพอดี จึงได้ดูดซับออร่าจิตสังหารหลังจากที่ศพสลายไป
.
ดวงตาของพวกเขาลุกวาว ภายใต้จิตใจของพวกเขามีบางสิ่งกำลังเติบโตขึ้น ความเหนื่อยล้าที่เคยมีพลันหายไป แม้แต่หลังก็ยืดตรงอย่างไม่รู้ตัว ความองอาจผึ่งผายปรากฏตรงหว่างคิ้วของพวกเขา
"ทำไมถึงยังยืนอยู่ตรงนั้นล่ะ รีบออกมาสิ!" เหยียนซีไฉพูดอีกครั้ง
ทุกคนก็เดินออกไปอย่างเชื่อฟัง
"ใช้เวลาไปครึ่งค่อนวันกว่าจะดูดซับออร่าจิตสังหารได้…ด้วยความเร็วระดับนี้แล้วเมื่อไหร่ถึงจะดึงดูดความสนใจจากเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารได้ล่ะ?" เหยียนซีไฉพูดอย่างไม่พอใจ
"ของแบบนี้มันแล้วแต่คน" ผูเหวินที่อยู่ด้านข้างอธิบาย "คนบางคนก็เกิดมาเพื่อวิถีทหารโดยธรรมชาติ แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าคนเพียงแค่คนเดียว แต่พวกเขาก็จะดึงดูดเส้นทางสู่เทพเจ้าได้ บางคนก็ไม่เหมาะที่จะเดินบนเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร ดังนั้นแม้ว่าจะรวบรวมออร่าจิตสังหารมากมายแค่ไหน ก็อาจจะไม่สามารถดึงดูดเส้นทางสู่เทพเจ้าได้... "
"ฉันรู้น่าๆ " เหยียนซีไฉโบกมือ "นั่นคือเหตุผลที่ฉัน เชิญนายมา...ถ้าคนสิบคนไม่พอ งั้นก็เอาคนมาร้อยสองร้อยคน ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฉันเหยียนซีไฉจะไร้วาสนาในการก้าวสู่เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร"
พูดจบเขาก็ชี้ไปยังผู้คุมกฎทั้งสามคนที่ดูดซับออร่าจิตสังหาร
"รีบใช้ทักษะของนายทั้งสามคนถ่ายทอดออร่าจิตสังหารมาให้ฉันเร็ว"
ผูเหวินส่ายหน้า "พลังของคำว่า [กลืน] ยังไม่มากนัก ต้องอดทนรอให้พวกมันสะสมออร่าจิตสังหารจนมากพอก่อนถึงจะใช้งานได้ มิฉะนั้นประสิทธิภาพก็จะต่ำเกินไป"
" ...ก็ได้ ถ้างั้นเราต้องหาสถานที่ที่มีการฉายภาพการเข่นฆ่ามากกว่านี้แล้วค่อยๆ..."
บูม——!
ก่อนที่เหยียนซีไฉจะพูดจบ พื้นดินใต้เท้าของเขาสั่นสะเทือน!
ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นเมฆสลายตัว อสรพิษสีดำทมิฬกำลังเคลื่อนตัวออกมาจากด้ามของดาบยักษ์ จากนั้นก็ตกลงไปยังบริเวณไม่ไกลจากพวกเขานัก...
เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของเหยียนซีไฉก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
"เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร นี่เข้ามานานแค่ไหน ทำไมถึงมีคนดึงดูดความสนใจจากเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารได้แล้ว!"
"ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น...ครั้งนี้ในกลุ่มผู้คุมกฎมีอัจฉริยะด้วยเหรอ?" ผูเหวินครุ่นคิด "หรือจะเป็นหลู่ซวนหมิง?"
"ลองไปดูกัน" เหยียนซีไฉพูดขึ้น
"เราไม่สามารถยั่วโมโหหลู่ซวนหมิงได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น...นั่นก็แตกต่างออกไป"
ทุกคนรีบ ไปยังจุดที่เส้นทางเทพเจ้าตกลงมา
.
.......
.
"หมายเลข 8 มีคนดึงดูดเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารได้แล้ว"
.
ผู้ช่วงชิงเปลวไฟเห็นเหตุการณ์นั้นจากระยะไกลพูดขึ้น
"ฉันเห็นแล้ว" ดวงตาของหมายเลข 8 ติดตามริบบิ้นสีดำไปจนสุดปลายทาง และในที่สุดมันก็ตกลงไปบนผิวของอัญมณีสีแดงเข้มบนด้ามดาบ
"นั่นคือรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร...."
"รากฐานมันอยู่ในด้ามดาบ แล้วเราจะขโมยมันยังไง ปีนขึ้นไปเหรอ?"
