ตอนที่แล้วบทที่ 443: ประเมินต่ำเกินไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 445: เฉียวซางปะทะเส้าลี่เปิ่น

บทที่ 444: รอบชิงชนะเลิศของการแข่งรอบแบ่งเขตภูมิภาค


ภายใต้มุมมองภาพรวม สัตว์อสูรหมีน้ำพันวิถีที่มีรูปร่างใหญ่โตถูกตรึงอยู่กับที่ ร่างกายของมันถูกปกคลุมด้วยดอกไม้น้ำแข็งที่งดงามและประณีตจนดูเหมือนผลงานศิลปะ

เสียงฮือฮาดังกระหึ่มไปทั่วอัฒจันทร์ทันที

“ฉันบอกแล้วว่าพรายพิชิตเหมันต์ไม่มีปัญหาแน่!”

“ในการแข่งแบบนี้ ทุกคนมักจะศึกษารายละเอียดของคู่แข่งล่วงหน้าอยู่แล้ว มิน่าล่ะที่เฉียวซางไม่ให้พรายพิชิตเหมันต์ใช้ทักษะประเภทน้ำเลย”

“พลังของบุปผาเยือกแข็งนี่มันเกินคาดจริงๆหิมะก็ตกมาตั้งนานแล้ว แต่ยังอุตส่าห์สามารถแช่แข็งหมีน้ำพันวิถีได้อีก!”

บุปผาเยือกแข็งเป็นทักษะระดับสูงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ประสานงาน หลายคนเคยเห็นทักษะนี้จากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์มาบ้าง แต่การใช้งานที่มีความชำนาญถึงขั้นนี้ถือว่าเป็นของหายากมาก

ในการแข่งขันศึกชิงถ้วยระดับภูมิภาค ถึงแม้จะมีผู้เข้าแข่งขันชื่อดังที่ใช้บุปผาเยือกแข็งเอาชนะคู่แข่งในเวลาอันสั้น แต่ผู้ชมที่ไม่ได้ศึกษาทักษะนี้โดยเฉพาะมักจะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเพราะสัตว์อสูรที่ใช้ทักษะนี้แข็งแกร่ง ไม่ใช่เพราะตัวทักษะเองที่ทรงพลัง

ก็ช่วยไม่ได้เพราะบุปผาเยือกแข็งที่ใช้โดยคนที่ไม่ชำนาญกับคนที่ชำนาญจนถึงขีดสุดนั้น แทบจะอยู่คนละระดับกัน และส่วนใหญ่ผู้ชมก็มักจะเห็นการใช้งานจากผู้ประสานงาน ซึ่งภาพลักษณ์เดิมๆนั้นฝังแน่นในความคิดไปแล้ว

ห้องพักผู้เข้าแข่งขัน

"นายคิดยังไงกับการแข่งขันครั้งนี้?" หญิงสาวในชุดสูทสีดำเอ่ยถามขึ้น

เส้าลี่เปิ่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า

"พรายพิชิตเหมันต์ใช้เวลา 3 วินาทีในการรวบรวมพลังงานจนสามารถใช้บุปผาเยือกแข็งได้ ในช่วงเวลานั้น ถ้าหมีน้ำพันวิถีใช้ หมัดพลังชีวิตแทนที่จะเป็นปืนฉีดน้ำล่ะก็ พรายพิชิตเหมันต์ คงไม่สามารถต้านทานความเสียหายได้แน่"

"แต่เอาเข้าจริง หม่าจงจี๋ก็เหมือนคนอื่นๆในภูมิภาคกู่หวู่นั่นแหละที่ไม่กล้าลงมือหนักใส่พรายพิชิตเหมันต์"

"วิเคราะห์ได้ดีทีเดียว" หญิงสาวกล่าวพร้อมพยักหน้าเบาๆ "แต่ในช่วงเริ่มต้นหมีน้ำพันวิถีอยู่ห่างจากพรายพิชิตเหมันต์กว่า 100 เมตร ถึงจะใช้หมัดพลังชีวิตก็ไม่มีทางโจมตีถึงตัวในเวลา 3 วินาทีได้ ส่วนปืนฉีดน้ำมีระยะการยิงไกลและใช้เวลาในการร่ายน้อยกว่า จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนั้น"

เส้าลี่เปิ่นกล่าวอย่างสงบนิ่ง

"แล้วถ้าการใช้หมัดพลังชีวิตไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อหยุดการร่ายบุปผาเยือกแข็ง แต่เพื่อเอาชนะพรายพิชิตเหมันต์ไปเลยล่ะ?"

เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวก็หันมามองเส้าลี่เปิ่นด้วยแววตาพึงพอใจ

แม้ว่าในตอนนี้ เฉียวซางจะดูเป็นนักแข่งที่มีฝีมือโดดเด่นที่สุด แต่เธอไม่คิดว่าโอกาสชนะของเส้าลี่เปิ่นจะเป็นศูนย์

บางครั้งนักแข่งที่มีไหวพริบและคิดวิเคราะห์ได้เก่ง ก็อาจไปได้ไกลกว่านักแข่งที่มีพรสวรรค์ด้านการฝึกสัตว์อสูรมากนัก

อย่างที่เส้าลี่เปิ่นว่า ถ้าหากหมีน้ำพันวิถีใช้หมัดพลังชีวิต โดยตั้งเป้าหมายเพื่อเอาชนะพรายพิชิตเหมันต์โดยตรง ไม่ใช่แค่เพื่อหยุดการร่ายทักษะบุปผาเยือกแข็งการโจมตีนั้นก็คงจะโดนเป้าหมายก่อนที่บุปผาเยือกแข็งจะสำเร็จ

ในตอนนั้น หิมะอาจไม่ได้ตกลงมาปกคลุมร่างของหมีน้ำพันวิถีก่อนก็เป็นได้

เพราะบุปผาเยือกแข็งไม่ใช่ทักษะที่เมื่อร่ายสำเร็จแล้วจะทำงานทันที มันยังมีช่วงเวลาที่หิมะตกลงสู่พื้นอยู่ด้วย

โรงแรมดีพซีแมนทิส

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของการแข่งแบ่งเขตมีกำหนดจัดขึ้นในวันถัดไป เวลา 20.00 น.

เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบในวันพรุ่งนี้ ซุ่นปั๋วอวี่ที่ห่างหายจากการวิเคราะห์คู่ต่อสู้ไปนาน ได้มานั่งศึกษาคู่แข่งกับเฉียวซางอีกครั้ง

คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นเส้าลี่เปิ่นจากภูมิภาคฉีลู่

“เส้าลี่เปิ่น สัตว์อสูรตัวเก่งของเขาหอคอยหยั่งรู้ที่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวล่วงหน้าของคู่ต่อสู้ได้อย่างแม่นยำจากการสังเกตการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆ ไม่เพียงเท่านั้นมันยังสามารถหาตัวจริงที่ซ่อนอยู่ในร่างแยกได้ด้วย” ซุ่นปั๋วอวี่กล่าวพร้อมกับเปิดข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า “ดูวิดีโอนี้สิ”

สายตาของเฉียวซาง หยาเป่า ซุนเป่า และลู่เป่าจ้องไปที่หน้าจอพร้อมกัน

ในวิดีโอหอคอยหยั่งรู้ยืนอยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

คู่ต่อสู้ของมันคือสัตว์อสูรประเภทไฟฟ้าผสมบินที่มีลักษณะคล้ายนก

ในตอนนั้น มีสัตว์อสูรรูปนกสีเหลือง 12 ตัวที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ กำลังล้อมรอบหอคอยหยั่งรู้เป็นวงกลม

ทันใดนั้น สายฟ้าจำนวน 12 สายพุ่งตรงเข้าหาหอคอยหยั่งรู้ที่อยู่ตรงกลาง

ความเร็วของสายฟ้านั้นเร็วมากจนดูเหมือนจะฟาดใส่เป้าหมายได้ทันที แต่ในวินาทีสุดท้ายหอคอยหยั่งรู้ใช้เทเลพอร์ตเพื่อไปปรากฏตัวเหนือหนึ่งในนกสีเหลืองนั้น และกระโดดลงไปบนตัวมัน

นกสีเหลืองตัวนั้นเหมือนถูกของหนักมหาศาลทับใส่ ร่างของมันร่วงลงสู่พื้นทันที

ในขณะเดียวกัน นกสีเหลืองอีก 11 ตัวที่เหลือในอากาศหายไปทั้งหมด

ซุ่นปั๋วอวี่กดหยุดวิดีโอและกล่าวว่า

“ฉันรู้ว่าสุนัขเพลิงพร่างพรายของเธอถนัดใช้ร่างแยกและตัวจริงร่ายทักษะต่างกันพร้อมกัน แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่สามารถแยกแยะตัวจริงได้ในทันที ก็อย่าประมาทแล้วใช้การโจมตีด้วยร่างแยกมั่วๆ”

“ดูสิ ทั้งหอคอยหยั่งรู้และผู้ฝึกสัตว์อสูรของมันต่างก็มีบุคลิกนิ่งสงบเหมือนกัน”

“แม้ว่าจะจับตัวจริงของคู่ต่อสู้ได้ แต่พวกเขาก็จะไม่เผยสีหน้าอะไรออกมา รอให้คู่ต่อสู้ใช้งานทักษะจนประมาทเสียก่อน แล้วจึงโจมตีสวนกลับอย่างรุนแรง”

หยาเป่ากระดิกหูแสดงความตั้งใจจริงที่มุมหนึ่งของห้อง

ถ้าร่างแยกมากพอล่ะ? เฉียวซางคิดในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมา

“ซุน...”