"ไม่ได้" หมายเลข 8 ส่ายหัว "สถานที่ที่เราอยู่เป็นเพียงพื้นที่ที่เล็กที่สุดในคลังโบราณวิถีทหาร แน่นอนว่ามันทั้งเรียบง่ายและไม่อันตราย ทั้งยังเป็นสถานที่ที่อาณาจักรออโรร่าใช้ในการทดสอบ...แต่หากยิ่งเข้าใกล้ดาบนั่นมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น"
"ว่ากันว่าในส่วนลึกของคลังโบราณวิถีทหาร ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่และทรงพลังอีกมากมาย...อย่าว่าแต่เราเลย ต่อให้เป็นปราชญ์จอมโจรมาเองก็ใช่ว่าจะหลบเลี่ยงดาบเล่มนั้นพ้น"
"แล้วเราจะขโมยรากฐานยังไงล่ะ?"
"เราไม่สามารถสัมผัสรากฐานโดยตรงได้ แต่เรารอให้รากฐานนั่นมาสัมผัสเราเองได้"
หมายเลข 8 ยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่ริบบิ้นสีดำที่ยื่นออกมาจากฐาน "นั่นคือสื่อกลางที่ทำให้เราสัมผัสมันได้ และมันเป็นโอกาสเดียวที่จะขโมยรากฐาน... "
"หากอยากขโมยรากฐาน เราจำเป็นต้องดึงดูดเส้นทางเทพเจ้ามาเสียก่อน...ดังนั้นเราจึงต้องเป็นเหมือนผู้คุมกฎพวกนั้น รวบรวมออร่าจิตสังหารเพื่อดึงดูดความสนใจจากรากฐาน?"
"นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด"
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน อีกด้านหนึ่งก็มาถึงหุบเหวขนาดใหญ่
ใจกลางหุบเหว ทหารหุ้มเกราะมากกว่าห้าสิบนายรวมตัวกันโดยหันหน้าไปข้างหน้าด้วยจิตสังหารที่เข้มข้น
ผู้ช่วงชิงเปลวไฟทั้งเจ็ดยืนอยู่หน้าทางเข้าหุบเหวต่างมองหน้ากัน และพยักหน้าเล็กน้อย
ครู่ต่อมา พวกเขาก็รีบวิ่งเข้าไปในหุบเหวพร้อมกัน!
.
.......
.
เจ็ดคนในหุบเหว
.
เหนือเฉินหลิงมีริบบิ้นสีดำทอดยาวขึ้นไปบนท้องฟ้า รัศมีอันเยือกเย็นและสง่างามสาดส่องลงมา
"...เส้นทางเทพเจ้า?" เฉินหลิงจำได้ว่าสถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้น ตอนอยู่ที่คฤหาสน์ของหม่าจง เมื่อเขาดึงดูดความสนใจของเส้นทางเทพเจ้าครั้งนั้นก็เป็นแบบนี้
แต่ความแตกต่างก็คือริบบิ้นในเวลานั้นหนากว่าและแข็งแรงกว่า มันเหมือนกับขั้นบันไดที่ทอดลงมาจากท้องฟ้า...แต่อันที่อยู่ตรงหน้าเขาซึ่งยื่นออกมาจากด้ามอัญมณีของดาบยักษ์สีดำนั้นแตกต่าง
"สิ่งนี้จะนำไปสู่เส้นทางเทพเจ้า?" เฉินหลิงพูดด้วยความประหลาดใจ "มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"
ไม่ใช่ว่า หลายคนที่เข้ามาในคลังโบราณวิถีทหาร ไม่ง่ายที่จะได้รับมันไม่ใช่เหรอ?
เฉินหลิงสับสนเล็กน้อย ท้ายที่สุดเขาสุ่มเลือกคนสิบคนจากหุบเหวและฆ่าพวกเขาทั้งหมดในทันที...โดยเขาไม่เคยคาดหวังว่าตนเองจะดึงดูดเส้นทางเทพเจ้าได้ง่ายดายขนาดนี้ นับตั้งแต่เขาเข้าสู่คลังโบราณมายังผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารนี่...ทำไมไม่ค่อยสงวนท่าทีเลย?
ทำไมทุกครั้งที่ฉันเย้าหยอกนิดหน่อย ก็ดี๊ด๊าวิ่งแจ้นมาหาแล้ว?
"นั่นคือรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร?" ดวงตาของเฉินหลิงจ้องมองไปยังปลายทางอีกฝั่งของริบบิ้นสีดำ มีอัญมณีฝังอยู่บนด้ามดาบ เขาลองยื่นมือออกไปเพื่อจะสัมผัสอัญมณีชิ้นนั้น ซึ่งเป็นรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร
แต่ก่อนที่ปลายนิ้วเขาจะแตะริบบิ้นสีดำ จู่ๆ มันก็สั่นเทาเหมือนคนตกใจ!
ราวกับว่ามันเห็นบางสิ่งที่น่ากลัว มันจึงถอยหนีออกไปอย่างรวดเร็ว... เฉินหลิงยื่นมือออกไปสัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า
เฉินหลิง: ...
เขามองย้อนกลับไปในความว่างเปล่าด้านหลังเขา ดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่งค่อยๆ จางลง "ผู้ชม" มันข่มขู่ให้เส้นทางเทพเจ้าหวาดกลัว และไม่ปล่อยให้เฉินหลงมีโอกาสได้สัมผัส
เป็นอย่างที่คิดไว้ แม้ว่าเขาจะเข้ามาในคลังโบราณวิถีทหารก็ตาม แต่ตอนจบก็ยังคงเหมือนเดิม
"เส้นทางเทพเจ้าวิ่งหนีเมื่อเห็นฉัน...นี่มันยุ่งยากแล้ว"
เฉินหลิงขมวดคิ้ว
เขาไม่สามารถแตะต้องเส้นทางเทพเจ้าได้ แล้วเขาจะขโมยรากฐานของมันได้ยังไง?
ในกรณีนี้ บางทีเขาอาจต้องปล้นมันจากกลุ่มผู้ช่วงชิงเปลวไฟ...แต่มันไม่ง่ายที่เขาจะฆ่าผู้ช่วงชิงเปลวไฟหกคนด้วยตัวคนเดียว หรือจะยืมมีดฆ่าคน แต่ว่าตอนนี้ผู้คุมกฎกับผู้ช่วงชิงเปลวไฟขัดแย้งกันและแยกทางกันแล้ว เขาจะทำยังไงให้ทั้งสองฝ่ายมาต่อสู้กันอีก
ขณะที่เฉินหลิงกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ จู่ๆ เงาสีดำก็ตกลงมาจากเส้นทางเทพเจ้าซึ่งถอยกลับ บางสิ่งร่วงลงจากท้องฟ้าอันมืดมิดและตกลงไปตรงหน้าเฉินหลิงอย่างแม่นยำ
.
ตุ๊บ——
.
เฉินหลิงถูกดึงดูดด้วยเสียงน่าอึดอัด เขาเห็นเพียงแค่ป้ายคำสั่งเปื้อนเลือดอันหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนพื้นเงียบๆ
เขามองไปยังรากฐานของเส้นทางเทพเจ้าที่เคยถอยหนีด้วยความสับสน ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า หยิบป้ายคำสั่งขึ้นมาวางไว้ในมือของเขาแล้วมองอย่างละเอียด
นี่เป็นป้ายคำสั่งที่ล้าสมัยมาก มันให้ความรู้สึกเย็นเหมือนวัสดุโลหะบางชนิด เมื่อมองผ่านคราบเลือดสีดำหนาๆ ก็แทบจะไม่สามารถอ่านคำสองคำที่สลักบนนี้ได้...นี่ไม่ใช่อักษรจีนตัวย่อที่เฉินหลิงคุ้นเคย ตรงข้ามมันเหมือนอักษรจีนแบบจ้วนซู*
เฉินหลิงไม่สามารถอ่านอักษรจ้วนซูได้ แต่เมื่อพิจารณาจากโครงร่าง ตัวอักษรตัวแรกดูเหมือนตัวอักษรคำว่า "ไป๋" มาก
ไป๋ ?
เฉินหลิงนึกถึงปราชญ์จอมโจร ไป๋เย่ ที่หมายเลข 8 พูดถึงตอนอยู่บนรถไฟทันที...แต่คำที่สองดูไม่เหมือนคำว่า "เย่" เลยสักนิด นอกจากนี้ป้ายคำสั่งยังมีกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อีกด้วย มันไม่ใช่สิ่งของจากยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน
เฉินหลิงจ้องมองตัวอักษรตัวที่สองบนป้ายโดยละเอียดเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็ลังเลและดึงตัวอักษรจีนตัวย่อซึ่งดูคล้ายกันออกมาตัวหนึ่ง...
บนพื้นสีเทา ตัวอักษรทั้งสองถูกต่อเข้าด้วยกัน และเกิดเป็นชื่อๆ หนึ่งที่ทำให้หัวใจของเฉินหลิงสั่นสะท้าน
[ไป๋ฉี]
.
...........
จ้วนซู [小篆] อักษรสมัยราชวงศ์จิ้น
.
.
.