ในตอนนั้นเอง ซุนเป่าที่ดูเหมือนไม่สนใจนัก ลอยไปอีกมุมของห้อง หยิบห่วงวงแหวนออกมาแล้วเอามดออกมาเพื่อเริ่มการฝึกซ้อมของตัวเอง

ซุ่นปั๋วอวี่เหลือบมองซุนเป่าและเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้

“ฉันรู้ว่าเธออยากวิวัฒนาการอสูรล่าสมบัติ แต่ว่าพรุ่งนี้เป็นรอบชิงชนะเลิศ ฉันหวังว่าเธอจะเลือกสัตว์อสูรสองตัวที่เธอมั่นใจที่สุดลงสนาม”

สัตว์อสูรสองตัวที่มั่นใจที่สุด… เฉียวซางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า

“เข้าใจแล้วค่ะ”

หลังจากที่ซุ่นปั๋วอวี่เดินจากไป เฉียวซางหันไปมองพวกหยาเป่าด้วยสีหน้าจริงจัง

“ฉันคิดวิธีฝึกได้แล้ว ตอนนี้เราไปฝึกกัน ใครที่แสดงผลงานได้ดีที่สุดในครั้งนี้ พรุ่งนี้จะได้ลงแข่ง”

“ย่าห์!”

“ปิงลู่!”

“ซุนเป่า ได้ยินไหม?” เมื่อเห็นว่าเสี่ยวซุนเป่ายังหมกมุ่นกับการฝึกของตัวเอง เฉียวซางจึงถามขึ้น

“ซุน?”

เสี่ยวซุนเป่าเงยหน้าขึ้นพร้อมสีหน้ามึนงง

“ฉันบอกว่า เดี๋ยวเราจะทำการฝึก ใครที่แสดงผลงานได้ดีที่สุดจะได้ลงแข่งพรุ่งนี้” เฉียวซางพูดซ้ำ

“ซุน...”

ซุนเป่าพยักหน้ารับแบบไม่ค่อยสนใจนัก

หลังจากผ่านการต่อสู้มาเป็นเวลานาน มันก็พอเข้าใจแล้วว่าการต่อสู้นั้นไม่ช่วยให้มันวิวัฒนาการได้

อีกอย่าง การที่ต้องแสดงให้โดดเด่นที่สุดเพื่อได้ลงแข่งนั้น ตอนนี้มันอยู่ในอันดับสาม จะไปสู้พี่ใหญ่หยาเป่ากับลู่เป่าที่เพิ่งมาแย่งตำแหน่งอันดับสองของมันได้ยังไง?

วันถัดมา

เวลา 19.58 น.

พลุดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นเหนือผืนน้ำทะเลและแตกกระจายเป็นสีแดงสด จากนั้นเปลวแสงที่ร่วงหล่นลงมาก็แปรเปลี่ยนเป็นภาพของสัตว์อสูรที่เคยสร้างความตื่นเต้นในรอบแบ่งเขตภูมิภาค

เสียงเชียร์และเสียงตะโกนดังกึกก้องไปทั่วสนามแข่งขันสัตว์อสูรของเมืองไห่เฉิง

อี้อ้าวยืนอยู่บนแผ่นสีน้ำเงินพร้อมกับถือไมโครโฟน เขามองไปรอบๆก่อนจะตะโกนประกาศด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง

“ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ!”

“ค่ำคืนนี้ จะเป็นการแข่งขันรอบสุดท้ายของ การแข่งขันผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับมัธยมปลายแห่งชาติ ในรอบแบ่งเขตของภูมิภาคกู่หวู่ เย่หัว เหลียนเก้อ และฉีลู่!”

“ท้ายที่สุดแล้ว จะเป็นเส้าลี่เปิ่นจากภูมิภาคฉีลู่ที่สามารถคว้าแชมป์รอบแบ่งเขตได้อีกครั้ง หรือจะเป็นเฉียวซางจากภูมิภาคเย่หัวที่สามารถรักษาสถิติไร้พ่ายเอาไว้ได้!”

“ผมเชื่อว่าทุกคนคงตั้งตารอคอยการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้นนี้เฉกเช่นเดียวกับผม...”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด